อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 22 คิดว่าเขากำลังเล่นละคร
อันที่จริงแล้วทุกคนรอบๆบริเวณต่างก็สัมผัสได้ถึงความสัมพันธ์ที่ลึกลับซับซ้อนของเทาเท่กับหลินจือแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
หลังจากที่นานิโต้เถียงจบก็ถอยหลบไป ยืนอยู่ข้างๆเพื่อรอดูอะไรสนุกๆอย่างเทาเท่ที่ถูกหลินจือปฏิเสธอยู่ซ้ำๆจนหน้าหงอย และเพลิดเพลินกับการดูอารมณ์ที่หลากหลายของพินอิน
มองดูพี่ชายตัวเองเอาใจอดีตภรรยาตาปริบๆ อดีตภรรยาที่ซึ่งเธอไม่เคยเห็นหัวเอาแต่กลั่นแกล้งและดูถูกเหยียดหยามมาโดยตลอด ความรู้สึกในใจของพินอินก็จึงอึดอัดมาก
เป็นครูสที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นเบาๆกับหลินจือว่า“หลินจือ ไปโรงพยาบาลสักหน่อยเถอะนะ”
หลินจือพูดอย่างอึดอัดใจว่า“อาจารย์ หนูยังมีเรื่องที่ต้องการขอคำปรึกษา……”
ครูสเป็นนักเขียนมือทองที่มีชื่อเสียง ปรกติจะค่อนข้างยุ่งมาก กว่าหลินจือจะนัดหมายมาเจอกับครูสได้ ไม่อยากจะจากไปง่ายๆแบบนี้
ครูสพูดปลอบเธอ“ไม่เป็นไร ไปจัดการแผลที่โรงพยาบาลเสร็จแล้วเราค่อยนัดกันใหม่อีกที ”
ความสัมพันธ์ของหลินจือกับครูสดีมากขนาดนี้ พินอินถึงกับต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอีกครั้ง
คนอย่างหลินจือเป็นใครถึงขั้นอยากจะปีนป่ายเข้าหาครูส ?
ครูสเป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องไว้ตัวและเย่อหยิ่งอีกทั้งยังเป็นบุคคลที่มากความสามารถ เป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จอย่างที่สุด มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะฝากฝังตัวมาเป็นลูกศิษย์ของครูส แต่ครูสก็ปฏิเสธกลับไปอย่างไม่เกรงใจ
ตอนนี้หลินจือกลับเรียกครูสว่าอาจารย์ หรือว่าหลินจือจะเป็นนักเขียนบท?
หลินจือเคารพนับถือครูสมาก ในเมื่อครูสพูดมาขนาดนี้แล้ว เธอก็จึงต้องยอมแพ้หันหลังแล้วเดินออกไป เทาเท่หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วเดินตามหลังไป
“พี่!”
พินอินไม่พอใจกับการกระทำของเทาเท่จนร้องไห้โฮออกมา เดิมคิดว่าพี่ชายของเธอมาแล้วจะช่วยเธอกดขี่และระบายอารมณ์กับหลินจือได้ ไม่คิดว่าพี่ชายจะสั่งให้เธอขอโทษหลินจือ และยังสั่งลงโทษกักบริเวณเธอด้วย
เธอรู้สึกโกรธมาก
ครูสเหลือบมองไปยังพินอินที่ยังโหวกเหวกโวยวายไม่หยุด อดไม่ได้จนต้องพูดออกไปว่า“คุณพินอิน ฉันรู้ว่าเงินสามารถซื้อทุกอย่างได้ เงินสามารถซื้อความรักได้ และสามารถซื้อของมีค่าทุกอย่างบนโลกได้ แต่มีอย่างหนึ่งที่เงินซื้อไม่ได้”
“การอบรมสั่งสอน”ครูสพูดคำนี้ออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาให้พินอิน จากนั้นตามตัวนานิหันหลังและเดินจากไป
ความหมายของครูสกำลังด่าว่าพินอินไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน สีหน้าของพินอินซีดเผือดขึ้นมาทันที อับอายจนต้องเอามือปิดหน้าหันหลังแล้ววิ่งหนีหายไป
และคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนหนุ่มของเธอหลังจากที่ดูเรื่องสนุกนี้จบก็หายวับไปอย่างเงียบๆท่ามกลางผู้คน คนที่ถูกนักเขียนมือทองอย่างครูสพูดตำหนิ เขาเองก็ไม่กล้าที่จะสานสัมพันธ์นั้นต่อ
ในวงการนี้ ผู้ลงทุนสร้างอยู่บนยอดสูงสุดของพีระมิด แต่สถานะนักเขียนบทของครูสก็ถือว่าเหยียบอยู่บนยอดสูงสุดของพีระมิดด้วยเหมือนกัน
หากเขายังต้องการเดินอยู่ในเส้นทางสายนี้ ก็ต้องอยู่ให้ห่างกับพินอินมากที่สุด
หลินจือกับเทาเท่เดินตามกันออกจากกองถ่าย รถของเทาเท่จอดอยู่ข้างๆ
หลินจือไม่ได้เดินไปขึ้นรถ แต่หยุดยืนอยู่ข้างรถและพูดกับเทาเท่ว่า“ประธานเทาเท่ การแสดงฉากผดุงคุณธรรมถึงขั้นสั่งลงโทษน้องสาวของตัวเองของคุณจบแล้ว ฉันไปโรงพยาบาลคนเดียวได้”
มือที่กำลังจะเปิดประตูรถของเทาเท่ก็ชะงักไป ไฟในอกที่ไม่มีชื่อเรียกก็ปะทุขึ้น
เขาปิดประตูรถอย่างแรงหันมามองเธอกัดฟันกร่อนแล้วถามว่า“ คุณคิดว่าที่ผมตำหนิและลงโทษพินอิน เป็นการแสดงที่ทำให้คนอื่นดูงั้นเหรอ?”
หลินจือถามเขากลับอย่างเมินเฉย “หรือไม่ใช่ ? พินอินสร้างปัญหาซะขนาดนั้นหากคุณยังปกป้องเธอ นั้นก็หมายความว่าต้องการจะประกาศให้คนภายนอกได้รู้ว่าการอบรมสั่งสอนของตระกูลฟอเรนาเป็นยังไง?”
นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวในขณะที่หลินจือเดินออกมาและพอจะนึกได้ว่าทำไมวันนี้เทาเท่ถึงออกหน้าแทนเธอสั่งลงโทษพินอินก็เพื่อรักษาหน้าตาของตระกูลฟอเรนาของพวกเขายังไงล่ะ
มิเช่นนั้นแล้วเขาจะทำแบบนั้นไปทำไม?
ตอนที่เป็นสามีภรรยากันไม่เคยจะมาสนใจดูดำดูดีเธอเลย หย่ากันไปแล้วยังจะมาสนใจทำไมอีก ?
เทาเท่เม้มริมฝีปากแน่น เกือบลมจับเพราะความคิดเองเออเองของเธอ