อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 235 ชีวิตการแต่งงานดีก็เทียบไม่ได้กับการเกิดมามีชีวิตดีจริงๆ
- Home
- อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)
- บทที่ 235 ชีวิตการแต่งงานดีก็เทียบไม่ได้กับการเกิดมามีชีวิตดีจริงๆ
ช่วงนี้แต่ละวันของเบลซนั้นผ่านไปได้อย่างไม่ค่อยดีนัก อย่างแรกก็คือแผลลวกที่ขาของเขานั้นทำให้เขาเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แผลลวกนี้เป็นการทรมานคนมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่คันตรงเนื้อแดงๆนั้น กลับไม่สามารถไปจับโดนได้เลย
อย่างที่สอง เป็นอย่างที่คาดไว้เขาถูกคนที่อยู่เบื้องบนนั้นสั่งสอนอย่างรุนแรง
เป็นครั้งแรกในหลายปีขนาดนี้ที่เขารู้สึกท้อใจ เบลซโมโหเสียจนแทบคลั่ง
เขาเพียงแค่เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถปีนขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ ไม่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขึ้น และคิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถพยายามเพื่อลูกสาวตัวเองได้
แต่เขาลืมไปแล้ว ว่าบุญคุณและความแค้นของซูซีกับหลินจือ ล้วนแต่เป็นเพราะการกระทำที่เลวร้ายในขโมยต้นฉบับของหลินจือมา เขาเห็นเพียงแค่ลูกสาวตัวเองถูกบีบบังคับให้ต้องขอโทษหลินจือเพียงเท่านั้น
ในห้องหนังสือตระกูลโดโนแวน
เนียร์ขมวดคิ้วขึ้นพลางเอ่ยถามเบลซ : “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะต้องทำยังไง? ฉันเห็นช่วงนี้อารมณ์ของซีไม่ดีมาตลอดเลย”
วันนั้นหลังจากที่เบลซถูกลวกนั้นก็ตวาดใส่ซูซีไปหนึ่งครั้ง ซูซีก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยหลายวัน โกรธเบลซอยู่ตลอด เนียร์โทรหาเกลี้ยกล่อมซูซีอยู่หลายครั้ง แต่ซูซีก็ไม่สนใจ
สีหน้าของเบลซดูหนักหน่วง : “ผมว่า…..จำเป็นที่จะต้องดึงเทาเท่มายืนอยู่ฝั่งเดียวกับพวกเราแล้วล่ะ มีเพียงแค่แบบนั้น ถึงจะสามารถแก้แค้นไอ้จอร์แดนกับลูกสาวของเขาได้”
อย่างเช่น ให้เทาเท่เตะหลินจือออกจากละครสองเรื่องที่เขากำลังลงทุนอยู่ในตอนนี้ หรือให้เทาเท่ยกเลิกสัญญากับจอร์แดน
ถึงแม้ว่าจอร์แดนจะไม่ได้ขาดแคลนเงิน หลินจือเองก็ไม่ได้ขาดงานทั้งสองงานนี้ แต่แบบนี้นับว่าจะสามารถจอร์แดนกับหลินจือรำคาญได้
และเป็นแบบนี้ เทาเท่กับหลินจือนั่นก็จะไม่มีหวังแล้ว ไม่ว่าเทาเท่จะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อหลินจือมากแค่ไหน แต่ในเมื่อเขาตั้งตัวเป็นศัตรูกับจอร์แดน จะเป็นไปได้อย่างไรที่หลินจือจะยังพิจารณาเทาเท่อยู่อีก
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ยินดีที่จะทำใช่ไหมล่ะ?
เนียร์ได้ยินเบลซพูดแบบนี้ ดวงตาก็ดูตกตะลึงขึ้นมาในทันที : “คุณหมายความว่า จะใช้เรื่องของไกอากับวีนาในตอนนั้นมาบีบเขา?”
มิเช่นนั้นแล้ว จากท่าทีของเทาเท่ในตอนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาอยู่ฝั่งเดียวกันกับพวกเขา เขาไม่ไปช่วยจอร์แดนกับหลินจือจัดการกับพวกเขาก็นับว่าไม่เลวแล้ว
เบลซหัวเราะเยาะพลางพยักหน้าลง : “ในเมื่อเขาแยกแยะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามาโทษว่าผมทำเรื่องเลวๆไร้ความเมตตาก็แล้วกัน”
“ปีนั้นเรื่องที่ไกอากับวีนาก่อเอาไว้แพร่ออกมา ตระกูลฟอเรนาขายหน้ามาก ฟอเรนากรุ๊ปก็ยิ่งได้รับการโจมตีอย่างหนัก ผมไม่เชื่อหรอกว่าเทาเท่จะยอมประนีประนอม”
“ถึงตอนนั้นให้เทาเท่เตะหลินจือนั่นไปซะ ทางที่ดีที่สุดคือสามารถบีบให้หลินจือออกไปจากเมืองเจสเวิร์ดได้เลยยิ่งดี ซีก็จะผ่อนความโมโหลงได้” เบลซคิดเอาไว้แล้วว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะให้เทาเท่ทำอะไรบ้าง
เนียร์เอ่ยถามขึ้น : “ถ้าอย่างนั้นไล่หลินจือไปได้แล้ว จะยังให้เทาเท่แต่งงานกับซีอยู่ไหมคะ?”
“แต่งสิ จะไม่แต่งได้ยังไง” เบลซยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าแผนการของตัวเองนั้นสมบูรณ์แบบมาก ราวกับว่าเทาเท่ได้อยู่ในการควบคุมของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างไรอย่างนั้น
“เพียงแค่เทาเท่ฟังพวกเรา พวกเราก็จะไม่เปิดโปงเรื่องของพ่อแม่เขาออกไป ฟอเรนากรุ๊ปตอนนี้ยังเป็นฟอเรนากรุ๊ปที่ยังมีหน้ามีตา ถึงตอนนั้นเขาแต่งงานกับซี พวกเราสองตระกูลร่วมมือกัน แล้วผมค่อยไปจัดการกับจอร์แดนก็ยิ่งมีความมั่นใจขึ้น”
เนียร์หัวเราะขึ้นมาทันที : “ถ้าอย่างนั้นฉันไปบอกกับซีดีกว่านะคะ ลูกจะต้องไม่โกรธคุณแล้วแน่ๆ”
เนียร์พูดจบแล้วนั้นก็ลุกขึ้นรีบไปโทรหาซูซี เบลซหรี่ตาลงแล้วเอนพิงเก้าอี้พิจารณาอย่างลึกซึ้งและรอบคอบ
ตอนที่ซูซีได้รับสายจากเนียร์นั้น กำลังพาลีวายและเพื่อนสนิททั้งหมดของตัวเองไปดื่มเหล้ากันอยู่ในผับ
ตอนนี้พินอินกำลังถูกกักตัวไม่ให้ออกไปไหน เธอก็เลยหาเพื่อนคนอื่นๆมารวมตัวกัน ทิ้งพินอินไว้ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้กระทั่งสามารถพูดได้ว่า เธอไม่ได้เป็นห่วงความเป็นตายของพินอินเลย
สถานการณ์ในตอนนี้ของพินอิน สำหรับเธอแล้วนั้นไม่มีค่าที่จะให้หลอกใช้ประโยชน์ได้อีกแล้ว
ตอนแรกที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพินอินนั้น ไม่ใช่เป็นเพราะว่าชอบพินอินคนนี้มากเท่าไรนัก ท่าทางที่ไม่มีสมองแบบนั้นของพินอิน เหมาะกับการคอยมาหิ้วรองเท่าให้เธอเท่านั้น
เพื่อเป็นการดึงความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับเทาเท่และวีนา ถึงได้มีเจตนาที่จะให้พินอินกลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
ถึงอย่างไรบางคำพูดเธอไม่สะดวกที่จะเอ่ยพูดขึ้นมาต่อหน้าเทาเท่และวีนา ก็ยืมปากของพินอินช่วยเธอพูดต่อ ต่อมาเทาเท่แต่งงานกับหลินจือ เธอหลอกใช้พินอินในการใช้คำพูดให้ร้ายหลินจือ เป็นสิ่งที่ราบรื่นที่สุดแล้ว
พินอินคนปัญญาอ่อนนั่นจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังเห็นเธอเป็นเพื่อนสนิทอยู่เลย ทั้งวันเอาแต่ส่งข้อความหาเธอร้องห่มร้องไห้ ไม่บ่นว่าเทาเท่ ก็บ่นว่าวีนา ไม่อย่างนั้นก็ระบายความในใจว่าตัวเองคิดถึงโลกภายนอกขนาดไหน
ซูซีขี้เกียจจะสนใจพินอินแล้ว ข้อความที่พินอินส่งมาเธอไม่ตอบกลับเลยทั้งหมด
บางครั้งพินอินฟ้องว่าเธอทำไมไม่ตอบข้อความ เธอก็ตอบกลับไปอย่างเหนื่อยหน่ายเพียงว่า “ขอโทษนะเมื่อกี้กำลังยุ่งอยู่”
ผู้หญิงสามคนที่กำลังดื่มอยู่กับซูซี บวกกับซูซีและลีวาย ทั้งห้าคนเหมาห้องวีไอพีไว้ห้องหนึ่ง
ผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นเอ่ยถามซูซีขึ้น : “ซี เธอเองก็เป็นคนในวงการบันเทิง เธอรู้จักหลินจือนักเขียนบทที่สองสามวันก่อนถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวแท้ๆของจอร์แดนนั่นไหม?”
เรื่องที่หลินจือเป็นอดีตภรรยาของเทาเท่ ซูซีไม่เคยพูดถึงกับใครมาก่อน เพราะว่าเธอไม่สามารถพูดออกไปได้
หลินจือในตอนนั้นเป็นเพียงแค่ซินเดอเรลล่าคนหนึ่งเท่านั้น เธอไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองถูกหลินจือผู้หญิงแบบนี้แย่งผู้ชายไปได้หรอกมั้ง?
นั่นเธอก็น่าขายหน้าเกินไปแล้ว
ส่วนเรื่องที่จู่ๆเทาเท่แต่งงานกับคนอื่น เธออธิบายกับคนพวกนี้เอาไว้ว่าเทาเท่ทำเพื่ออาการป่วยของคุณปู่ของเขาจะไม่แต่งก็ไม่ได้ เขาไม่ได้มีความรู้สึกรักกับภรรยาคนนั้นเลย
เธอทำได้เพียงแค่ใช้วิธีแบบนี้กู้หน้าของตัวเองกลับมา
เมื่อซูซีได้ยินชื่อของหลินจือแล้วอารมณ์ที่ดีอยู่นั้นก็หายไปในทันที แต่ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าเอาไว้ : “ทำไมจู่ๆถึงได้พูดถึงเธอขึ้นมาล่ะ?”
ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้น : “ถ้าเธอรู้จัก วันหลังก็นัดนางออกมาเที่ยวกับกันสิ ให้พวกเรารู้จักกับนางหน่อย”
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็เข้ามาใกล้แล้วยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ใช่ๆ นั่นเป็นถึงลูกสาวของตระกูลแม็กซิมัสแห่งเมืองเวลฟ์เชียวนะ สร้างความสัมพันธ์ดีๆกับเธอไว้ก็นับว่าไม่เลวเลย”
คนเหล่านี้เห็นเพียงแค่ว่าซูซีคงจะมีความคิดเหมือนกับพวกเธอ อยากจะดึงความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกับหลินจือมากขึ้น
คงคิดไม่ถึงว่าก้นบึ้งในใจของซูซีนั้นความมั่นใจตายไปกว่าครึ่งแล้ว คนพวกนี้เองก็ประจบสอพลอมากเกินไปแล้ว เห็นใบหน้าที่แทบจะรอกับการทำความรู้จักหลินจือไม่ไหวของพวกเธอแล้ว ทำให้รู้สึกกินไม่ลงเลยจริงๆ
ลีวายที่อยู่ข้างๆทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันแทนซูซี : “ประธานซูซีเข้าวงการมาในจุดที่สูง ต่อมาก็เป็นคนดังได้รับการยอมรับ ตอนนั้นหลินจือยังเป็นนักเขียนบทที่ยังไม่มีชื่อเสียงเลย ถ้าหากไม่ใช่เรื่องนี้เปิดเผยออกมา ประธานซูซีของเราก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในวงการบันเทิงยังมีนักเขียนบทอีกคนนึงแบบนี้”
หลังจากที่ลีวายเอ่ยพูดขึ้นเสร็จแล้ว ซูซีก็มองเธอด้วยความดีใจแวบหนึ่ง ขอบคุณลีวายที่ช่วยเธอรักษาฐานะเอาไว้
ผู้หญิงคนนั้นถึงได้คิดได้ในทันที : “ก็ใช่นะ ก่อนหน้านี้หลินจือนี่ไม่ได้เป็นที่รู้จัก มิน่าล่ะเธอถึงไม่รู้จัก”
หลังจากที่สิ้นเสียงคำพูดของเธอแล้ว อีกคนหนึ่งก็เอ่ยพูดขึ้นอย่างถอดถอนใจ : “โธ่เอ้ย ชีวิตการแต่งงานดีก็เทียบไม่ได้กับการเกิดมามีชีวิตดีจริงๆ”
“ใช่ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอเพิ่งจะถูกยอมรับจากตระกูลแม็กซิมัส แต่ครึ่งชีวิตหลังจากนี้ไปก็สามารถไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ใจแล้วสิ ดีจริงๆเลย”
สองสามคนนั้นต่างก็พากันอิจฉาหลินจือ ซูซีกับลีวายทั้งสองคนมองดูพวกเธออิจฉากันอย่างเงียบๆ หลังจากในนั้นในใจของแต่ละคนก็กัดฟันด้วยความเคียดแค้น