อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 239 ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแล้ว
ถึงแม้ว่าเทาเท่จะอยู่ไกลถึงต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการรับรู้เรื่องราวภายในประเทศเหล่านี้ อีกทั้งเพียงแวบเดียวเขาก็มองออก ว่าเบื้องหลังจะต้องเป็นซูซีคอยบงการอย่างแน่นอน
ถึงแม้เรื่องนี้จะพุ่งเป้าไปที่นานิไม่ใช่หลินจือ แต่จุดประสงค์เดิมทีของซูซีนั้นยังคงต้องการทำลายหลินจือ เพราะถึงอย่างไร เสียงวิจารณ์ของ “The Legend of Concubine Rong “หากถูกผลกระทบแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องดีกับอนาคตของหลินจือเท่าไหร่นัก
โซเมนพูดแขวะอยู่ในกลุ่มพวกเขา : “เท่ นายว่าตอนนั้นทำไมนายถึงได้ชอบซูซีกันนะ ตอนที่พวกนายคบกัน นายไม่ค้นพบความคิดเหล่านี้ของเธอเลยเหรอ?”
เทาเท่ไม่ค้นพบเลยจริงๆ เป็นเพราะว่าตอนที่เขากับซูซีคบกันนั้นซูซีแสดงออกมาอย่างใจกว้างและมีเหตุผล อีกทั้งตอนนั้นพวกเขาคบกันก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากขนาดนั้นด้วย
ถ้าหากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวันอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ไม่แน่ว่าเขาคงจะสามารถค่อยๆรับรู้ได้ถึงการเสแสร้งมาตลอดของซูซี แต่ตอนนั้นเขากับซูซีเองก็แค่เจอหน้ากัน ทานข้าวด้วยกัน ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ด้วยกันหรือไปตีกอล์ฟ ขี่ม้าด้วยกันบ้างเป็นบางครั้งบางคราว
ตอนนั้นเขารู้สึกเพียงแค่ว่าอยู่กับซูซีนั้นมีความสุขดี เป็นเพราะเธอสามารถไปด้วยกันกับเขาได้ในสิ่งที่เขาชอบ ส่วนเรื่องอื่นนั้นเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
นทีบดีเอ่ยขึ้นมาบ้างในกลุ่ม : “ฉันรู้สึกว่านายจำเป็นที่จะต้องสืบดูบ้างนะว่าตอนนั้นซูซีมานั่งอยู่ข้างๆนายได้ยังไง ตามแผนการความคิดของเธอ ฉันมักจะรู้สึกว่าเธอมีเจตนาที่จะเข้าใกล้นาย”
“แม้กระทั่งนายเองก็ตรวจสอบการไปๆมาๆที่คุณซูซีไปเรียนที่ต่างประเทศดูก็ได้ เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าเธออยู่ที่ต่างประเทศอยู่ตลอดเหรอ ทำไมจู่ๆถึงกลับมาล่ะ? แล้วก็ตอนที่เข้าร่วมงานเลี้ยงนั่นก็มานั่งข้างๆนายอีก บังเอิญขนาดนั้นทำอะไรผิดพลาดเหรอ?”
จากคำเตือนของโซเมนและนทีบดี เทาเท่ขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น : “ควรจะต้องตรวจสอบจริงๆแล้วล่ะ”
ถ้าหากซูซีเข้าใกล้เขาเพราะมีจุดประสงค์จริงๆ ถ้าอย่างนั้นความรู้สึกละอายใจและเสียใจอาจจะต้องเพิ่มขึ้นอีกขั้นแล้ว
เทาเท่อยู่ที่นิวซีแลนด์สามวัน โดยไม่สามารถวิดีโอคอลกับหลินจือได้สำเร็จเลยซักครั้งเดียว
ทุกวันเธอไม่รับสายเขา ให้เขามีเรื่องอะไรก็ส่งข้อความหรือข้อความเสียงมาแทน หรือก็โทรมาเลย เทาเท่โมโหเสียจนไม่ไหว แต่กลับทำอะไรเธอไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนนี้เขาไม่ใช่ใครสำหรับเธอ อย่างดีที่สุดก็เป็นเพียงเพื่อนบ้าน เจ้านายในเรื่องงาน ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะมาบีบบังคับให้เธอต้องคุยวิดีโอคอลกับเขา
อารมณ์ความรู้สึกของเทาเท่นั้นเดิมทีก็วุ่นวายใจอยู่แล้ว วันนั้นควีนส่งข้อความมาหาเขา : “เจ้านาย วันนี้ฉันไปดูที่กอง”The Legend of Concubine Rong “มาค่ะ ถ่ายรูปมาสองสามรูปด้วย”
เนื่องจากว่าเทาเท่ไม่ได้อยู่ที่เมืองเจสเวิร์ด ดังนั้นก็มีควีนที่เป็นตัวแทนของฟอเรนากรุ๊ปในฐานะฝ่ายลงทุนไปที่กองแทน
จากนั้นควีนก็ส่งรูปถ่ายมาให้เทาเท่ ในรูปถ่ายนั้นเจเทาวน์กับหลินจือนั่งอยู่ใกล้กันมาก ทั้งสองคนกำลังดูเลนส์กล้องที่เพิ่งถ่ายกันไปที่จอมอร์นิเตอร์ หลังจากที่ดูเสร็จทั้งสองคนก็นั่งคุยกันอยู่ตรงนั้น
พอเทาเท่เห็นระยะห่างระหว่างทั้งสองคนแล้วนั้น ในใจก็รู้สึกหึงหวงขึ้นมาทันที
ควินเดาออกถึงอารมณ์ของเจ้านายตัวเอง แล้วก็ส่งข้อความตามมาอย่างรวดเร็ว : “เจ้านายคะ ฉันส่งรูปถ่ายสองสามรูปนี้ให้ เพียงแค่อยากจะบอกเจ้านายว่า ต่อไปคาดว่าภาพพวกนี้จะมีอีกมากเลย เจ้านายจะต้องนิ่งเอาไว้นะคะ”
เจเทาวน์เป็นผู้กำกับ หลินจือเป็นผู้เขียนบท ถึงแม้ว่าหลังจากที่หลินจือส่งบทมาแล้วแทบจะไม่ต้องไปกองถ่ายเลยก็ตาม แต่เนื่องจากว่าเจเทาวน์ให้ความเคารพกับความคิดเห็นของหลินจือคนเขียนบทคนนี้มาก ดังนั้นจะโทรหาหลินจืออยู่บ่อยๆ และถ้าหากหลินจือมีเวลาก็จะไปที่กองถ่ายด้วยเช่นกัน
ละครหนึ่งเรื่องการถ่ายทำก็ใช้เวลาเป็นสองสามเดือน ดังนั้นควีนถึงได้ต้องเตือนเจ้านายตัวเองเอาไว้ก่อนล่วงหน้า
เทาเท่ยกมือขึ้นมาดึงเนคไทตัวเอง รู้สึกวุ่นวายใจจริงๆ ตอนแรกนั้นเขาไม่ควรที่จะเห็นด้วยกับการให้เจเทาวน์มาเป็นผู้กำกับ”The Legend of Concubine Rong “เองเลย ถึงแม้ว่าหลินจือจะยอมรับจากปากแล้วว่าตอนนี้เธอกับเจเทาวน์ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ความรักที่เจเทาวน์มีต่อหลินจือนั้นไม่ได้น้อยไปเลยแม้แต่นิดเดียว
แววตาที่เขามองหลินจือนั้น ความคิดของเขาไม่สามารถเก็บซ่อนเอาไว้ได้เลย
เทาเท่มีความคิดอย่างวู่วามที่อยากจะซื้อตั๋วเครื่องบินบินกลับไปในทันที แต่ทางนี้รายการที่เขากำลังคุยอยู่นั้นมีความคืบหน้าใหม่ เขาไปไม่ได้ ก็เลยทำได้เพียงแค่กัดฟันมองดูรูปถ่ายเหล่านั้น
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน โซเมนแท็กเขามาในกลุ่ม น้ำเสียงมีความจริงจัง : “เท่ ฉันรู้สึกว่า….สถานการณ์นายตอนนี้อันตรายจริงๆ”
เทาเท่ตอบเขากลับด้วยอารมณ์ที่ดูแย่มาก : “???”
โซเมนเอ่ยขึ้น : “สองสามวันนี้หลินจือไปปักกิ่งแล้ว นายรู้หรือเปล่า?”
“ไม่รู้” พูดถึงเรื่องนี้แล้วเทาเท่ก็รู้สึกโมโห นับตั้งแต่ที่เขามาที่นิวซีแลนด์ ก็ไม่ได้มีการติดต่อหลินจืออย่างจริงจังเลย ดังนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าหลินจือไปปักกิ่งแล้ว
ถึงแม้ว่าโซเมนจะรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ไม่ดีของเทาเท่ แต่ก็ฝืนพูดกับเขา : “ตระกูลแม็กซิมัสจัดงานเลี้ยงใหญ่ให้เธอ นับว่าเป็นงานเลี้ยงรับรองของครอบครัว เชิญแขกมาเยอะมาก ในนั่นก็มีคนวัยรุ่นหนุ่มๆที่มีความสามารถของเมืองเวลฟ์มาอีกมากด้วยนะ”
“ทำไมจะต้องเชิญคนกลุ่มนี้มา จุดประสงค์ของตระกูลแม็กซิมัสนายรู้ดีใช่ไหม?” โซเมนเอ่ยถามแบบนี้กับเทาเท่
เทาเท่รู้ดีอยู่แล้ว เป็นการตบตาจัดการหาคู่ให้หลินจือนั่นเอง
หลังจากที่โซเมนเอ่ยขึ้นมาแล้วนั้นก็ส่งรูปหนึ่งเข้ามา เป็นรูปที่หลืนจือกับชายหนุ่มที่ใส่แว่นตากรอบทองเดินออกมาจากร้านกาแฟ
ปักกิ่งเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง อากาศสดใส สภาพแวดล้อมของบริเวณรอบๆบนพื้นเต็มไปด้วยใบไม้ร่วงสีเหลืองอร่ามซึ่งช่วยเพิ่มความโรแมนติกขึ้นไปอีก
หลินจือกับหนุ่มคนนั้นพูดคุยหัวเราะกันอยู่หน้าประตูร้านกาแฟเป็นภาพที่เหมาะสมและสะดุดตามาก เธอสวมสเวตเตอร์หนาตัวใหญ่ ที่คอพันด้วยผ้าพันคอเพื่อทำให้อบอุ่น ยิ่งสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างเห็นได้ชัด
ชายหนุ่มคนนั้นแต่งตัวอย่างดูเป็นสุภาพบุรุษ ชุดสูทและเสื้อกั๊กทั้งสามตัว พร้อมกับแว่นตากรอบทองของเขา ราวกับคุณชายผู้สูงส่งในการ์ตูนเลยอย่างไรอย่างนั้น
เทาเท่เห็นฉากนั้นในรูปถ่ายแล้ว ในใจก็ตัดสินใจขึ้นมาทันที เขารีบจองตั๋วกลับไป และยังไปที่ปักกิ่งโดยตรงเลยอีกด้วย
โซเมนยังคงแนะนำต่ออย่างรู้หน้าที่ : “คนในรูปนี้ ว่ากันว่าเป็นหนุ่มหล่อที่มากด้วยความสามารถที่ตระกูลแม็กซิมัสรู้สึกพอใจกันมาก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่รุ่นสาม ตัวเขาทำงานอยู่ในแผนกวัฒนธรรม นายว่าคุณจอร์แดนร้ายหรือเปล่าล่ะ จัดการให้หลินจือรู้จักกับคนที่ใช้ภาษาเดียวกันกับเธอมาเป็นพิเศษแบบนี้ ทั้งสองคนนั่งอยู่ในร้านกาแฟด้วยกันทั้งช่วงเช้า คุยกันแบบนั้นเรียกว่าเข้ากันได้ดีเลยแหล่ะ”
เดิมทีอารมณ์ของเทาเท่ก็แย่อยู่แล้ว ถูกคำพูดของโซเมนพูดมาแบบนี้ก็รู้สึกว่าในใจนั้นมีไฟลุกขึ้นมา
ไฟที่ลนลานไม่สงบ ราวกับว่าวินาทีต่อจากนี้ไปหลินจือก็จะไปกับชายหนุ่มคนนั้นแล้วอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อทนไม่ได้ เขาก็พูดแขวะโซเมนขึ้นมา : “ฉันรู้สึกว่านายสามารถไปเป็นนักสืบได้เลยนะ”
โซเมนเข้าใจรายละเอียดขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าสามารถเป็นนักสืบได้แล้วหรอกเหรอ?
โซเมนโต้แย้งให้ตัวเองด้วยความไม่พอใจ : “นี่เพื่อนที่เมืองเวลฟ์ของฉันบอกมา ฉันก็เลยเอามาบอกต่อนายด้วยความหวังดี นายยังจะมาประชดประชันฉันอีก”
“พวกเพื่อนๆฉันบอกว่า คืนนั้นเมื่อหลินจือปรากฎตัวขึ้นมา พวกเขาหลายคนที่พากันใจเต้นแรง แต่สุดท้ายก็ให้บุคคลนี้แย่งไปก่อนแล้ว” โซเมนว่ามาแล้วนั้นสุดท้ายก็ส่งเป็นข้อความเสียงมา “ที่ฉันบอกเรื่องพวกนี้กับนาย ก็อยากจะบอกนายว่า นายตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแล้วนะ”
“บุคคลนี้ไม่ใช่สินค้าราคาถูกแบบนั้นนะ ที่นายจะลงมือแล้วก็จะสามารถบีบให้แบนได้แบบนั้น”
“ฉันกลับไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ” เทาเท่ตอบกลับโซเมนไปแบบนี้ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาเริ่มจองตั๋วเครื่องบิน