อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 287 ไม่เชื่อว่าผมรักคุณ
จอร์แดนหมุนตัวกลับห้องพักผู้ป่วย ถามลูกสาวอย่างจริงจังว่า “ตอนนี้ลูกกับเขา…”
ความรู้สึกของหลินจือก็ซับซ้อนมากเช่นกัน ไม่สามารถใช้คำไหนมาอธิบายความสัมพันธ์ตอนนี้ของเธอกับเทาเท่ได้ชั่วขณะ
เดิมทีพวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางกายภาพ แต่วันนี้เทาเท่ช่วยเธอ
ตอนที่เทาเท่เตะประตูเปิดห้องรีบเข้ามาหาเธอ ตอนที่อุ้มเธอไปโรงพยาบาล ตอนที่เขาคอยอยู่เคียงข้างจับมือรอเธอ ทำไมหัวใจของเธอถึงไม่รู้สึกอะไรสักนิด?
เมื่อจอร์แดนเห็นว่าเธอไม่พูดก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ลูกคงไม่ได้คิดว่าจะมอบหัวใจให้ตอบแทนพระคุณที่ช่วยชีวิต แล้วแต่งงานกับเขาใหม่ใช่ไหม?”
หลินจือยิ้มออกมาทันที “พ่อคะ สิ่งที่พ่อพูดน่าตกใจเกินไป”
จะมอบหัวใจให้ตอบแทนพระคุณที่ช่วยชีวิต นี่มันยุคไหนแล้ว
เธอรู้สึกซาบซึ้งจริงๆที่เทาเท่ช่วยชีวิตเธอ แต่เรื่องการแต่งงาน เพราะเธอเคยมีประสบการณ์มาแล้วครั้งหนึ่ง ดังนั้นเธอจึงไม่ใจร้อน เธอจะไม่มีทางตกลงที่จะแต่งงานกับเทาเท่ใหม่ตอบแทนเพียงเพราะเธอรู้สึกซาบซึ้งใจชั่วขณะ
จอร์แดนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “งั้นก็ดีแล้ว”
หลินจือพูดกับจอร์แดนจากใจเบาๆ “ถ้าวันหนึ่งหนูจะแต่งงานใหม่ จะผ่านการอนุญาตจากพ่อแน่นอนค่ะ เมื่อก่อนหนูไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างเพื่อบอกว่าใครถึงจะคู่ควรที่จะอยู่กับตัวเองตลอดชีวิต หนูคิดไปเองว่าเพียงแค่ใช้ใจรักก็พอแล้ว ใครจะคิดว่า…”
หลินจือไม่ได้รู้สึกเศร้าอะไร แต่เงยหน้าขึ้นมองจอร์แดนอย่างพึ่งพา “ต่อจากนี้พ่อช่วยหนูตรวจดู หนูเชื่อว่าหนูจะมีความสุข”
ดวงตาของจอร์แดนแดงก่ำจากสิ่งที่เธอพูด เขายกมือขึ้นลูบหัวเธอเบาๆ “เด็กดี”
พ่อและลูกสาวเปิดอกคุยกัน เทาเท่ที่ถือกาน้ำร้อนยืนอยู่ข้างนอกประตูกลับรู้สึกเศร้าอย่างมาก
จากน้ำเสียงในคำพูดของหลินจือเมื่อกี้ เขารู้สึกได้ว่าวันที่หลินจือจะแต่งงานใหม่กับเขาอีกครั้งนั้นไกลเกินเอื้อม หรือกล่าวได้ว่าตอนนี้เธอไม่มีความคิดที่จะมีความรักแต่งงานอย่างแน่นอน
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เสนอข้อเสนอบ้าๆเป็นคู่นอนที่ไม่รู้สึกอะไรกันหรอก เขามองออกแล้วว่า เธอแค่ต้องการนอนกับเขา เพื่อแก้ปัญหาความต้องการทางร่างกายเท่านั้น แค่นั้นจริงๆ
เขาเก็บอารมณ์ของตัวเอง เขาเคาะประตูแล้วเดินถือกาน้ำเข้ามา
รินน้ำให้หลินจือ ทดสอบอุณหภูมิแล้วถึงจะเดินเอาไปส่งให้เธอ
จอร์แดนมองดูการกระทำทั้งหมดของเขาเงียบๆ เวลาที่ประธานเทาเท่ผู้สูงศักดิ์ดูแลคนดูเหมือนจะทำทุกอย่างได้อย่างคล่องเลยทีเดียว
จากที่จอร์แดนรู้จักเทาเท่มาก่อนหน้านี้ เขานึกว่าเทาเท่จะไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับการดูแลคนเสียอีก และมันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จอร์แดนไม่เคยอยากให้หลินจือกับเทาเท่กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
พอคิดว่าทันทีที่พวกเขากลับมาอยู่ด้วยกัน ลูกสาวสุดที่รักของเขาจะต้องดูแลปรนนิบัติเทาเท่ทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน ต้องมาคอยทำอาหารสามมื้อในแต่ละวันให้เทาเท่ จอร์แดนก็รู้สึกจุกที่อกมาก
สำหรับลูกสาวคนที่สูญเสียแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งคนนี้ ถ้าเป็นไปได้จอร์แดนอยากจะจ้างแม่บ้านหลายๆคนมาให้หลินจือเพื่อดูแลเธอ ให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างคุณหนูที่ไม่จำเป็นต้องทำอะไรด้วยตัวเอง
เพียงแต่ว่าตัวหลินจือเองไม่ต้องการเท่านั้น ดังนั้นเขาจะทนยอมให้หลินจือไปคอยปรนนิบัติรับใช้เทาเท่ต่อได้อย่างไร?
จอร์แดนจะรู้ได้อย่างไรว่าช่วงนี้ตอนที่เทาเท่อยู่บ้านกับหลินจือ เขาคอยดูแลหลินจือเสมอ ไม่ปล่อยให้หลินจือทำอะไรเลย
คนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เทาเท่ก็ต้องการเปลี่ยนแปลงจริงๆ
หลินจือดื่มน้ำเสร็จ เทาเท่ก็วางแก้วน้ำแล้วพูดกับจอร์แดนที่อยู่ข้างๆว่า “คุณจอร์แดน กลับไปพักผ่อนสักครู่เถอะ ผมจะอยู่ดูแลเอง”
เขาที่มีท่าทีหน้าด้านอยู่ไม่ยอมไปไม่ยอมห่างหลินจือสักวินาที จอร์แดนก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
หลินจือก็พูดสนับสนุนว่า “พ่อคะ กลับไปก่อนเถอะค่ะ”
จอร์แดนจึงต้องลุกขึ้น กำชับกับเธอไม่กี่คำแล้วจากไป เทาเท่ส่งคนให้ขับรถไปส่งจอร์แดนที่โรงแรม
หลังจากที่จอร์แดนจากไป หลินจือต้องการลุกจากเตียงเพื่อเดินเล่น เทาเท่ช่วยพยุงเธอลงมา เธอยังไม่ทันก้าวเท้าก็ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน แน่นอนว่าเขายังคงเลี่ยงบาดแผล 2 แห่งที่แผ่นหลังของเธออย่างระมัดระวัง
หลินจือที่ถูกเขากอด ถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไร?”
เทาเท่กอดเธอแล้วถอนหายใจเบาๆ “ในที่สุดผมก็ไม่ต้องแยกจากคุณแล้ว”
หลินจือ “…”
หลินจือไม่ได้ผลักเทาเท่ออกไปในทันที แต่ซบอยู่ในอ้อมแขนกว้างของเขาสักพัก หลินจือแนะนำอย่างจริงจังว่า “เทาเท่ คุณไปหาซานาสักหน่อยเถอะ”
ตอนนี้ถึงตาที่เทาเท่จะไม่เข้าใจบ้างแล้ว “ทำไม?”
“ฉันคิดว่าคุณ…กลัวจนเกินเหตุ” หลินจือลองหยั่งเชิงพูดสิ่งที่ตนคาดเดาออกมา
ตอนนี้เธอถูกเทาเท่กอดในอ้อมแขน จึงสามารถรู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างผิดปกติของเทาเท่ เธอมาคิดอย่างถี่ถ้วน ดูเหมือนว่าหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา เทาเท่ก็อยู่ในสภาวะตึงเครียดตลอดเวลา
ทั้งๆที่เมื่อกี้บอกให้เขากลับไปพักผ่อน แต่ผลกลับกลายเป็นว่าพอเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบกลับมาอีกครั้ง
เขาเครียดเกินไป
เทาเท่ทั้งโกรธทั้งตลก นั่นไม่ใช่เพราะเขาแคร์เธอมากเหรอ
คิดได้ดังนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะดึงเธอออกจากอ้อมแขน จ้องเธอแล้วถามอย่างเคร่งขรึม “คุณยังจำคำพูดที่ผมพูดกับคุณผ่านสายได้ไหม?”
หลินจือกะพริบตาอย่างงุนงง “พูดอะไร?”
เขาเปลี่ยนหัวข้อเร็วมาก เธอจึงจำไม่ได้ว่าเขาพูดอะไรไปบ้างชั่วขณะ
เทาเท่กัดฟัน “คุณมันใจร้ายจริงๆ!”
จากนั้นก็กระซิบว่า “ผมพูดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ทิ้งคุณ”
หลินจือจำได้แล้วว่าตอนที่เธออยู่ในห้องพักโรงแรม ตอนที่คลานไปหยิบโทรศัพท์อย่างยากลำบาก สายแรกเธอโทรหาเทาเท่ เขาพูดแบบนี้จริงๆตอนสุดท้ายที่กำลังจะวางสาย
หลินจือรู้ว่าคำพูดของเขาหมายความว่าอะไร แม้ว่าต่อให้เธอจะถูกซาโต้ข่มขืน เขาก็จะยังคงไม่มีวันทอดทิ้งเธอ
ในตอนนั้นสติของเธอค่อนข้างเลอะเลือนไม่ชัดเจนพอ พอตอนนี้เธอมาฟังเขาพูดอีกครั้งในใจก็ใช่ว่าจะไม่ตกใจ
เธอหลับตาลงพูดเรียบๆ “ไม่จำเป็น”
เขาอยากได้ลมก็ได้ลม อยากได้ฝนก็ได้ฝน เขาทั้งหล่อ โดดเด่น สง่า ถ้าหากเธอเสียความบริสุทธิ์ไปจริงๆ เขาจะลำบากใจตัวเขาเองทำไม
เทาเท่บีบไหล่เธอแน่นบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง “ทำไมถึงไม่จำเป็น?”
เขาตำหนิเธอทีละคำ “หลินจือ คุณก็แค่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณ คุณไม่เชื่อว่าผมรักคุณ และไม่เชื่อว่าผมรักคุณมากขนาดนี้เช่นกัน!”
หลินจือเม้มปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอ…ไม่เชื่อจริงๆว่าเขาจะรักเธอมากขนาดนี้
เทาเท่เห็นท่าทีของเธอก็รู้ว่าเธอไม่เชื่อ เขาโกรธมากจนรู้สึกเหมือนจะพ่นไฟออกจากปากได้
เขาคว้าเสื้อคลุมที่เธอวางไว้ข้างๆแล้วพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ใส่เสื้อ ผมจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อน”
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้บนร่างกายเธอมีบาดแผล เขาจะต้องกดเธอลงกับเตียง ใช้วิธีการอื่นเพื่อทำให้เธอเชื่อคำพูดของเขา
สำหรับหลินจือ แม้ว่าเทาเท่จะทะเลาะกับเธอ แต่เขาก็กลับปกป้องเธออย่างรอบคอบ แต่ทางตระกูลโดโนแวนก็วุ่นวายกันมากๆ
ซูซีที่เป็นลมจนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล พอตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองและชื่อที่น่ารังเกียจอย่างไอ้บ้าซาโต้กำลังขึ้นการค้นหายอดฮิต เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนด่าอย่างแรงสุดๆเท่าที่จะแรงได้ในคอมเม้นท์ ภาพข้างหน้าก็มืดลงจนเกือบจะโกรธจนเป็นลมอีกครั้ง