อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 322 ทุกคนล้วนมีชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง
“ตระกูลฟอเรนาของพวกเรามีคนโง่ดักดานแบบนี้ได้ยังไง” คุณท่านผิดหวังชิงชังถึงขีดสุด เหลือแต่ไม่หลั่งน้ำตาออกมาเท่านั้น
ไม่เพียงแต่คุณท่านไม่เข้าใจ หลินจือกับพวกไวท์ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
เกิดออกจากท้องเดียวกัน พันธุกรรมเหมือนกัน ทำไมนิสัยของเด็ก ๆ ทั้งสองคนถึงต่างกันอย่างลิบลับ
ตอนที่พินอินเที่ยวยั่วสวาทผู้ชายในวงการบันเทิงไปทั่วนั้น คุณท่านก็สงสัยว่าเธอเป็นลูกหลานตระกูลฟอเรนาหรือเปล่า จึงแอบตรวจดีเอ็นเอพินอิน ซึ่งผลตรวจชี้ว่าพินอินคือลูกสาวของไกอากับวีนาจริง ๆ
คุณท่านจนปัญญาต้องยอมรับพฤติกรรมต่ำทรามของหลานสาวคนนี้อย่างยอมรับโชคชะตา
ไม่ใช่ว่าคุณท่านไม่เคยอบรมสั่งสอนมาก่อน ทว่าท่านยิ่งสอนพินอินก็ยิ่งฝ่าฝืน ต่อมาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ไม่คิดจะสอนอีก
ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ตอนนั้นน่าจะหักขาเธอทิ้ง ไม่ให้อิสระกับเธอ เธอจะได้ไม่ต้องหนีไปหาไกรภพ
ไวท์ยื่นน้ำชาให้คุณท่าน พลางกล่าวปลอบประโลม“ทุกคนล้วนมีชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง พวกเราก็หมดหนทางแล้วครับ”
“ช่างเถอะ ไม่ต้องสนใจเธอ ฉันไม่ตั้งความหวังอะไรกับเธอไว้แล้ว” คุณท่านดื่มน้ำชาเพื่อระงับเพลิงโกรธ
ไวท์ถามต่อว่า“เกิดเรื่องขึ้นกับคุณลุงไกอาใช่ไหมครับ?”
พูดถึงเรื่องนี้คุณท่านโอธนินก็ปวดหัว“ใช่ วันนี้ปู่ได้รับสายจากต่างประเทศ บอกว่าพ่อของเทาเท่ติดหนี้ก้อนโต เพราะไม่มีเงินคืนตอนนี้จึงถูกกุมตัว และโดนทุบตีสั่งสอนด้วย รูปถ่ายที่อีกฝ่ายส่งมา ใบหน้าของเขาบวมช้ำไปหมด”
ไวท์กล่าวเสียงเย็นเยียบ“ต้องเป็นฝีมือของไกรภพอีกแน่ ๆ เลยครับ”
ตอนนี้พวกเขารู้ซึ้งถึงวิธีโหดเหี้ยมของไกรภพอย่างถ่องแท้แล้ว เขาจะไม่ละเว้นใครทั้งนั้น แม้แต่ไกอาที่อยู่ต่างประเทศก็เช่นกัน
โดยเฉพาะไกอาอยู่ต่างประเทศ ไกรภพคิดจะทำอะไรก็ยิ่งสะดวกมากขึ้น
คุณท่านพยักหน้า“ต้องใช่แน่นอน”
จากนั้นคุณท่านก็ขบฟันกล่าวต่อว่า“ถ้าไม่มีอะไรชักนำ เขาคงไม่หลงกลหรอก เขามีจุดอ่อนอยู่ในมืออีกฝ่าย หรือไม่ก็ถูกหลอกให้ลุ่มหลงแน่ ไม่งั้นคงไม่เป็นหนี้ก้อนโตหรอก”
“พ่อเขาส่งเสียงพูดด้วยน้ำตาว่าโดนหลอก คนอื่นบอกว่าโปรเจคทำกำไรมหาศาล เขาจึงกู้ไปลงทุน ผลสุดท้ายคือล้มเหลวไม่เป็นท่า” คุณท่านกล่าวเชิงวิเคราะห์“ตอนนี้ปู่สงสัยว่าผู้หญิงข้างกายเขาหลอกล่อให้เขาลงทุน และผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นลูกน้องของไกรภพแน่”
ไวท์ก็คิดเห็นทำนองเดียวกัน ไกรภพเตรียมการล่วงหน้าเป็นอย่างดี ต้องมีสายลับอยู่ข้างกายไกอาเป็นแน่ ตอนนี้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นพร้อม ๆ กัน ทำให้พวกเขาเหน็ดเหนื่อยกับการรับมือมาก
จากนั้นไวท์ก็ถามคุณท่านว่าไกอาติดหนี้เท่าไหร่ ซึ่งหลังจากคุณท่านตอบ ไกอาก็ต้องตะลึงตะลาน“ทำไมเยอะขนาดนี้ครับ?”
คุณท่านพูดตรงไปตรงมาว่า“อีกฝ่ายบอกว่าจะเอาดอกเบี้ยจากดอกเบี้ยเงินกู้ที่ค้างจ่ายด้วย จึงได้หนักขนาดนี้ไกรภพอยากขูดเลือดขูดเนื้อฟอเรนากรุ๊ปให้หมดตัว!”
ไวท์อึ้งไปสักพัก จากนั้นก็พูดกับคุณท่านว่า“คุณปู่ครับ ขออภัยที่ผมต้องพูดตรง ๆ นะครับ ตอนนี้เทาเท่ไม่ควรทำงานหนัก ๆ ครับ”
ไวท์เล่าถึงอาการเวียนศีรษะของเทาเท่ก่อนหน้านี้ให้คุณท่านฟัง ซึ่งคุณท่านก็สะดุ้งตกใจมาก “อะไรนะ?ปวดหัวเหรอ?”
ไวท์ขานรับ“ใช่ครับ พินอินหนีไปอยู่กับไกรภพ ทำให้เขาโกรธมากครับ”
คุณท่านยืนขึ้นด้วยสีหน้าตึงเครียด“ปู่รู้แล้ว อย่าพึงบอกเรื่องนี้กับเขา ปู่จะคิดหาวิธีเอาเงินใช้หนี้เอง”
ถ้าเอาเงินใช้หนี้จากฟอเรนากรุ๊ป เทาเท่ที่เป็นประธานต้องรู้แน่
ไวท์ขวางคุณท่านพร้อมกับกล่าวว่า“ผมจะช่วยคุณปู่รวบรวมเงินก้อนนี้เองครับ ถึงแม้พวกเราจะรู้ว่าถึงจะรวบรวมเงินครบ แต่คุณลุงไกอาก็ไม่แน่ว่าจะถูกปล่อยตัว แต่อย่างน้อยพวกเราก็สามารถทำให้เขาไม่ต้องถูกทุบตีมาก ๆ ได้”
ถึงแม้ไวท์จะใช้ชีวิตเป็นเรียบง่ายมาโดยตลอด แต่เบื้องหลังของตระกูลเสนาธีนั้นมีความสามารถในการรวบรวมเงินก้อนนี้
ถ้าเทียบกับบอกเทาเท่แล้วทำให้เทาเท่เครียดหนักกว่าเดิม ไวท์ยินดีจัดการปัญหานี้กับคุณปู่อย่างลับ ๆ จะดีกว่า
หากเทาเท่เป็นอะไรขึ้นมา เป้าหมายในการแก้แค้นต่อตระกูลฟอเรนาของไกรภพก็จะสำเร็จ
คุณท่านตบไหล่ไวท์ กล่าวอย่างซาบซึ้งว่า“ขอบใจมากนะ”
ไวท์กล่าวอย่างถ่อมตน“ไม่เป็นไรครับ”
หลินจือออกไปพร้อมกับคุณท่าน ตอนส่งหน้าประตู หลินจือกล่าวกับคุณท่านว่า:“คุณปู่ค่ะ หนูก็มีเงินก้อน……”
หลินจือยังไม่ทันสิ้นเสียงก็ถูกคุณท่านพูดแทรกแซง“เด็กดี ปู่เข้าใจความหวังดีของหนูแล้ว”
หลังจากหลินจือได้กลับมาอยู่ในตระกูลแม็กซิมัสแล้ว นายหญิงแห่งตระกูลแม็กซิมัสให้เพชรพลอยแก่เธอ จอร์แดนให้ทรัพย์สินบ้านเรือนเธอ ทั้งยังให้หุ้นส่วนบริษัทในเครือตระกูลแม็กซิมัสกับเธอด้วย ดังนั้นเธอจึงสามารถออกเงินช่วยคุณท่านได้
ทว่าคุณท่านกลับปฏิเสธเธอทางอ้อม“ปู่น่าจะรวบรวมได้ อย่ารบกวนตระกูลแม็กซิมัสของพวกหนูเลย”
คุณท่านคิดในใจว่า เพราะก่อนหน้านี้หลานชายของเขาเคยทำร้ายหลินจือมาก่อน บ้านนี้จึงไม่ชอบหน้าหลานชาย ตระกูลฟอเรนาจะใช้เงินของตระกูลแม็กซิมัสได้อย่างไร
คุณท่านกล่าวต่อไปว่า“แม่ของเทาเท่ก็มีทรัพย์สินไม่น้อย เดี๋ยวปู่จะไปเอากับเธอเอง เรื่องเลว ๆ พวกนี้ก็เป็นกรรมที่พวกเขาก่อนกันเองในอดีต พวกเขาสมควรแบกรับ”
คุณท่านยืนกรานที่จะไม่เอา หลินจือก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก
คุณท่านกำชับเธอเพิ่มอีกหลายประโยคเสร็จ จึงจะขึ้นรถกลับไป
ตอนหลินจือกลับไปก็เจอไวท์พอดี ไวท์พูดแนะนำเธออย่างจริงจังว่า“ผมอยากเพิ่มยากล่อมประสาทให้เทาเท่ ให้เขานอนพักผ่อนนานขึ้น ร่างกายเขาจะได้ฟื้นฟูเร็ว ๆ คุณรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ซับซ้อนมาก เขาต้องหายดีก่อนจึงจะสามารถรับมือกับไกรภพ”
“ค่ะ” หลินจือพยักหน้าแสดงความยินยอม
เธอก็อยากให้เทาเท่หายเร็วไว จึงได้ตัดสินใจเลือกทำตามคำแนะนำของไวท์ทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข
ตอนที่เทาเท่ตื่น หลินจือก็บอกเขาว่าพินอินโทรมาหา แต่ไม่ได้พูดถึงบทสนทนาในสาย เพราะไม่อยากให้เทาเท่กังวลใจเพราะพินอินอีก
แต่เทาเท่รู้จักนิสัยของพินอิน จึงพูดตรง ๆ ว่า“น้องเขาพูดจาก้าวร้าวอีกแล้วใช่ไหม?”
หลินจือเร่งเขา“ไม่มีอะไรค่ะ คุณรีบโทรกลับไปหาเธอเลยค่ะ”
เทาเท่โทรหาพินอิน ซึ่งไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย
พินอินในสายพูดจาแปลกพิลึก“ท่านประธานใหญ่เทาเท่ได้ยินว่าโทรหาฉันเหรอ?”
เทาเท่ที่มีหลินจือจ้องมองอย่างระแวงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ข่มอารมณ์โมโหไว้แล้วเอ่ยว่า“น้องเป็นยังไงบ้าง?”
ก่อนที่เขาเตรียมจะโทรหาพินอิน หลินจือก็ย้ำนักย้ำหนาว่าอย่าโมโห
พินอินตอบอย่างเอ้อระเหยลอยชาย“ก็ดี กินได้ ดื่มได้ นอนได้”
เทาเท่ฟังจากน้ำเสียงของพินอินแล้วก็รู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ถูกทารุณหรือทุกข์ทรมาน
เทาเท่เปลี่ยนเรื่องพูดว่า“น้องรู้ไหมตอนนี้ไกรภพกับซูซียังไม่ได้เลิกกัน?”
“แล้วจะทำไม?” พินอินพูดฮึดฮัด “ฉันจงใจเข้าแทรกระหว่างเขากับซูซีอยู่แล้ว”
เทาเท่ขบฟันกล่าวว่า“น้องทำแบบนี้จะถูกประณามว่าเป็นมือที่สามนะ!”
ก่อนหน้านี้ไกรภพติดซูซีอย่างกับปาท่องโก๋ ชวนให้ผู้คนซาบซึ้งกินใจยิ่ง ถึงแม้ตอนนี้ซูซีลงนรกแล้ว แต่ภาพลักษณ์ของไกรภพในสายตาชาวโลกก็ยังคงเป็นผู้ชายที่ปักใจรักต่อซูซีอย่างหนักแน่น
ตอนนี้พินอินเข้าแทรกตรงกลาง หากถูกเปิดเผย พินอินต้องถูกด่าเละแน่
เขาจินตนาการได้ว่า ถึงเวลานั้นไกรภพคงโยนความผิดบอกว่าพินอินเข้ามายั่วเขาก่อน
แบบนี้เท่ากับไกรภพจะทำให้พินอินกลายเป็นมือที่สาม ทว่าพินอินกลับไม่สนใจ
ถึงเธอไม่สนใจ แต่โลกภายนอกไม่ปล่อยเธอไปแน่ เธอต้องพูดถล่มหนักแน่
พินอินทำหน้าไม่สะทกสะท้านต่อไป“มือที่สามก็มือที่สามสิ ฉันมีความสุขก็พอ”
เทาเท่รู้สึกตัวเองใกล้หมดความอดทนกับพินอินแล้ว เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้ง พลางพูดว่า “พินอิน ฟังให้ดีนะ คำพูดต่อจากนี้น้องต้องคิดวิเคราะห์ให้ดี……”
เทาเท่อยากทวนพฤติกรรมของพินอินให้ฟังหนึ่งรอบ แต่ใครจะไปรู้ว่าพินอินไม่อยากรับฟังใด ๆ“พอแล้ว พอแล้ว ฉันไม่อยากฟังพี่สอน วางสายแล้วนะ”
จากนั้นก็วางสายจริง ๆ เทาเท่โกรธจนเกือบกระอักเลือด