อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 46 การทำให้ลำบากใจของเทาเท
หลินจือเผชิญหน้ากับสายตาที่จ้องมาของเขาแล้วถามย้อนไปว่า:“คุณก็ไม่ยินยอมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมยังแต่งงานกับฉันอีกล่ะ?”
เทาเท่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นพูดอีกว่า:“คุณปู่บังคับผม”
หลินจือละสายตาลงไปแล้วพูดเบาๆ:“ฉันก็เหมือนกัน พ่อฉันกับพี่ชายฉันบังคับฉัน”
เทาเท่ไม่รู้ว่าทำไม ได้ยินเธอตอบแบบนี้แล้วในใจก็ไม่สบอารมณ์อย่างมาก
เขาละสายตาลงไปจ้องใบหน้าสวยงามของเธอที่ก้มลงพร้อมคิ้วต่ำๆนั้น แล้วจึงถามออกไปอย่างไม่รู้ตัว:“งั้นที่คุณบอกว่ารักผมหนักหนา ก็เป็นเรื่องไม่จริงหมด?”
หลินจือได้ยินก็ยิ้มขึ้นมา
เทาเท่น่าจะไม่เคยรู้ว่า เธออยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเขา
เขาเป็นคนโดดเด่นในโรงเรียน เป็นคนดังในโรงเรียน และยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ตอนงานเฉลิมฉลองครั้งหนึ่งในโรงเรียนเขาถูกเชิญไปเข้าร่วมและพูดในงาน ชายหนุ่มรูปงามที่พูดจาไพเราะและดูโดดเด่น ดึงดูดสายตาของเด็กสาวและยังทำให้เหล่าเด็กสาวตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดาย
หลินจือก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอนั่งอยู่ด้านล่างเวทีเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เปล่งประกายคนนั้น ที่แค่เห็นก็รู้สึกเหมือนรักมาเป็นพันปีแล้ว
งานฉลองของโรงเรียนคราวนั้นมีช่วงที่เทาเท่ให้รางวัลนักเรียนดีเด่น และเธอที่คะแนนดีมาตลอดก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่ขึ้นไปรับรางวัลบนเวที
ตอนให้รางวัลปลายนิ้วของชายหนุ่มปาดไปโดนมือเธออย่างไม่ตั้งใจ ตอนนั้นหัวใจของเธอเต้นแรงมาก ที่มองแวบเดียวเหมือนรักมานานนั้นก็ถูกครอบครองโดยสิ้นเชิง
แต่ใจเต้นและชอบแค่ไหน หลินจือก็รู้ว่าไม่คู่ควรกับเทาเท่ ดังนั้นเธอจึงได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ในใจ
ตอนปีสี่ใกล้จะเรียนจบ เธอถูกพ่อเธอกับพี่ชายเธอวางยาแล้วนำไปวางบนเตียงชายหนุ่ม หลังจากนอนร่วมกันเธอจึงพบว่า ผู้ชายคนนั้นก็คือเทาเท่
เป็นคนที่เธอนึกถึงเสมอ เป็นคนที่เธอรัก และฝันจะแต่งงานด้วย
ดังนั้น ตอนที่พ่อเธอกับพี่ชายเธอไปโวยวายจะให้เทาเท่แต่งงานกับเธอที่ตระกูลฟอเรนา เธอจึงไม่ต่อต้าน
ที่จริงตอนนั้นเธอไม่อยากแต่งก็สามารถหนีได้ นานิก็ช่วยเธอหาทางหนีแล้ว แต่เพราะว่านั่นเป็นเทาเท่ เธอจึงเลือกแต่งกับเขา
เธอคิดว่า คนสองคนที่อยู่ด้วยกันนาน จะรักกันเอง
เธอคิดว่า ใช้ความจริงใจของตัวเองไปที่ใจของเทาเท่ จะต้องมีสักวันที่เขามองเห็นความรักจากเธอ
ก็แค่ตอนจบ กลับไม่เหมือนอย่างที่เธอคิด
เวลานี้เรื่องราวเก่าๆกลับคืนมา ความสวยงามภายในใจของหลินจือกลับไม่มีสักนิด
ในเมื่อหย่ากันแล้ว มาพูดเรื่องแอบรักงี่เง่านั่นอีกจะมีความหมายอะไร?
ดังนั้น เธอยิ้มแล้วจึงเงยหน้ามองไปที่เทาเท่ พูดทีละคำ:“ใช่ เป็นเรื่องไม่จริง”
“คุณไม่เคยรักฉัน ที่จริงฉันก็ไม่เคยรักคุณ ที่ฉันรักคือเงินทองกับอำนาจของคุณกับพวกคุณตระกูลฟอเรนา”
คำพูดของหลินจือเพิ่งพูดออกมามือของเทาเท่ก็บีบคางของเธอแรงๆ สายตานั้นเหมือนจะพ่นไฟออกมา:“ในที่สุดก็ยอมรับความจอมปลอมของตัวเองแล้ว?ในที่สุดก็ยอมรับแล้วว่าคุณโลภอยากมั่งคั่ง?”
คางของหลินจือถูกเขาบีบจนเจ็บ เจ็บจนน้ำตาของเธอไหลรินทันที
เทาเท่มองเธอที่เบ้าตาแดง ใจก็อ่อนแปลกๆ มือที่บีบคางเธอก็คลายออก
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ทั้งๆที่เธอน้ำตาคลอ แต่ปากกลับพูดคำพูดที่สะกิดหูสุดๆ:“ในเมื่อประธานเทาเท่หย่ากับฉันแล้วฉันก็ไม่ต้องทำ เพราะงั้นยอมรับก็ไม่เป็นไรแล้ว”
เทาเท่อยากจะบีบเธอให้ตายเสียเลย
ผู้หญิงจอมปลอม!
คนโกหกที่น่ารังเกียจ!
หลินจือเดินผ่านเขาไปแล้วเปิดประตูบ้านของตัวเอง จากนั้นหันหน้ามองไปที่เทาเท่ที่สีหน้าดูไม่ดีแล้วไล่ไป:“ประธานเทาเท่ คุณน่าจะถามหมดแล้วใช่ไหม?ดึกมากแล้วฉันต้องพักผ่อนเช่นกัน”
เทาเท่หันกลับแล้วออกไปด้วยความโกรธ จากนั้นผิดประตูบ้านของเธอเสียงดัง
หลินจือคิดว่าเขาไร้เหตุผล เธอในสายตาเขาก็เป็นคนโลภเห็นแก่เงินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พอตอนนี้เธอยอมรับ แล้วเขาจะโกรธอะไร?
แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อกี๊ที่เถียงกับเทาเท่ไป จู่ๆเธอก็แรงบันดาลใจใหม่เกี่ยวกับบท เธอจึงรีบวิ่งไปตรงหน้าคอมแล้วนั่งลงกดแป้นพิมพ์จำแนวคิดใหม่พวกนี้
เช้าวันถัดมาหลินจือเพิ่งตื่นสายของเจเทาวน์ก็โทรเข้ามา เจเทาวน์ถามเธอในสายว่า:“เมื่อคืนเทาเท่ไปหาคุณเหรอ?”
หลินจือประหลาดใจ ทำไมเจเทาวน์ถึงรู้ว่าเทาเท่มาหาเธอ?ยังไงตอนนั้นก็ดึกดื่นเที่ยงคืนแล้ว
แต่เธอก็ตอบไปอย่างตรงไปตรงมาว่า:“ค่ะ”
เจเทาวน์ถามอีกว่า:“คุณทำให้เขาโกรธ?”
หลินจือนึกถึงสภาพเมื่อคืนที่เทาเท่ปิดประตูออกไปอย่างแรง พยักหน้าตอบว่า:“เหมือนจะใช่ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
เจเทาวน์ถอนหายใจแล้วพูด:“เขามาหาผมตอนเช้า บอกว่าจะเปลี่ยนบทเป็นตัวละครชายหลักอยู่ด้วยกันนานๆกับโคล แล้วหย่ากับพระชายาคนแรก”
เจเทาวน์พูดอีกว่า:“เพราะว่าก่อนหน้านี้พูดกันแล้วนี่ จะเอาตามความคิดพล็อตนี้ของคุณใส่เข้าไป แต่จู่ๆเขาก็เปลี่ยน ดังนั้นผมเลยคิดว่าเป็นเพราะเมื่อคืนพวกคุณเจอกันหลังงานเลี้ยงหรือไม่ จากนั้นทะเลาะกันจนเขาไม่พอใจ”
หลินจือ:“……”
เทาเท่ก็ทำตัวเด็กมากไปแล้ว เพราะว่าเธอทำให้เขาโกรธ เขาก็มาทำให้เธอลำบากใจโดยให้เธอแก้บท?
เจเทาวน์ก็ปวดหัวเล็กน้อย:“เขาทำแบบนี้นี่พวกเราโดนกระทำมากไปแล้ว ผมจะไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง ถ้าร่วมงานดีๆไม่ได้ ก็อย่าร่วมมือกันเลย”
ถึงจะบอกว่ากระบวนการผลิตละครเรื่องหนึ่งจะมีการแก้บทอยู่หลายหน แต่คนอย่างเทาเท่ที่ลงโทษคนเขียนบทเพราะปัญหาส่วนตัวนั้นมีน้อยมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือ ที่เขาเสนอเปลี่ยนบทนี้มันเป็นการเปลี่ยนทั้งหมด ซึ่งนี่มันยากมาก
หลินจือรีบหยุดเจเทาวน์ไว้:“ประธานเจเทาวน์ ไม่ต้องหรอกค่ะ”
หลินจือพูดไปวิ่งไปที่ห้องทำงานแล้วเปิดคอมของตัวเอง:“เมื่อคืนฉันเพิ่งมีแนวคิดบทใหม่พอดี แล้วสอดคล้องความต้องการของประธานเทาเท่พอดีด้วย เดี๋ยวฉันขอจัดการเล็กน้อยแล้วให้คุณดูนะคะ”
เจเทาวน์ตกใจมาก:“จริงเหรอ?เป็นตอนจบที่พระเอกกับโคลอยู่ด้วยกันตลอดไป?”
หลินจือตอบกลับอย่างผ่อนคลาย:“ใช่ค่ะ เมื่อคืนฉันเขียนโครงร่างออกมาอย่างต่อเนื่อง เดี๋ยวขอปรับอีกหน่อย”
เจเทาวน์พอใจมาก:“ดังนั้น นี่เป็นสิ่งที่ท่านประธานเทาเท่ตั้งใจทำให้คุณลำบากใจ แต่กลับถูกคุณแกลงอย่างง่ายดาย?”
หลินจือหัวเราะตอบไป:“พูดแบบนี้ก็ได้ค่ะ”
เจเทาวน์ที่อยู่ปลายสายทนไม่ไหว หัวเราะอย่างสะใจ
นี่เป็นการแสดงขั้นเทพอะไรกัน อีกเดี๋ยวหลินจือปรับเสร็จ เขาเอาบทใหม่ไปวางตรงหน้าเทาเท่ หน้าตาเทาเท่จะเหวอมากแค่ไหนเชียวนะ?
พอนึกถึงภาพนั้นแล้วก็รู้สึกดีมาก
พูดตรงๆแล้ว เจเทาวน์คิดไม่ถึงเลยว่าเทาเท่จะใช้อารมณ์แบบนี้ ไม่พอใจหลินจือส่วนตัวแต่ทำให้หลินจือลำบากใจในการทำงาน นี่ไม่ใช่สไตล์ของเทาเท่เลย แต่ตอนนี้เทาเท่ทำแบบนี้จริงๆ
และก็ไม่รู้ว่าเทาเท่คิดอะไรอยู่กันแน่ เป็นเพราะหย่าแล้วแต่ยังลืมหลินจือไม่ลงเหรอ?หรือว่ายังคงเกลียดหลินจือถึงได้ทำให้ลำบากใจแบบนี้?
เจเทาวน์คิดว่า น่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า