อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 47 จับผลัดจับผล
หลินจือใช้ความเร็วที่สุดจัดการต้นฉบับที่เขียนเมื่อคืนไปรอบหนึ่ง จากนั้นส่งให้เจเทาวน์
แรงบันดาลใจใหม่ของเธอในเมื่อคืนก็คือสุดท้ายพระเอกท่านอ๋องก็ยังคู่กับโคล และทิ้งพระชายาคนแรกที่ผ่านทุกข์ร่วมสุขกับเขาไปอย่างไร้ปรานี แต่พระชายาไม่ได้ทรุดลงอย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้ กลับมุ่งมั่นไปที่การงานอาชีพแทน
หลายปีถัดมาพระชายากลายเป็นผู้ค้าไหมที่ร่ำรวย ภาษีในคลังครึ่งหนึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้พระชายาและพระชายา
รอบกายพระชายามีผู้ชายทุกประเภท เป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถมากยังหนุ่มและโดดเด่น เป็นคนในยุทธภพที่มีทักษะศิลปะการต่อสู้สูง เป็นผู้มีอำนาจใหม่ของตระกูลอันยิ่งใหญ่ สรุปคือใช้ชีวิตอยู่อย่างวิเศษมาก
หลังจากเจเทาวน์อ่านต้นฉบับเสร็จก็โทรหาเธอ:“พล็อตนี้ก็ดีมาก เทียบกับเวอร์ชันนั้นที่ท่านอ๋องกับพระชายาอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นแล้ว ตอนจบนี้มีพล็อตที่เสียใจเพราะพระชายาถูกทิ้ง และยังเป็นความรู้สึกดีที่ต่อมาพระชายาพึ่งตัวเองด้วย ยอดเยี่ยมมาก”
เจเทาวน์ชมเธออย่างใจกว้าง:“และยังสามารถแสดงด้านอิสรภาพของผู้หญิงได้ด้วย ตั้งปณิธานได้ดีมาก”
ได้รับคำติชมแบบนี้จากเจเทาวน์หลินจือก็มีความสุขมาก สันนิษฐานว่าบทนี้ซูซีก็น่าจะพอใจ ซูซีพอใจแล้วเทาเท่ก็คงพอใจด้วย
เธอพูดอีกว่า:“ถ้าคุณคิดว่าเวอร์ชันนี้เหมาะสม งั้นฉันจะส่งให้ควีนเลยนะคะ”
เจเทาวน์พูดอย่างมีความหมายว่า:“ผู้ชายพวกนั้นที่อยู่ข้างกายพระชายา เพิ่มนักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่เป็นผู้ใหญ่และมั่นคงที่สามารถพาพระชายาไปถึงทางสำเร็จด้วยก็คงดีมาก”
เหมือนกับเขาที่พาเธอ ฟันฝ่าขวากหนามบนเส้นทางคนเขียนบท
หลินจือไม่เคยคิดเลยว่าเจเทาวน์รู้สึกอย่างไรกับเธอ เธอเห็นเจเทาวน์เป็นผู้อาวุโสที่น่าเคารพคนหนึ่ง และยังเป็นผู้มีพระคุณอีกคน
ดังนั้นเผชิญหน้ากับคำแนะนำของเจเทาวน์ เธอก็ไม่มีความคิดอย่างอื่นมาก ตอบไปหลังจากที่คิดอย่างจริงจังว่า:“อันนี้ใส่ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันไปเพิ่มให้”
เจเทาวน์ได้แต่เพียงตอบอย่างไม่ทำอะไรไม่ได้:“โอเค”
พูดตรงๆแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาเริ่มมีความคิดแบบอื่นกันหลินจือตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เขายอมรับว่าเขาเริ่มชื่นชมหลินจือจากความสามารถพิเศษของเธอ จากนั้นเมื่อหลงใหลกับรูปลักษณ์เธอแล้ว จึงหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์และอุปนิสัยของเธอ
เขาอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว เห็นผู้หญิงสวยงามมาไม่น้อย เขารู้ดีว่าหลินจือมีค่าแค่ไหน
เมื่อก่อนเพราะว่าทั้งใจหลินจือมีแต่เทาเท่ ดังนั้นความรู้สึกของเขาจึงถูกกดทับไว้
หลินจือที่ไปอบรมต่างประเทศแล้วกลับมา ก็เหมือนเกิดใหม่อีกครั้ง
ดวงตาสวยงามคู่นั้นของเธอที่เหมือนมีประกาย เขาถูกดึงดูดโดยไม่ตั้งใจ
น่าเสียดายที่ตอนนี้หลินจือดูเหมือนจะจดจ่ออยู่กับอาชีพการงานจริงๆ เรื่องความรู้สึกดูเหมือนว่าจะปิดตายลง เขาจึงได้แต่คลายออกไปอย่างไม่รีบหรือไม่ช้าเกินไป
*
เมื่อคืนเทาเท่ออกไปจากบ้านหลินจือก็รู้สึกปวดท้อง เขาคิดว่าเป็นเพราะหลินจือทำให้โมโห
ไวท์เข้าเวรที่โรงพยาบาลพอดี เขาจึงขับรถไปโรงพยาบาล
ไวท์หาหมอแผนกที่เกี่ยวข้องมาตรวจให้เขาแล้วก็คุมตัวเขาไว้ จากนั้นเขาก็ถูกเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ตอนควีนถือเอกสารบางส่วนเคาะประตูแล้วเข้าไปในห้องคนไข้ของเทาเท่ เทาเท่สวมชุดคนไข้ลายทางกำลังพิงบนเตียงไปครึ่งหนึ่งและโทรศัพท์อยู่
มือข้างหนึ่งของเขายังให้น้ำเกลือ บนขาวางโน้ตบุ๊กของตัวเองไว้ ดูเหมือนกำลังยุ่งอยู่
รอโทรศัพท์เทาเท่เสร็จ ควีนก็เอาเอกสารในมือยื่นให้เขาแล้วรายงานว่า:“ที่คุณให้ปรับบท หลินจือปรับเสร็จแล้วค่ะ”
ดวงตาของเทาเท่เต็มไปด้วยความตกใจ:“ปรับเสร็จแล้ว?”
เทาเท่ยอมรับว่า เช้าวันนี้เขาโทรหาเจเทาวน์ให้เปลี่ยนบท เพราะจงใจแก้แค้นทรมานหลินจือ
ทั้งๆที่เธอบอกว่ารักเขามาหลายปี ตอนนี้กลับมาบอกว่าหลอกเขา
คนหลอกลวงที่เล่นกับความรู้สึกแบบเธอนี้ เขาแก้แค้นเธอก็สมควรแล้วนี่?
สุดท้ายตอนนี้ควีนดันมาบอกว่าหลินจือปรับเสร็จแล้ว แต่เวลาแค่สองชั่วโมง เธอก็ปรับเสร็จแล้วเหรอ?
คงไม่ได้ทำแบบลวกๆให้เขาหรอกนะ?
คิดถึงตรงนี้เทาเท่ก็หยิบบทที่พิมพ์ออกมาจากในมือของควีน ละสายตาลงอ่านอย่างละเอียด
สรุปพล็อตเวอร์ชันนี้ดูเหมือนไม่ได้ทำแบบขอไปที และตอนจบที่อ๋องอยู่ด้วยกันกับยัยแรดก็เป็นไปตามที่เขาต้องการให้แก้จริงๆ แต่พระชายาถูกทิ้งแล้วกลับใช้ชีวิตอย่างยอดเยี่ยมขนาดนี้เชียว?
เธอกำลังพาดพิงถึงตัวเองเหรอ?
ข้างกายยังมีชายแบบนั้นแบบนี้อีก?
เทาเท่โยงพวกโจมอนกับเจเทาวน์เข้ามาในเหตุการณ์โดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นจึงโกรธจนตัวเองปวดท้อง
เดิมทีเขาจะทำให้หลินจือลำบากใจ สุดท้ายที่โมโหก็เป็นเขาเอง
ควีนเห็นสีหน้าเขาไม่ดีนัก ดังนั้นรีบพูดว่า:“ถ้าคุณคิดว่าตรงไหนไม่ดีบอกฉันได้นะคะ เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อคุณหลินจือ หมอไวท์บอกว่าตอนนี้คุณห้ามหงุดหงิดบ่อยๆ”
เทาเท่เม้มริมฝีปากแล้วทิ้งบทไว้ด้านข้าง จากนั้นกำชับควีน:“จัดประชุมหน่อย แล้วให้ทุกคนพูดคุยกันว่า เวอร์ชันไหนเหมาะสมที่สุด”
เดิมทีแก้บทนี้เป็นการแก้แค้นโดยเจตนาของเขา สุดท้ายคิดไม่ถึงว่าหลินจือแก้แล้วเขาจะถูกสรุปบทใหม่ดึงดูดอีกครั้ง คิดว่าทั้งสองล้วนดีหมด
ใครมันจะไปคิดล่ะว่าเธอเขียนมาเขาชอบหมด ดังนั้นจึงได้แต่ให้ทุกคนมารวมตัวแล้วถกเถียงกัน
ควีนตอบกลับ:“ค่ะ ฉันจะติดต่อทันที”
เทาเท่ก็ห้ามเธอไว้:“เนมาน่าขยะแขยงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ดูว่าเปลี่ยนผู้กำกับได้ไหม”
ควีน:“……”
ถึงแม้ฟอเรนากรุ๊ปพวกเขาจะร่ำรวยแค่ไหน แต่ผู้กำกับก็กำหนดไว้แล้วเปลี่ยนก็คงไม่ดีใช่ไหมล่ะ?
แต่พอนึกถึงว่าเป็นไปได้ที่เจ้านายจะเปลี่ยนเนมานั่นเพราะว่าเขาทำมือลามกกับหลินจือ เธอก็รีบตกลง:“ฉันเข้าใจแล้ว เดี๋ยวกลับไปจะดูตารางงานของผู้กำกับคนอื่นค่ะ”
เรื่องบทพูดจบแล้วควีนก็รายงานเทาเท่เกี่ยวกับงานอื่นอีกแล้วจึงออกไป ก่อนไปเจอซูซีถือกล่องอาหารเข้ามาพอดี
ควีนพยักหน้าทักทายซูซีอย่างมีมารยาท จากนั้นอุ้มเอกสารเดินออกไปด้วยความถ่อมตัว
ควีนกับซูซีไม่สนิทอะไรกันนัก อย่างแรกซูซีถือว่าตัวเองสูงส่งรักคนรวยชังคนจนและยังดูถูกควีนกับคิงที่เกิดมายากจนเช่นนี้ อย่างที่สองซูซีมักเห็นควีนเป็นหนามยอกอก,รู้สึกว่าควีนมีเจตนาไม่ดีต่อเทาเท่ ทำเอาควีนเบื่อหน่ายมาก
เธอรู้สึกกับเทาเท่แค่เจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น ในใจเธอมีคนที่ชอบแล้ว
แต่ทุกครั้งซูซีมักจะเต็มไปด้วยความเกลียดชังและดูถูกเธอ และหลายครั้งยังพูดเป็นนัยต่อหน้าเทาเท่ให้ไล่เธอออก
ควีนคิดว่าซูซีไม่เพียงแต่ทำให้ความจงรักภักดีที่เธอมีต่อเทาเท่มัวหมอง แต่ยังทำให้ความชอบที่เธอมีต่อชายคนนั้นแปดเปื้อนไปด้วย ช่างพูดไม่ออกจริงๆ
ควีนออกไปจากห้องคนไข้ของเทาเท่แล้ว อย่างแรกก็โทรหาหลินจือ:“คุณหลินจือ ฉันเพิ่งเอาบทมาให้ประธานเทาเท่ดูที่โรงพยาบาลค่ะ เขาบอกว่าเวอร์ชันนี้ดีมาก แต่เลือกไม่ได้ ดังงั้นเลยแนะนำให้ตั้งประชุม แล้วทุกคนช่วยกันถกเถียงค่ะ”