อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า) - บทที่ 7 ชุดแดงที่สดใส
ในขณะที่พูดซูซีก็ขยับเข้าใกล้เทาเท่ ในใจรู้สึกมีความสุขมาก
เธอไม่คิดมาก่อนว่าหลินจือจะเป็นฝ่ายพูดเรื่องหย่าขึ้นก่อน แล้วยังมาหักหน้าเทาเท่และก่อเรื่องขึ้นแบบนี้
ซูซีรู้สึกเสียใจที่เลิกกับเทาเท่ เธอในตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอยากจะเลิกกับเทาเท่จริงๆ เธอคิดว่าเทาเท่คงจะรอเธอ ไม่คิดว่าเผลอแป๊บเดียวเทาเท่ก็ไปมีอะไรกับหลินจือแล้วแต่งงานกับหญิงสาว
เธอในตอนนั้นก็แทบคลั่ง สามปีมานี้เธอคอยเป่าหูพินอินให้ไปหาเรื่องหลินจืออยู่ตลอด และยังพยายามให้พินอินคอยยุแยงตะแคงรั่วความสัมพันธ์ของเทาเท่กับหลินจือไม่หยุด เพียงเพื่อต้องการให้ เทาเท่เกลียด หลินจือ
ซูซีกับเทาเท่รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว และรู้นิสัยที่หยิ่งยโสของเทาเท่เป็นอย่างดี หลินจือทำเขาเสียหน้าขนาดนี้ การหย่าร้างของพวกเขาต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
หากหลินจือไม่พูดเรื่องหย่า เธอก็กำลังคิดหาวิธีแล้วร่วมมือกับพินอินเพื่อให้พวกเขาหย่าขาดจากกัน ดูๆไปแล้วตอนนี้เหมือนสวรรค์ก็ยังจะเข้าข้างเธอ เธอไม่จำเป็นต้องลงมือทำอะไรกับหลินจือแล้ว
หลังจากที่หลินจือลงจากเวทีก็ถูกนานิพาขึ้นรถตู้ของตัวเองออกไปทันที พอขึ้นมาบนรถได้หลินจือก็ทรุดตัวลงบนที่นั่งด้วยแข้งขาที่อ่อนแรง เมื่อครู่เธอตื่นเต้นมาก กลัวว่าตัวเองจะขี้ขลาดจนไม่กล้าปาเอกสารใส่หน้าเทาเท่
นานิกอดแขนเธอและพูดปลอบเธอว่า “เพื่อนรัก เมื่อกี้เธอดูเท่มาก ”
หลินจือพูดเสียงเบาอย่างไร้เรี่ยวแรง“จริงเหรอ?”
เธอไม่ได้สนใจว่าท่าทีของเธอนั้นจะดูเท่หรือดูดียังไง เธอสนใจแค่อยากจะแสดงให้มันออกมาดีที่สุดเพื่อให้เทาเท่ตัดสินใจหย่ากับเธอโดยไม่ลังเล
นานิหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา“ จริงๆนะ ฉันยังบันทึกภาพเก็บไว้ให้เธอเลย ”
หลินจือ“……”
ขณะที่นานิดูวิดีโอที่ตัวเองบันทึกก็พูดอย่างปลื้มปริ่มว่า“ นี่เธอไม่รู้อะไร หน้าของท่านประธานเทาเท่ดำเหมือนถ่านเลย ชีวิตที่มีเกียรติของเขาคงไม่เคยเจออะไรที่มันน่าอับอายขายหน้าแบบนี้มาก่อน ”
สายตาของหลินจือจับจ้องมองไปยังใบหน้าที่สมบูรณ์แบบของชายหนุ่มในคลิปวิดีโอหัวใจถูกบิดเป็นเกลียวอย่างเจ็บปวด
นี่จะเป็นการมองดูเขาเป็นครั้งสุดท้าย หากต่อไปต้องเจอกันอีก เธอก็จะทำเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
เพราะเมื่อวานหลินจือได้ลั่นวาจาไปแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นที่หน้าสำนักงานเขตก็จึงมีนักข่าวกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกัน รอเก็บภาพวาระสำคัญในการหย่าร้างของเทาเท่
เทาเท่ปรากฏตัวขึ้นที่สำนักงานเขตในเวลาแปดโมงครึ่งจริงๆ เลนส์แว่นกันแดดขนาดใหญ่ปิดซ่อนอารมณ์ความรู้สึกของสายตาเขา นักข่าวต่างรุมกันเก็บภาพของเทาเท่ไม่หยุด แต่ก็ไม่เห็นร่างของภรรยาเทาเท่ปรากฏตัวขึ้นสักที
รูปที่เผยแพร่ออกไปเมื่อคืน ภรรยาเทาเท่คนนั้นสวมใส่ชุดสีแดงสดใส ดังนั้นพวกเขาก็จึงรอให้หญิงสาวคนนั้นปรากฏตัว
ราวๆประมาณเก้าโมงครึ่ง มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมหมวกแก๊ปและหน้ากากกับเสื้อผ้าตัวหลวมโคร่งเดินเข้าไปในสำนักงานเขตอย่างรีบร้อน เมื่อเธอไปถึงก็มีกลิ่นฉุนๆของแอลกอฮอล์ลอยมา นักข่าวต่างพากันขมวดคิ้วมุ่น
ขี้เหล้าคนนี้มาจากไหนกัน? เช้าตรู่แบบนี้มาที่สำนักงานเขตทำไม?
พวกเขาไม่รู้ว่าขี้เหล้าคนนี้ก็คือภรรยาเทาเท่ที่พวกเขารอคอย เมื่อคืนหลินจือนั่งดื่มกับนานิจนถึงตีสาม ดื่มฉลองให้กับความทุกข์ทรมานที่เธอกำลังจะหลุดพ้นมันสักที และแน่นอนว่าก็ใช้เหล้านี้รักษาแผลไปด้วยเช่นกัน
เธอรักเทาเท่มานานกว่าสามปีแล้ว ความรู้สึกนี้ใช่ว่าจะปล่อยก็ปล่อยวางมันได้เลยทันที
ด้วยสถานะของเทาเท่ ทางสำนักงานเขตก็จึงได้จัดเตรียมห้องส่วนตัวไว้ให้กับคนทั้งสองเพื่อดำเนินการโดยเฉพาะ ทันทีที่หลินจือผลักประตูเข้าไปก็เจอเข้ากับสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ของเทาเท่รีบพูดขอโทษทันทีว่า“ขอโทษด้วย เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยเลยเพิ่งตื่น”
เทาเท่รอเธอมาสักพักแล้ว สีหน้าก็บึ้งตึงลงเรื่อยๆ เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ก็เลิกคิ้วขึ้น “หลินจือ คงไม่ใช่เพราะจะหย่ากันแล้วเลยต้องพึ่งเหล้าเพื่อดับความทุกข์หรอกนะ ? ถ้าเป็นแบบนั้นผม——”