อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1013 ความจริงที่จริงแท้
ตอนที่ 1013 ความจริงที่จริงแท้
ตอนที่ 1013 ความจริงที่จริงแท้
เย่ซิวตู๋เองก็ดูเหมือนว่าคิดออกแล้ว เขาพลันขมวดคิ้ว
“ไม่ ยังมีอีกคนที่รู้ มีคนหนึ่งที่ต้องการทำลายทางออกของท่าน” อวี้ชิงลั่วเอ่ยปาก แววตาค่อยๆ หรี่ลง มองไปยังเหมิงจื่อเชียน
เหมิงจื่อเชียนถอนหายใจอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง เม้มริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นอย่างมั่นคงแล้วกล่าวกับเหมิงกุ้ยเฟย “คนที่ทำลายทางหนีของท่าน ทำให้เหมิงซินต้องกลายเป็นขันที คือพ่อของข้า”
“…” เหมิงกุ้ยเฟยผงะ เหมิงจื้อเฉิงหรือ?
“ไร้สาระ!!” ทันใดนั้นดวงตาของนางก็วาวโรจน์ขึ้นมา ตะโกนใส่เหมิงจื่อเชียนด้วยความโกรธ
“ท่านป้า จนถึงตอนนี้ท่านปู่และอดีตประมุขก็ยังไม่รู้ว่าเหมิงซินกลายเป็นขันที” เหมิงจื่อเชียนคิดถึงเรื่องเหล่านั้นที่บิดาของตนกระทำ สีหน้าเองก็ไม่สู้ดี “ตอนนั้นที่ท่านปู่ปฏิบัติกับท่านเช่นนั้น จริงๆ แล้วในใจก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก คนอย่างท่านปู่ ไม่มีใครรู้จักดีไปกว่าข้า ถึงแม้เขาจะให้ความสำคัญกับเด็กที่มีปานรูปดอกไม้มากกว่า ทั้งยังให้ความสำคัญกับดินแดนเหมิง แต่ถึงอย่างไรท่านป้าก็เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางตัดช่องทางของท่านเป็นแน่”
“ท่านปู่เคยบอกเอาไว้ ว่าหากท่านชอบเหมิงซินจริงๆ และเหมิงซินสามารถทนต่อบททดสอบได้ เช่นนั้นรอจนท่านพี่อายุสิบขวบก็จะจัดการให้ท่านแกล้งตายแล้วออกจากวัง และในสิบปีนี้ จะถือว่าท่านป้าได้ทำเพื่อดินแดนเหมิงในฐานะชาวเหมิง ต่อไปไม่ว่าท่านป้าจะกระทำสิ่งใดก็จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีก”
“แต่ถ้า ถ้าท่านป้าชอบชีวิตในวัง ชอบในอำนาจของการได้เป็นกุ้ยเฟย และเหมิงซินไม่สามารถรอได้นานเพียงนั้น เช่นนั้นก็แสดงว่าพวกท่านไม่มีวาสนาต่อกัน”
“ดังนั้นเมื่อสองปีก่อน ท่านปู่จึงให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของท่านป้ามาโดยตลอด รู้ว่าท่านใช้วิธีเช่นนั้นเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของตน และรู้ว่าท่านป้าไม่ได้กระทำความผิดอันใดต่อท่านพี่ ท่านปู่จึงชื่นชมอย่างมาก และมีความตั้งใจจะช่วยให้ท่านทำได้สำเร็จ ดังนั้นจึงเป็นห่วงสถานการณ์ในวังน้อยลง ไม่อย่างนั้นท่านป้าคิดว่า ท่านปู่ซ่อนเหมิงซินเอาไว้สองปี เหตุใดตอนที่ท่านป้าช่วยเขาออกมาจึงช่วยได้ง่ายดายเช่นนั้นเล่า นั่นเป็นเพราะท่านปู่ปล่อยเขาไปโดยเจตนาน่ะสิ”
“อีกทั้งในขณะเดียวกันท่านปู่ก็ส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปให้ท่านป้า บอกเรื่องแผนการในสิบปีอย่างชัดเจน ท่านป้าเองก็ตอบกลับแล้ว แสดงความเต็มใจที่จะบรรลุข้อตกลง”
เหมิงกุ้ยเฟยเงยหน้าขึ้นในทันที “ไม่นะ ข้าไม่ได้รับจดหมายอะไรเลย และไม่เคยตอบจดหมายด้วย”
เหมิงจื่อเชียนยิ้มขื่น “ท่านป้าย่อมไม่ได้รับเป็นแน่ ตอนนั้นคนที่ท่านปู่ไว้ใจที่สุดคือบิดาของข้า จดหมายที่เขาส่งให้ท่านป้า ล้วนเป็นท่านพ่อที่เป็นผู้ส่ง ดังนั้นจดหมายของท่านปู่จึงถูกท่านพ่อสกัดเอาไว้ ส่วนข้อตกลงที่ท่านปู่ได้รับ ก็ย่อมเป็นท่านพ่อของข้าที่ปลอมแปลง”
“ท่านป้า ท่านเองก็น่าจะรู้ว่าท่านพ่อของข้ามีความทะเยอทะยานเช่นไร เพียงแต่อำนาจของเขามีน้อย ดังนั้นจึงทำได้เพียงกระตุ้นความโกรธของท่านป้า ขอเพียงท่านป้าเกลียดชังดินแดนเหมิง เกลียดชังเด็กๆ ที่มีปานรูปดอกไม้ จึงจะช่วยเขาได้อีกแรง เดิมทีการกระทำของพวกท่านปู่ก็ทำให้ท่านป้าเกลียดชังได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าท่านปู่จะมีแผนการสิบปีเอาไว้ ท่านพ่อจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร”
“ดังนั้นเขาจึงทำให้เหมิงซินกลายเป็นขันที โยนความผิดให้ท่านปู่ เพื่อกระตุ้นโทสะของท่านป้า”
อวี้ชิงลั่วฟังแล้วก็ถอนหายใจซ้ำไปซ้ำมา อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า บุตรชายบุตรสาวทั้งสามคนของผู้อาวุโสสกุลหมิง คิดไม่ถึงว่าจะฆ่าแกงกันจนถึงขั้นนี้ได้
นางเห็นใจผู้อาวุโสสกุลหมิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงโดยไม่ได้สติเป็นอย่างมาก ตลอดชีวิตของเขาล้วนทุ่มเทให้ไปกับดินแดนเหมิง แต่กลับทำให้ครอบครัวของตนต้องแตกแยก ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ท่านป้าเองก็คงจะยังไม่รู้” เหมิงจื่อเชียนจ้องมองเหมิงกุ้ยเฟยที่กำลังตะลึงอยู่เล็กน้อย กล่าวเบาๆ “ที่ท่านพี่มีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันนี้ จริงๆ แล้วท่านพ่อของข้าก็ปกป้องเขามาโดยตลอด เขาต้องการให้ท่านพี่คอยอยู่ตรงหน้าท่านป้า คอยย้ำเตือนถึงความทุกข์ทนที่ท่านป้าได้รับ คอยย้ำเตือนถึงความเกลียดชังของท่านป้า ทำให้ทุกครั้งที่ท่านป้าทนต่อไปไม่ไหว ก็จะจุดจิตวิญญาณในการต่อสู้ให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง”
“หืม” อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปมองเย่ซิวตู๋อย่างสงสัย เหมิงจื้อเฉิง… ปกป้องเย่ซิวตู๋หรือ?
เหตุใดจู่ๆ นางก็อยากจะหัวเราะกันนะ? แล้วเหมิงจื้อเฉิงรู้หรือไม่ว่าเบี้ยที่เขาปกป้อง สุดท้ายแล้วจะทำให้ความพยายามทั้งหมดของเขาสูญเปล่า?
แบบนี้เรียกได้ว่ายกหินมาทับเท้าตัวเองหรือไม่?
เหมิงจื่อเชียนเองก็หันหน้าไปมองเย่ซิวตู๋แล้วเอ่ยถาม “ตอนที่ท่านพี่อายุสี่ขวบและมาถึงดินแดนเหมิง ถึงแม้จะใช้วิธีล่อเสือออกจากถ้ำ หลีกหนีจากการลอบสังหารของเหมิงพั่วได้ แต่สุดท้ายเมื่อมาถึงประตูเมืองหลวงของดินแดนเหมิง ก็ยังต้องพบกับการลอบสังหารอีกไม่ใช่หรือ?”
เย่ซิวตู๋สีหน้าเคร่งเครียด พยักหน้า ในตอนนั้นเหล่าทหารผู้ยินดีสละชีวิตที่คอยปกป้องเขามาตลอดทางล้วนต้องสละชีวิต ส่วนเขา สุดท้ายก็เป็นตอนที่เหมิงจื้อเฉิงปรากฏตัวได้ทันเวลา จึงสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้
“นั่นเป็นฝีมือของท่านพ่อ ข่าวที่ว่าท่านพี่ถูกท่านป้าลอบสังหารในวังหลวง จริงๆ แล้วก็มีทหารเดนตายข้างกายท่านพี่ที่คอยส่งข่าวให้ท่านปู่มาโดยตลอด เพียงแต่ทั้งหมดล้วนถูกท่านพ่อของข้าสกัดเอาไว้ ดังนั้นท่านปู่จึงไม่รู้เลยว่าสถานการณ์ของท่านพี่ยากลำบากอย่างไร ถึงขนาดเข้าใจว่าเหมิงกุ้ยเฟยพยายามปกป้องท่านพี่สุดความสามารถ ทำได้เพียงรอแผนการสิบปีเท่านั้น”
“ดังนั้นตอนท่านพี่พาทหารเดนตายมาถึงดินแดนเหมิง ท่านพ่อจึงทำได้เพียงฆ่าทหารเดนตายของดินแดนเหมิงทั้งหมด ไม่อย่างนั้นทหารเหล่านั้นก็จะนำเรื่องทั้งหมดที่ท่านป้าทำไปบอกกับท่านปู่ด้วยตัวเอง คนเหล่านั้นถูกฆ่าปิดปาก ท่านพ่อเองก็คิดว่าท่านพี่ยังเล็ก ยังไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้ จึงได้วางใจให้ท่านพี่กลับมาอยู่ข้างกายท่านปู่ เพียงแต่…ท่านพี่เองก็เป็นคนพูดน้อย และไม่มีทางพูดเรื่องในวังหลวงให้ท่านปู่ฟัง จึงจับพลัดจับผลูทำให้ท่านปู่เข้าใจผิดไปว่าชีวิตของท่านพี่นั้นไม่เลว”
“ท่านป้า ท่านคิดจริงๆ หรือว่าท่านพี่อยู่ดินแดนเหมิงแล้วจึงไม่มีโอกาสได้ลงมือ นั่นเป็นเพราะท่านพ่อของข้าไม่อยากลงมือ ไม่อย่างนั้นต่อให้ท่านพี่อยู่ข้างกายท่านปู่ กินนอนด้วยกัน การที่เขาจะถูกลอบสังหารก็ยังเป็นเรื่องง่ายมาก”
เหมิงกุ้ยเฟยรู้สึกเพียงปวดหัวอย่างมาก ราวกับว่ามีบางสิ่งในใจที่พังทลายลง ปิดหน้านั่งอยู่กับพื้นอย่างงุนงง
น้ำเสียงของเหมิงจื่อเชียนกลับเป็นเหมือนเสียงของปีศาจที่ดังก้องอยู่ในหู ดังขึ้นมาเบาๆ “เรื่องของท่านพ่อ ท่านแม่ของข้ารู้ดีที่สุด และเป็นเพราะนางรู้เรื่องมากเกินไป จึงได้ถูกท่านพ่อ…ขังเอาไว้นานเพียงนั้น”
“ท่านป้า คนใกล้ชิดที่ท่านไว้ใจที่สุดและพึ่งพามากที่สุดมาโดยตลอด ความจริงแล้วเป็นจอมบงการที่อยู่เบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ท่านพ่อของข้าต่างหากที่เป็นคนหลอกใช้ท่านเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตนเอง ท่านถูกหลอกแล้ว”
“ไม่…” เหมิงกุ้ยเฟยกรีดร้อง ทันใดนั้นก็ล้มลงกับพื้น ทุบศีรษะของตนอย่างแรง “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ นั่นเป็นถึงน้องชายของข้า เป็นคนใกล้ชิดเพียงคนเดียวที่ดีต่อข้า ไม่มีทาง เขาไม่มีทางทำร้ายข้า ไม่ใช่เขา ต้องไม่ใช่เขา”
เหมิงจื่อเชียนเม้มปาก หยิบเอากระดาษที่ถูกพับไว้เรียบร้อยออกมาจากอก โยนลงต่อหน้านาง “เช่นนั้นท่านดูเถิด ท่านน่าจะจำลายมือของท่านปู่ได้กระมัง”
เหมิงกุ้ยเฟยหยิบมาพร้อมกับตัวสั่น มองดูตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนนั้น มันคือข้อตกลงสิบปีที่เหมิงจื่อเชียนกล่าวไว้
กระดาษเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้ว และมุมหนึ่งยังมีร่องรอยของการถูกเผา ราวกับว่ากระดาษแผ่นนี้ถูกดึงออกมาจากกองไฟอย่างไรอย่างนั้น
ตลอดบรรทัดและตัวอักษรล้วนเต็มไปด้วยความจริงใจ
เหมิงกุ้ยเฟยปล่อยกระดาษลงทันที ทันใดนั้นก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมาเสียงดัง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ความจริงช่างโหดร้ายยิ่งนัก ปรากฏว่าเหมิงกุ้ยเฟยกลายเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือของน้องตัวเองอีกที เจอแบบนี้ไม่เป็นบ้าก็ให้รู้ไปค่ะ
ไหหม่า(海馬)