อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1022 นี่เขาจะพาตัวเองไปตาย
ตอนที่ 1022 นี่เขาจะพาตัวเองไปตาย
ตอนที่ 1022 นี่เขาจะพาตัวเองไปตาย
มีข้อความสองบรรทัดในกระดาษนั้น ‘หากอยากให้พ่อแม่ของเจ้าอยู่รอด ก็ล่ออวี้ฉิงหนานออกจากตำหนัก มาที่ตำหนักสำรองของอ๋องซิว หากไม่สามารถทำได้ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ก็รอเก็บศพของพ่อแม่เจ้าได้เลย’
เย่หลานเฉิงก้มหน้า จากนั้นก็วางจี้หยกอันหนึ่งลงตรงหน้าอวี้ชิงลั่ว กล่าวเบาๆ “นี่เป็นของติดตัวของท่านแม่ขอรับ เป็นของที่ท่านยายมอบให้ท่านแม่ ท่านแม่ทะนุถนอมมันมาก ไม่เคยเอาไว้ห่างจากตัวเลยขอรับ”
กล่าวจบ จู่ๆ น้ำตาเขาก็ไหลลงมา จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดออกมาจากตัว มือเล็กสั่นเล็กน้อย ครั้งนี้ไม่ได้ส่งให้ถึงมือของอวี้ชิงลั่ว เพียงแต่ถือมันไว้อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ค่อยๆ คลี่ผ้าออก
หนานหนานและอวี้ชิงลั่วอ้าปากค้างทันที น้ำตาของเย่หลานเฉิงร่วงหล่นลงมาอย่างหนัก
“นี่คือ… นี่คือนิ้ว… ของท่านแม่ขอรับ ข้าจำได้… บนนี้มีไฝ… ทั้งยังมีแผลเป็นเล็กๆ… พวกเขา พวกเขา…”
อวี้ชิงลั่วกอดเย่หลานเฉิงไว้ในอ้อมอกทันที สูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง รู้สึกเจ็บปวดที่ขอบตาเกินทน เศร้าโศกเป็นอย่างมาก
“หลานเฉิง…”
“ท่านน้าชิง ข้ากลัวมากขอรับ” ในที่สุดเย่หลานเฉิงก็หัวเราะฮือๆ ออกมา เพียงแต่ยังคงไม่กล้าร้องดังนัก ร่างเล็กสั่นไม่หยุด “เมื่อเช้านี้ตอนข้าตื่นขึ้นมา ก็เจอกระดาษแผ่นนี้ แล้วยังมี… ของทั้งสองอย่างนี้วางไว้ วางไว้ที่หัวเตียงของข้า…”
อวี้ชิงลั่วกระชับกอดเขาแน่นขึ้น สะอื้นออกมาอย่างอดไม่ได้ “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ท่านแม่ของเจ้าจะต้องไม่เป็นไรแน่”
สวีโหรวและอดีตองค์รัชทายาทตกอยู่ในเงื้อมมือองค์ชายเจ็ดแล้วหรือ?
ร่างกายของนางแข็งทื่อในทันใด ในตอนที่เมืองหลวงโกลาหลวุ่นวาย เย่ซิวตู๋เองก็คอยระวังว่าจะมีใครประสงค์ร้ายกับพวกเขา จึงได้รับอดีตองค์รัชทายาทและสวีโหรวไปพำนักที่ตำหนักสำรอง อยู่กับพวกสามีภรรยาองค์ชายสาม
สถานที่นั้นห่างไกลมาก ทั้งยังมีผู้อารักขาคอยคุ้มกัน ถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับตำหนักอ๋องซิว แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่คนจะหาพบได้ง่ายๆ เช่นนั้น
ให้ตายเถิด นี่มันเกิดเรื่องบ้าอันใดขึ้น?
อีกอย่าง พวกอดีตองค์รัชทายาทเกิดเรื่อง เช่นนั้นสามีภรรยาองค์ชายสามเล่า? หรือว่า… จะเกิดเรื่องแล้วเช่นกัน?
เพียงคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของอวี้ชิงลั่วก็ไม่สู้ดีในทันใด
เกรงว่าองค์ชายสามจะไปตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์ชายเจ็ด แล้วถึงตอนนั้นจะมีปัญหาตามมาอีกมาก
ไม่แปลกเลยที่ตำหนักอ๋องซิวเงียบสงบเพียงนี้ หลายวันมานี้ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ที่แท้องค์ชายเจ็ดก็เปลี่ยนเป้าหมาย ไปลงมือกับจุดที่อ่อนแอ
“ท่านแม่ เรารีบไปช่วยท่านป้าโหรวกันเถิดขอรับ” หนานหนานเห็นนิ้วมือที่ชุ่มเลือด ก็รู้สึกตกใจอย่างมากเช่นกัน
นิ้วมือของสวีโหรวสวยงามอย่างมาก ครั้งก่อนเพียงแค่ไปที่บ่อน้ำเพื่อตักน้ำก็ทำให้ผิวของนางเสียหาย หนานหนานก็รู้สึกทนไม่ไหวอย่างมากแล้ว
ตอนนี้… นิ้วหนึ่งกลับถูกตัดเสียแล้ว
อีกทั้งยังวางสิ่งนี้เอาไว้หัวเตียงของเย่หลานเฉิงอย่างโหดร้ายอีกด้วย
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า จากนั้นก็คลายนิ้วมือที่กอดเย่หลานเฉิงเอาไว้ออกเล็กน้อย เช็ดน้ำตาให้เขาแล้วกล่าวเบาๆ “ไม่เป็นไร มีท่านน้าชิงอยู่ ท่านน้าชิงจะไม่ให้แม่เจ้าเป็นอะไรไปแน่…” นางหยุดชะงักไป ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้ว “เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เจ้าพบของสิ่งนี้ที่หัวเตียงอย่างนั้นหรือ?”
เย่หลานเฉิงร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง อารมณ์ก็ค่อยๆ สงบลงไม่น้อย เขาไม่กล้ามองผ้าเช็ดหน้าชุ่มเลือดนั้นนานนัก รีบห่อเอาไว้ให้ดีแล้ววางลง
เขารู้ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโศกเศร้าหดหู่ใจ พ่อแม่ของเขายังรอให้เขาไปช่วยชีวิต ถึงแม้ในใจเขาจะมีความโกรธเกลียด แต่ก็ต้องกดมันเอาไว้ก่อน
เมื่อได้ยินคำถามของอวี้ชิงลั่ว เขาก็กัดปากแน่นแล้วพยักหน้า แววตาฉายความมุ่งมั่น “ขอรับ มีคนนำของสิ่งนี้มาวางไว้หัวเตียงข้าตั้งแต่เช้าตรู่ ข้าไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ข้าคิดว่าคนผู้นั้นสามารถไปมาได้อย่างอิสระในตำหนัก ทั้งยังสามารถเข้ามาในเรือนของข้าได้ เช่นนั้นจะต้องเป็นคนในตำหนักเป็นแน่ และอาจจะเป็นคนที่มีวิชาต่อสู้สูง อีกทั้งการที่เขานำของสิ่งนี้ให้ข้าได้ เขาจะต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของข้าเป็นแน่ ข้าจึงไม่กล้าบอกหนานหนานขอรับ”
“เจ้าเลยคิดจะออกไปเสี่ยงอันตรายคนเดียวหรือ?” หนานหนานไม่เห็นด้วยอย่างมาก ไม่บอกเขาก็แล้วไป แต่นี่กลับคิดจะออกไปคนเดียวอีก
เย่หลานเฉิงหันมามองเขาแวบหนึ่ง แววตายังคงดูรักใคร่หนานหนาน แบบที่รักใคร่ทะนุถนอมพี่น้องเช่นนั้น
เพียงหนานหนานมองก็รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมา พูดอะไรไม่ออกแล้ว
เย่หลานเฉิงจับมือเล็กๆ ของเขา รอยยิ้มบนใบหน้ากลับเยือกเย็นเล็กน้อย “ถึงแม้ข้าจะยังเด็ก แต่ก็เข้าใจบางเรื่องได้ดี ข้ารู้ คนผู้นั้นให้ข้าหลอกหนานหนานออกไป จะต้องใช้หนานหนานมาข่มขู่ท่านอาห้าและท่านน้าชิงเป็นแน่ ข้ารู้ดีว่าท่านอาห้ารักและเป็นห่วงหนานหนาน หากพวกเขาใช้หนานหนานมาข่มขู่ท่านอาห้า จะต้องสำเร็จเป็นแน่”
“ตอนนี้สงครามตึงเครียด มีคนมากมายที่ปกป้องอาณาจักรเฟิงชางโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง ข้าเป็นพระราชนัดดาของราชวงศ์ จะเป็นตัวถ่วงได้อย่างไร? ท่านอาเจ็ดทะเยอทะยานร้ายกาจ จิตใจโหดเหี้ยม อาจจะฉลาดกว่าท่านพ่อของข้า แต่กลับไม่ใช่คนที่เหมาะจะครองตำแหน่งนั้น หากเขามีอำนาจ ต่อไปประชาชนจะต้องมีชีวิตอย่างลำบากเป็นแน่”
“แต่ข้าไม่อาจรอให้คนพวกนั้น… ส่งศพของท่านแม่มาให้ตอนตะวันตกดิน เพียงเพราะข้าทำอะไรไม่ได้ ข้ารู้ว่าข้าไร้ฝีมือ ไม่มีความสามารถอันใดมากมาย แต่ทว่า การได้อยู่ข้างกายท่านพ่อท่านแม่… ก็ยังดี ต่อให้ช่วยพวกเขาไม่ได้ แต่ครอบครัวอยู่ด้วยกัน… อย่างน้อยก็จะไม่โดดเดี่ยว”
“ท่านอาห้าและท่านน้าชิงดีกับข้า ข้าล้วนจดจำไว้ในใจ ข้าไม่สามารถทำเรื่องที่เนรคุณได้ ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเองก็เห็นหนานหนานเป็นเหมือนน้องชายที่ข้ารักจริงๆ จะยอมปล่อยให้เขาเจ็บปวดได้อย่างไรกัน”
อวี้ชิงลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจและใจสลายอย่างมาก เด็กคนนี้ วางแผนจะสละชีวิตของตนเพื่อปกป้องหนานหนาน
หนานหนานกอดเขาเอาไว้ ร้องไห้เสียจนน้ำหูน้ำตาไหล “เสี่ยวเฉิงเฉิง ต่อไป ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าให้ดี จะไม่ให้เจ้าผิดหวัง ข้ามีของดีจะมอบให้เจ้าหมดเลย หากมีของอร่อยๆ ก็จะแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง เราจะไม่มีวันแยกจากกันตลอดไปนะ”
“…” อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ หนานหนาน คำพูดนี้….ต้องระวังหน่อยนะ
เย่หลานเฉิงหัวเราะออกมา เพียงแต่น้ำตาก็ยังคงไหลอยู่ “เดิมทีข้าคิดจะแอบออกไปทางประตูหลัง คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าพบเข้า”
เป็นเขาเองที่ประหม่าเกินไป หนานหนานผู้นี้ความรู้สึกไว ท่าทางไม่ปกติของเขาเช่นนั้นจะต้องทำให้เขาสงสัยเป็นแน่
เพียงแต่ตอนที่เขาเห็นนิ้วมือของท่านแม่ จะสงบใจลงได้อย่างไร?
ความคิดเดียวที่มีก็คือต้องรีบไปพบท่านแม่โดยเร็วที่สุด ไปอยู่ข้างกายนางโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องอยู่ด้วยกัน
หลังจากนั้นหนานหนานก็ปรากฏตัว เขาคิดอยากจะเอาเรื่องนี้ไปบอกอีกฝ่ายจริงๆ แต่เพียงคิดว่ามีคนแอบวางของสองสามอย่างนี้ไว้ในห้องเขาได้โดยไร้เสียง เขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว รู้สึกราวกับว่ามีแววตาสองสามคู่คอยแอบมองเขาอยู่ในเงามืด ไม่กล้าพูดอันใดทั้งนั้น
อวี้ชิงลั่วมองทั้งสองคนแวบหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวเบาๆ “หลานเฉิง ตอนนี้เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือต้องช่วยพ่อแม่ของเจ้า ข้าเดาว่าในตำหนักนี้มีคนอยู่ นอกตำหนักก็คงมีคนคอยช่วยเหลือ เจ้าพาหนานหนานออกจากตำหนักอ๋องซิว ทำเหมือนว่าเจ้าหลอกหนานหนานออกไปยังจวนสำรอง ส่วนเรื่องอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของท่านน้าชิงเอง”
เย่หลานเฉิงผงะ “แต่ว่า… เช่นนั้นหนานหนานจะเป็นอันตรายเกินไปนะขอรับ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แง มันช่างโหดร้ายกับจิตใจเด็กคนหนึ่งไปมาก จะช่วยเหลือหลานเฉิงอย่างไรได้หนอ?
ไหหม่า(海馬)