อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1023 คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้
ตอนที่ 1023 คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้
ตอนที่ 1023 คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้
ก็เพราะเย่หลานเฉิงไม่ต้องการให้หนานหนานเป็นอันตราย จึงได้พกมีดสั้นออกจากเรือนตัวคนเดียวไม่ใข่หรือ?
แต่ท่านน้าชิงกลับจะให้เขาหลอกพาหนานหนานออกไป นี่ไม่ใช่ว่าทำให้คนอื่นเขาได้ใจหรอกหรือ?
“หลานเฉิง หนานหนานมีวรยุทธ์ ทั้งยังฉลาดหลักแหลม พวกเจ้าสองคนร่วมมือกัน ข้าเองก็วางใจขึ้นมาหน่อยหนึ่ง” อวี้ชิงลั่วลูบศีรษะของเขา นึกถึงท่าทางเจ็บปวดรวดร้าวของเขาเมื่อครู่ตอนเห็นนิ้วที่ถูกตัด น้ำเสียงก็แหบพร่าขึ้นมาเล็กน้อย “ตอนนี้ท่านแม่เจ้าเป็นอันตราย ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ท่านน้าชิงเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ”
เย่หลานเฉิงรีบส่ายหน้า “ท่านน้าชิง ท่านอย่ากล่าวเช่นนั้นเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่านเลยขอรับ”
“เสี่ยวเฉิงเฉิง เจ้าต้องเชื่อข้า มีประโยคหนึ่งว่าอย่างไรแล้วนะ พี่น้องร่วมใจกันก็ตัดได้แม้แต่ทองคำ ถึงแม้เราจะไม่ต้องไปตัดทองคำ ข้าเองก็ทำใจตัดไม่ได้ แต่ด้วยความพยายามของเราทั้งสอง จะต้องช่วยท่านป้าโหรวได้แน่”
ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เห็นอวี้เป่าเอ๋อร์ถูกทรมานอยู่ในตำหนักของคังเฟย หนานหนานก็ไม่อยากจะต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้อีก เรื่องที่สหายหรือคนใกล้ชิดของตนต้องมาทุกข์ทรมาน เขาทำได้เพียงคอยมอง คอยฟัง แต่กลับทำอะไรไม่ได้เช่นนี้
ในที่สุดเย่หลานเฉิงที่ได้ยินหนานหนานพูดแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เผยให้เห็นแววสดใสในดวงตาของเขา ในที่สุดก็เม้มปาก พยักหน้าแล้วกล่าว “ได้สิ”
อวี้ชิงลั่วช่วยเช็ดน้ำตาให้เย่หลานเฉิง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ อีกเดี๋ยวเจ้าก็พาหนานหนานออกไปทางประตูหลังด้วยกัน ดูว่ามีใครมาช่วยพวกเจ้าหรือไม่?” จากนั้นนางก็เลิกคิ้วมองไปทางหนานหนาน “ลูกแม่ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร?”
“รู้สิๆ การแสดงน่ะหรือ ข้าทำได้อยู่แล้ว ท่านแม่ ท่านเองก็ชมข้าตั้งหลายครั้งไม่ใช่หรือว่าข้ามีฝีมือการแสดงยอดเยี่ยม?”
อวี้ชิงลั่วเบือนหน้าหนี ถอนหายใจเงียบๆ นางไม่เชื่อการแสดงของหนานหนานเลยแม้แต่น้อย เห็นชัดๆ อยู่ว่าพูดเกินจริงไปมาก ครั้งก่อนนางพูดประชด ประชดน่ะเข้าใจไหม? ทำไมเขายังมีหน้ามาอวดอีก?
“สรุปก็คือเรื่องนี้เกี่ยวของกับชีวิตของท่านป้าโหรวของเจ้า อย่ามาล้อเล่นกับข้านะ”
หนานหนานยืดตัวตรงทันทีและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านแม่ ท่านวางใจเถิด รับรองว่าข้าทำภารกิจสำเร็จเป็นแน่”
จากนั้นอวี้ชิงลั่วก็ถอนหายใจยาว ลุกขึ้นเดินไปตรงประตู เปิดประตูห้องแล้วให้คนนำอาหารเข้ามา
เพียงแต่เรียกตัวอันฝูซือมาอย่างลับๆ ให้เขาคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวในตำหนัก ดูว่าอีกเดี๋ยวจะมีใครคอยติดต่อกับภายนอกลับๆ ล่อๆ หรือไม่ เมื่อจับตัวคนได้แล้วก็ให้ขังเอาไว้ทันที
จากนั้นก็สั่งสาวใช้เสียงดังว่าให้ไปต้มยา บอกว่าเย่หลานเฉิงปวดท้อง ให้เขาดื่มยา
ต่อจากนั้นก็นำเด็กสองคนไปกินข้าว เมื่อกินข้าวเสร็จ นางก็ไปทำธุระของตนเอง
ส่วนหนานหนานและเย่หลานเฉิงก็เริ่มตัวติดกันราวกับเงา หลังจากเล่นอยู่ที่เรือนพักใหญ่ ก็วิ่งไปที่ประตูหลังอย่างเงียบๆ
หนานหนานไล่เด็กรับใช้สองคนที่อยู่ตรงประตูหลังไป จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากตำหนักไปอย่างลับๆ ล่อๆ
ทั้งสองคนออกไปได้ไม่นาน ตำหนักอ๋องซิวก็มีคนที่เหมือนเป็นเด็กรับใช้ส่งเสียงแปลกๆ ตรงกำแพงตำหนัก
รอยยิ้มเย็นปรากฏที่มุมปากของอันฝูซือ จนกระทั่งเขาหมุนตัวเพียงชั่วพริบตาแล้วทุบจนคนหมดสติไปโดยตรง จับมัดเป็นก้อนแล้วไปโยนไว้ตรงหน้าโม่เสียน
โม่เสียนมองคนผู้นี้ หันหน้ามากล่าวกับอวี้ชิงลั่ว “เป็นเด็กรับใช้ที่มีหน้าที่ซื้อของของเรือนนอกขอรับ ข้าจะไปตรวจสอบเขาเดี๋ยวนี้”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า จากนั้นก็พาอันฝูซือ ลู่หลานเฟิงสองพี่น้อง รวมไปถึงท่านปู่ฮวา ท่านยายฮ่วนและฉินเจี่ยวเพียวออกจากตำหนักไปอย่างเงียบๆ ขึ้นรถม้าธรรมดาๆ ที่ตรอกด้านซ้ายของตำหนัก เดินทางด้วยเส้นทางอีกทางตรงไปยังตำหนักสำรอง
ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลังจากหนานหนานและเย่หลานเฉิงออกจากตำหนักมา ก็ได้เช่ารถม้าและ ‘คนขับรถ’ มุ่งหน้าไปยังตำหนักสำรอง
เพียงแต่ระหว่างทางนั้นก็มีคนตามรถม้ามา ชน ‘คนขับ’ จนตกลงจากรถม้า และจับเชือกเริ่มควบม้าอย่างรวดเร็ว
คนขับผู้นั้นหลังจากกลิ้งหลุนๆ บนพื้นแล้วก็เงียบไปพักใหญ่ ทันใดนั้นก็เด้งตัวขึ้นมาแล้วรีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังทิ้งสัญลักษณ์ไว้ระหว่างทางอีกด้วย
หลังจากหนานหนานและเย่หลานเฉิงรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนกะทันหันของรถม้าก็สบตากันแวบหนึ่ง
ต่อจากนั้นหนานหนานก็เปิดม่านรถม้าในทันใด ก่นด่าคนชุดดำที่หันหลังขับรถม้าให้พวกเขา “เจ้าเป็นใคร? เจ้าจะพาพวกเราไปที่ไหน?”
“ไปไหนน่ะหรือ? อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ?” คนผู้นั้นไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมา รถวิ่งเร็วขึ้นมาก เพียงแต่น้ำเสียงเย็นชากลับดังเข้ามาในหูของเย่หลานเฉิง “เฉิงซื่อจื่อ เจ้าลงมือหรือยัง?”
“ลงมือหรือ? ลงมืออะไรกัน?” หนานหนานมองเย่หลานเฉิงอย่างประหลาดใจ
เย่หลานเฉิงก้มหน้าอย่างละอายใจ นิ้วมือกำแน่น กล่าวเสียงเบา “ขอโทษด้วย หนานหนาน”
“เจ้าพูดอะไรน่ะ? ขอโทษอะไรกัน? ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาพูดอะไรแบบนี้นะ มานี่ เจ้าจับข้าไว้ ข้าจะพาเจ้าหนีไปเดี๋ยวนี้” หนานหนานกล่าว จากนั้นก็จับมือของเย่หลานเฉิง
เย่หลานเฉิงกลับหดมือเข้าไป ผลักหนานหนานกลับเข้ามาในรถม้า น้ำตาไหลอาบหน้า “หนานหนาน ขอโทษ ข้าไม่มีทางเลือก พ่อแม่ของข้าถูกพวกเขาจับไป ทำได้เพียงขอโทษเจ้าเท่านั้น”
หนานหนานถูกโยนกลับเข้ามาในรถม้า เมื่อคิดจะลุกขึ้นอีกครั้ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าทั้งร่างไร้เรี่ยวแรง จ้องมองอย่างประหลาดใจแล้วกล่าว “เย่หลานเฉิง เจ้าทำอะไรกับข้า? ทำไมข้าจึงขยับตัวไม่ได้เลย? เจ้า เจ้า…”
คนชุดดำที่ขับรถม้าอยู่ส่งเสียงเย็นชา “เพราะรู้ว่าเจ้าเป็นบุตรชายของหมอปีศาจ คุ้นเคยกับสรรพคุณของยาอย่างมาก นายท่านของพวกข้าจึงพัฒนายานี้ขึ้นเป็นพิเศษ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น กินลงไปจะทำให้เจ้าขยับตัวไม่ได้ เฮ้อ ถึงแม้เจ้าจะฉลาด แต่ก็เชื่อใจคนบางคนมากเกินไปหน่อยนะ”
เย่หลานเฉิงฟังแล้วก็หน้าซีด น้ำเสียงสั่นเครือ “เจ้า เจ้าอย่าพูดนะ”
“ทำไมหรือ? ทำแล้วแต่ไม่ให้คนอื่นพูดอย่างนั้นหรือ?” คนชุดดำโค้งมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน หัวเราะเสียงเย็นชา “หากไม่ใช่เพราะเจ้าหลอกเด็กคนนี้ออกมา พวกข้าก็คงจับตัวเขาได้ยากมาก ครั้งนี้ถือว่าเจ้าได้กระทำความดีครั้งใหญ่ ช่างสมกับเป็นบุตรชายของอดีตองค์รัชทายาท ทั้งยังเลี้ยงไม่เชื่องเช่นกัน ข้างนอกลือกันว่าเจ้าฉลาดและกตัญญู แต่มันก็เท่านั้นจริงๆ”
เย่หลานเฉิงรู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาทันใด “ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไม่ได้เป็น ข้าไม่ได้เป็นเช่นนั้น”
“ไม่ใช่หรือ? เจ้าพาคนออกมาแล้ว ถือว่าเจ้าเคลื่อนไหวเร็วมากทีเดียว อย่างไรก็พาตัวคนออกมาแล้ว ไม่ว่าจะอธิบายเท่าไรก็ไร้ประโยชน์ โชคดีที่เด็กคนนี้ช่วยเจ้ามาหลายครั้ง อา ข้ายังจำได้ว่าตอนนั้นที่เจ้าอยู่จิ่นเฉิงย่วน ถูกซื่อจื่อสองคนรังแก ก็เป็นเด็กคนนี้ช่วยเจ้าไว้ไม่ใช่หรือ?”
คนชุดดำผู้นั้นกล่าว หันหน้ามายิ้มให้ทั้งสองคน
หนานหนานจำได้ในทันที คนนี้ก็คือหัวหน้าทหารองครักษ์ที่คอยเฝ้าคุมอดีตองค์รัชทายาทที่จิ่นเฉิงย่วนในตอนนั้นไม่ใช่หรือ? ดูเหมือนเขาจะเป็นคนขององค์ชายสี่
หนานหนานจ้องมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยวในทันใด เพียงแต่ต่อจากนั้นก็เลื่อนสายตามามองหน้าเย่หลานเฉิง
สีหน้าของเขาทั้งตะลึงและจงเกลียดจงชัง โกรธเกรี้ยวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กัดฟันแล้วกล่าว “เย่หลานเฉิง ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนเช่นนี้ เจ้าบอก เจ้าบอกอย่างชัดเจนว่าพ่อแม่ของเจ้าถูกคุกคาม ให้ข้าไปช่วย ข้าเชื่อเจ้าเพียงนั้น จึงออกมากับเจ้าโดยไม่ลังเล คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะวางยาข้าตั้งนานแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นแผนหรือเปล่านะ? หลานเฉิงจะกลายเป็นคนเลือดเย็นขนาดนี้ได้เลยเหรอ?
ไหหม่า(海馬)