อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1028 ในที่สุดก็ถึงแล้ว
ตอนที่ 1028 ในที่สุดก็ถึงแล้ว
ตอนที่ 1028 ในที่สุดก็ถึงแล้ว
อวี้ชิงลั่วเข้าใจได้ พวกเขาสองคนไม่มีกำลังพอ คนหนึ่งไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย อีกคนก็บาดเจ็บ ทำได้เพียงแต่ระมัดระวังเท่านั้น
หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บขององค์ชายสามต้องรักษาเร่งด่วน เกรงว่าพระชายาสามคงจะพาพวกเขาวนเวียนอยู่แถวนี้ รอจนมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วค่อยจากไปอย่างเงียบๆ
อวี้ชิงลั่วพยักหน้าให้ทั้งสองคน “พวกท่านกลับไปที่ตำหนักก่อนเถิด ให้โม่เสียนหาหมอมาช่วยรักษาอาการให้องค์ชายสามอย่างฉุกเฉิน โชคดีที่องค์ชายสามไม่ได้บาดเจ็บถึงชีวิต อีกทั้งข้ายังให้ยาเขากินแล้ว หากพักผ่อนดีๆ สักหน่อยก็จะดีขึ้น ข้าจะไปช่วยพี่สะใภ้รองก่อน หากมีเรื่องอันใด รอพวกข้ากลับมาแล้วค่อยว่ากันเถิด”
พระชายาสามพยักหน้า “แต่ แต่พวกเจ้าจะไปช่วยพี่สะใภ้รองที่ใดหรือ? เดิมทีพวกข้าไม่รู้เลยว่าพวกเขาจับคนไปที่ไหน”
“ท่านวางใจเถิด ข้ามีวิธี”
“เช่นนั้น พวกเจ้าจะต้องระวังด้วย จะต้องช่วยพี่สะใภ้รองออกมาให้ได้ อดีตองค์รัชทายาทผู้จิตใจชั่วร้ายนั้น จะปล่อยเขาไปไม่ได้เด็ดขาด”
อวี้ชิงลั่วตอบ ‘อืม’ จากนั้นก็กระโดลงจากรถม้า
ไม่ไกลนัก มีรถม้าคันหนึ่งขับเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาถึงตรงหน้า ลู่หลานเฟิงจึงกระโดดลงมาจากรถม้า
หลังจากที่เขาพาองค์ชายสามขึ้นรถม้าไปเมื่อครู่ ก็รีบไปยังตำหนักสำรองเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ เขาเป็นคนว่องไว เข้าใจได้ถึงสถานการณ์ทันที จากนั้นก็ไปที่คอกม้าของตำหนักสำรองแล้วเทียมรถม้าอีกคนออกมา เพียงแต่ตอนที่เขากระโดดลงจากรถม้า สีหน้าเคร่งเครียดอย่างมาก
“…ไม่มีใครรอดเลย” แม้แต่คนอย่างลู่หลานเฟิงที่ท่องยุทธภพมาแล้ว เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าเศร้าในตำหนักก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
อวี้ชิงลั่วแววตาเคร่งเครียด กัดกรามแน่น
ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็สงบใจลง กล่าวเบาๆ “รอ รอให้ช่วยพี่สะใภ้รองออกมาได้ก่อน เราค่อยกลับมา… ฝังพวกเขา”
“อืม” ลู่หลานเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่ถึงแม้จะอยู่ห่างจวนสำรองประมาณหนึ่ง เขาก็ยังรู้สึกเหมือนว่ากลิ่นคาวเลือดยังติดอยู่ที่ปลายจมูก
“ไปกันเถิด” อวี้ชิงลั่วไม่มัวเสียเวลาอีกต่อไป ตอนนี้หนานหนานและเย่หลานเฉิง รวมไปถึงสวีโหรว ล้วนรอพวกเขาอยู่ ไม่มีเวลามาเศร้าอยู่ตรงนี้
อวี้ชิงลั่วทิ้งคนขับรถธรรมดาของตำหนักให้อยู่กับองค์ชายสามและพระชายาสาม ทางด้านนี้ก็ให้ฉินเจี่ยวเพียวขี่ม้า หลังจากพวกเขาบอกลาสองสามีภรรยาแล้ว ก็ล้วนขึ้นรถม้ากัน
จนกระทั่งพวกองค์ชายสามออกไปไกลแล้ว นางจึงวางเสี่ยวไป๋เหอลง
เสี่ยวไป๋เหอบิดตัว คลานอย่างรวดเร็ว ราวกับรับรู้ถึงความรีบเร่งของนายตน ความเร็วนั้นเร็วกว่าปกติอย่างมาก
ฉินเจี่ยวเพียวเหวี่ยงแส้ม้าอย่างแรง ขับรถม้าตามเสี่ยวไป๋เหอไปทันที
อวี้ชิงลั่วกลับหลับตาลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าหนานหนานในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หวังเพียงพวกเขาจะอยู่ห่างกันไม่มาก ต้องรีบตามไปให้ทันจึงจะใช้ได้
ถึงแม้เด็กคนนั้นจะฝีมือดี แต่กลัวว่าการจะช่วยสวีโหรวออกมาจากพวกที่ฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตาให้ได้นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องยากเล็กน้อย
อีกอย่าง… ที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกเขาไม่รู้ว่า… อดีตองค์รัชทายาท… เป็นคนร้ายตัวจริง
นั่นคือบิดาของเย่หลานเฉิง เย่หลานเฉิงจะไม่ระวังตัวกับเขา หากอดีตองค์รัชทายาทโหดร้ายถึงขนาดลงมือกับลูกแท้ๆ ของตนได้ลงคอ เช่นนั้นพวกเขาจะมีโอกาสชนะได้อย่างไร?
อวี้ชิงลั่วเป็นห่วงหนานหนาน ส่วนหนานหนานในตอนนี้ก็กำลังเป็นห่วงอวี้ชิงลั่วเช่นกัน
และไม่รู้ว่ารถม้าคันนี้จะไปที่ใดกันแน่ เหตุใดจึงผ่านมานานแล้วยังไม่หยุดอีก?
เด็กน้อยแกล้งหลับจนเบื่อเล็กน้อยแล้ว จึงสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หายใจหอบแล้วก่นด่ากับชายชุดดำที่ควบม้าหันหลังให้เขาอยู่ “เจ้ามันไอ้คนชั่ว จะพาข้าไปไหนกันแน่? ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะ บิดาของข้าคือท่านอ๋องซิว หากไปยั่วยุเขา พวกเจ้าจะต้องไม่มีใครจบสวยเป็นแน่”
กล่าวจบก็หันหน้าหนี จ้องมองเย่หลานเฉิงอย่างดุร้าย “แล้วก็เจ้า เจ้ากล้าทรยศข้า ข้าจะบอกให้นะ รอข้ามีแรงเสียก่อนเถิด ข้าจะไปคิดบัญชีกับเจ้าก่อนเป็นคนแรก”
เดิมทีเย่หลานเฉิงก็เป็นกังวล เพียงหนานหนานแกล้งหลับ ในใจเขาก็มีแต่สวีโหรว ในใจเป็นกังวล เป็นห่วง และหวาดกลัวมาโดยตลอด
เขาไม่รู้ว่าตนเองจะต้องไปพบเจอกับสิ่งใด แต่ท่านแม่ของเขาก็ได้พบกับการถูกทำร้ายแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนนี้จู่ๆ หนานหนานก็พุ่งเป้ามาที่ตน เย่หลานเฉิงจึงชะงักงันไป เห็นว่าเขาเริ่มก่นด่าอีกครั้ง ก็เล่นละครตามเขาไปในทันที ความเป็นกังวลในใจก็หายไปจนหมดสิ้น
“หนานหนาน เจ้า เจ้าเป็นห่วงตัวเองเถิด ข้าทำผิดต่อเจ้า ต่อไปนี้ ต่อไปนี้ข้าจะชดใช้ให้”
“ชดใช้อย่างไร เผาเงินกระดาษให้ข้าเยอะๆ อย่างนั้นหรือ?”
“หนานหนาน!!” เย่หลานเฉิงขมวดคิ้ว ถึงแม้จะเป็นการแสดงละคร แต่เขาเองก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายพูดถึงตนเอง แช่งตนเองเช่นนั้น
หนานหนานกลอกตา ถลึงตามองเขา ขอทีเถอะ พวกเขากำลังต่อปากต่อคำกันอยู่นะ โต้เถียงกันอยู่ การโต้เถียงด้วยความเกลียดชังลึกซึ้งเช่นนี้ เดิมทีก็สามารถพูดอะไรออกมาก็ได้ทั้งนั้น ยิ่งร้ายแรงเท่าไรยิ่งดี เสี่ยวเฉิงเฉิงนี่จริงๆ เลย แสดงไม่เนียนเลยสักนิด อีกเดี๋ยวจะต้องสอนเขาให้ดีๆ แล้ว
ชายชุดดำที่ขับรถม้าอยู่ด้านหน้าเย้ยหยัน “เจ้าไม่ต้องกังวลไป ไม่นานเจ้าก็จะรู้แล้วว่าตนจะมีจุดจบอย่างไร อีกไม่นานพวกเราก็ถึงแล้ว”
หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัด “เจ้าเป็นห่วงตัวเองเถิด พ่อข้าน่ะเก่งกาจมากนัก”
“เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ จนถึงตอนนี้ก็ยังไร้เดียงสาอยู่เหมือนเดิม ตัวเจ้าตกมาอยู่ในมือของพวกข้าแล้ว ต่อให้พ่อเจ้าเก่งกาจเพียงใดแล้วอย่างไรเล่า เก่งนักก็ปรากฏตัวต่อหน้าข้าเสียตอนนี้เลยสิ ช่วยเจ้าออกไปเลย”
“เจ้า…” หนานหนานโกรธมาก “พ่อของข้าจะคิดบัญชีย้อนหลังแน่”
ชายชุดดำหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง ทันใดนั้นก็สะบัดแส้ รถม้าเร่งความเร็วยิ่งขึ้น ตัวรถกระแทกเล็กน้อย
ร่างของหนานหนานพลิกไป จากนั้นศีรษะก็กระแทกทันที
เย่หลานเฉิงเองก็แทบจะตัวลอยออกจากรถม้า โชคดีที่จับกรอบประตูเอาไว้ได้ทัน เพียงแต่จ้องมองชายชุดดำอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “เจ้าขับรถม้าดีๆ ไม่เป็นหรือ?”
“เฮอะ” ชายชุดดำส่งเสียงไม่พอใจอีกครั้ง เจ้าเด็กสองคนนี้ มาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแล้วก็ยังคิดว่าตนเก่งกาจมาก ยังทำเหมือนตนเองเป็นเจ้านายไปได้
ตอนนี้เขาอยากจะขับรถเช่นไรก็จะทำเช่นนั้น อย่างไรตามความคิดของเขา หากได้พบนายท่านแล้ว เจ้าเด็กสองคนนี้ก็คงไม่เหลือชีวิตแล้ว
หนานหนานอยากจะจับศีรษะที่ถูกกระแทกของตน แต่ตอนนี้เขาเป็นลูกแกะน้อยที่ถูกวางยา ดูเหมือนจะยังขยับไม่ได้ ทำได้เพียงทำใบหน้าเจ็บปวด ไม่อยากแม้แต่จะพูดอะไร
อย่างไรในรถม้าก็เงียบไปพักหนึ่ง ไม่นานนัก ความเร็วของรถม้าก็ค่อยๆ ช้าลง
แล้วชายชุดดำก็ดึงบังเหียนให้ม้าหยุดทันที
จากนั้นก็อุ้มหนานหนานลงมา กล่าวกับเย่หลานเฉิง “ตามมา” จากนั้นก็เดินเข้าข้างในไป
เย่หลานเฉิงรีบวิ่งตามไป ตรงหน้าเป็นบ้านไร่ธรรมดาๆ หลังหนึ่ง ทั้งยังอยู่ห่างไกลอย่างมากอีกด้วย
ถึงแม้ใกล้ๆ นี้จะมีบ้านสองสามหลัง แต่ก็ดูแล้วเงียบสงบราวกับว่าเป็นที่ที่ไม่มีคนพักอาศัยอยู่
ชายชุดดำผู้นั้นอุ้มหนานหนานเดินเข้าเรือนไป ใครจะรู้ว่าเพียงก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไป เอ่ยปากเรียก “นายท่าน” จากนั้นก็หยุดนิ่งไปทันที
เมื่อเห็นคนในเรือน เขาก็อ้าปากค้างในทันที ยืนนิ่งอยู่ที่ลานบ้านนั้นอย่างประหลาดใจ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แง ไปช่วยท่านแม่ของหลานเฉิงออกมาให้ได้นะ
ใครคือนายท่านของคนชุดดำคนนี้กัน?
ไหหม่า(海馬)