อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1033 ยั่วยุ
ตอนที่ 1033 ยั่วยุ
ตอนที่ 1033 ยั่วยุ
ในใจหนานหนานกระวนกระวาย อยากจะตรงเข้าไปดูในทันทีเป็นอย่างมาก
เพียงแต่สุดท้ายก็ควบคุมอาการร้อนใจของตน กดข่มอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้อย่างถึงที่สุด
ชายชุดดำอุ้มหนานหนานเดินไปยังข้างกายของสวีโหรว ปล่อยมือออก พลางเลิกคิ้วมอง
จริงๆ แล้วหนานหนานไม่ได้มีทักษะทางการแพทย์มากนัก ถึงแม้จะได้รับอิทธิพลมามากมายจากการได้ยินและได้เห็นจนพอรู้วิธีจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่บ้าง แต่หากจะจับชีพจรให้ผู้อื่นนั้น เขาทำไม่ได้… จริงๆ
แต่ในกรณีที่พุ่งชนกำแพงเช่นนี้ เมื่อก่อนตอนที่อยู่ข้างกายอวี้ชิงลั่วก็เคยพบเห็นมามากกว่าหนึ่งครั้ง ถึงแม้จะไม่เคยได้จัดการ แต่ก็พอรู้ขั้นตอนอยู่บ้าง
อีกทั้งเขายังดูออกว่าบาดแผลบนศีรษะของสวีโหรวไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเพราะการเสียเลือดจากบาดแผลบนร่างกายมากกว่า
หนานหนานโน้มต้วเข้าไปใกล้บาดแผลบนศีรษะของนางแล้วมองดูอย่างละเอียด
อืม บาดแผลนี้ไม่เหมือนกับที่เขาเคยพบก่อนหน้านี้เลย มันไม่ได้ลึกเพียงนั้น ครั้งก่อนตอนที่ท่านแม่รักษาให้หญิงที่พุ่งชนกำแพง บาดแผลของคนผู้นั้นหนักหนาเสียยิ่งกว่าของท่านน้าโหรวเสียอีก แต่ท่านแม่กลับบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะหญิงผู้นั้นไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต ตอนที่ทำแผลก็เพียงแค่ทำความสะอาดแผลธรรมดาๆ แล้วพันศีรษะไว้ก็ใช้ได้ จากนั้นจ่ายยาให้นาง ให้นางพักผ่อนให้ดีก็พอ
เมื่อเปรียบเทียบดูแล้ว อาการบาดเจ็บที่ศีรษะของท่านน้าโหรวนั้นก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าไรนัก
ความอ่อนแอของนางน่าจะมาจากการเสียเลือดมากเกินไป ในเมื่อเสียเลือดมาก เช่นนั้นเรี่ยวแรงก็ย่อมมีไม่มาก แรงที่พุ่งเข้าชนกำแพงก็คงไม่แรงมากนัก
ยิ่งรวมไปถึงอดีตองค์รัชทายาทคอยห้ามไว้ บาดแผลที่ศีรษะนั้นจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่
ในใจหนานหนานกำลังเปรียบเทียบอยู่ แม้จะไม่กล้ายืนยันตรงๆ แต่ก็ยังพอจะวางใจลงได้บ้าง ตอนนี้ขอเพียงรอให้ท่านแม่ท่านพ่อมา รอช่วยคนออกไปแล้ว ก็ค่อยส่งต่อให้ท่านแม่รักษา
ส่วนตอนนี้นั้น…
“พวกเจ้ารักษาบาดแผลที่ศีรษะของนางก่อนเถิด อีกอย่าง บาดแผลที่มือของนางก็ต้องจัดการด้วย ไม่อย่างนั้นหากบาดแผลติดเชื้อมีไข้สูง คราวนี้นางได้ถึงแก่ชีวิตจริงๆ แน่”
หนานหนานพยายามอย่างมากเพื่อให้น้ำเสียงของตนฟังดูเหมือนท่านหมอผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรคำพูดเหล่านี้เขาก็ได้ฟังจากปากท่านแม่มาไม่น้อย
เหล่าคนในห้องมองหน้ากัน พวกเขาย่อมรู้เรื่องการทำแผล ด้วยล้วนเป็นคนศึกษาการต่อสู้ จึงยากที่จะไม่บาดเจ็บ และใช่ว่าข้างกายจะมีหมอมาคอยดูแลตลอดเวลา ก็ย่อมล้วนต้องทำแผลกันเอง
ที่ให้หนานหนานเข้ามา ก็เพียงอยากดูว่าเขาจะสามารถสืบทอดทักษะของหมอปีศาจมาได้หรือไม่ และให้ลองจับชีพจรสวีโหรว หากไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตก็เพียงพอแล้ว
หนานหนานเห็นว่าพวกเขาไม่ขยับ ก็ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าติดเชื้อหมายความว่าอย่างไร ข้าจะบอกให้ ในโลกนี้ยังมีคนที่เสียชีวิตเพราะแผลเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่ คนที่เรียนรู้การต่อสู้ มีคนมากน้อยเพียงใดที่ตายเพราะไข้สูง คงไม่ต้องให้ข้าบอกกระมัง ภูมิคุ้มกันหรือภูมิต้านทานของพวกเจ้าล้วนแข็งแรง แต่พระชายาแห่งองค์ชายรองเป็นเพียงหญิงอ่อนแอผู้หนึ่ง ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ต้องอยู่ในห้องที่ไม่ได้สะอาดสะอ้านเช่นนี้ ทั้งยังต้องรายล้อมไปด้วยพวกเจ้าที่มีแต่กลิ่นเหงื่อ อากาศไม่ถ่ายเท จุลินทรีย์จะเติบโต ถึงตอนนั้นหากแผลเน่า ไม่แน่ว่าแม้แต่พวกเจ้าก็อาจจะติดเชื้อไปด้วย”
จุลินทรีย์อะไร? เติบโตอะไรกัน? ฟังดูเหมือนเป็นภาษาทางการแพทย์อย่างไรอย่างนั้น
คนในห้องพากันหรี่ตา แต่การทำแผลก็ไม่ได้ส่งผลร้ายอะไรกับพวกเขา อีกทั้งเด็กคนนี้ยังกล่าวได้ถูกต้อง พวกเขาเองก็มีหลายครั้งที่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำแผลทันเวลา จึงส่งผลให้มีไข้สูงไม่ลดลง จนสุดท้ายก็เป็นอันตรายถึงชีวิต
ดังนั้น ไม่นานก็มีคนเตรียมน้ำและผ้าพันแผลมาทำตามที่หนานหนานบอก
ชายชุดดำผู้นั้นมองภาพด้านหลังของคนเหล่านั้นแล้วก็แค่นหัวเราะออกมา ดูแคลนเขาหรือ? ดูแคลนองค์ชายสี่หรือ? แต่เขาก็ยังทำให้พวกเขาเชื่อฟังได้นี่
อดีตองค์รัชทายาทที่อยู่ด้านข้างจ้องมองหนานหนานเขม็ง มีหลายครั้งที่อยากจะพุ่งตัวไปข้างหน้าแต่ก็ถูกชายชุดดำขวางเอาไว้
สวีโหรวอ่อนแอมาก แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ ได้สติขึ้นมา เมื่อเห็นหนานหนานอยู่ข้างกายก็รู้สึกผิดไปทันที อยากจะเอื้อมมือสัมผัสเขา
แววตาของหนานหนานมองไปยังนิ้วเรียวของนางที่ถูกห่อเอาไว้ ในใจเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย
“ข้าขอโทษ… หนานหนาน เจ้าอย่าได้ อย่าได้โทษหลานเฉิงเลยนะ… เขาทำเพื่อช่วยข้า เป็นข้าที่ทำให้เขาต้องลำบาก” สวีโหรวไม่เชื่อจริงๆ ว่าเย่หลานเฉิงจะทำเรื่องที่ต้องทำร้ายหนานหนาน แต่ตอนนี้หนานหนานที่อยู่ตรงหน้านาง กลับมีท่าทางอ่อนแอปวกเปียกเหมือนถูกควบคุม
ต่อให้นางจะไม่เชื่อ แต่ก็ต้องจำใจยอมรับความจริง
ตอนนี้หนานหนานเข้ามาในปากเสือแล้ว จะหนีออกไปได้อย่างไรเล่า?
หนานหนานมีความคิดอยากจะบอกให้นางเข้าใจ แต่รอบกายมีผู้คนมากมาย จึงไม่สามารถกล่าวอะไรได้ทั้งนั้น เพียงแต่หันหน้ามองไปที่ห้อง แค่นเสียงในลำคอเบาๆ แสร้งทำเป็นเหยียดหยามอย่างมาก
สวีโหรวหน้าซีด “หนานหนาน…”
“ท่านไม่ต้องมากล่าวอันใดกับข้าทั้งนั้น วันนี้ข้าช่วยท่านเพียงเพราะเห็นแก่ที่เมื่อก่อนท่านดีกับข้ามากเท่านั้น แต่ตอนนี้ถือว่าเราไม่มีบุญคุณติดค้างกันแล้ว”
“ข้า…”
“ท่านทำไมหรือ ตอนนี้เพียงเห็นท่าทางจอมปลอมของท่านที่ไม่ต่างกับเย่หลานเฉิง ข้าก็ไม่สบายไปทั้งตัวแล้ว คนอย่างท่านเมื่อเทียบกับพวกท่านลุงสามและเย่หลานเวยแล้ว พวกเขายังดูจริงใจเสียยิ่งกว่า เฮอะ ตอนนี้ข้าชื่นชมพวกเขาแล้ว”
หนานหนานกล่าวจบก็หันศีรษะอีกครั้ง ทันใดนั้นก็กล่าวกับชายชุดดำ “เจ้าพาข้าไปหาท่านลุงสามท่านป้าสามที ข้าไม่อยากอยู่กับสองคนนี้ ข้าอยากไปพบท่านลุงสามท่านป้าสาม”
ชายชุดดำมีสีหน้าเปลี่ยนไป ยังไม่ทันได้กล่าวอันใดก็ได้ยินสวีโหรวเอ่ยปากขึ้น “หนานหนาน ท่านลุงสามท่านป้าสามของเจ้าไม่ได้ถูกจับ พวกเขาหนีไปแล้ว”
ในใจของหนานหนานลอบดีใจ ไม่แปลกเลยที่ไม่เห็นพวกเขา ที่แท้ก็หนีไปแล้ว
เช่นนั้นก็ดีแล้ว แสดงว่าคนที่พวกท่านพ่อท่านแม่ต้องการช่วย มีเพียงท่านน้าโหรวคนเดียวเท่านั้น
อย่างไรอดีตองค์รัชทายาทก็เลวร้ายเพียงนี้ ไม่ต้องช่วยหรอก ตัวเขาเองมีฝีมือ จะฝ่าวงล้อมออกไปย่อมไม่มีปัญหา
แต่ตอนนี้ท่านน้าโหรวร่างกายอ่อนแอเกินไปแล้ว ช่วยได้ยากจริงๆ
แม้ในใจจะคิดอะไรมากมาย แต่หนานหนานก็ยังมองไปยังสวีโหรวด้วยสีหน้ารังเกียจ “อ้อ ที่แท้พวกเขาก็หนีไปแล้ว ฮ่าๆ ข้าว่าแล้วเชียว คนดีสิจึงจะได้รับรางวัล พวกเขาไม่มีทางทรยศข้าและท่านพ่อท่านแม่ ดังนั้นสวรรค์จึงดีกับพวกเขา ไม่เหมือนคนบางคน จิ๊ๆ…”
เขากล่าวจบ หลังจากมองสวีโหรวแวบหนึ่ง ก็ละสายตาไปมองที่อดีตองค์รัชทายาท
เพียงอดีตองค์รัชทายาทเห็นแววเหยียดหยามในดวงตาเล็กคู่นั้น ก็อดไม่ได้ที่จะโพล่งขึ้นในทันที “เจ้าว่าใครกัน? พวกเขาเป็นคนดีจึงได้รับรางวัล ความหมายของเจ้าคือข้าจะถูกฟ้าผ่าหรืออย่างไร?”
เฮอะๆ ที่แท้ก็ยังรู้ตัวเองอยู่นี่
“ก็ท่านอย่างไรเล่า ท่านนั่นแหละ ทำไมหรือ? คนอย่างท่านก็เป็นคนที่จะโดนฟ้าผ่าอย่างไรล่ะ”
“ไอ้เจ้าเด็กสารเลว ข้าอยากจะจัดการเจ้าตั้งนานแล้ว ตอนนี้เจ้าตกอยู่ในเงื้อมมือของข้า ดูสิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไรดี”
อดีตองค์รัชทายาทจ้องมองหนานหนานเขม็ง ก่อนหน้านี้เขาได้รองรับอารมณ์ของเย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วมาไม่น้อย ตอนนี้เจ้าเด็กนี่ยังไม่มีแรงโต้กลับ ก็จะได้สั่งสอนเขาเสียบ้างพอดี
หนานหนานจ้องมองเขาอย่างยั่วยุ “คนอย่างท่านหรือ? คนอย่างท่านน่ะหรือ? ท่านคิดว่าตนเป็นใคร ข้าไปตกอยู่ในเงื้อมมือท่านตอนไหนกัน? คนอย่างท่านน่ะ คิดว่าจะมีปัญญามาจับข้าได้หรือ?”
อดีตองค์รัชทายาทได้ยินคำนี้แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พุ่งตัวเข้าใส่หนานหนาน
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เหอะๆ คิดว่าหนานหนานหลอกง่ายหรือไง อาจเป็นผู้ใหญ่อย่างพวกแกนั่นแหละที่จะโดนเด็กหลอก
ไหหม่า(海馬)