อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1038 พวกเขาไม่ใช่คนอ่อนหัด
ตอนที่ 1038 พวกเขาไม่ใช่คนอ่อนหัด
ตอนที่ 1038 พวกเขาไม่ใช่คนอ่อนหัด
อวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋สบตากันอย่างรวดเร็ว ต่างคนต่างสังเกตเห็นแววประหลาดใจในดวงตาของอีกฝ่าย
หญิงสาวชาวเหมิงไม่ควรเป็นวรยุทธ์จึงจะถูก อีกทั้งท่าทางของเหมิงกุ้ยเฟยก็ไม่เคยแสดงให้เห็นเลยว่ามีวรยุทธ์
แต่ตอนนี้นางกลับใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนที่ และดิ้นหลุดจากมือของฟ่านผิงอวิ๋นได้
ถึงแม้จะบอกว่าใช้โอกาสที่ฟ่านผิงอวิ๋นไม่ทันตั้งตัวจึงหนีไปได้ แต่ทุกๆ การเคลื่อนไหวนั้นเห็นได้ชัดว่ามีพลังอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่กระบวนยุทธ์ที่ดีเพียงกระบวนท่าแต่ใช้การจริงไม่ได้
สวีโหรวถูกเผิงอิงจับไว้แล้วดึงไปข้างกายเหมิงซินอีกครั้ง เหมิงกุ้ยเฟยเองก็ยืนอย่างมั่นคงอยู่ข้างกายเหมิงซิน และให้เขาช่วยแก้มัดให้ตน
ฟ่านผิงอวิ๋นมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว คิดจะเดินหน้าตามไป
“ผิงอวิ๋น หยุด” เย่ซิวตู๋ตะโกนในทันใด ฟ่านผิงอวิ๋นหยุดฝีเท้า ทำได้เพียงถอยเท้ากลับไปอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลง สีหน้าละอายกล่าวกับเย่ซิวตู๋ “เป็นเพราะข้าที่ประมาทไปขอรับ ท่านอ๋อง…”
เย่ซิวตู๋โบกมือหยุดเขาไว้ เพียงแต่เกร็งมุมปากแล้วกล่าว “ข้าเองก็ประมาทไป คิดไม่ถึงจริงๆ หญิงที่ปกติอ่อนแอคนหนึ่งกลับซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตนเอาไว้มาโดยตลอด”
ถึงขนาดตอนที่อยู่ตำหนักอ๋องซิวก็แสร้งทำเป็นบ้าคลั่ง แสร้งทำเป็นบ้าจากความโศกเศร้า แต่ไม่เคยใช้ความสามารถของตนเองเพื่อหนีออกจากตำหนักเลย
เป็นเพราะนางรู้ว่านางหนีไม่พ้นจากตำหนักอ๋องซิว จึงได้อดกลั้นเอาไว้มาโดยตลอด รอโอกาสดั่งเช่นวันนี้อย่างนั้นเองหรือ?
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจยาวออกมา แววตาจ้องเขม็งไปยังร่างของเหมิงกุ้ยเฟย
เย่หลานเฉิงเห็นมารดาของตนถูกจับกลับไปอีกครั้ง ร่างอันอ่อนแอนั้นถูกลากไปตลอดทาง ทันใดนั้นก็เป็นกังวลขึ้นมา รีบเอื้อมมือใส่เข้าไปในปากของตน พยายามอย่างยิ่งที่จะระงับอารมณ์ของตนเอาไว้และไม่ส่งเสียงออกมาจนส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
เหมิงกุ้ยเฟยแก้มัดแล้วจัดทรงผมของตนเล็กน้อย ปัดฝุ่นบนเรือนร่างเบาๆ
เดิมทีนางมีสภาพย่ำแย่เล็กน้อย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและคลี่ยิ้มภาคภูมิใจออกมา ทันใดนั้นนางก็เหมือนหัวหน้านางในที่งดงามโดดเด่นเป็นสง่าในทันที โดยเฉพาะเมื่อยืนอยู่กับเหมิงซินก็เหมือนกับหยก ทำให้คนไม่อาจละสายตาได้
และในช่วงเวลาต่อจากนั้น นางก็ยื่นมือออกไปจับตัวสวีโหรวที่อยู่ด้านข้างมา กระชากเรือนผมอีกฝ่ายขึ้นแล้วยิ้มให้เย่ซิวตู๋ “เพียงเพราะหญิงนางนี้ ก็เทียบชั้นกับข้าที่สูงส่งหาใดเปรียบได้แล้วหรือ? เพียงเพราะนาง ก็คู่ควรกับการแลกเปลี่ยนกับตัวข้าแล้วหรือ?”
ร่างกายของสวีโหรวโงนเงนขณะถูกจับเอาไว้ สีหน้าขาวซีดราวกับกระดาษในทันใด เหงื่อผุดออกมาทั้งร่าง
แต่ยิ่งเจ็บหนังศีรษะเพียงใด นางก็ยิ่งต้องกัดฟันแน่นพยายามทำให้ตนยืนตัวตรงอย่างสุดความสามารถ ไม่อย่างนั้นความเจ็บปวดก็จะทวีคูณ
ดังนั้น นางในตอนนี้จึงเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง ราวกับถูกวางเอาไว้บนกองเพลิงอย่างไรอย่างนั้น
รูม่านตาเย่หลานเฉิงขยายใหญ่ สูดหายใจ มือเล็กที่อยู่ในปากสุดท้ายก็ถูกกัดเสียจนเลือดออก ทำให้เขาส่งเสียงครวญครางออกมาเบาๆ
อวิ้ชิงลั่วได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ รีบหมุนตัวมาแล้วย่อตัวลง กอดร่างเล็กๆ เอาไว้ในอ้อมอก เอ่ยเบาๆ ข้างหูของเขา “เด็กดี ไม่เป็นไร พวกเราจะช่วยท่านแม่ของเจ้าออกมาได้ เชื่อพวกข้านะ”
“ท่านน้าชิง ข้ากลัวขอรับ” แววตาของเย่หลานเฉิงฉายแววหวาดหวั่น แม้เขาจะรู้ความและฉลาดมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเห็นชีวิตของท่านแม่ถูกแขวนไว้บนเส้นด้าย ในใจก็ยังอดตื่นตระหนกไม่ได้
อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่างเปล่าในใจ กอดเขาอย่างแรงอีกครั้งแล้วกล่าว “เจ้าไปอยู่กับท่านพี่เสี่ยวเสี่ยวทางด้านนู้นก่อนนะ เด็กดี”
“ท่านน้าชิง ข้าไม่อยากไปขอรับ”
“หลานเฉิง อีกเดี๋ยวอาจจะมีการต่อสู้รุนแรง เจ้ามีฝีมือธรรมดา หากพวกเขาลงมือกับเจ้า เกรงว่า…”
“ข้ารู้ขอรับๆๆ” เย่หลานเฉิงรีบเช็ดน้ำตา กลั้นน้ำตาเอาไว้ กล่าวเบาๆ “ท่านน้าชิง ข้าจะเป็นเด็กดี ข้าจะเชื่อฟัง ข้าจะไปแล้ว จะไม่เป็นภาระให้พวกท่านขอรับ”
อวี้ชิงลั่วลูบศีรษะเขา ปล่อยเขาแล้วยืนขึ้น พยักหน้าให้กับฟ่านเสี่ยวเสี่ยวผู้กระตือรือร้นคิดอยากจะต่อสู้ แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของอวี้ชิงลั่วแล้วก็เดินมาจูงมือเย่หลานเฉิงอย่างไร้ทางเลือก
เย่หลานเฉิงมองสวีโหรวแวบหนึ่งอีกครั้ง จากนั้นก็ตามหลังฟ่านเสี่ยวเสี่ยวไปอย่างเชื่อฟัง
แต่ขาเล็กเพิ่งจะก้าวเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงเฉียบคมของเหมิงกุ้ยเฟยดังขึ้น “เย่หลานเฉิง นี่เจ้าจะไปแล้วหรือ? ฮ่าๆ เจ้าไม่สนใจมารดาของเจ้าแล้วหรือ?”
ขาของเย่หลานเฉิงหยุดชะงักไป กัดฟัน แต่ก็ยังคงเดินไปข้างหน้า
“โอ๊ย…” ไม่นานด้านหลังก็มีเสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้น เย่หลานเฉิงรีบหันหน้าไปก็เห็นเหมิงกุ้ยเฟยหยิบมีดสั้นแล้วแทงไปที่แขนของสวีโหรวครั้งหนึ่ง
เย่หลานเฉิงอ้าปากค้าง สะบัดมือของฟ่านเสี่ยวเสี่ยวออกแล้ววิ่งไปหาเหมิงกุ้ยเฟยอย่างรวดเร็ว
อวี้ชิงลั่วมีสายตาเฉียบคมและมือที่ว่องไว รีบใช้มือดึงคนเอาไว้แล้วกอดแน่น
“ท่านน้าชิง ท่านน้าชิงปล่อยข้า นั่นแม่ข้านะ นั่นแม่ของข้า” เย่หลานเฉิงเสียใจอย่างมาก ร่างทั้งร่างสั่นเทา สายตาที่มองเหมิงกุ้ยเฟยเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
อวี้ชิงลั่วส่งเย่หลานเฉิงไปสู่อ้อมกอดของฟ่านฉี่อวิ๋น “เจ้าดูแลเขาด้วย”
ต่อจากนั้นก็หันหน้ามาจ้องเหมิงกุ้ยเฟย “จิตใจของท่านมันบิดเบี้ยวจนถึงขั้นนี้แล้วจริงๆ จุดประสงค์ของพวกท่านก็คือจัดการข้าและเย่ซิวตู๋ เอาสิ ตอนนี้ข้าจะเป็นตัวประกันให้เอง ท่านปล่อยนางเสีย”
“ชิงเอ๋อร์…” เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว สีหน้าไม่เห็นด้วย
เหมิงกุ้ยเฟยแค่นหัวเราะ “เจ้าหรือ? ข้าไม่ได้โง่นะ สวีโหรวเป็นคนอ่อนแอไร้ทางสู้ ข้าอยากจะทำอย่างไรกับนางก็ได้ ส่วนเจ้าน่ะเป็นถึงแม่นางชิง หมอปีศาจ ทั้งร่างเจ้ามีแต่ยาพิษ ข้าจะกล้าสัมผัสเจ้าได้อย่างไร?”
นางกล่าวจบก็ชักมีดออกจากแขนของสวีโหรวช้าๆ
สวีโหรวอ้าปากค้าง เจ็บเสียจนเหงื่อเย็นไหลออกมาทั้งร่าง แต่กลับกัดฟันแน่นเพื่อไม่ให้ตนร้องออกมา แล้วจะทำให้เย่หลานเฉิงต้องใจสลายอีก
เหมิงกุ้ยเฟยมองมีดสั้นเปื้อนเลือด รอยยิ้มยิ่งลึกซึ้ง ทั้งยังฉายความกระหายเลือด “แต่เจ้าวางใจเถิด วันนี้ที่พวกเจ้ามา ข้าไม่คิดจะปล่อยพวกเจ้าไปอยู่แล้ว เจ้าเองก็จะได้ตายด้วยมีดของข้า ขอเพียงฆ่าพวกเจ้าเสีย บัลลังก์ก็จะเป็นของบุตรชายข้าแล้ว”
เย่ซิวตู๋ไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น ความสนใจของเขายังอยู่ที่เหมิงซิน เขารู้ดี ในบรรดากลุ่มคนตรงหน้านี้ คนที่เป็นอันตรายและร้ายกาจที่สุดคือใคร หากไม่คอยจับจ้องยอดฝีมือเช่นนี้เอาไว้ เกรงว่าเขาจะเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา
“ท่านช่างคิดเพ้อฝันเกินไปแล้ว ท่านคิดว่าพวกข้านี้จะยอมอยู่นิ่งๆ ให้จับอย่างเชื่อฟังหรือ?” อวี้ชิงลั่วหัวเราะเย็น
ถึงแม้คนของพวกเขาจะไม่เยอะเท่าเหมิงกุ้ยเฟย แต่ทุกคนก็ล้วนเป็นยอดฝีมือ
ลู่หลานเฟิงเดินมาข้างกายอวี้ชิงลั่วอย่างเงียบๆ ถามนางเสียงต่ำ “วางยาได้หรือไม่?” เขาประมือกับคนเหล่านี้มาแล้ว พวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า “อยู่ห่างเกินไป ไม่สามารถลงมือได้ อีกอย่างเหมิงซินผู้นั้นมีความสามารถมาก เกรงว่าหากซัดผงยาแล้วก็จะถูกพบได้อย่างรวดเร็ว”
ทั้งสองคนพูดคุยกันเงียบๆ เหมิงกุ้ยเฟยทางด้านนั้นกลับหัวเราะฮ่าๆ เสียงดังออกมา “ข้าไม่ได้เพ้อเจ้อเสียหน่อย อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะได้รู้แล้ว คนของเจ้าล้วนเก่งกาจ เช่นนั้นเจ้าคิดว่าคนจากอวี้เฟิงถังของข้าล้วนเป็นพวกอ่อนหัดหรือ?”
คนจากอวี้เฟิงถังหรือ ชายชุดดำเหล่านี้… ล้วนเป็นคนของอวี้เฟิงถังอย่างนั้นหรือ?
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โอ๊ยอิป้ากุ้ยเฟย รำคาญแกแล้วนะ ชิงลั่ว ขอยาพิษแรงๆ ให้นางเลยค่ะ ขอให้นางตายทรมานดิ้นทุรนทุรายสมกับที่ทำร้ายแม่ของหลานเฉิง
ไหหม่า(海馬)