อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1059 อวี้ชิงลั่วเป็นลม
ตอนที่ 1059 อวี้ชิงลั่วเป็นลม
ตอนที่ 1059 อวี้ชิงลั่วเป็นลม
อวี้ชิงลั่วทำตามที่พูดจริง ๆ นางส่งจดหมายไปที่วังหลวง
บ่ายวันนั้น เหมียวกงกงพาเย่หลานเวยไปที่ประตูวัง และฟ่านเสี่ยวเสี่ยวก็ไปรับเขาด้วยตัวเอง
เย่หลานเวยอาศัยอยู่ในวังอยู่พักหนึ่ง ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาที่เคยอ้วนนิ่มเหมือนแก้มทารกดูซูบผอมลงไปมากจริง ๆ
เมื่ออวี้ชิงลั่วเห็น นางก็อดไม่ได้ที่จะจับแก้มเขา ว่ากันว่าในวังหลวงมีอาหารรสเลิศมากมาย และไทเฮาก็ไม่ได้รังแกเขา แล้วเหตุใดเขาถึงผอมลงไปมาก?
ดูเหมือนว่าวังหลวงจะไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาอยู่ได้จริง ๆ หากต้องการจะอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัย ก็ต้องเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อแรงกดดันได้
เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้อยู่ท่ามกลางความกดดันมากเกินไป เขาจึงทรมานตัวเองจนร่างกายผ่ายผอม
หลังจากที่ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวพาเขาเข้ามา สิ่งแรกที่เย่หลานเวยเห็นคือหนานหนานที่ยืนอยู่ข้างหน้าอวี้ชิงลั่ว
ตอนนี้เขาเชื่อใจหนานหนานมากยิ่งกว่าพ่อแม่ของตัวเอง
ทันทีที่ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวปล่อยมือ เขาก็กระโจนเข้าไปหาหนานหนานอย่างรวดเร็ว แล้วกอดเขาทันที
“หนานหนาน หนานหนาน เจ้าไม่ได้มาหาข้าที่วังหลวงตั้งหลายวัน ไม่รู้หรอกว่าข้าเหงาเพียงใด”
หนานไม่ทันได้ตั้งตัวจึงถูกเขาชนเต็มแรง เท้าทั้งคู่ไม่มั่นคง จึงถอยหลังไปสองก้าวและชนเข้ากับอวี้ชิงลั่ว
เดิมทีอวี้ชิงลั่วมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่แล้วมุมปากของนางก็กระตุก เมื่อเห็นว่าทั้งสองดูเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่พรากจากกันไปนาน
คาดไม่ถึงว่าหลังจากถูกกระแทกเช่นนี้ นางก็รู้สึกวิงเวียนโดยไม่มีสาเหตุ ใบหน้าของนางซีดลง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เท้าของนางถึงได้อ่อนปวกเปียกจนยืนไม่อยู่ จากนั้นดวงตาของนางก็มืดลง ก่อนจะเป็นลมหมดสติไป
เมื่อนางเป็นลม เสียงอุทานก็ดังขึ้น
หนานหนานรู้สึกหวาดกลัว เมื่อเห็นว่ามารดาของเขาที่แข็งแรงอยู่เสมอและแทบไม่ป่วยเลย จู่ ๆก็เป็นลม ใบหน้าของเขาซีดลงทันใด เขาผลักเย่หลานเวยออกไป ก่อนจะนั่งยองข้างอวี้ชิงลั่ว แล้วเริ่มร้องไห้ “ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่? ท่านแม่อย่าทำให้ข้ากลัวสิขอรับ”
เย่หลานเวยก็ตกตะลึงเช่นกัน เขามองมือตัวเองด้วยความเสียใจและทำอะไรไม่ถูก
พระชายาสามที่มีสายตาเฉียบคมและมือที่ฉับไว รีบดึงเขาออกไปด้านข้าง แล้วตะโกนออกไปด้านนอกว่า “ทุกคนมานี่เร็วเข้า แม่นางอวี้เป็นลมไปแล้ว”
ไม่มีใครกล้าแตะต้องนาง ยกเว้นหนานหนาน นางรีบกอดเย่หลานเวยและเย่หลานเฉิงมาอยู่ด้วยกัน
สวีโหรวยังคงนอนอยู่บนเตียงและยิ่งกังวลมากขึ้น นางยังไม่หายดี และจะเป็นลมเมื่อเสียเลือดมากเกินไป
บัดนี้นางกระวนกระวายจนพยายามลุกขึ้นจากเตียง แต่ทันทีที่นางยกผ้าห่มขึ้น อาการก็พลันกำเริบอีกครั้ง ทำให้เป็นลมหมดสติไปด้วยเช่นกัน
เพียงครู่เดียว ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความโกลาหล
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวที่ตอนแรกพาคนมาส่งแล้วหันหลังจากไป รีบเข้ามาอีกครั้งทันที
แม้ว่าอายุยังน้อย แต่นางก็มีวรยุทธ์ล้ำเลิศและกำลังภายในแข็งแกร่ง จึงรีบอุ้มอวี้ชิงลั่วไปวางลงบนเตียงในห้อง
ในขณะนี้เยว่ซินและสาวใช้คนอื่น ๆ ในตำหนักก็เข้ามาอย่างรวดเร็ว
การเป็นลมของอวี้ชิงลั่ว เป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับทุกคนในตำหนักอ๋องซิว
บางคนไปเชิญหมอเจียงทันที บางคนไปตามท่านอ๋องซิวที่ประตูเมือง บางคนก็ไปรายงานพ่อบ้านหยาง เหตุการณ์นั้นดูสับสนอลหม่าน ในไม่ช้าห้องพักฟื้นของสวีโหรวก็เต็มไปด้วยผู้คน
หนานหนานกำลังร้องไห้จนเสียงแหบแห้งอยู่ข้างใน เขาหยิบยาช่วยชีวิตทั้งหมดที่มีในตัวเขาออกมาอย่างสิ้นหวัง และกำลังจะยัดมันเข้าไปในปากของอวี้ชิงลั่ว
ทว่าฟ่านเสี่ยวเสี่ยวมีสายตาเฉียบคมและมือว่องไว นางคว้ามือของเขาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วเกลี้ยกล่อมว่า “หนานหนาน เจ้าต้องใจเย็นก่อน เราไม่รู้ว่าเหตุใดแม่นางอวี้ถึงเป็นลม แต่นางยังคงหายใจและหัวใจเต้นแรง ตอนนี้จึงไม่น่าจะเป็นอะไร อย่าเพิ่งให้กินยานี้เลย รอจนกว่าหมอเจียงจะมาเถิด”โนเวล-พีดีเอฟ
หนานหนานขยับเข้าใกล้จมูกของอวี้ชิงลั่วทันที และรู้สึกจริง ๆ ว่าแม้ว่าการหายใจของนางจะอ่อนกว่าปกติ แต่ก็ยังมั่นคง
เขาทิ้งตัวแนบหูลงกับอกอวี้ชิงลั่วเพื่อฟัง หัวใจของนางเต้นแรงไม่หยุด
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเช็ดหน้าอย่างแรง
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ และหวาดกลัว “พี่เสี่ยวเสี่ยว แล้วเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของข้ากันแน่? เหตุใดถึงเป็นลม?”
“บางทีอาจเป็นเพราะช่วงนี้เหนื่อยเกินไป แม่ของเจ้ายุ่งมากเพราะมีหลายสิ่งที่ต้องทำ บางทีนางอาจจะเหนื่อยมากก็ได้” แม้ว่าปกติฟ่านเสี่ยวเสี่ยวจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก แต่นางก็ยังสามารถจริงจังได้ในสถานการณ์เช่นนี้
“อ๋อ” หนานหนานพยักหน้า แล้วเงียบไป
เย่หลานเวยที่อยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความวิตกกังวล เขาก้าวไปหาหนานหนาน แล้วพูดอย่างประหม่าว่า “หนานหนาน ข้า ข้า ข้าไม่รู้…”
“ไปให้พ้น ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า ข้าไม่อยากคุยกับเจ้าตอนนี้” หนานหนานหันมาจ้องมองเขา แต่มือเล็กๆ ของเขายังคงจับมืออวี้ชิงลั่วไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
เย่หลานเวยตกตะลึง แล้วถอยหลังไปสองก้าวทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
พระชายาสามทนไม่ได้ นางก้าวเข้าไปเงียบ ๆ เพื่อกอดเขาและไม่ได้เอ่ยคำใด
ไม่นานหมอเจียงก็มาถึง เขาวิ่งมาตลอดทาง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อได้ยินว่าอวี้ชิงลั่วเป็นลม เขาก็ตกใจเช่นกัน
หมอปีศาจที่ร่างกายแข็งแรงจู่ๆ จะเป็นลมได้อย่างไร? นางมีสุขภาพดีอยู่เสมอไม่ใช่หรือ? ไม่เคยพูดถึงอาการบาดเจ็บใด ๆ
หรือว่าจะเป็นเพราะยาพิษ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หมอเจียงก็ยิ่งกระสับกระส่ายกว่าเดิม เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะจัดแจงเสื้อคลุมให้เรียบร้อย และรีบวิ่งตรงมาทันที
มีคนมากมายยืนอยู่หน้าห้อง เมื่อเห็นเขามาถึง พ่อบ้านหยางก็รีบไปลากเขาเข้ามา
“ท่านหมอเจียง รีบไปตรวจคุณหนูอวี้เถิด จู่ ๆ นางก็เป็นลม ทำให้นายน้อยและทุกคนตกใจมาก”
เจียงอวิ๋นเซิงพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเดินไปข้างเตียงทันที
ฟ่านเสี่ยวเสี่ยวและเยว่ซินรีบถอยออกไป เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับเขา
หนานหนานยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง และจับมือของอวี้ชิงลั่วด้วยมือเล็ก ๆ ของเขา ขณะมองไปที่เจียงอวิ๋นเซิงด้วยน้ำตาและความหวัง
“ใจเย็น ไม่ต้องกังวล หนานหนานปล่อยมือแม่ก่อน แล้วข้าจะจับชีพจรของนางเอง”
หนานหนานปล่อยมือนางทันที ขณะนี้แม่นมเซียวและหงเย่ได้ยินข่าวแล้ว จึงรีบตามเข้ามาในตำหนัก
เจียงอวิ๋นเซิงจับชีพจรของอวี้ชิงลั่วทันที ทุกคนต่างมองมาที่เขาอย่างกระตือรือร้น
หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ สีหน้าของเขาก็แปลกไป
มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย แต่คิ้วกลับขมวดอีกครั้ง สีหน้าอยากจะยิ้มแต่ต้องกลั้นไว้ มันดูแปลกมาก
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนก็ยิ่งกังวลมากขึ้น
“ท่านหมอเจียง องค์หญิงเป็นอะไรไป? ท่านบอกมาเถิด” แม่นมเซียวทนไม่ได้จึงก้าวมาข้างหน้า
ก่อนหน้านี้นางมีสุขภาพไม่ดี ทำให้ต้องพักฟื้นอยู่นาน แต่ตอนนี้นางดีขึ้นแล้ว ทันใดนั้นก็ได้ยินว่าอวี้ชิงลั่วเป็นลมอีกครั้ง นางก็รู้สึกทันทีว่าเป็นความผิดของนางที่ไม่ดูแลเจ้านายให้ดี วันนี้นางจึงรู้สึกผิดมาก
เจียงอวิ๋นเซิงชักมือกลับ แล้วหัวเราะแห้ง ๆ “ไม่ได้เป็นอะไร แค่เหนื่อยเกินไปจนเป็นลมเท่านั้น”
แต่หงเย่ไม่เชื่อ นางเห็นสีหน้าของเจียงอวิ๋นเซิงแล้วรู้สึกผิดปกติ
นางเดินตรงไปที่เตียงของอวี้ชิงลั่ว แล้ววางนิ้วบนชีพจรของนาง
หงเย่เคยเรียนร่วมกับอวี้ชิงลั่วตอนที่อยู่อาณาจักรเทียนอวี่ แม้ว่านางจะไม่ใช่หมอมืออาชีพ แต่นางก็ยังเข้าใจเรื่องชีพจรพื้นฐาน
ทว่าหลังจากนางจับชีพจรของอวี้ชิงลั่วอยู่พักหนึ่ง สีหน้าของนางก็เหมือนกับเจียงอวิ๋นเซิง
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เอ๊ะ ยังไงนะ น้องของหนานหนานจะมาแล้วหรือเปล่า? จู่ๆ ก็เป็นลมทั้งที่ร่างกายแข็งแรงเนี่ย
ไหหม่า(海馬)