อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1062 ต้องเป็นน้องสาวแน่นอน
ตอนที่ 1062 ต้องเป็นน้องสาวแน่นอน
ตอนที่ 1062 ต้องเป็นน้องสาวแน่นอน
จริงสิ เรื่องที่ข้าตั้งครรภ์คงไม่ได้บอกคนอื่นกระมัง ตอนนี้ไม่เหมาะจะพูดเรื่องนี้!
เย่ซิวตู๋เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ตะลึงไปเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ตอบสนองขึ้นมา ดูเหมือนว่า… จะจริง พวกเขาทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน ถึงแม้ในสายตาคนนอก พวกเขาจะไม่มีเหตุผลให้ใกล้ชิดกัน แต่อย่างไรเสียก็มีหนานหนานอยู่แล้ว สถานการณ์ก็แตกต่างจากคนทั่วไป
แต่การตั้งครรภ์ในครั้งนี้… ไม่มีเหตุผลสมควรอะไรต้องบอกคนอื่น
คิดถึงตรงนี้ก็คิดได้ว่าเมื่อครู่ตนนั้นตื่นเต้นและมีความสุขจึงได้บอกต่อหน้าคนรับใช้ทุกคนว่าจะตกรางวัลให้ มีความสุขเสียจนลืมทุกสิ่งไปหมด
เย่ซิวตู๋รู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย กระแอมเบาๆ หนึ่งครั้ง หัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าว “จริงๆ แล้ว ก็คงไม่เป็นอะไรเท่าไรนักกระมัง”
“จะไม่เป็นอะไรได้อย่างไร? ตอนนี้สถานะของเราสองคนไม่เหมือนเดิมแล้ว มีสายตามากมายจับตาดูพวกเราอยู่ เราจะต้องเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่น เข้าใจหรือไม่?” นางยังอยากมีชื่อเสียงอยู่ ตอนนี้นางให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมาก ให้ความสำคัญมาก อืม อย่างไรเสียภาพลักษณ์ของนางจะเสียหายเช่นนี้ไม่ได้
ไม่สิ…
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว จากนั้นก็ตอบสนอง เมื่อครู่สีหน้าของเย่ซิวตู๋ดูผิดปกติเล็กน้อย
นางหันศีรษะไปมองเขาทันที “นี่ท่านคงไม่ได้… บอกทุกคนไปหมดแล้วใช่หรือไม่”
“…” ยิ่งไปกว่านั้นเสียอีก เขายังตกรางวัลให้ทุกคนในตำหนัก ลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้อยู่ในช่วงสงคราม ต้องเก็บอาการเสียหน่อย
เย่ซิวตู๋หงุดหงิดใจเล็กน้อย ราวกับว่าตนดีใจจนเผลอตัวไปจริงๆ
แต่สมองเขาว่องไวนัก รีบกล่าว “เรื่องที่เจ้าตั้งท้อง อาจจะปกปิดได้ช่วงเวลาหนึ่ง แต่คงปิดไปตลอดไม่ได้ไม่ใช่หรือ? เมื่อเจ้าท้องโตแล้ว ไม่ช้าก็เร็วทุกคนก็ต้องรู้ เช่นนั้นแล้วก็คงไม่จำเป็นต้องปกปิด อีกอย่างตอนนี้สงครามยังไม่จบ ในเวลาสั้นๆ นี้เราเองก็ไม่มีกำลัง ทั้งยังไม่เหมาะจะแต่งงานอีกด้วย”
ดังนั้นแล้ว รอจนกระทั่งคลอดบุตรออกมาแล้วคนนอกรู้เข้ามันก็เหมือนๆ กัน
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว นี่ก็จริง
นางยื่นมือวางไว้บนหน้าท้องแบนราบ รู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนั้นที่นางข้ามภพมาก็เป็นตอนที่คลอดหนานหนานพอดี ช่วงเวลาตอนคลอดนั้นช่างยากลำบากจริงๆ ดังนั้นนางจึงไม่เคยรู้สึกถึงการตั้งครรภ์ ไม่เคยผ่านประสบการณ์ยากลำบากตลอดสิบเดือนมาก่อน
ว่ากันตามเหตุผลแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้สัมผัสถึงอีกชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่งในครรภ์
เย่ซิวตู๋เห็นว่านางไม่ได้จี้ถามเรื่องที่ตนเอาเรื่องไปป่าวประกาศ ก็ค่อยๆ ถอนหายใจโล่งอก จากนั้นจึงเอ่ยสิ่งที่ตนคิดเอาไว้ในใจออกมา “จริงๆ แล้วเจ้าเองก็ไม่ต้องเป็นกังวล ข้าคิดเอาไว้แล้ว อีกเดี๋ยวจะให้เสด็จพ่อออกแถลงการณ์ บอกว่าตอนที่พวกเราอยู่ดินแดนเหมิง เป็นเพราะท่านตาถูกคนร้ายทำร้ายจนหมดสติยังไม่ฟื้น พวกเราจึงได้แต่งงานกันในดินแดนเหมิงเพื่อให้เขาได้มีกำลังใจ เพียงแต่ว่างานนั้นไม่ยิ่งใหญ่ มีเพียงคนใกล้ชิดไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น ดังนั้นการจะเข้าห้องหอกันก็เป็นเรื่องปกติ แต่ฐานะของพวกเรานั้นแตกต่าง ตอนนี้เจ้าเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเทียนอวี่แล้ว จะทำให้เจ้ารู้สึกไม่เป็นธรรมไม่ได้ ก็จะต้องจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อชดเชยให้เจ้าอีกงานหนึ่ง”
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก หันหน้าไปมองท่าทางการพูดจาของเขาที่ดูจริงจัง ไม่กล่าวอะไรอยู่พักใหญ่
เอาเถิด ดูท่าคงทำได้เพียงเท่านี้แล้ว
อย่างไรนางก็ต้องคลอดเด็กคนนี้ออกมา หากต้องการหยุดคำติฉินนินทา คำติเตียนจากเหล่าข้าหลวง คำพูดเช่นนี้นั้นก็เหมาะสมที่สุดแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น คนพวกนั้นเองก็ไม่สามารถไปยุ่งกับทางดินแดนเหมิงได้
คิดเช่นนี้แล้ว อวี้ชิงลั่วเองก็สงบใจลงได้ ก้มหน้าลงมองหน้าท้องแบนรอบของตนอีกครั้ง ผ่านไปครู่ใหญ่ก็หันหน้าไปถามเย่ซิวตู๋ “ท่านว่า นี่เป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงหรือ?”
“ดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวข้าก็รัก”
“ปังๆๆ” ทั้งสองคนกำลังคุยกัน จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว ลงจากเตียงไปเปิดประตู
ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ก็เห็นร่างเล็กๆ พุ่งตรงเข้ามา
เย่ซิวตู๋สายตาเฉียบคมและมือว่องไว จับคนกลับมาได้ “เจ้าทำอะไรน่ะ”
“ท่านพ่อ ท่านใจร้ายเกินไปแล้ว ข้ารอมานานแล้ว ข้าอยากคุยกับน้องสาวข้า ท่านขังข้าเอาไว้ด้านนอกมาตลอดนี่คิดจะแย่งความรักไปจากข้าหรือ? ท่านเองก็มีท่านแม่แล้ว ต่อไปน้องสาวจะต้องเป็นของข้าคนเดียวนะ”
หนานหนานเอ่ยอย่างมีเหตุผลเต็มที่ ดิ้นออกจากมือของเย่ซิวตู๋สุดแรงแล้ววิ่งไปทางเตียงอีกครั้ง
โชคดีที่เขายังวิ่งไปไม่ถึงขอบเตียงก็รู้แล้วว่าต้องลดความเร็วลง โน้มตัวเข้าไปใกล้ร่างของอวี้ชิงลั่วอย่างระมัดระวัง แววตาจับจ้องที่ท้องของนางเขม็ง
อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก “หนานหนาน ยังไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิง เหตุใดเจ้าจึงตัดสินแล้วว่าเขาเป็นน้องสาวของเจ้าเล่า? ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นน้องชายก็ได้”
“เป็นน้องชายไปไม่ได้หรอกขอรับ ไม่ได้เด็ดขาด” หนานหนานพองแก้ม เงยหน้ามองอวี้ชิงลั่ว “ท่านแม่ จะต้องเป็นน้องสาวแน่”
“…เรื่องนี้แม่ตัดสินใจไม่ได้หรอกนะ”
หนานหนานนั่งอยู่ข้างเตียง มือเล็กค่อยๆ ลูบที่ท้องของอวี้ชิงลั่ว กล่าวพลางยิ้มแย้ม “ไม่เป็นไร ข้าได้ยินคนอื่นพูดว่า ขอเพียงข้าพูดว่าเป็นน้องสาวข้างๆ ท่านแม่ทุกวัน เด็กในท้องจะต้องเปลี่ยนเป็นน้องสาวอย่างแน่นอน”
อวี้ชิงลั่วกุมหน้าผาก “เจ้าไปฟังใครพูดมา?”
“ท่านน้าหย่า ท่านยายฮ่วน ท่านน้าลู่ คนอื่นๆๆๆ อีก พวกเขาล้วนกล่าวเช่นนั้น”
“…” ไอ้พวกคนชอบปล่อยข่าวลือชวนเข้าใจผิดพวกนั้น ช่างหวังจะให้โลกวุ่นวายเสียจริง
“ท่านแม่ ต่อไปท่านอย่าทำอะไรเหนื่อยเกินไปนะขอรับ หากมีเรื่องอันใดก็สั่งให้ข้าไปทำเป็นใช้ได้แล้ว ถึงแม้ข้าจะตัวเล็ก แต่ข้าก็… ข้าก็บอกให้คนอื่นไปทำได้นะขอรับ”
“อุ๊บ” จากนั้นเย่หลานเฉิงที่ตามมาด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “หนานหนาน เมื่อครู่เจ้ายังบอกอยู่ว่าสามารถทำทุกอย่างให้น้องสาวได้ เหตุใดตอนนี้จึงบอกว่าจะให้คนอื่นไปทำเสียแล้วเล่า?”
หนานหนานยู่ปาก “ข้าดูแลน้องสาว คนอื่นก็ดูแลท่านแม่ข้าอย่างไรล่ะ อย่างไรท่านแม่ของข้าก็โตแล้ว ข้าน่ะตัวเล็ก จะต้องมีหลายอย่างที่ดูแลไม่ได้ ท่านแม่เข้าใจข้า ใช่ไหมท่านแม่”
อวี้ชิงลั่วหัวเราะเหอะๆ จากนั้นก็ถอนหายใจ “มีน้องสาวก็ลืมแม่เสียแล้ว เฮ้อ ช่างปวดใจเหลือเกิน”
หนานหนานจับมือนางแล้วกล่าวปลอบ “”ท่านแม่อย่าเสียใจไปเลย มีน้องสาวแล้วข้าก็จะรักท่าน ไม่ต้องกังวลว่าท่านจะไม่เป็นที่โปรดปรานแล้วนะขอรับ”
เย่หลานเฉิงหัวเราะอย่างหนัก ผ่านไปครู่ใหญ่ก่อนจะส่ายหน้าให้หนานหนานอย่างหมดคำจะกล่าว จากนั้นเขาก็มองมาทางอวี้ชิงลั่วพร้อมแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ท่านน้าชิง ท่านแม่ข้าบอกว่า ถึงแม้ท่านจะเป็นหมอและรู้เรื่องทางด้านนี้อย่างดี แต่ข้างกายก็ยังต้องมีคนที่มีประสบการณ์อย่างแม่นมหรือหมอตำแยอยู่ด้วยจึงจะใช้ได้ขอรับ หามีพวกนางคอยดูแล ก็จะช่วยให้สบายใจขึ้นหน่อย”
เย่ซิวตู๋ที่ยืนอยู่ด้านข้างเฝ้ามองภาพที่มีความสุขของคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไปทันทีแล้วพยักหน้ารัวๆ กล่าว “กล่าวได้มีเหตุผลนัก มีเหตุผลนัก ตอนนี้ข้าจะให้คนไปหาหญิงรับใช้ที่มีประสบการณ์หน่อยมาดูแล”
ทันทีที่เขากล่าวจบก็เดินออกไปด้านนอก ใครจะรู้ว่าเพียงเดินไปถึงประตูก็ชนเข้ากับคนคนหนึ่งพอดี
คนผู้นั้นนั่งลงกับพื้น ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
อวี้ชิงลั่วกำลังคิดจะไปรั้งเย่ซิวตู๋ไว้ไม่ให้เขาไป เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็ชะงักไป ทันใดนั้นก็หันหน้าไปมอง
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ถ้าเกิดเป็นน้องชายล่ะหนานหนาน จะยังรักน้องอยู่หรือเปล่า
ไปชนใครเข้าล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)