อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1063 เข้าแถวมาสัมผัสน้องสาว
ตอนที่ 1063 เข้าแถวมาสัมผัสน้องสาว
ตอนที่ 1063 เข้าแถวมาสัมผัสน้องสาว
เพียงเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นเย่หลานเวยหดตัวอยู่ด้านหลังขอบประตูอย่างระมัดระวัง กะพริบตากลมโตราวกับกวางน้อยมองมาทางด้านนี้ ดูท่าทางหวาดกลัวอย่างมาก
เขาถูกเย่ซิวตู๋ชนเข้าจนล้มลงไปกับพื้น ไม่รอให้คนไปพยุง รีบฮึบลุกขึ้นมา ทั้งยังยืดคอมองมาทางด้านนี้
อวี้ชิงลั่วแปลกใจ แต่ก็ยังเอ่ยปากห้ามเย่ซิวตู๋ไว้ “ท่านไม่ต้องไป ไม่รู้หรือว่าสถานการณ์ด้านนอกในตอนนี้เป็นอย่างไรถึงคิดจะพาหญิงรับใช้แปลกหน้าเข้าตำหนักสุ่มสี่สุ่มห้า ท่านวางใจแต่ข้าไม่วางใจนะ ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก ที่ตำหนักนี้ยังมีหญิงรับใช้ที่มีประสบการณ์อีกไม่น้อย อีกอย่างข้างกายข้ายังมีแม่นมเซียวและหงเย่อยู่ หนึ่งในพวกเขาเป็นแม่นมเก่าแก่จากวังหลวง พบเจอเรื่องเช่นนี้มามากมายแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งก็มีวิชาแพทย์ สามารถช่วยเหลือได้มาก แล้วก็ยังมีสวีโหรวและพระชายาสาม พวกเขาล้วนมีบุตรกันแล้ว จะต้องรู้ว่ามีสิ่งใดเป็นสิ่งต้องห้ามบ้างเป็นแน่”
เย่ซิวตู๋ได้ยินประโยคนี้ก็ขมวดคิ้ว ว่ากันตามตรง เขาไม่วางใจที่จะพาคนแปลกหน้าเข้ามาในตำหนักจริงๆ
คำพูดเช่นนี้ของอวี้ชิงลั่วเองก็มีเหตุผลอยู่บ้าง ที่ตำหนักนี้เองก็มีหญิงรับใช้ที่มีประสบการณ์มากมาย น่าจะพอดูแลกันได้
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาเองก็ล้มเลิกความคิดที่จะไปหาหญิงรับใช้จากข้างนอก
อวี้ชิงลั่วจึงได้ถอนหายใจโล่งอก ก้มลงด้านล่าง มองไปยังเย่หลานเวยที่ไม่ส่งเสียงใดๆ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ด้านนอกนี่ได้ เข้ามาเถิด จะมาตากลมอยู่ด้านนอกนี้ทำไมกัน?”
เย่หลานเวยได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าดีใจ แต่ชั่วครู่ก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ขยับปากพึมพำ กล่าวเสียงเบา “ข้า ข้า ขอโทษขอรับ”
อวี้ชิงลั่วชะงัก นึกถึงเรื่องราวก่อนที่ตนจะหมดสติไปขึ้นได้ทันที จากนั้นก็เข้าใจ กวักมือเรียกเขา “เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับเจ้าหรอก เจ้าก็เพียงบังเอิญเท่านั้น เอาล่ะ อย่ามัวยืนอยู่ข้างนอกเลย เข้ามาเถิด ตั้งแต่เจ้ากลับมาจากวังหลวง ข้าก็ไม่ได้ดูเจ้าอย่างละเอียดเลย ผอมลงแล้วใช่หรือไม่?”
เย่หลานเวยได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยนของนางก็รู้สึกแสบร้อนปลายจมูก พยักหน้าอย่างแรง รีบวิ่งเข้าข้างในอย่างรวดเร็ว
“ข้าผอมลงไม่น้อยขอรับ ข้าอยู่ในวังคนเดียวไม่มีใครเป็นเพื่อน ไทเฮาก็ดูเหมือนไม่ชอบข้าเท่าไรนัก ข้าเองก็ไม่กล้าไปอยู่ตรงหน้านางบ่อยๆ ข้าคิดถึงหนานหนาน…”
เขากล่าวจบ น้ำเสียงก็หยุดลง จากนั้นก็มองหนานหนานอย่างระมัดระวัง “หนานหนาน เจ้า เจ้า ไม่ให้อภัยข้าหรือ?”
“เฮอะ” หนานหนานส่งเสียงฮึดฮัด หันหน้าหนีราวกับว่ายังโกรธอย่างมาก
เย่หลานเวยรู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างมาก เบะปากราวกับว่าจะร้องไห้ออกมา “ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ ข้าตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอเจ้าเกินไป อีกอย่าง อีกอย่างข้าชนเช่นนี้ ก็ไม่ใช่ว่าช่วยชนให้น้องสาวเจ้าออกมาหรือ ข้าเองก็…”
เพียงหนานหนานได้ยินเช่นนี้ ความคิดที่เดิมทีจะยกโทษให้เขาก็หายไปหมดสิ้น โกรธขึ้นมาจริงๆ ในทันใด “อะไรคือการที่บอกว่าเจ้าช่วยชนเพื่อให้น้องข้าออกมา น้องสาวข้าเป็นเจ้าที่ช่วยกระแทกออกมาหรือ เจ้าไม่รู้จักพูดเลยหรือไร?”
เขาส่งเสียงดังขึ้น น้ำเสียงแข็งกระด้าง แผ่รังสีขุ่นเคืองออกมาโดยไม่รู้ตัว เย่ซิวตู๋ที่ดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตา
ดวงตาของเย่หลานเวยมีหยาดน้ำตาเอ่อคลอในทันที ก่อนจะร่วงลงมาเผาะๆ “ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หนานหนานเจ้าอย่าโกรธเลยนะ ข้าจะไม่พูดเช่นนั้นอีกแล้ว”
อวี้ชิงลั่วแตะหน้าผากอย่างพูดไม่ออก รีบดึงหนานหนานกลับมา “เอาล่ะๆ หนานหนาน เจ้าเองก็อย่าฉวยโอกาสแกล้งเขาเลย เจ้ารู้ว่าที่แม่หมดสติไปนั้นไม่เกี่ยวกับเขา หากเจ้ายังกล่าวเสียงดังเช่นนี้อีก ระวังจะทำน้องสาวเจ้าตกใจล่ะ”
“หา?” หนานหนานชะงักแล้วหันหน้ากลับมา รีบอธิบายกับท้องของอวี้ชิงลั่ว “น้องสาว เจ้าอย่ากลัวเลยนะ ข้าไม่ได้โกรธเจ้า ข้าเพียงแค่ เพียงแค่เสียงดังเล็กน้อยเท่านั้น ข้าเองก็ไม่ได้โทษเย่หลานเวย พี่ของเจ้านั้นใจกว้างมากนะ ขอเพียงเจ้าไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ต่อว่าเขาหรอก”
ถึงแม้เย่หลานเวยจะรู้สึกว่าคำพูดเช่นนี้ของหนานหนานนั้นฟังดูน่าแปลกนัก แต่เขาเองก็เข้าใจ หนานหนานให้อภัยเขาแล้ว ทันใดนั้นก็ร่าเริงขึ้น รู้สึกสบายใจแล้ว
หันหน้ามามองท้องของอวี้ชิงลั่วอย่างแปลกใจ ถามเสียงเบา “ท่านน้าชิง ในท้องท่านมีน้องสาวคนหนึ่งจริงๆ หรือขอรับ ข้าจับดูได้หรือไม่”
“ไม่ได้ๆ ข้ายังไม่ได้จับเลย หากอยากจับก็ต้องให้ถึงคราวข้าก่อน จากนั้นก็เป็นเสี่ยวเฉิงเฉิง สุดท้ายก็เป็นเจ้า” หนานหนานปฏิเสธทันที จัดแจงลำดับอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องที่เย่หลานเวยเคยรังแกเสี่ยวเฉิงเฉิง เขายังจำฝังใจไม่หาย
เขากล่าวจบก็ยื่นมือออกมา
เย่ซิวตู๋ที่ยืนฟังพวกเขาคุยกันอยู่ด้านหลังก้มลงมอง เมื่อเห็นเจ้าเด็กทั้งสามคนยื่นมือออกมารอสัมผัสท้องสตรีของเขา ทันใดนั้นเขาก็ตากระตุก เส้นเลือดปูดโปน
เขาเดินหน้าไปทันทีโดยไม่กล่าวอันใด ดึงเอาแต่ละคนลงมาจากเตียง “มาแตะต้องอะไรส่งเดชกัน? ต่อให้พวกเจ้ามาจับ น้องสาวก็ยังรู้สึกไม่ได้หรอก รอให้นางรู้สึกได้เสียก่อนค่อยมาใหม่”
ตลกแล้ว เขายังไม่ได้สัมผัสลูกของตนดีๆ เลย เหตุใดจึงต้องปล่อยให้ถึงคราวของเจ้าเด็กพวกนี้เสียก่อน
มือของหนานหนานเพิ่งจะแตะไปยังท้องของอวี้ชิงลั่ว รู้สึกไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่ได้ยินท่านพ่อกล่าวเช่นนั้นก็เห็นชอบด้วยเหตุผล จึงชักมือกลับมา
เมื่อมองไปยังทั้งสองคนข้างกายก็หัวเราะฮิๆ อย่างพึงพอใจเล็กน้อย อย่างไรตนก็ได้จับแล้ว พวกเขาสองคนกลับยื่นมือออกมาเปล่าๆ ราวกับคนโง่
“นี่ก็ได้เวลาแล้ว แม่ของเจ้าตั้งครรภ์น้องสาวต้องพักผ่อนให้มาก พวกเจ้าไม่ต้องอยู่รบกวนนางที่นี่แล้ว กลับห้องไปเสีย”
เย่หลานเฉิงและเย่หลานเวยพยักหน้าอย่างเชื่อฟังทันที หมุนกายเดินจากไป
ส่วนหนานหนานกลับถลึงตามองบิดาตนด้วยความโกรธ เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่เลวร้ายอย่างมาก
เขารู้สึกได้ว่าหลังจากท่านพ่อแย่งท่านแม่ไปแล้ว ก็จะเริ่มแย่งน้องสาวไปจากตนอีก
ท่านพ่อช่างไร้ศักดิ์ศรีจริงๆ จะเอาทุกอย่างเป็นของตนเองได้อย่างไร อย่างไรก็ต้องแบ่งเขาสักคนสิ
“ท่านพ่อ ท่านแม่หลับมาทั้งวันแล้วนะขอรับ”
“อืม คนท้องก็จะซึมเซาอย่างไรล่ะ เจ้าไม่รู้หรือ?”
หนานหนานขมวดคิ้ว เหมือนว่าท่านแม่เองก็เคยกล่าวเช่นนี้ เขาเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นก็มองท้องของอวี้ชิงลั่วอย่างไม่เต็มใจเล็กน้อย หันหลังจากไป
เย่ซิวตู๋กอดอวี้ชิงลั่วด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพึงพอใจในทันที ฝ่ามือใหญ่วางอยู่บนหน้าท้องของนาง ยิ้มพลางกล่าว “เจ้าว่า ลูกของเราจะรู้หรือไม่ว่าข้าสัมผัสนางอยู่”
“…” เมื่อครู่ใครกันบอกว่าลูกยังเล็ก ไม่สามารถรับรู้ได้?
อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะกลอกตา ถอนหายใจ “ข้าว่าข้านอนดีกว่า”
กล่าวจบก็พลิกตัวกลับไปนอน
แต่นางหมดสติไปทั้งวัน บอกว่าจะหลับ แต่เอาจริงๆ ก็นอนไม่หลับแล้ว
นางพลิกตัวกลับมา หันหน้าเข้าหาเย่ซิวตู๋ ถามเขา “วันนี้ท่านอยู่กับข้าทั้งวัน ทางด้านประตูเมืองจะไม่เป็นอะไรจริงหรือ?”
เย่ซิวตู๋เห็นนางมีท่าทางกังวลอยู่ตลอด จึงกล่าวขึ้นเพื่อให้นางสงบใจลง “ย่อมไม่เป็นไรอยู่แล้ว มีทหารมากความสามารถอยู่ที่นั่นมากมาย ไม่ใช่ว่าขาดข้าไปแล้วจะทำสิ่งใดไม่ได้เลย ตอนนี้เจ้าตั้งท้องอยู่นะ ไม่ต้องสนใจเรื่องภายนอกหรอก มีข้าอยู่ ข้าไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้าเมืองมาได้หรอก”
อวี้ชิงลั่วกะพริบตา “มีคำถามหนึ่งที่ข้าสงสัยมานานแล้ว”
“หืม? คำถามอันใดหรือ?”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องออกอาการหวงลูกสาวแล้ว ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาจับก่อนเลยแม้แต่ลูกชายตัวเอง
ไหหม่า(海馬)