อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1082 สตรีของหนานหนาน
ตอนที่ 1082 สตรีของหนานหนาน
ตอนที่ 1082 สตรีของหนานหนาน
หนานหนานและหงเย่นั้นราวกับว่าคอยขวางอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอวี้ชิงลั่วโดยไม่รู้ตัว มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง
อวี้ชิงลั่ว “…”
ถึงแม้นางจะตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้บอบบางถึงขั้นนี้กระมัง ทั้งสองคนนี้ทำอะไรกัน
“โอ๊ย…” เสียงร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว ฟังน้ำเสียงนี้แล้วรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย
นางจับมือหนานหนาน กล่าวกับหงเย่ “เสียงร้องมาจากทางซ้าย เราไปดูหน่อยเถิด”
“เจ้าค่ะ” หงเย่เองก็ฟังออก เสียงนี้…ราวกับว่าไม่ใช่เสียงการถูกโจมตี
ทั้งสามคนมีหนึ่งคนนำหน้า หนึ่งคนปิดท้าย เดินไปยังทางด้านต้นกำเนิดเสียง ยิ่งเดินไปก็ยิ่งรู้สึกว่าเสียงชัดขึ้น
ต่อจากนั้นก็มีเสียงปลอบโยนอย่างกระวนกระวาย “ฮูหยินๆ อดทนอีกนิดเจ้าค่ะ กัดผ้าเอาไว้ อย่าส่งเสียงเจ้าค่ะ”
“เจ็บ เจ็บเหลือเกิน…” น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อยและเจ็บปวดของหญิงสาวยังดังลอยมาไม่หยุด แต่นางก็ยังเชื่อฟังเสียงนั้น กัดริมฝีปากแน่น ไม่ให้ตนส่งเสียงอันใดออกมา
เพียงแต่ในตอนที่ไม่สามารถรับความเจ็บปวดได้แล้วจริงๆ ก็ยังคงมีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดเกินทนดังขึ้นมา
“ฮูหยิน ท่านอดทนอีกนิดนะเจ้าคะ เสี่ยวจิ้งไปหารถม้าแล้ว รอรถมาถึงเราก็จะได้กลับจวนแล้ว ท่านทนอีกสักครู่ ท่านจะส่งเสียงไม่ได้นะเจ้าคะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการดึงดูดคนมา ชื่อเสียงของคุณหนูก็จะจบสิ้นกันนะเจ้าคะ”
พวกอวี้ชิงลั่วเดินกันมาใกล้มากแล้ว ด้านหน้าเป็นบ้านที่มีสภาพเก่าทรุดโทรมหลังหนึ่ง ราวกับว่าถูกทิ้งร้างเอาไว้ เสียงสองเสียงนั้นดังออกมาจากด้านใน
“แม่นม เจ็บเหลือเกิน เด็กคนนี้ เด็กคนนี้เกรงว่าจะรอกลับถึงจวนไม่ไหว ต้องออกมาเสียแล้ว”
อวี้ชิงลั่วและหงเย่สบตากันแล้วเข้าใจขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นี่ได้พบกับหญิงตั้งครรภ์จะคลอดบุตรเสียแล้ว
เดาว่าหญิงตั้งครรภ์มาถึงขั้นนี้โดยไม่ได้เตรียมใจอันใดไว้เลย เด็กคนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะออกมาเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่วเม้มปาก มองบ้านเก่าตรงหน้า คิดถึงตอนที่ตนคลอดบุตรเมื่อครั้งนั้นก็พบเจอสถานการณ์เช่นนี้ ข้างกายนั้นนอกจากแม่นมเก๋อแล้วก็ไม่มีใครอื่น
นางเดินเข้าไปในทันที ก็เห็นว่าที่มุมหนึ่งมีหญิงท้องโตนอนอยู่ที่มุมห้องหนึ่งจริงๆ เจ็บปวดเสียจนเหงื่อท่วมใบหน้า แต่ทำได้เพียงกัดผ้าที่อยู่ในปากเอาไว้แน่นจนมีเลือดซึมออกจากไรฟัน
ตรงหน้านางมีแม่นมที่อายุกว่าครึ่งร้อยนั่งคุกเข่าอยู่ ตกอยู่ในสภาพเหงื่อท่วมศีรษะและดวงตาแดงก่ำเช่นกัน เพียงแต่ว่ายังคงรักษาความสงบเอาไว้
เมื่อเห็นพวกอวี้ชิงลั่วทั้งสามคน แม่นมผู้นั้นก็เบิกตากว้างในทันใด แววตาตกใจมาก มาขวางไว้ตรงหน้าหญิงตั้งครรภ์ทันที “พวกท่าน พวกท่านเป็นใครกัน?”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว จะเดินไปข้างหน้า หงเย่กลับรั้งนางไว้ “คุณหนู ข้าเองเจ้าค่ะ”โนเวล-พีดีเอฟ
“ไม่ต้อง อาการของหญิงตั้งครรภ์ผู้นี้ไม่ดีเอาเสียเลย ให้ข้าดูก่อนค่อยว่ากัน”
“แต่ว่า…” แววตาของหงเย่มองไปยังหน้าท้องของอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถิด เด็กคนนี้ว่าง่ายอย่างมาก อาการของข้าเอง ข้ารู้ดี” ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อต้องเห็นหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับตนเมื่อตอนนั้น นางจะทนมองอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร
หงเย่ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงถอยออกไป
เพียงแต่แม่นมผู้นั้นจ้องมองอวี้ชิงลั่วอย่างระแวดระวัง
“พวกท่านเป็นใครกัน?”
“ข้าเป็นหมอ” อวี้ชิงลั่วเดินไปตรงหน้านาง กล่าวเสียงต่ำ “อาการฮูหยินของเจ้าไม่สู้ดีนัก คงเป็นเพราะก่อนหน้าตกใจมาก หากไม่รีบทำคลอด เกรงว่าจะรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้ทั้งแม่ทั้งลูก”
แม่นมผู้นั้นหน้าซีด จ้องมองอวี้ชิงลั่วเขม็ง จากนั้นก็เหลือบมองฮูหยินของตนที่หายใจรวยริน ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดก็กัดฟันกล่าวเสียงต่ำ “เช่นนั้น เช่นนั้นต้องรบกวนท่านหมอผู้นี้แล้ว”
กล่าวจบก็ถอยร่างไป
หนานหนานเดินไปข้างกายแม่นมผู้นั้นทันที จับมือของนางแล้วเอ่ยปลอบใจ “ท่านวางใจเถิด ฝีมือการแพทย์ของท่านแม่ข้าดีมาก นางบอกว่าช่วยฮูหยินของท่านได้ ก็จะต้องทำได้เป็นแน่ อีกอย่างท่านพี่หงเย่เองก็มีทักษะทางการแพทย์ ท่านไม่ต้องกังวล”
เห็นเด็กที่ว่าง่ายเช่นนี้ สีหน้าของแม่นมก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วมองหญิงตั้งครรภ์แวบหนึ่ง จากนั้นก็กล่าวกับหนานหนาน “เจ้าไปเฝ้าอยู่ด้านนอก อย่าให้ใครเข้ามา”
“ขอรับ” หนานหนานออกไปในทันที แต่แม่นมผู้นั้นก็ยังไม่วางใจนัก ให้เด็กคนหนึ่งไปเฝ้าหรือ จะไม่ดีเท่าไรกระมัง
อวี้ชิงลั่วกลับขมวดคิ้ว จากนั้นก็เอ่ยปากอีกครั้ง “หงเย่ เจ้าไปร้านยาที่ใกล้ที่สุด ซื้อ…”
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” หงเย่ไม่รอให้นางกล่าวจบ พยักหน้าแล้วหมุนกายจากไป
นางเองก็มองออกว่าอาการของหญิงตั้งครรภ์ไม่ดีนัก สถานการณ์เร่งด่วน ไม่สามารถสนใจอะไรได้มากนัก
อวี้ชิงลั่วก็ไม่ได้กล่าวอันใดอีก นางพอจะรู้ความสามารถของหงเย่อยู่
แต่แม่นมที่อยู่ข้างๆ นั้นกลับขมวดคิ้ว ตอบสนองในทันที “ฮูหยิน คือว่า ท่านจะทำคลอดที่นี่เลยหรือเจ้าคะ”
“อืม ฮูหยินของเจ้าถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว อีกทั้งอาการก็ไม่สู้ดี ไม่สามารถขยับได้มากนัก ทั้งยังรับแรงกระแทกของรถม้าไม่ไหว ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว การรักษาชีวิตของฮูหยินเจ้าและบุตรเอาไว้ให้ได้นั้นเร่งด่วนกว่า ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน”
“แต่…” หากคลอดบุตรข้างนอก กลับไปเกรงว่าฮูหยินจะ…
“…แม่นม การทำคลอดนี้ ฟัง ฟังคำของแม่นางท่านนี้เถิด” ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่นอนอยู่ที่พื้นมาโดยตลอด หลังจากที่ได้สติก็กัดฟันเอ่ยออกมา
“เจ้าค่ะ” แน่นอน ชีวิตของฮูหยินและเด็กสำคัญกว่า
อวี้ชิงลั่วสั่งให้แม่นมผู้นั้นไปอยู่ด้านหลังหญิงตั้งครรภ์ทันที ยกร่างของนางขึ้นเล็กน้อย
โชคดีที่ใต้ร่างของหญิงตั้งครรภ์มีเสื้อผ้าสองชั้นรองเอาไว้ ถึงแม้จะแข็งไปเสียหน่อย แต่ในบ้านร้างก็ไม่มีของที่สามารถใช้ได้แล้ว ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะไม่ดีนัก แต่ก็ทำได้เพียงยอมรับแล้ว
หงเย่กลับมาอย่างรวดเร็ว หยิบเอาโสมชิ้นหนึ่งยัดเข้าปากของหญิงตั้งครรภ์ผู้นั้น
หญิงตั้งครรภ์ผู้นั้นหายใจเข้าออกตามคำสั่งของอวี้ชิงลั่ว ลมหายใจค่อยๆ สงบลง เรี่ยวแรงก็ค่อยๆ ฟื้นกลับมา
เวลาค่อยๆ ผ่านไป ทั้งศีรษะและลำตัวของหญิงตั้งครรภ์เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
แต่เด็กกลับค่อยๆ แสดงศีรษะและเท้าอย่างช้าๆ ค่อยๆ ไถลตัวออกมาจากท้องของหญิงตั้งครรภ์
เสียง “อุแว้…” ดังขึ้น ในที่สุดเด็กคนนั้นเมื่อลงสู่พื้นอย่างสมบูรณ์ก็ส่งเสียงร้องออกมา
หนานหนานที่อยู่ด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงนี้ก็ดวงตาเป็นประกาย วิ่งเข้ามาข้างในโดยไม่กล่าวอันใด รีบไปดูเด็กอย่างกระตือรือร้น “ท่านแม่ คลอดแล้วใช่หรือไม่ คลอดแล้วใช่หรือไม่ขอรับ”
ไม่รู้ว่าหงเย่ไปนำชามใส่น้ำร้อนใสสะอาดมาตั้งแต่ตอนไหน เลื่อนมาไว้ตรงหน้าพวกเขา
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจหนานหนาน ช่วยเช็ดตัวให้เด็กอย่างระมัดระวัง
หนานหนานเขย่งปลายเท้ามอง พบว่าเด็กคนนั้นใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย ดูเหมือนว่าจะขี้ริ้วเกินกว่าที่เขาคิด จนอดไม่ได้ที่จะเอ่ยติ “ทำไมเด็กคนนี้จึงหน้าตาขี้เหร่นัก”
อวี้ชิงลั่วชะงัก ทันใดนั้นก็จ้องหนานหนานอย่างดุร้ายแวบหนึ่ง กล่าว “เด็กที่เพิ่งเกิดก็ล้วนเป็นเช่นนี้ทั้งนั้น ตอนเจ้าเกิดมาน่าเกลียดเสียยิ่งกว่านางเสียอีก”
หนานหนานมุ่ยปากแล้วเงียบไป
อวี้ชิงลั่วเห็นว่าเขาไม่กล่าวอันใดก็กังวลเล็กน้อย คำพูดของตนทำร้ายเขาเกินไปหรือไม่ นางกำลังคิดจะเอ่ยปากปลอบเขาเสียหน่อย ใครจะรู้ว่าต่อจากนั้น อยู่ๆ หนานหนานก็ปรบมือแล้วกล่าว
“ตอนข้าเกิดยังไม่น่ารักเท่านางเลยหรือ อืม แต่ตอนนี้ข้ากลับรูปงามอย่างมาก เช่นนั้นเด็กคนนี้ต่อไปก็คงจะงดงามยิ่งกว่ากระมัง อืม ท่านแม่ ข้าตัดสินใจแล้ว ต่อไปข้าจะแต่งงานกับนางให้นางเป็นสตรีของข้า คู่กิ่งทองใบหยกเช่นนี้ เหมาะสมกันดีนัก”
“…” อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก ไร้ยางอายนัก
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานไม่ดีมั้ง คิดจะเคลมน้องตั้งแต่แรกเกิดเลยเหรอ
ไหหม่า(海馬)