อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 1087 ร้องเพลง
ตอนที่ 1087 ร้องเพลง
ตอนที่ 1087 ร้องเพลง
เย่ซิวตู๋กลับนั่งตัวตรงอยู่บนหลังม้าตัวสูงใหญ่ ยิ้มออกมา
สีหน้าเย็นชานั้นเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนไม่น้อย จนไป๋อีเฟิงที่มองเห็นอย่างชัดเจนอยู่ตรงกำแพง รู้สึกตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ได้
จากนั้นทุกคนก็ได้ยินเสียงของเย่ซิวตู๋ดังขึ้น “ร้องเพลงหรือ”
“ทำไมหรือ คงไม่ใช่ว่าท่านอ๋องซิวร้องไม่ได้กระมัง”
“ข้าย่อมร้องได้ ทว่าชีวิตนี้ข้าเคยร้องให้ชิงเอ๋อร์ฟังเพียงคนเดียว นี่เป็นสิทธิ์ของชิงเอ๋อร์ผู้เดียวเท่านั้น เหตุใดข้าจะต้องร้องให้คนอย่างพวกเจ้าฟัง และทำลายความรู้สึกเล็กๆ นี้ระหว่างข้ากับชิงเอ๋อร์ด้วยเล่า”
“ว้าว…” คำพูดนี้ช่างดูกล้าหาญนัก เหล่าชายหนุ่มพากันเบิกตากว้าง
ส่วนหญิงสาวต่างพากันดวงตาแดงก่ำ อิจฉาองค์หญิงเทียนฝูที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นพิเศษจากท่านอ๋องซิวแต่เพียงผู้เดียว โดยเฉพาะเหล่าประชาชนที่ติดตามขบวนแต่งงานมาเพื่อชมความคึกครื้นก็พากันยกมือตะโกน
หญิงสาวในกลุ่มคนก็พากันสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ “จริงด้วย นี่เป็นการปฏิบัติเป็นพิเศษต่อองค์หญิงเทียนฝู คนอื่นๆ จะได้รับด้วยได้อย่างไร” ถึงแม้จริงๆ แล้วพวกนางจะอยากฟังก็เถอะ…
ไป๋อีเฟิงกัดฟัน ไอ้เจ้าเย่ซิวตู๋เวรนี่ ช่างมีชั้นเชิงเจรจานัก ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไรเขาก็ต้องร้องเพลง ไป๋อีเฟิงสบตากับองค์ชายทั้งสองทันที ดึงลู่หลานเฟิงเข้ามาด้วย สองสามคนกำลังคิดจะกล่าวอันใดต่อ ก็เห็นเย่ซิวตู๋เอ่ยปากอย่างเรียบเฉย
“แต่ในเมื่อพวกเจ้าอยากฟังเพลงจึงจะเปิดประตู ตั้งแต่สมัยโบราณนั้น พ่อเป็นหนี้ก็ให้ลูกชดใช้ ตอนนี้บุตรชายของข้ายังไม่มีหญิงสาวเป็นของตน ก็น่าจะทำให้พวกเจ้าพึงพอใจได้”
กล่าวจบ เขาก็มองไปยังหนานหนานที่อยู่ด้านข้าง “เจ้าจะร้องหรือไม่”
เย่หลานผิงที่ตามมาด้วยท้ายขบวนก็คิดถึงตอนที่พบหนานหนานเป็นครั้งที่สองทันที เด็กคนนี้บังคับให้เฉินจีซินแม่ลูกร้องเพลง ‘พิชิตราบคาบ’ แล้วก็ตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ได้
แน่นอนว่าหนานหนานที่นั่งอยู่บนหลังพยัคฆ์ทมิฬอุ้มเจ้าหมาป่าน้อยอยู่นั้น ดวงตาเปล่งประกายและกระตือรือร้นอยากลองตั้งนานแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงที่ท่านพ่อตนกล่าว ถึงแม้จะไม่พอใจที่เขาบอกว่าไม่มีหญิงสาว แต่การร้องเพลงเป็นเรื่องถนัดของเขา เขาชอบแสดงออกมาก และชอบการฝึกร้องเพลง
ดังนั้นเขาจึงไม่กล่าวสิ่งใด ไม่สนใจสายตาของไป๋อีเฟิงบนกำแพงที่พยายามส่งมาให้เขา ตอบรับเสียงดัง “ข้าจะร้อง”
เย่ซิวตู๋พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม “เริ่มได้”
“เอ๋ ท่านอ๋องซิว นี่…” ไป๋อีเฟิงอยากจะห้ามในทันที
แต่หนานหนานไม่ให้โอกาสเขาเลย เพียงส่งเสียงออกมา น้ำเสียงที่ฟังดูเด็กและคมชัดถูกร้องออกมาในทันใด
“บรรพตนี้มีมรรคาสิบแปดคด ทวารใหญ่นี้ยากจะทลาย ท่านลุงที่นี่ช่างชั่วร้าย นั่งยองๆ อยู่บนกำแพงช่างน่าชัง…”
องค์ชายทั้งสองที่ย่อตัวนั่งอยู่บนกำแพงจัดแจงเสื้อผ้าแล้วเด้งตัวขึ้นอย่างสง่างามทันที ไป๋อีเฟิงอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เมื่ได้ยินเสียงหนานหนานร้องว่าจะให้หมาป่ามากัดพวกเขาเขาก็รีบโบกมือ บอกให้เขาหยุด “เอาล่ะๆๆ ผ่านด่านสองได้”
เย่ซิวตู๋ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ หนานหนานไม่พอใจเล็กน้อย เขายังร้องไม่จบเลย…
ไป๋อีเฟิงคิด อีกเดี๋ยวเขาจะต้องคุยกับหนานหนานหน่อยแล้ว เจ้าเด็กนี่ช่างกินที่ลับไขที่แจ้งนัก
ไม่แปลกเลย ไม่แปลกเลยว่าเย่ซิวตู๋จะให้หนานหนานอยู่ในขบวนรับเจ้าสาวด้วย นี่เห็นได้ชัดว่าหาตัวผู้ช่วยที่แข็งแกร่งที่สุดได้แล้ว ไอ้คนชั่วหน้าเนื้อใจเสือ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ ไอ้คนชั่ว!!
แววตาของเย่ซิวตู๋จ้องมองไป๋อีเฟิงที่ยังนั่งตัวตรงอยู่บนกำแพงด้วยแววตาเต็มไปด้วยประกายไฟ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ด่านที่สามเล่า”
ด่านที่สาม… ด่านที่สาม… ด่านที่สาม… ไปอีเฟิงมองไปยังหนานหนานที่อยู่ข้างๆ แสดงออกว่า… เขายอมแพ้
“ข้าเห็นว่านี่ก็ได้เวลาแล้ว เช่นนั้น ท่านอ๋องขอเพียงต้องให้อั่งเปาเพื่อเปิดประตู ให้คนในประตูใหญ่พึงพอใจ เท่านั้นก็เข้าประตูได้แล้ว”
ไป๋อีเฟิงกล่าวจบก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ที่ลานบ้านนี้มีคนไม่น้อย อีกทั้งทุกคนยังหิวโหยอย่างมาก ดูสิว่าพวกเจ้าจะรับมืออย่างไร
ยังดีที่เมื่อพูดถึงอั่งเปา เย่ซิวตู๋กลับใจกว้างอย่างมาก กล่าวกับโม่เสียน เสิ่นอิง และเหวินเทียนทั้งสามคนที่ด้านหลังโดยตรง “นำอั่งเปาออกมาเสีย”
เพียงเขากล่าวจบ ทั้งสามคนก็หยิบอากระเป๋าที่อยู่ข้างตัวม้าออกมา เหล่าประชาชนที่อยู่รอบๆ ต่างก็ร้องออกมาอย่างประหลาดใจ ดูท่าทางเต็มกระเป๋านั้น ช่างมีเงินเยอะเหลือเกินจริงๆ
ไป๋อีเฟิงกลับหัวเราะอย่างพึงพอใจ หัวเราะเย้ยหยันครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าเงินจะมากเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้คนที่อยู่ในประตูเหล่านี้พึงพอใจได้
แน่นอนว่าเงินแท้ก็ดี เงินแท่งก็ดี เงินเหรียญก็ดี ไม่ว่าจะให้มากเพียงใด ไป๋อีเฟิงก็จะเอาแต่ร้องว่าไม่พอๆ จนคนในประตูเก็บเงินกันอย่างยากลำบาก
“ท่านอ๋องซิว นี่ไม่ได้เชียว เงินนี้ยังไม่พอให้เด็กๆ แบ่งกัน ผู้ใหญ่กลับไม่มีเลยสักแดง วันนี้พวกท่านเตรียมมาพอหรือไม่”
เย่ซิวตู๋กลับยิ้มไม่กล่าวอันใด ท่าทางดูใจเย็น
แต่หนานหนานที่อยู่ด้านข้างนั้น หลังจากเห็นกระเป๋าในมือเหวินเทียนว่างเปล่า ก็เศร้าใจและโกรธเกรี้ยวขึ้นมา
“ไม่ต้องให้แล้วๆ ท่านลุงไป๋ พวกท่านรีบเปิดประตูเสีย”
รอยยิ้มที่มุมปากของไป๋อีเฟิงแข็งทื่อไป ทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมอย่างอดทน “หนานหนาน นี่ก็เพื่อแม่ของเจ้า ท่านพ่อเจ้าให้เงินเยอะ ก็จะแสดงให้เห็นว่าท่านแม่ของเจ้าสำคัญ รู้หรือไม่”
“ไม่รู้ล่ะ” หนานหนานตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ “ท่านแม่จะสำคัญหรือไม่ ไม่ได้วัดด้วยการใช้เงินทอง ท่านพ่อข้าให้ท่านแม่ได้แม้แต่ชีวิต เท่านั้นก็เพียงพอที่จะบอกว่านางสำคัญมากแล้ว อีกอย่าง เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของข้า เงินของท่านแม่ต่อไปก็จะเป็นของข้า ข้ายังต้องเลี้ยงน้องสาว ข้ามีความรับผิดชอบใหญ่หลวง ท่านให้พ่อข้าเอามาแจกเช่นนี้ ต่อไปข้าและน้องสาวข้าจะกินอะไรเล่า?”
เจ้าคนขี้เหนียวนี่ เงินที่บ้านเขามีให้นับอย่างไรก็นับไม่หมด เขากลับมาเถียงในเรื่องนี้
เย่ซิวตู๋ยังคงยิ้มอย่างสบายใจ ผ่านไปครู่ใหญ่ก็กวักมือเรียกหนานหนาน กล่าวที่ข้างหูเขาสองประโยค
หนานหนานยังคงไม่พอใจนัก แต่ก็ยังเห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจ
จากนั้นหนานหนานก็เดินไป หยิบเอาเงินที่ยังเหลืออยู่ในมือโม่เสียนและเผิงอิง เขย่งเท้าแล้วกระโดดขึ้นไปบนกำแพง
มองลงไปข้างล่าง ที่พื้นล้วนมีแต่เงิน ในประตูนั้นไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ เจ้านาย หรือคนรับใช้ ล้วนเก็บเงินเสียจนเต็มกำมือ แววตาสีหน้ามีเลือดฝาด ท่านลงไป๋กลับยังบอกว่าไม่พอ ยังจะบอกว่าไม่พออีก นี่มันจงใจรีดเลือดจากท่านพ่อชัดๆ
เมื่อไป๋อีเฟิงเห็นหนานหนานกระโดดขึ้นบนกำแพงก็ผงะไปทันที ยังไม่ทันได้เอ่ยอันใดก็เห็นหนานหนานฉีกถุงเงินที่เหลืออีกสองใบในมือ แล้วโปรยลงไปด้านล่าง
เงินหล่นลงไป ทุกคนล้วนไปเก็บอย่างตื่นเต้น แม้แต่คนที่อยู่ตรงประตูก็หายไปแล้ว
ไป๋อีเฟิงโกรธมาก เงยหน้ามาก็เห็นหนานหนานจ้องมองตนอย่างคุกคาม
เขากลืนน้ำลาย บ่งบอกว่าตั้งแต่หนานหนานมีน้องสาวก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
เขาลงมาจากกำแพงอย่างเงียบๆ ผลักคนที่ขวางประตูออกไปอย่างเงียบๆ ใช้มือยกกลอนประตูออกอย่างเงียบๆ เปิดประตูใหญ่ขึ้นอย่างเงียบๆ ต้อนรับพวกเย่ซิวตู๋เข้ามาอย่างเงียบๆ
แม่นมเซียวที่อยู่ไม่ไกลถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยังดีที่เข้ามาได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฤกษ์งามยามดีจะล่าช้าออกไป
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องเหลี่ยมจัดไม่แพ้กันนะ คิดจะมาลบเหลี่ยมท่านอ๋องต้องวางแผนให้ดีกว่านี้
ไหหม่า(海馬)