อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 141 ได้เจอกับอะไร
ตอนที่ 141 ได้เจอกับอะไร
ขันทีและนางข้าหลวงเหล่านั้นที่ยืนอยู่ด้านหลังไทเฮาเริ่มกลั้นหัวร่อไม่ไหวอีกต่อไป แม้แต่ทหารองครักษ์ที่เพิ่งใช้มีดพาดลงบนลำคอของหนานหนานก็ถึงขั้นมุมปากกระตุกเพราะทนไม่ไหว พยายามข่มรอยยิ้มที่มุมปากกันอย่างหนักหน่วง
อยู่ในวังมานานขนาดนั้น มีใครบ้างที่ไม่แสดงความเคารพนอบน้อมเมื่อเจอไทเฮา? มีใครบ้างที่ไม่พึงระวังวาจาและการกระทำ? มีใครบ้างที่ไม่คิดให้นานก่อนที่จะเปล่งเสียงพูดออกมา? แม้แต่ฮ่องเต้ก็ไม่เคยทำตัวกำเริบเสิบสานเช่นนี้ พระองค์รักษากิริยามารยาทและตรัสอย่างระมัดระวัง
เจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากที่ใด คำพูดคำจาที่ออกมาจากปากล้วนออกมารวดเดียวโดยไม่คิด ประจบประแจงอย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็ทำให้คนรู้สึกชื่นชอบ
หางพระเนตรของไทเฮาปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ จ้องมองเด็กคนนี้ด้วยความโปรดปราน พระหัตถ์ขาวผ่องคู่นั้นยื่นออกมา “เด็กคนนี้น่าสนใจดีนะ มาสิ เข้ามา เราจะให้บางอย่างกับเจ้า”
ผู้ที่อยู่เบื้องสูงเป็นเช่นนี้เสมอมา เมื่ออารมณ์ดี ทัศนคติย่อมเปลี่ยนแปลง
หนานหนานมองมือข้างนั้นที่ยื่นมาหามือของตนเอง เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายจะมอบของให้ ดวงตาพลันเป็นประกายแวววาว มือเล็ก ๆ รีบจับไปที่มือของอีกฝ่าย ก่อนจะกระโดดโหยงเหยงเดินตามเข้าไปด้านใน “ไทเฮาเหนียงเหนียง ท่านจะให้รางวัลข้างั้นหรือ? อันที่จริงหนานหนานไม่ได้มีสิ่งที่ต้องการหรอก ขอแค่ไทเฮาบอกข้ามาว่า เพราะเหตุใดไทเฮาถึงได้นิสัยดีขนาดนี้ก็พอแล้ว”
“เหอะ ๆ เด็กคนนี้นี่จริง ๆ เลย ดวงตาคู่นั้นเอาแต่จ้องเขม็งแล้ว แต่ยังแสร้งทำเป็นไม่อยากได้อีก” เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้มีความฉลาดปราดเปรื่องสุด ๆ
หนานหนานแย้มยิ้ม “ไทเฮาเหนียงเหนียง แม้แต่สิ่งนี้ท่านก็มองออกด้วยหรือ? ว้าว ท่านมีสายตาที่เฉียบแหลมจริง ๆ สุดยอดเลย ข้าชื่นชมท่านประหนึ่งกระแสวารีที่ไหลเชี่ยว…”
เหล่านางข้าหลวงและขันทีที่เดินตามหลังเหล่านั้นรู้สึกทึ่งมาก นี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเด็กคนหนึ่งใกล้ชิดกับไทเฮามากขนาดนี้
“เอาล่ะ ๆ เหตุใดปากเล็ก ๆ ของเจ้าถึงได้เอาแต่พูดมากมายขนาดนั้น ไม่กระหายบ้างเลยหรือ?” ไทเฮาถึงกับจนปัญญา เจ้าตัวเล็กช่างประจบคนนี้มิรู้ว่าไปเรียนสิ่งเหล่านี้มาจากที่ใด ตัวเล็กนิดเดียวแต่กลับทำให้คนอื่นมีความสุขได้ หลังจากนี้ฝีปากจะขนาดไหน?
หนานหนานกลืนน้ำลาย พูดตามตรง เขาเองก็เริ่มกระหายแล้วจริง ๆ นั่นแหละ
“หากไทเฮาเหนียงเหนียงได้ฟังคำพูดของข้าแล้วรู้สึกมีความสุข ข้าก็ไม่กระหายแล้ว”
ไทเฮาแย้มพระสรวล จับมือเขาเดินเข้าไปด้านใน รับสั่งให้คนนำชาดอกไม้กลิ่นหอมอ่อน ๆ มาให้เด็กน้อย ทั้งยังสั่งให้คนนำผลไม้แช่อิ่มมาวางไว้ตรงหน้าเขาด้วย
หนานหนานไม่เคยปฏิเสธของกิน น้ำลายของเขาจึงเริ่มไหลอย่างบ้าคลั่งอย่างห้ามไม่อยู่
ทว่ามารยาทที่พึงมีก็ยังต้องมีอยู่ ท่านแม่บอกว่าสตรีมีสายตาระแวดระวัง เมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีต้องใส่ใจในรายละเอียด
ดังนั้น หนานหนานจึงรีบไหลตัวลงมาจากด้านบนเก้าอี้ ค้อมกายทำความเคารพอย่างนอบน้อมต่อหน้าไทเฮา “ขอบพระทัยไทเฮา”
การแสดงมารยาทของเขาไม่ได้ตรงตามมาตรฐาน ทว่าศีรษะที่แกว่งไปมากลับทำให้ดูน่ารักอย่างน่าประหลาด ไทเฮาจิบพระสุธารสชาหนึ่งอึก มิได้ตรัสสิ่งใดให้มากความ “กินเถิด”
ความอยากอาหารของหนานหนานมากขึ้นอย่างฉับพลัน เขาคว้าผลไม้แช่อิ่มยัดเข้าปากสองชิ้น ระหว่างที่เคี้ยวก็พูดไปพลาง ๆ ว่า “อืม อร่อย อร่อยมากเลย ของของไทเฮาเหนียงเหนียงไม่เหมือนใคร พอได้กินก็ทำให้ข้ารู้สึกอยากกินเป็นครั้งที่สอง อืม ไทเฮาเหนียงเหนียง ข้าขอนำกลับไปให้เสี่ยวเฉิงเฉิงกินด้วยได้หรือไม่?”
ไทเฮาสั่งให้ลวี่ฝูเช็ดปากให้หนานหนานด้วยรอยยิ้ม พยักหน้าตรัสว่า “เจ้ามีน้ำใจ เราจะให้คนนำไปส่งให้สักหน่อย”
หนานหนานยิ้มตาหยีอีกหน ทว่าภายในใจกลับกำลังนึกถึงรางวัลที่ไทเฮาตรัสถึง ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด ได้ราคาหรือไม่ หากนำไปขายจะได้เงินกลับมามากหรือไม่
เฮ้อ ไข่มุกราตรีที่เย่หลานผิงให้เขาคราก่อน เขายังไม่ได้นำออกไปแลกเป็นเงินเลย ปวดใจชะมัด
ระหว่างที่หนานหนานกำลังส่ายหน้าครุ่นคิด ของหวานสองถาดที่อยู่บนโต๊ะก็ถูกเขากวาดลงท้องจนหมดเกลี้ยง
ลวี่ฝูที่อยู่ข้าง ๆ ถึงกับอ้าปากค้าง ความอยากอาหารนี้ดีเกินไปหน่อยกระมัง?
ไทเฮาลอบตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเกิดความรู้สึกจนปัญญา ท้องของเด็กคนนี้ดูเล็กกระจิริด แต่กลับใส่อาหารเข้าไปได้มากถึงขั้นนั้น
“ลวี่ฝู ไปนำหยกแขวนเหรินอวี๋ในห้องของเราออกมา”
“เพคะ” ลวี่ฝูเดินออกไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าหยกแขวนเหรินอวี๋จะเทียบกับรางวัลที่มีราคาเหล่านั้นไม่ได้ แต่ก็เป็นของที่ไทเฮาทรงหวงแหน ไทเฮามอบหยกแขวนชิ้นนี้ให้เด็กคนนี้ เห็นได้ชัดว่าพระนางคงโปรดปรานตั้งแต่แรกเห็น
เพียงไม่นาน ลวี่ฝูก็เดินถือกล่องใบหนึ่งเข้ามา
หนานหนานทำท่าทางราวกับถูกเข็มยาวทิ่มก้น ชะเง้อหน้ามองด้วยความร้อนใจเพราะอยากเห็นว่าหยกแขวนชิ้นนั้นเป็นของหายากหรือไม่
ไทเฮาเห็นท่าทางเช่นนั้นของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะสรวลออกมา โบกพระหัตถ์เรียกให้เขาเดินเข้ามา
“เก็บหยกชิ้นนี้ให้ดี หลังจากนี้อาจช่วยเหลือเจ้าได้” ไทเฮาวางของอุ่น ๆ ขนาดเล็กลงบนฝ่ามือของหนานหนาน ทั้งยังแย้มยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ลึกซึ้ง
หนานหนานรีบกางฝ่ามือเพื่อดู พูดตามตรง มันก็แอบ…เล็กไปหน่อยจริง ๆ นั่นแหละ มีขนาดแค่ครึ่งฝ่ามือของเขาเท่านั้น
ทว่า นี่เป็นรางวัลที่ไทเฮามอบให้ เขาย่อมต้องกล่าวขอบคุณ
“ข้าชอบมาก ขอบพระทัยไทเฮาเหนียงเหนียง”
“ชอบก็ดีแล้ว” ไทเฮาประทับยืดตัวตรง จิบพระสุธารสชาหนึ่งคำ สายพระเนตรหรี่ลงเล็กน้อย “หนูน้อย เจ้าบอกเราได้หรือไม่ เหตุใดฮ่องเต้ถึงให้เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนหลานเฉิง”
นี่ ๆๆ เขาว่าแล้วเชียว ของที่ไทเฮาให้มาย่อมไม่ได้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ตอนนี้เขาคงต้องทดแทนแล้วสิ
หนานหนานก้มหน้ามองหยกแขวนที่ถืออยู่ในมือด้วยรอยยิ้มชื่นชมยินดี ระหว่างนั้นก็แสร้งทำเป็นไร้เดียงสากล่าวว่า “คาดว่าพระองค์คงคิดว่าหนานหนานฉลาดปราดเปรื่องจึงทำให้พระองค์มีความสุขกระมัง ดังนั้นจึงให้หนานหนานเรียนรู้และพัฒนาไปพร้อม ๆ กับเสี่ยวเฉิงเฉิงด้วย หลังจากนี้จะได้กลายเป็นผู้มีความสามารถที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร”
ไทเฮาลอบถอนหายใจ เจ้าเด็กคนนี้แม้แต่ชื่นชมตนเองก็ไม่เว้น
“แล้วเจ้ารู้จักกับฮ่องเต้ได้อย่างไรหรือ?”
“อ๋อ เรื่องนี้น่ะหรือ เรื่องนี้หากให้พูดก็คงยาว” หนานหนานเก็บหยกแขวนอย่างระมัดระวัง เงยหน้าพูดด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ “ช่วงกลางคืนที่มืดมิดและมีลมหนาวเหน็บ ตอนที่หนานหนานกำลังนอนน้ำลายไหลไม่รู้วันรู้คืนฝันว่าตนเองมีเงินเป็นกอบเป็นกำอยู่ในบ้าน จู่ ๆ ก็มีคนใส่ชุดสีดำสองคนวิ่งเข้ามา ข้าถามพวกเขาว่าชื่ออะไร โฮ่ สองคนนั้นกลับไม่ตอบข้า กระชากผ้าห่มออก จากนั้นก็มัดตัวข้าไว้ หลังจากนั้นก็บิน บิน บิน บิน บิน บิน…”
“แค่ก หนานหนาน…” ไทเฮาถึงกับมีขีดสีดำสามขีดผุดขึ้นที่ขมับ
หนานหนานรีบเงียบขรึมทันใด แย้มยิ้มกล่าว “ขออภัย พูดนอกเรื่องไปแล้ว ถึงอย่างไรก็บิน บิน บิน บิน บิน บินแล้วก็บิน หนานหนานถูกคนเหล่านั้นจับบินจนมึนหัวไปหมด ข้าตะโกนด่าคนพวกนั้นตลอดทาง แต่หนานหนานเป็นผู้ดีเกินไป พวกเขาย่อมคิดว่าหนานหนานยังด่าไม่รุนแรงมากพอ ดังนั้นจึงไม่สนใจข้า”
ไทเฮาเริ่มปวดพระเศียรแล้ว นี่เขากำลังพูดนอกเรื่องมิใช่หรือ?
“หลังจากนั้น พวกเขาคงคิดว่าหนานหนานทำตัวน่ารำคาญเกินไป จึงทุบจนหนานหนานหมดสติ เวลาล่วงเลยผ่านไปนานน้านนาน หนานหนานก็ได้สติกลับมา ไทเฮาเหนียงเหนียง ท่านเดาสิ หนานหนานได้เจอกับอะไร?”
…………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หนานหนานแสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว ขนาดไทเฮายังปวดหัว
ไหหม่า(海馬)