อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 210 หนานหนานถูกจับ
ตอนที่ 210 หนานหนานถูกจับ
ตอนที่ 210 หนานหนานถูกจับ
เย่ซิวตู๋ค่อย ๆ หรี่ตาลง หัวหน้าของสำนักแพทย์หลวงเช่นนั้นหรือ? ดวงตาของชายหนุ่มจับจ้องไปที่ท่านหมอเริ่นอย่างเงียบ ๆ แต่เมื่อชายชราได้ยินชื่อของเหมิงกุ้ยเฟย สีหน้าของเขาก็ดูผิดปกติไป
ตอนที่ได้ยินคำว่าหัวหน้าของสำนักแพทย์หลวง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ม่านตาเบิกกว้างและเริ่มที่จะทรงตัวไม่ได้เล็กน้อย
เย่ซิวตู๋เม้มริมฝีปาก มองดูแล้วเหมิงกุ้ยเฟยจะสนใจในสำนักแพทย์หลวงเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มจับที่รองแขนและจ้องมองไปยังเย่ฮ่าวหราน
เย่ฮ่าวหรานมึนงง เหมิงกุ้ยเฟยต้องการให้ท่านเสิ่นเป็นหัวหน้าสำนักแพทย์หลวงเช่นนั้นหรือ? และยังต้องการให้ท่านเสิ่นทำเรื่องอะไรบางอย่างแทนนาง?
แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องเช่นนี้
โชคดีที่เขาหัวไว และกลับมายิ้มเย็นชาอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าสำนักแพทย์หลวงเช่นนั้นหรือ? หึ เจ้าคิดว่ากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงจะตรัสเช่นไร? นั่นก็เป็นเพียงแค่การตรวจสอบคุณธรรมของการเป็นแทพย์ของเจ้าเพียงเท่านั้น ซึ่งก็เป็นคำแนะนำของเสด็จพ่อ แต่ผลที่ออกมานั้นกลับทำให้เสด็จพ่อและเหมิงกุ้ยเฟยต้องผิดหวัง ทักษะฝีมือของท่านเสิ่นช่างธรรมดายิ่งนัก อีกทั้งยังไร้ซึ่งจรรยาบรรณแพทย์เพียงเพราะเพื่อแสวงหาอำนาจ ตำแหน่งและเงินทอง บุคคลไร้ซึ่งความสามารถและคุณธรรมเช่นนี้ เสด็จพ่อไม่มีทางใช้ให้ทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญอย่างแน่นอน”
ผู้คนที่กำลังจ้องมองมาอยู่ก็ตระหนักได้ว่าแท้ที่จริงแล้วก็เป็นเช่นนี้ ฮ่องเต้ไม่ได้ไว้วางพระราชหฤทัยชายผู้นี้มาตั้งแต่แรก
อีกอย่าง ฝ่าบาทที่ทรงมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล เหตุใดจึงทรงหลงเชื่อไปกับคำพูดไร้สาระเช่นนี้ได้? ถ้าแม้แต่พระองค์ยังถูกหลอกลวง เช่นนั้นแล้วศักดิ์ศรีของราชวงศ์จะเอาไปวางไว้ที่ใด?
องค์ชายทั้งสามและคนอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณชั้นสองต่างก็จับจ้องกัน ไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะลุกลามมาได้ถึงจุดจุดนี้ เดิมทีพวกเขาเองก็คิดว่าอยากจะมาดูเรื่องน่าขบขันของเย่ซิวตู๋และมาดูท่านเสิ่นพ่ายแพ้แล้วถูกเปิดโปง แต่ละคนก็อยากจะมาชื่นชมยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น ครั้งนี้เหมิงกุ้ยเฟยขายหน้าเป็นอย่างมาก และเรื่องทั้งหมดของวันนี้ก็เป็นเพราะเย่ซิวตู๋ ชายหนุ่มกับเหมิงกุ้ยเฟยนั้นเป็นดั่งน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้
คาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เย่ฮ่าวหรานก็ปรากฏตัว อีกทั้งยังมาพร้อมกับคำสั่งของเสด็จพ่อเพื่อลงโทษท่านเสิ่น
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่เพียงแต่มองไม่เห็นเรื่องขบขันของเย่ซิวตู๋ แต่กลับทำให้พวกเขาเห็นเรื่องน่าขบขันของคนไม่กี่คนในกลุ่ม ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
เหล่าองค์ชายเริ่มอยู่ไม่สุข ภายในใจของพวกเขารู้สึกเกลียดชังและขุ่นเคือง แต่ละคนต่างก็กัดฟันขณะมองดูเย่ฮ่าวหรานที่อยู่ชั้นล่าง
“สมควรตาย เรื่องนี้ทำไมเสด็จพ่อจึงไม่ให้ข้ามาจัดการล่ะ? เหตุใดจึงให้เจ้าแปดกระทำ?”
“นั่นสิ เรื่องนี้ไม่มีเค้ามาก่อนเลย พวกเราต่างก็ถูกปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ หากว่าเสด็จพ่อทรงทราบอยู่แล้วว่าท่านเสิ่นเป็นหมอปลอม เหตุใดจึงยังไม่ไล่เขาออก? โทษหลอกลวงเบื้องสูงของเขานับว่าร้ายแรงนัก” ความรักความเมตตาอะไร ชายหนุ่มไม่เชื่อหรอก
องค์ชายหกยังคงสงบนิ่งและยกชาขึ้นมาดื่มโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เขากลับคิดว่าเสด็จพ่อไม่ได้มองสถานะของชายแซ่เสิ่นออกตั้งแต่แรก แต่กลับมารับรู้ในภายหลัง เมื่อครู่เด็กตรงโต๊ะนั่นไม่ได้พูดออกมาแล้วหรือ? ว่าเขาเองเป็นคนที่บอกเสด็จพ่อ
ปัญหาคือเด็กคนนั้นรู้ว่าชายสกุลเสิ่นแอบอ้างตัวตนได้อย่างไร
ยิ่งองค์ชายหกครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องราวต้องมีความลึกลับซับซ้อนยิ่งขึ้น ชายหนุ่มค่อย ๆ หรี่ตาลงพลางวางแก้วชาไว้บนโต๊ะก่อนที่จะหันกลับไปมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ชั้นล่าง
เย่ฮ่าวหรานมองดูท่านเสิ่นที่หมอบลงไปกับพื้นด้วยสายตาเย็นชา ชายหนุ่มยิ้มขึ้นก่อนจะเอ่ยออกมา “ท่านเสิ่น การประลองในวันนี้เป็นการเปิดโลกให้กับเราอย่างยิ่ง ท่านเองก็สามารถตายได้เลยในเวลานี้ ท่านไม่เพียงแต่ได้พบกับหมอปีศาจ แต่ยังได้ประลองฝีมือกับหมอปีศาจ ถึงแม้ว่า…จะพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช”
เย่ฮ่าวหรานว่าพลางหันไปมองอวี้ชิงลั่ว รอยยิ้มบนใบหน้าชายหนุ่มดูประจบสอพลอเล็กน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
อย่างน้อยในสายตาของหลีจื่อฟานก็เห็นเหตุการณ์เช่นนี้
ถึงแม้เขาจะตกใจกับความจริงที่ว่าอวี้ชิงลั่วเป็นหมอปีศาจ แต่อย่างน้อยเขาเองก็เตรียมใจไว้แล้ว ถึงอย่างไรอวี๋จั้วหลินก็เชิญนางไปดูอาการที่จวนอยู่แล้ว ถ้าหากชิงลั่วเป็นเพียงแค่หมอธรรมดาคนหนึ่ง อวี๋จั้วหลินก็คงจะไม่ต้อนรับอย่างสมเกียรติถึงเพียงนี้
เนื่องจากได้รับรู้ถึงตัวของของนาง ในเหตุการณ์นั้นนอกจากคนที่รู้เรื่องราวนี้แล้ว เขาจึงเป็นคนที่สงบเสงี่ยมที่สุด
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เย่ฮ่าวหรานผู้นี้เป็นถึงอ๋องแปด เขาจะมองชิงลั่วด้วยสายตาแปลกประหลาดเช่นนี้ได้อย่างไร?
ในเวลาเดียวกันอวี้ชิงลั่วก็ได้รับสายตาสามคู่ซึ่งจ้องมองมา รวมถึงสายตาของเย่ซิวตู๋ด้วย นางจึงจ้องมองกลับไปทีละคน…จะมองนางไปทำไม? นางเป็นหมอปีศาจแล้วมันขัดแข็งขัดขาใคร? นางเป็นผู้เสียหายชัด ๆ ไม่ใช่หรือ?
ถูกคนแอบอ้างชื่อก็แล้วกันไป แต่อีกฝ่ายเป็นชายที่ก้าวขาข้างหนึ่งลงไปในโลงศพแล้ว และทักษะการรักษาก็ย่ำแย่มาก ๆ ยังดีที่ท่านมีฝีมือดีกว่านิดหน่อย ทั้งยังมีรูปลักษณ์งดงามเยาว์วัย นางจึงไม่ถือสา
แต่ชายแซ่เสิ่นผู้นี้…หญิงสาวไม่สามารถทำใจมองได้จริง ๆ
เย่ฮ่าวหรานสะอึกไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา เขามองไปที่ท่านเสิ่นพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา “ความผิดในฐานปิดบังหลอกลวงเบื้องสูง โทษคือการประหาร ท่านเสิ่นจงไปกับข้าเสียโดยดี ”
ประหาร ประหาร ประหาร!!!
ท่านเสิ่นตกใจกับคำสองคำนี้เป็นอย่างมากจนแทบจะดีดตัวขึ้นมา สีหน้าและปากของชายชราซีดเซียว อยากที่จะหันไปขอความช่วยเหลือต่อเวยเยวี่ยนโหว
แต่เวยเยวี่ยนโหวที่ได้ยินคำพูดของเย่ฮ่าวหรานแล้วก็เข้าใจขึ้นมา ฝ่าบาทไม่ได้สนใจที่จะพิจารณาโทษต่อเขา พระองค์มีเจตนาใช้ความเมตตาเพื่อที่จะไม่ลงโทษเขา อีกทั้งยังไม่สนพระทัยอีกด้วยว่าคนที่เขาพาเข้ามาในวังและแนะนำให้ให้รู้จักกับกุ้ยเฟยคือใคร ตอนนี้แน่นอนว่าเขาทำได้อยู่ได้แค่ห่าง ๆ จะคอยช่วยเหลือท่านเสิ่นได้ที่ไหน เขาไม่โง่พอที่จะรนหาที่ตายให้ตัวเองหรอก คิดแล้วก็หันหน้าไปมองด้วยสีหน้าราวกับว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์
ท่านเสิ่นหายใจหอบถี่ และเมื่อมองดูเย่ฮ่าวหรานเดินเข้ามาหาตนทีละก้าว ๆ ดวงตาของเขาเบิกกว้างแล้วรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบจับตัวหนานหนานที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดมาอุ้ม เด็กน้อยพลันกรีดร้องอย่างหวาดกลัว “อย่าเข้ามานะ เจ้าอย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าจะบีบคอเขา!”
“ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!” เย่ฮ่าวหรานตกใจ แอบคิดขึ้นมาใจว่าเหตุใดตนจึงไม่พาหนานหนานไปไว้ในที่ปลอดภัยมากกว่านี้? เรื่องนี้เขาต้องตายแน่ ๆ ท่านพี่ห้าจะต้องเลาะเนื้อถลกหนังเขาออกแน่ ๆ
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ดวงตาทั้งสองเฉียบคมและเย็นชาจนเกิดไอเย็นเยือกปกคลุม
อย่างไรก็ตามคนที่รู้สึกผิดมากที่สุดคือโม่เสียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากท่านเสิ่น ด้วยระยะใกล้เช่นนี้ เขายังปล่อยให้ท่านเสิ่นใช้ประโยชน์จากช่องโหว่และจับนายน้อยเอาไว้ได้
“อย่าเข้ามา ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเขาซะ” ท่ามกลางความตื่นตระหนกของท่านเสิ่น ชายชราเพียงแค่คิดจะหาแพะรับบาปเท่านั้นจึงจับหนานหนานเอาไว้แล้วเริ่มเดินถอยหลังไป แต่เมื่อเห็นท่าทางของเย่ฮ่าวหราน โม่เสียนกับคนอื่น ๆ ชะงักฝีเท้าลงและไม่กล้าเข้ามา เวลานั้นจึงตระหนักได้ว่าตนเองได้คว้าเอาสิ่งที่มีค่าเอาไว้ได้
ชายชราคิดขึ้นได้ว่าเด็กคนนี้มาพร้อมกับท่านอ๋องแปด เช่นนั้นแล้วสถานะของเขาจะต้องไม่ต่ำอย่างแน่ ๆ หากจับตัวเด็กน้อยเอาไว้ตนจะต้องได้ออกไปอย่างแน่แท้
ท่านเสิ่นหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ผ่อนคลาย หัวใจเต้นช้าลง จากนั้นก็เริ่มเดินออกไปข้างนอกทีละก้าว ๆ
อวี้ชิงลั่วหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางทั้งสดใสและเย่อหยิ่ง “ท่านเสิ่น ท่านมั่นใจใช่ไหมว่าไม่ได้จับผิดคน?” คาดไม่ถึงเลยว่าจะจับหนานหนานเป็นเกาะกำบัง
…………………………
สารจากผู้แปล
จับตัวหนานหนานนี่คือเร่งความตายให้ตัวเองแล้วนะหมอเสิ่น ไม่ตายเพราะบรรดาผู้ใหญ่ที่เตรียมชาร์จเข้ามาก็ตายเพราะพิษจากร่างน้องนี่แหละ
ไหหม่า(海馬)