อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 212 เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
ตอนที่ 212 เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
ตอนที่ 212 เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
ไม่มีใครสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเวยเยวี่ยนโหว ความสนใจของทุกคนล้วนพุ่งไปที่ตัวของเด็กคนนั้น
เวยเยวี่ยนโหวกระตุกยิ้มมุมปาก นิ้วมือดึงพร้อมกับงอเข้า ก่อนจะง้างธนูไปด้านหลัง
เสียง ‘ฟิ้ว…’ ดังขึ้น ก่อนวัตถุนั้นจะพุ่งเข้าที่กลางคอหอยของหมอเสิ่น
ทุกคนถึงกับยืนอึ้ง เวยเยวี่ยนโหวยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ส่วนเย่ฮ่าวหรานสูดลมเย็นเข้าปาก ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาเพื่อแย่งลูกธนูดอกนั้นไว้
‘ฟึ่บ’ ยังไม่ทันที่เขาจะลงมือ จู่ ๆ ลูกธนูที่พุ่งออกมาดอกนั้นก็หักครึ่งเป็นสองส่วนกลางทาง เสียง ‘แกรก ๆ’ ดังขึ้นขณะตกลงบนพื้น คนผู้นั้นยืนอยู่ตรงกลาง สีหน้าดูเฉยเมยมุมปากขึงตึง…เย่ซิวตู
เวยเยวี่ยนโหวสูดลมเย็นเข้าปาก นิ้วมือจับหน้าไม้ไว้แน่น ไม่มีเวลาได้หลบซ่อนด้วยซ้ำ
สายตาที่เย็นชาของเย่ซิวตู๋กวาดมองใบหน้าของเขา “เวยเยวี่ยนโหว นี่เจ้าคิดจะฆ่าปิดปากงั้นรึ?”
“เปล่า…ไม่ใช่…ท่านอ๋องซิว ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแค่อยากใช้โอกาสตอนที่หมอเสิ่นไม่ทันได้สังเกตจัดการเขา จะได้ช่วยเด็กคนนั้นด้วย” เวยเยวี่ยนโหวรีบอธิบาย โยนหน้าไม้ไปให้ผู้อารักขาที่อยู่ด้านหลัง ก้าวเท้ามาด้านหน้าสองก้าวเคล้ารอยยิ้ม
อวี้ชิงลั่วก็โมโหเช่นกัน แม้หน้าไม้คันนั้นจะไม่ได้เล็งไปที่หนานหนาน แต่เวยเยวี่ยนโหวกลับเผยเจตนาที่คิดจะฆ่าหนานหนานให้ตายอย่างชัดเจน
นางก้าวเท้ามาด้านหน้าสองสามก้าวพลางยิ้มเยาะ “หากเวยเยวี่ยนโหวมีน้ำใจคิดจะช่วยคนจริง ๆ เหตุใดถึงไม่เข้าไปแลกตัวกับเด็กคนนั้นเพื่อเป็นตัวประกันเสียเองเล่า?”
“นั่นสิ ๆ เวยเยวี่ยนโหวทำเช่นนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้เด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตรายด้วย” มีคนทนดูการกระทำภายในจวนเวยเยวี่ยนโหวไม่ได้มานานแล้ว ไม่เพียงแต่ครั้งนี้ที่ทำให้ทุกคนเกิดความประทับใจในแง่ลบถึงขีดสุดต่อเขา หลิ่วเซียงเซียงที่อยู่ในจวนของเขาก็ทำตัวดื้อด้านเอาแต่ใจตัวเองมาโดยตลอดจนชื่อเสียเลื่องลือไปทั่วเมืองหลวงแห่งนี้ คนธรรมดาจำนวนมากต่างพยายามอยู่ให้ห่างจากนาง ตอนนี้มีโอกาสได้ซ้ำเติมท่านโหวแล้ว แต่ละคนจึงเริ่มราดน้ำมันลงบนกองไฟ
เวยเยวี่ยนโหวถอยหลังออกไปหนึ่งก้าว คนหนึ่งก็ท่านอ๋อง อีกคนก็หมอปีศาจ ต่างคนต่างปกป้องเด็กคนนั้น
“ท่านอ๋องซิว ท่านเข้าใจผิดจริง ๆ ข้าจะเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของเด็กคนนั้นได้อย่างไรกัน เป็นเพราะเห็นทุกคนทำอะไรไม่ถูก ดังนั้นจึงคิดหาวิธีเพื่อลงมือ…”
คำพูดนี้นับว่าร้ายแรงแล้ว ไม่เพียงแต่จะพูดถึงเย่ฮ่าวหรานที่ไร้ความสามารถ แต่ยังเหมารวมว่าข้างกายของเย่ซิวตู๋มีคนมากมายขนาดนั้น แต่กลับช่วยเหลือเด็กเพียงคนเดียวไม่ได้
เย่ซิวตู๋ยิ้มเยาะ เย่ฮ่าวหรานโกรธเคือง ทว่ามีคนหนึ่งยิ่งโกรธจนเต้นเร่า ๆ
หนานหนานตะคอกด้วยความฉุนเฉียว “เจ้าบอกว่าใครทำตัวไม่ถูก เจ้าหมายถึงใคร นี่ข้าก็จัดการกับคนลักพาตัวได้แล้วมิใช่รึ?”
“…”
ทุกคนหันมองหนานหนานด้วยความประหลาดใจ จึงค้นพบว่าเด็กคนนี้ได้หลุดออกจากการจับกุมของหมอเสิ่นตั้งแต่เมื่อใดมิอาจทราบได้ กำลังกระโดดโลดเต้นอย่างมีชีวิตชีวาอยู่ข้าง ๆ ส่วนหมอเสิ่น…ร่างกายของเขากลับแข็งทื่อ ใบหน้าดูบิดเบี้ยว ส่วนมือทั้งสองข้างยังอยู่ในท่าโอบอุ้ม ทว่ากลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นมิอาจขยับเขยื้อนตัวได้แม้แต่น้อย
เขาถลึงตามองหนานหนานด้วยความโกรธ “เจ้า…เจ้าทำอะไรกับข้า?”
“ข้าก็บอกไปแล้วไง ในฐานะที่เป็นคนลักพาตัว ก็ต้องมีแผนและการเตรียมพร้อมที่เพียงพอ เจ้าตัดสินใจแบบชั่วครั้งชั่วคราวเช่นนี้ ไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอก เฮ้อ ไม่ยอมฟังที่หนานหนานบอก ความเสียเปรียบก็อยู่ตรงหน้า ที่บอกไปก็ความหมายนี้แหละ เข้าใจหรือยัง?”
เย่ฮ่าวหรานกะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความตกตะลึง ถึงกับกลืนน้ำลาย ก่อนจะหันไปมองโม่เสียนพร้อมเอ่ยถาม “เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น?”
โม่เสียนมองหนานหนานอยู่ตลอด นายท่านและคนอื่น ๆ จัดการกับเวยเยวี่ยนโหว ทว่าเขากลับไม่กล้าหย่อนคล้อยแม้แต่น้อย หนานหนานคือดวงใจของนายท่าน เขาต้องระมัดระวังให้มาก ๆ
โม่เสียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มุมปากกระตุกก่อนจะกระซิบตอบว่า “หนานหนานน่าจะใช้โอกาสตอนที่หมอเสิ่นไม่ทันได้สังเกตแทงเข็มใส่อีกฝ่ายพ่ะย่ะค่ะ เอ่อ บนตัวของหนานหนานมีของแปลกประหลาดเยอะมาก เข็มเล่มนั้นคาดว่าคงมียาบางอย่างเคลือบไว้ด้วย หลังจากผ่านไปซักพัก ร่างกายของหมอเสิ่นก็แข็งทื่อไปทั้งตัว แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้”
เขาเกือบลืมไปแล้วว่าระหว่างทางตอนที่เดินทางจากเจียงเฉิงกลับมาเมืองหลวงในคราก่อน แม่นางอวี้ก็เคยใช้วิธีนี้กับหัวหน้านักฆ่าที่จับนางเป็นตัวประกันเช่นกัน
เพียงแต่แม่นางอวี้กลับทำได้อย่างง่ายดายและแยบคายยิ่งกว่า จึงส่งคนผู้นั้นไปสู่สุคติทันที ทว่าหนานหนานกลับทำให้หมอเสิ่นมิอาจขยับตัวได้เท่านั้น
เย่ฮ่าวหรานกลืนน้ำลายอีกหน ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าสายตาเห็นอกเห็นใจของอวี้ชิงลั่วเมื่อครู่หมายถึงใคร คนคนนั้น…คงเป็นหมอเสิ่นกระมัง
เขาคู่ควรที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ
เย่ฮ่าวหรานแอบถอนหายใจ มองไปยังหมอเสิ่นด้วยความสงสารปราดหนึ่ง ก่อนจะตะโกนเสียงดังไปด้านนอกประตูโรงเตี๊ยม “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด จับตัวคนผู้นี้ไปขังในคุก รอฟังคำตัดสินเพื่อลงโทษ”
สิ้นสุดเสียงของเย่ฮ่าวหราน ทหารกองหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก หัวหน้าทหารคือใต้เท้าเย่ผู้ตรวจการเมืองหลวงที่ได้รับคำสั่งก่อนหน้านี้
ใต้เท้าเย่ทำความเคารพเย่ซิวตู๋ เย่ฮ่าวหรานและคนอื่น ๆ ก่อนจะโบกมือให้ทหารที่อยู่ด้านหลังเข้ามาจับตัวหมอเสิ่น “ท่านอ๋อง ข้าน้อยจะจับตัวบุคคลผู้นี้ไปเดี๋ยวนี้ บุคคลผู้นี้ทำความผิดไว้มาก กล้าก่ออาชญากรรมใต้เบื้องพระบาทโอรสแห่งสวรรค์ในเมืองหลวง ข้าน้อยจะพิจารณาคดีนี้อย่างดี รวบรวมความผิดให้เรียบร้อย และยื่นเรื่องทั้งหมดต่อฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม ลำบากใต้เท้าเย่แล้ว” เย่ซิวตู๋ไม่ชอบพิธีรีตองเหล่านี้ เขาจึงทำแค่พยักหน้าเบา ๆ ทำท่าทางราวกับไม่คิดจะสนใจให้มากมาย ด้วยเหตุนี้การสื่อสารกับใต้เท้าเย่จึงตกเป็นหน้าที่ของเย่ฮ่าวหรานทั้งหมด
เย่ฮ่าวหรานทำภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้เสร็จสิ้นแล้ว ภายในใจจึงรู้สึกผ่อนคลายลง เขามองดูหมอเสิ่นที่ยังคงยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น มุมปากจึงกระตุกเป็นเส้นโค้งอย่างมีความสุขอย่างห้ามไม่อยู่
หมอเสิ่นอยากร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา แม้แต่จะออกจากโรงเตี๊ยมก็ยังต้องถูกทหารสองสามนายลากตัวออกไป สภาพร่างกายที่แข็งทื่อเช่นนี้ช่างทุกข์ทรมานเสียเหลือเกิน
ทว่าเมื่อนึกได้ว่าการถูกลากตัวออกไปในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะถูกทรมาน แต่อีกไม่นานแม้แต่ชีวิตก็คงไม่เหลือแล้ว ภายในใจจึงทั้งตื่นตระหนกและหวาดกลัว ตกใจจนทนไม่ไหว เกือบสูญเสียการควบคุมจนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้
ด้วยเหตุนี้ตอนที่ถูกลากมาถึงข้างตัวของเวยเยวี่ยนโหว หมอเสิ่นจึงทำราวกับเห็นเชือกฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตไว้ได้ ตะโกนอย่างสุดชีวิตว่า “ท่านโหวช่วยข้าด้วย ท่านโหวช่วยข้าด้วย ท่านเคยพูดไว้มิใช่รึ พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว? ท่านจะมองดูคนตายโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้นะ”
ก่อนหน้านี้หมอเสิ่นมัวแต่ตกใจอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง เขาจึงไม่สังเกตเห็นลูกธนูดอกนั้นที่เวยเยวี่ยนโหวยิงใส่ตัวเขา ตอนนี้ย่อมเห็นเวยเยวี่ยนโหวเป็นความหวังสุดท้ายของตนเอง
เวยเยวี่ยนโหวถึงกับตกตะลึง รีบถอยไปด้านข้างสองสามก้าวเพื่อรักษาระยะห่างกับอีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยคำพูดชอบธรรมว่า “เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอันใด ใครลงเรือลำเดียวกับเจ้า? เจ้ากล้าหลอกลวงผู้อื่น ทั้งยังปิดบังข้า จนทำให้ข้าเกือบกลายเป็นคนเสียสัตย์ ความผิดใหญ่หลวงเช่นนี้ ข้าเกลียดเสียจนอยากจะสับเจ้าให้แหลกเป็นเสี่ยง ๆ ข้าน่ะหรือจะไปช่วยเจ้า? น่าขันสิ้นดี”
หมอเสิ่นถึงกับชะงัก แม้ว่าจะทราบว่าคนที่มีอำนาจมากกว่าครึ่งเป็นคนโหดเหี้ยม เป็นเรื่องปกติหากจะเฉดหัวส่งหลังจากหมดประโยชน์ ทว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเวยเยวี่ยนโหวจะตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ถึงอย่างไร…ถึงอย่างไรเขาก็เคยช่วยชีวิตบุตรีของเวยเยวี่ยนโหวมาก่อนนะ
หมอเสิ่นทั้งตะคอกทั้งเรียกเสียงดังลั่น ภายในใจรู้สึกโกรธและเกลียดถึงขีดสุด เริ่มก่นด่าเวยเยวี่ยนโหวว่าเป็นคนไร้มโนธรรม
ผู้ตรวจการเมืองหลวงขมวดคิ้ว รีบสั่งให้ทหารลากตัวหมอเสิ่นออกไปโดยเร็ว
ใครจะไปคิด ถูกลากไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง จู่ ๆ กลับได้ยินเสียงเย็นชาของเย่ซิวตู๋ดังขึ้น “ท่านโหว ท่านแน่ใจหรือว่าถูกหลอก?”
……………………
สารจากผู้แปล
รู้ฤทธิ์ของหนานหนานแล้วหรือยังคะ เห็นเป็นเด็กตัวเล็กอย่าคิดว่าเคี้ยวง่ายนะ
ไหหม่า(海馬)