อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 226 เรื่องที่ไม่อาจให้ผู้ใดล่วงรู้
ตอนที่ 226 เรื่องที่ไม่อาจให้ผู้ใดล่วงรู้
ตอนที่ 226 เรื่องที่ไม่อาจให้ผู้ใดล่วงรู้
อวี้ชิงลั่วและไท่จื่อเฟยสบตากัน หลังจากที่เช็ดมือเสร็จอวี้ชิงลั่วจึงได้ห่มผ้าให้กับนาง และเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ข้าจะออกไปดู”
“อื้ม”
อวี้ชิงลั่วเก็บข้าวของแล้วเดินออกไป หญิงสาวพบเข้ากับโม่เสียนที่มีสีหน้าค่อนข้างวิตกกังวล จึงอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ท่านอ๋องแปดมาขอรับ” โม่เสียนพรูลมหายใจออก จากนั้นจึงหันไปสบตากับหญิงสาวแล้วตอบกลับเบา ๆ
ท่านอ๋องแปด? เย่ฮ่าวหราน?
อวี้ชิงลั่วและเย่ซิวตู๋สบตากัน แล้วก็เหลือบไปมองเย่หลานเฉิงนิ่ง ๆ พลางเอ่ยถาม “มาหาเย่หลานเฉิง?”
“ขอรับ” โม่เสียนพยักหน้า “เฉิงซื่อจื่อคือผู้ที่ท่านอ๋องแปดพาออกมาจากพระราชวัง ตอนนี้เรื่องของเวยหย่วนโหวได้รับการจัดการคร่าว ๆ แล้ว แน่นอนว่าท่านอ๋องแปดจึงมาพาเขากลับเข้าไปในวัง ไม่เช่นนั้นจะอธิบายต่อฝ่าบาทได้ยาก แต่เฉิงซื่อจื่อไม่ได้อยู่ที่โรงเตี๊ยมเยว่หมิงแล้ว มีคนบอกว่าเห็นพ่อบ้านของท่านอ๋องแปดเข้าไปให้ห้องนั้น ท่านอ๋องแปดจึงมาตามหาที่จวนของรัชทายาท รัชทายาทเองก็กลับมาแล้วเช่นกัน ตอนนี้กำลังห้ามไม่ให้ท่านอ๋องแปดเข้ามา”
โม่เสียนเอ่ยถึงตรงนี้ก็อดมุมปากกระตุกไม่ได้ “แต่ท่านอ๋องเองก็รู้นิสัยของท่านอ๋องแปดดี เมื่อตามหาเฉิงซื่อจื่อไม่พบแล้วมีหรือจะยอมแต่โดยดี ตอนนี้ก็ป่าวตะโกนมาโดยตลอดว่ารัชทายาทได้ซ่อนเด็กน้อยเอาไว้ จึงทำให้ตนเองโดนฝ่าบาทตำหนิ และท่านอ๋องแปดต้องการที่จะพบไท่จื่อเฟย ตอนนี้เขาก็กำลังจะมาที่เรือนจิ่นซิ่วแล้ว”
อวี้ชิงลั่วเอามือก่ายหน้าผาก เย่ฮ่าวหรานต้องการที่จะจับผิดนางหรือองค์รัชทายาทกันแน่?
“ไป ขึ้นไปบนหลังคา” เย่ซิวตู๋ตัดสินอย่างเด็ดขาด ณ ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะให้องค์รัชทายาทเห็นพวกเขาในที่แห่งนี้
โม่เสียนพยักหน้า และยื่นมือออกไปอุ้มหนานหนานและเย่หลานเฉิงขึ้นมา
แต่ก่อนที่จะออกจากประตูไป เย่หลานเฉิงก็อดร้องออกมาไม่ได้ “ท่านแม่ ท่านต้องดูแลตนเองให้ดี ๆ นะขอรับ ถ้าข้ามีโอกาส ข้าจะทูลขอเสด็จปู่ให้ได้มาพบกับท่านอีก”
“หลานเฉิงเองก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ” คำพูดของโม่เสียนเองก็ไม่ได้เสียงเบา แน่นอนว่าไท่จื่อเฟยต้องได้ยิน
เมื่อรู้ว่าท่านอ๋องแปดจะมาหา หญิงสาวค่อย ๆ วางใจขึ้นมา ภายใต้ราชวงศ์ทั้งหมดนั้น มีเพียงแค่ท่านอ๋องแปดเย่ฮ่าวหรานเท่านั้นที่จิตใจดี ผู้ที่ไม่มีความปรารถนาที่จะชิงบัลลังก์ และไม่มีการวางท่าเย่อหยิ่งโอหังแต่อย่างใด นับว่าเป็นคนที่เข้าหาได้มากที่สุด
แต่รัชทายาทเองก็ต้องการจะมาด้วย และในห้องนี้ก็มีกลิ่นของยาอยู่ ไม่รู้ว่า…
ขณะที่นางกำลังครุ่นคิด จู่ ๆ ก็มีกลิ่นหอมอ่อนลอยมาแตะนาสิก ผ่านไม่ไม่นานมันก็กลบกลิ่นยาในห้องไปจนหมด
ไท่จื่อเฟยมุมปากกระตุก แม่นางอวี้ผู้นี้ช่างเป็นคนที่แสนดีเสียจริง น้องห้าเองก็ช่างโชคดีนัก
ขณะที่เกิดความคิดเช่นนี้ อวี้ชิงลั่วก็ได้ปิดฝาขวดกระเบื้องเคลือบแล้ว พอหันหลังกลับไปก็ถูกเย่ซิวตู๋โอบเอวพาออกไปจากเรือนจิ่นซิ่วทันที คนไม่กี่คนกลับขึ้นไปบนหลังคา และซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ
ผ่านไปไม่นาน ก็พบว่ามีคนจำนวนหนึ่งกำลังเดินมาทางนี้
นำโดยองค์รัชทายาทที่ส่งเสียงเอะอะดังลั่นและเย่ฮ่าวหราน
องค์รัชทายาทไม่ต้องการที่จะให้เย่ฮ่าวหรานเข้าไปในหอจิ่นซิ่ว ไม่ต้องกล่าวถึงว่านี่คือเรือนของไท่จื่อเฟยเลย เดิมทีแล้วก็ไม่มีเหตุผลที่ท่านอ๋องจะต้องเข้าไป ยิ่งตอนนี้ไท่จื่อเฟยถูกทุบตีจนเป็นเช่นนี้ ถ้าเย่ฮ่าวหรานมาพบเข้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเตรียมกราบทูลต่อหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทก็เป็นได้
แต่เย่ฮ่าวหรานกลับไม่ได้ขวางง่ายปานนั้น นี่ไม่ใช่ตำหนักของท่านอ๋องซิว และองค์รัชทายาทก็ไม่ใช่ท่านพี่ห้าของเขา ส่วนพวกองครักษ์ลิ่วล้อนั่นก็ไม่กล้าลงมือกับตน จะมีใครที่ไหนเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็สามารถบุกเข้าไปถึงประตูเรือนแล้ว
หากไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทมาได้ทันเวลา เขาก็คงเข้าประตูไปแล้ว
“เย่ฮ่าวหราน เจ้าอย่ารังแกผู้อื่น นี่คือตำหนักองค์รัชทายาท ไฉนจึงคิดจะบุกเข้าเรือนของไท่จื่อเฟยตามอำเภอใจเช่นนี้ได้ ยังเห็นข้าเป็นรัชทายาทอยู่หรือไม่? หากเจ้ายังกล้าที่จะบุกเข้ามาอีก เมื่อข้ากลับไปจะไปกราบทูลเรื่องนี้ต่อฝ่าบาทให้ลงโทษเจ้าฐานหมิ่นประมาทเสีย ”
“โอ้ ตอนนี้องค์รัชทายาทมั่นใจมากเลยหรือ? เป็นอะไรไปเล่า? วันนี้ได้จัดการเรื่องเวยหย่วนโหว จึงรู้สึกว่าได้สร้างคุณงามความดีต่อหน้าพระพักตร์มากเลยใช่หรือไม่? ” เย่ฮ่าวหรานเยาะเย้ยขึ้นมาไม่กี่คำ “องค์รัชทายาทรีบมาขัดขวางข้าเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีเรื่องบางอย่างที่ข้าไม่สมควรจะเห็น หรือว่า หลานเฉิงถูกท่านซ่อนตัวเอาไว้ในตำหนักของท่านจริง ๆ?”
“เหลวไหล องค์รัชทายาทอย่างข้าซื่อตรงปานนี้ จะมีเรื่องที่ไม่สมควรให้ผู้อื่นพบเห็นได้อย่างไร ข้าบอกแล้วว่าที่นี่คือที่อยู่ของไท่จื่อเฟย และนางเป็นสตรี เจ้าจะไม่เกรงใจไม่ได้”
เย่ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็หยุดฝีเท้าลงเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพยักหน้า “ที่ท่านพี่รัชทายาทเอ่ยมานั้นก็มีเหตุผล เช่นนั้นก็ได้ ท่านเพียงเรียกให้ไท่จื่อเฟยออกมา ข้าจะดูว่าหลานเฉิงอยู่หรือไม่ก็พอแล้ว”
“ไท่…” องค์รัชทายาทกัดปากแน่น ตอนนี้ไท่จื่อเฟยนอนอยู่บนเตียง นางบาดเจ็บไปทั้งร่างกายจะออกมาได้อย่างไร? “ไท่จื่อเฟยไม่สบายเป็นไข้รู้สึกไม่สบายตัว จึงไม่สามารถออกมาโดนลมได้”
“เมื่อเอ่ยแบบนี้แล้วข้าก็ควรจะเข้าไปดูนางหน่อย ถึงอย่างไรไท่จื่อเฟยก็เป็นพี่สะใภ้ของข้า ถ้านางป่วยข้าก็ต้องไปเยี่ยมเยือน”
“บุรุษและสตรีนั้นแบ่งแยกกัน ไม่จำเป็นต้องเยี่ยมเยือน”
“ข้าเองก็ยังไม่ได้เอ่ยเช่นนี้” เย่ฮ่าวหรานยืนยัน “ถึงบุรุษและสตรีจะแบ่งแยกกัน แต่เพียงแค่ท่านพี่พาข้าเข้าไปก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรแล้ว อีกอย่างข้าเองก็รักเด็กน้อยหลานเฉิงผู้นั้นมาก ๆ ตอนนี้มารดาของเขาป่วย หากเขาไม่ได้อยู่ที่ตำหนักรัชทายาท หลังจากที่ข้าเยี่ยมเยือนเสร็จก็จะได้กลับไปบอกเขา เป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เขากังวลเกี่ยวกับสุขภาพของคนในครอบครัวใช่หรือไม่? หากว่าไท่จื่อเฟยป่วยหนักแล้วล่ะก็ ข้าเองก็ต้องกลับไปกราบทูลเสด็จพ่อ เสด็จพ่อที่รักหลานเฉิงมากก็คงมีรับสั่งให้หมอหลวงมาตรวจดู”
องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว เย่ฮ่าวหรานนั้นช่างรับมือได้ยากเสียจริง นิสัยของเขายังน่ารำคาญอยู่เหมือนเดิม
“ไม่จำเป็นต้องเชิญหมอหลวง นางก็แค่เป็นหวัด ท่านหมอได้เข้ามาดูแล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร เจ้ากลับไปบอกหลานเฉิงเช่นนี้ก็พอแล้ว ”
“เช่นนั้นยิ่งไม่ได้ หากหลานเฉิงถามอย่างละเอียดจะทำเช่นไร? ข้าไม่ได้พบกับไท่จื่อเฟย กลับไปหลานเฉิงจะต้องไม่เชื่อข้าแน่ ๆ” ว่าพลางชายหนุ่มก็เดินไปข้างหน้าสองก้าว ครั้นพบว่าองค์รัชทายาทยังคงยืนขวางอยู่ข้างหน้า ชายหนุ่มก็อดยิ้มเย็นชาไม่ได้ “องค์รัชทายาทขัดขวางข้าทุกวิถีทาง กล่าวว่าข้างในนั้นไม่มีอะไรน่าดูเช่นนี้ ทำให้ข้าไม่ปักใจเชื่อแล้ว องค์รัชทายาท หลานเฉิงจะต้องอยู่ข้างในใช่หรือไม่? ท่านขังเขาเอาไว้ใช่หรือไม่?”
“เย่ฮ่าวหราน เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล หลานเฉิงคือบุตรชายของข้า ถ้าข้าจะพบกับเขาก็สามารถพบได้อย่างเปิดเผย จำเป็นต้องขังเอาไว้ด้วยหรือ?”
“เช่นนั้นก็ไม่ต้องขวางข้า ให้ข้าเข้าไปดูสิ” เย่ฮ่าวหรานคร้านเกินกว่าที่จะพูดจาเหลวไหลกับองค์รัชทายาท ตอนนั้นเองชายหนุ่มได้เดินไปทางซ้ายเพื่อหลอกองค์รัชทายาท เมื่อพระองค์เข้ามาขวางแล้วเขาก็วิ่งออกไปทางขวาตรงไปที่เรือนจิ่นซิ่วอย่างรวดเร็ว
“โครม” ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงดังสนั่น
“พี่สะใภ้ ข้าได้ยินมาว่าท่านป่วย ดังนั้นจึงแวะมาเยี่ยม พี่สะใภ้ไม่ได้เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
องค์รัชทายาทดูมีพิรุธนะคะ ยิ่งร้อนตัวเรื่องยิ่งแดงขึ้นมานะ อ๋องแปดไม่ใช่คนโง่ด้วย