อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 267 ชักนำไปในทางที่ผิด
ตอนที่ 267 ชักนำไปในทางที่ผิด
ตอนที่ 267 ชักนำไปในทางที่ผิด
“พอเจ้าค่ะ” หลินมาพยักหน้านางไม่กล้าแม้แต่ที่จะชักช้า จึงร้อยด้ายเข้ากับเข็ม ก่อนเลาะด้ายที่เหลืออยู่บนผ้าออกจนหมดและเริ่มลงมือปัก
การปักดอกไม้เล็ก ๆ สำหรับหลินมาแล้วใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม แต่ว่าเมื่อสัมผัสกับชนิดของผ้าที่ไม่ใช้ผ้าทั่วไปแล้ว ก็สามารถคิดได้ว่า ภาพปักบนผ้าผืนนี้ก็ต้องงดงามเหมือนกัน เช่นนั้นแล้วหญิงชราจึงไม่กล้าที่จะปักแบบลวกๆ
ดังนั้นต่อให้หลินมาจะปักผ้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ในส่วนของรายละเอียดนั้นจะต้องระมัดระวังแล้วระมัดระวังอีก และพยายามปักดอกไม้ให้ออกมาสวยที่สุด
เย่ซิวตู๋วางใจหลินมาเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นนางปักลายอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรมากมาย ดึงเก้าอี้หนึ่งตัวออกมาจากหลังโต๊ะ และถอนหายใจก่อนที่จะนั่งลงไป
เวลาค่อย ๆ ผ่านไป และยังไม่ถึงครึ่งชั่วยาม หลินมาก็ถอนหายใจและส่งผ้าเช็ดหน้ากลับมา “ท่านอ๋องเจ้าคะ ข้าน้อยปักเสร็จแล้ว ท่านลองดูว่าเช่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
เย่ซิวตู๋รับผ้ามา หลังจากที่มองแล้วชายหนุ่มจึงได้ขมวดคิ้ว “มองดูแล้วดูใหม่เกินไปเล็กน้อย”
หลินมาตกใจ นางจึงคิดได้ว่าผ้าผืนนี้นั้นมีอายุมากแล้วจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับงานปักแบบนี้ หลินมาจึงยื่นมือออกไปใหม่ “ท่านอ๋อง ให้ข้าน้อยลองดู”
เย่ซิวตู๋ส่งผ้าผืนนั้นให้กับนาง หลินมารับผ้ามาและวางไว้บนโต๊ะใช้แรงถูสองสามรอบ และวางไว้บนเสื้อผ้าของตนเองก่อนที่จะถูอยู่สักครู่ และส่งให้กับเย่ซิวตู๋อีกครั้ง คราวนี้ผ้าผืนนั้นมองดูแล้วดูเก่าจริง ๆ
เย่ซิวตู๋ก็รู้ว่าสามารถทำได้เพียงแค่เท่านี้ จึงนำผ้าเช็ดหน้ากลับมาและเอ่ยขึ้นกับหลินมา “ได้แล้วล่ะ เจ้าไปเถิด”
“เจ้าค่ะ” หลินหม่าเก็บข้าวของและเก็บเศษด้ายที่หล่นอยู่บนพื้นจนหมด หลังจากนั้นนางจึงเดินออกไป
ทันทีที่นางจากไป ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา และตามมาด้วยนำเสียงที่โกรธเคืองของอวี้ชิงลั่ว “ท่านอยู่ข้างในหรือไม่?”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้วและรู้สึกรำคาญเยว่ซินเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มยกริมฝีปากขึ้นอย่างเย็นชา สาวใช้ผู้นั้นช่างซื่อสัตย์ต่ออวี้ชิงลั่วจริง ๆ
“เข้ามา”
ยากมากที่อวี้ชิงลั่วจะมีมารยาทเคาะประตู หลังจากได้ยินเสียงขานรับแล้วจึงผลักประตูออกมา เมื่อเห็นว่าในมือของเย่ซิวตู๋มีผ้าเช็ดหน้าของแม่นมเก๋ออยู่ นางจึงมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “ท่านเคยพบของสิ่งนี้หรือ?”
“ไม่เคย”
“หรือว่าท่านรู้จัก?”
“ไม่รู้จัก”
อวี้ชิงลั่วไม่เชื่อ “ท่านไม่รู้จัก? เช่นนั้นเมื่อเห็นเยว่ซินถือมันขึ้นมา เหตุใดท่านจึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้นเล่า? ถ้าไม่รู้จักแล้วจะเอามันกลับมาด้วยเหตุใดกัน?”
เย่ซิวตู๋หันหลังให้นาง น้ำเสียงของเขายังคงเรียบเฉยเช่นเคย “เพียงแค่มองผิด”
อวี้ชิงลั่วหรี่ตาลง เวลาที่ชายผู้นี้โกหกนั้นล้วนไม่ต่างอะไรกับที่เขาพูดในตอนปกติ “คืนมาให้ข้า”
“อื้ม” ครั้งนี้เย่ซิวตู๋ตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่นานเขาก็คืนผ้าเช็ดหน้าให้กับอวี้ชิงลั่ว
อวี้ชิงลั่วสับสนมากกว่าเดิม หญิงสาวพลิกผ้าเช็ดหน้าดูหนึ่งครั้ง ผิวสัมผัสทุก ๆ อย่างยังคงเป็นเช่นเดิม ดอกไม้ยังคงอยู่ตรงมุมเดิม แม้แต่ขนาดของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไป ก็หมายความว่าน่าจะไม่ได้ถูกสับเปลี่ยน
หญิงสาวขมวดคิ้ว หยิบผ้าเช็ดหน้า และจากไปด้วยสีหน้างุนงง
เย่ซิวตู๋หลับตาลง ชายหนุ่มรู้ว่าเรื่องนี้ต้องผ่านไปไม่ได้ง่ายแน่ ๆ ดอกไม้นั้น ไม่ช้าก็เร็วอวี้ชิงลั่วคงรู้ว่ามันถูกปักขึ้นมาใหม่ เพราะมันมีช่องโหว่มากมาย
อวี้ชิงลั่วรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแสดงออกของเย่ซิวตู๋ที่แปลกไปจากเวลาปกติเป็นอย่างมาก
หญิงสาวสัมผัสผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือ และค่อย ๆ เดินไปที่ลานบ้านของตน
หนานหนานที่อยู่ในลานบ้านก็ได้ซื้อใจผู้คนเสร็จแล้ว ตอนนี้เด็กชายกำลังวิ่งกลับเข้าไปในห้อง จึงพบว่าเย่หลานเฉิงและอวี้เป่าเอ๋อร์กำลังอ่านตำราอยู่
เยว่ซินเองก็ไม่ได้อยู่ในลานบ้าน ไม่รู้ว่านางถูกโม่เสียนพาไปที่ไหนสักแห่ง
อวี้ชิงลั่วกลับเรือนมาเพียงผู้เดียว เมื่อหญิงสาวเริ่มนั่งลงข้างโต๊ะ จึงได้ฉุกคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างมากของเย่ซิวตู๋ในวันนี้
เยว่ซินบอกว่าการแสดงออกของเย่ซิวตู๋ในเวลานั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก สายตาที่มองผ้าผืนนั้นก็เป็นสายตาที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงนางคิดขึ้นมาก็ยังรู้สึกหวาดกลัว
เย่ซิวตู๋ที่มีสายตาเฉียบแหลม เหตุใดจึงมองผิดพลาดไปได้? สิ่งเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ ชายหนุ่มต้องเคยเห็นผ้าผืนนี้มาก่อน แถมยังคุ้นเคยกับมันมาก ๆ อีกด้วย
อวี้ชิงลั่วคลี่ผ้าเช็ดหน้าออกมามองดูด้วยดวงตาทั้งสอง ก็พบว่าที่เดียวที่เป็นจุดดึงดูดสายตานั้นก็คือดอกไม้ตรงมุมนั้น อวี้ชิงลั่วมองดูมันสักพักก็รู้สึกว่ามันเป็นเพียงดอกไม้ธรรมดา
“คุณหนู” ไม่รู้ว่าเยว่ซินนั้นกลับมาตั้งแต่เมื่อใด เสียงของนางค่อย ๆ ดังขึ้นมาจากข้างหลัง
“อื้ม” อวี้ชิงลั่วตอบกลับ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาเด่นชัดแต่อย่างใด
แต่เยว่ซินก็ยังคงเอ่ยเรียกนางเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูลังเล “คุณหนู ข้าน้อยรู้สึกว่าเมื่อมองดอกไม้ดอกนั้นแล้ว มันดูมีอะไรผิดปกติเจ้าค่ะ”
“ผิดปกติเช่นนั้นหรือ?” อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้น และพาเยว่ซินที่เคลื่อนไหวช้า ๆ นั่งลงข้างหน้านาง หลังจากนั้นจึงคลี่ผ้าเช็ดหน้าออก “ตรงไหนที่ผิดปกติ?”
“ข้า คือว่า…”
“เจ้าลังเลสิ่งใด? พูดสิ” อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว และเอ่ยอย่างเย็นชา
ร่างกายของเยว่ซินสั่นระริก หลังจากครุ่นคิดมาสักพักก็รู้สึกว่าตนนั้นเป็นสาวใช้ของคุณหนู ดังนั้นจึงควรจะซื่อสัตย์กับคุณหนู นางหลับตาและกัดฟันเอ่ยออกมา “เดิมทีแล้วลายดอกไม้นั้นไม่ได้เป็นแบบนี้เจ้าค่ะ ตอนข้าซักผ้าเสร็จก็พบว่าดอกไม้ดอกนั้นดูซับซ้อนกว่าดอกนี้มาก สีก็ไม่ใช่ เมื่อพิจารณาดูแล้วดอกนั้นจะวิจิตรงดงามกว่าเจ้าค่ะ ”
มือของอวี้ชิงลั่วค่อย ๆ สั่นระริก หญิงสาวขมวดคิ้ว “แต่ผ้าผืนนี้ยังคงเป็นผืนเดิม…เป็นไปได้ไหมว่าลายปักตรงมุมนั้นที่เปลี่ยนไป?”
เยว่ซินไม่กล้าเอ่ยอะไร เมื่อครู่ที่นางเข้ามานั้น จริง ๆ แล้วโม่เสียนได้เตือนนางไว้แล้วว่าอย่าพูดมาก ท่านอ๋องทำเช่นนี้เพราะมีเหตุผล แต่นางคือคนของคุณหนู อย่างไรก็ต้องยืนอยู่ฝั่งเดียวกันกับคุณหนู
กล่าวได้ว่า คุณหนูตามหาหาแม่นมเก๋อด้วยความยากลำบาก และไม่ง่ายเลยกว่าจะพบกับเบาะแสใหม่ แต่ท่านอ๋องกลับทำลายมันและทำให้คุณหนูเข้าใจผิด เท่ากับว่าคุณหนูเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมาก
เยว่ซินนั้นภักดีต่อคุณหนูเป็นอย่างมาก ต่อให้นางรู้ว่าถ้าตนเอ่ยสิ่งเหล่านี้ไป ท่านอ๋องจะโกรธเป็นอย่างมาก นางก็ยังจะเอ่ยออกไปอยู่ดี
“ตุบ” เกิดเสียงดังขึ้น
เยว่ซินตกใจจนรีบเงยหน้าขึ้น จึงพบว่าเมื่อสักครู่นั้นอวี้ชิงลั่วได้ทุบโต๊ะ คว้าผ้าเช็ดหน้าและเดินออกไป
“คุณหนู ท่านจะไปไหนเจ้าคะ?”
“ไปหาเย่ซิวตู๋” อวี้ชิงลั่วมองออกแล้ว ลายปักนี้ถูกทำขึ้นมาใหม่ และเป็นเย่ซิวตู๋ที่ทำขึ้นมา
สมควรตายที่สุด เจ้าบ้านั่นต้องการจะทำสิ่งใดกันแน่? คาดไม่ถึงเลยว่าจะถึงขั้นทำลายของของนางเช่นนี้
อวี้ชิงลั่วรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าศีรษะของตนกำลังจะระเบิด
เยว่ซินสูดหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามจะคว้าคุณหนูเอาไว้ เพียงแต่กำลังของนางจะเทียบกับอวี้ชิงลั่วได้อย่างไร? ผ่านไปไม่นาน อวี้ชิงลั่วก็หลุดออกไปได้ หญิงสาวเม้มปากและรีบออกจากเรือนตรงไปห้องตำราของเย่ซิวตู๋
เยว่ซินรู้สึกว่าหัวใจของนางกำลังเต้นผิดจังหวะ นางจึงรีบคว้าชายกระโปรงขึ้นตามคุณหนูไปในทันที
…………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ชิงลั่วรู้แล้ว และเตรียมไปฟาดท่านอ๋องแล้ว ท่านอ๋องรับมือดีๆ นะเจ้าคะ
ไหหม่า(海馬)