อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 317 นิสัยไม่ดีอันแปลกประหลาด
ตอนที่ 317 นิสัยไม่ดีอันแปลกประหลาด
ตอนที่ 317 นิสัยไม่ดีอันแปลกประหลาด
พ่อเลี้ยง?
เย่ซิวตู๋ดึงสายตาที่มองออกไปด้านนอกหน้าต่างกลับมาทันใด ก่อนจะขมวดคิ้วถาม “หมายความว่าอย่างไร? พ่อเลี้ยงอะไร? หนานหนานมีข้าเป็นพ่อเพียงคนเดียว เขามีพ่อเลี้ยงที่ไหนกัน?”
อวี้ชิงลั่วรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้โม่เสียนคงไม่มีทางบอกเย่ซิวตู๋ มิเช่นนั้นตอนที่เขาเข้ามาถึงคงต้องถามถึงเรื่องของฉีหานเทียนก่อนเป็นสิ่งแรก
อวี้ชิงลั่วเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเขา จึงแค่นหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจออกมาสองเสียงอย่างห้ามไม่อยู่ “อ๋อ เปล่าหรอก ท่านอยากให้หนานหนานไปกินข้าวมิใช่รึ? ท่านไปโน้มน้าวใจเขาเถอะ คาดว่าเขาคงเชื่อฟังท่าน”
เขาไม่อยากบอกนางเรื่องแม่นมเก๋อมิใช่รึ? เช่นนั้นหลังจากนี้ภายในใจของเขาเกิดความสงสัยอะไร นางก็จะปิดซ่อนไว้ หลังจากทำให้เขาอยากรู้ นางก็จะอุบเอาไว้เช่นกัน
เย่ซิวตู๋เห็นการแสดงออกนั้นของอวี้ชิงลั่ว ใบหน้าพลันดำอึมครึมอย่างห้ามไม่อยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงแค่นเสียงเย็น หมุนกายเดินออกจากห้องของนาง
เยว่ซินเห็นเย่ซิวตู๋เดินมาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร พร้อมกับเดินออกไปด้วยความโกรธ จึงรีบเดินเข้ามาด้วยความตกใจ ก่อนจะกระซิบโน้มน้าวใจว่า “คุณหนู หลังจากท่านอ๋องทะเลาะกับคุณหนูคราวก่อน นี่ก็ครึ่งเดือนแล้วนะเจ้าคะที่ไม่ได้กลับมา เหตุใดเมื่อเจอหน้ากัน คุณหนูกลับทำให้เขาออกไปด้วยความโกรธอีกล่ะเจ้าคะ?”
อวี้ชิงลั่วชะงักเหลือบมองนางปราดหนึ่ง เยว่ซินคนนี้คิดนู่นคิดนี่ไม่จบสิ้นจริง ๆ
“คุณหนูเจ้าคะ ยอมอ่อนข้อลงหน่อยเถอะเจ้าค่ะ ถึงอย่างไรท่านอ๋องก็คือท่านอ๋อง เขาเองก็มี…”
“เยว่ซิน” อวี้ชิงลั่วปวดหัวเพราะคำพูดของเยว่ซิน ทว่านางเองก็พอจะรู้ว่าสตรียุคโบราณเช่นนี้โดยเฉพาะคนแบบเยว่ซินที่เป็นพวกหัวโบราณมาโดยตลอด อีกทั้งนางยังเป็นสาวใช้ที่เคยประสบกับเหตุการณ์ที่อวี้ชิงลั่วถูกรังแกเมื่อหกปีก่อน นางจึงมีความคิดบางอย่างที่หยั่งรากฝังลึก อวี้ชิงลั่วไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง และรู้ดีว่าคงแก้ไขอะไรไม่ได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ นางจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ครั้งนี้ข้าไม่ได้ทำให้ท่านอ๋องโกรธจนหนีไปสักหน่อย”
“เช่นนั้นเมื่อครู่ท่านอ๋อง…” เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้อารมณ์เสียขนาดนั้น ตอนที่เดินมาถึงประตูห้อง สายตาเย็นชาของเขาเกือบทำให้นางบาดเจ็บเพราะความหนาวเย็นอยู่แล้ว
อวี้ชิงลั่วมองนางด้วยท่าทางกึ่งยิ้มกึ่งบึ้งตึง กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนนี้เขาคงไปคิดบัญชีกับโม่เสียนแล้ว เฮ้อ โม่เสียนก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะ”
เมื่อพูดเช่นนี้ออกมา เยว่ซินก็ถึงกับตะลึงงัน พูดอึกอักในทันที “เป็น…เป็นเพราะโม่เสียน โม่เสียนยั่วโทสะท่านอ๋องหรือเจ้าคะ?”
“อืม เยว่ซิน เจ้าไปดูสักหน่อยเถิด หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริง ๆ เจ้าก็รีบกลับมาบอกข้า”
เยว่ซินพยักหน้ารัว ๆ ตอนนี้นางไม่สนใจความกลัวของตนเองที่มีต่อเย่ซิวตู๋แล้ว เมื่อนึกถึงการแสดงออกของท่านอ๋องเมื่อครู่ นางก็รู้สึกได้ว่าโม่เสียนกำลังจะถูกตัดศีรษะ จึงรีบยกชายกระโปรงขึ้น หมุนกายวิ่งออกจากห้อง
ในที่สุดอวี้ชิงลั่วก็กลับมาสงบสักที ส่วนเรื่องของอวี้เจี้ยนต๋าที่ทำให้นางหงุดหงิดก็มีเย่ฮ่าวหรานคอยจับตาดูอยู่ เขาคงไม่ปล่อยให้อวี้เจี้ยนต๋ากลับไปเปิดเผยเรื่องนี้แน่
เลวร้ายที่สุดก็ต้องรอให้การแข่งขันสี่อาณาจักรสิ้นสุดลง เขาถึงจะมีเวลาพัก
อวี้ชิงลั่วรู้สึกสบายใจ ออกไปสั่งให้สาวใช้ด้านนอกเตรียมอาหารค่ำ บอกได้คำเดียวว่ากินอย่างเอร็ดอร่อยทีเดียว
จนกระทั่งกินและดื่มจนหนำใจและลุกขึ้นยืนเพื่อย่อยอาหาร ก็พบว่าเยว่ซินกำลังเดินคอตกกลับมาด้วยท่าทางหดหู่
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว ก้าวเท้าเดินไปขวางตรงหน้านาง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นอะไรไป? ใครรังแกเจ้ารึ?”
“คุณหนู ท่านอ๋องบอกว่า จะลงโทษด้วยการหักเบี้ยหวัดของโม่เสียนหนึ่งเดือนเจ้าค่ะ” เยว่ซินเงยหน้ามองนางด้วยท่าทางน่าสงสาร
อวี้ชิงลั่วรู้สึกสนใจกับเรื่องนี้มาก สองคนนี้ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันเลย นี่เริ่มทำตัวเป็นแม่บ้านตัวน้อยที่เป็นห่วงเรื่องรายรับรายจ่ายของโม่เสียนแล้วรึ? โม่เสียนในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่ผู้อารักขาและมือขวาที่อยู่ข้างกายเย่ซิวตู๋ หากเย่ซิวตู๋ใจกว้าง ดูเหมือนว่าเงินในแต่ละเดือนก็คงไม่ใช่น้อย ๆ
อวี้ชิงลั่วรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ตบบ่าเยว่ซินด้วยรอยยิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ “ไม่เป็นไร คนที่ทำความผิดเรื่องนี้คือหนานหนาน กลับไปเจ้าก็ถามหนานหนานเพื่อขอเงินส่วนนั้นกลับมาก็สิ้นเรื่องแล้ว”
“…” เยว่ซินเบิกตาโต คุณหนูกำลังล้อเล่นอะไรอยู่ นางจะไปขอเงินจากนายน้อยได้อย่างไรกัน? อีกอย่าง จากนิสัยของนายน้อย…ที่เห็นเงินสำคัญยิ่งกว่าชีวิต บางทีอาจดึงเงินจากนางไปอีกหลายตำลึงเสียด้วยซ้ำ
อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมาจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง ก่อนจะหมุนกายเดินกลับเข้าห้องไป
จู่ ๆ เยว่ซินก็รู้สึกได้ว่านิสัยไม่ดีของคุณหนูแปลกประหลาดเสียเหลือเกิน นางช่างน่าสงสารจริง ๆ
นางแอบถอนหายใจอีกครั้ง ทำได้เพียงแค่รู้สึกปวดใจกับเบี้ยหวัดของเดือนนี้อย่างเงียบ ๆ อยู่ภายในใจ ก่อนจะเดินตามกลับเข้าไปด้านใน ตอนค่ำก็ช่วยถอดชุดให้อวี้ชิงลั่วอาบน้ำ และปรนนิบัตินางขึ้นเตียงเพื่อเข้านอน
เพียงแต่ อวี้ชิงลั่วเพิ่งเข้านอนได้ไม่นาน ประตูห้องก็เกิดเสียงดัง ‘เอี๊ยด’ เพราะถูกใครบางคนผลักเข้ามา ร่างเล็ก ๆ แอบเข้ามาในห้องมืด ๆ ของอวี้ชิงลั่ว และก้าวเท้าเดินเข้ามาข้างเตียงของนางทีละก้าวอย่างระมัดระวัง
เส้นเลือดที่บริเวณหน้าผากของอวี้ชิงลั่วถึงกับปูดขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังราวกับฟ้าร้อง เกรงว่าต่อให้เป็นคนตายก็คงถูกปลุกให้ฟื้นได้เช่นกัน
ทันทีที่พลิกตัว นางก็เผชิญหน้ากับใบหน้าอมชมพูละเอียดผิวนวลเป็นยองใยของหนานหนาน
“ท่านแม่ ข้าอยากนอนกับท่านแม่” หนานหนานสวมใส่เสื้อผ้าโปร่งบาง แม้ตอนนี้จะเข้าฤดูร้อนแล้ว แต่ภายในเรือนของอวี้ชิงลั่วมีต้นไม้ให้ความร่มเงา หน้าต่างก็ถูกเปิดแง้มไว้ครึ่งหนึ่ง ลมหนาวยามราตรีจึงพัดเข้ามาไม่หยุด ทำให้หนานหนานถึงกับหดตัว
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วเพราะทำใจไม่ได้ ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา แหวกม่านเตียงออก
เด็กน้อยยิ้มออกมาในทันที ปีนขึ้นมาและมุดเข้ามาใต้ผ้าห่มของนาง มือและเท้าทั้งสองข้างรัดเข้ากับตัวนางราวกับปลาหมึกยักษ์
“ท่านแม่ หนานหนานไม่ได้นอนกับท่านแม่นานมากแล้ว”
“เหอะ ไม่ต้องมาประจบ ความคิดของเจ้ามีหรือที่แม่จะไม่รู้?” อวี้ชิงลั่วตีก้นเล็ก ๆ ของเขา กอดร่างนุ่ม ๆ เล็ก ๆ ทว่ากลับรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก
หนานหนานบิดตัว “ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ ท่านแม่ ท่านดูสิ ข้าก็ลงโทษตัวเองแล้ว อีกอย่างเพื่อลงโทษให้หนักขึ้น ข้าตั้งใจไปนั่งดูเสี่ยวเฉิงเฉิงกินข้าวด้วยนะ เพื่อให้ตัวเองได้ดูแต่ไม่ได้กิน”
อวี้ชิงลั่วถึงกับก่ายหน้าผาก เขานั่งมองเย่หลานเฉิงกินข้าว เกรงว่าคงไม่ได้แค่นั่งดูอย่างเดียวหรอก เย่หลานเฉิงถูกเขาจ้องขนาดนั้น จะกินข้าวลงได้อย่างไรกัน?
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจเขา เพียงแต่ลูบศีรษะของเขาเบา ๆ และกล่าวเสียงเบาว่า “หนานหนาน อีกไม่กี่วันก็จะเป็นการแข่งขันสี่อาณาจักรแล้ว แม้ว่าแม่จะไม่ได้เป็นกังวลเรื่องของเจ้า แต่แม่ก็พอจะรู้นิสัยของเจ้าดีว่าเป็นพวกชอบสร้างปัญหา ทำตัวไม่เหมาะสมเลยสักนิด ตอนต่อสู้เจ้าก็ระวังตัวให้มากหน่อย ที่นั่นคงไม่มีใครช่วยเจ้าได้ เข้าใจหรือไม่?”
“อื้อ เข้าใจแล้ว” หนานหนานพยักหน้าและซุกเข้าหาอ้อมกอดของนางอีกครั้ง
หลังจากซุกอยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ เขาก็นิ่งไป ภายในห้องเงียบสงัดลง แต่ทันใดนั้นก็มีเสียง “โครกคราก” ดังขึ้นอย่างชัดเจน
อวี้ชิงลั่วชะงัก นางได้ยินหนานหนานลูบท้องพร้อมกับกระซิบเสียงเบาว่า “ท่านแม่ ข้าหิว” จากนั้นจึงเงยหน้า ใช้ดวงตาที่เป็นประกายแวววาวคู่นั้นมองมาที่นาง
……………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องกินแต่น้ำส้มไม่ปวดท้องเหรอเจ้าคะ อ่อ โม่เสียนเป็นคนรับกรรมแทนแล้ว น่าสงสารเขาจริงๆ เลยค่ะ รับใช้เจ้านายขี้หึงก็ต้องเหนื่อยหน่อย
เอ็นดูแกมหมั่นไส้เจ้าหนานหนานจริงๆ เลย
ไหหม่า(海馬)