อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 323 ไปตามหาเสี่ยวไป๋เหอ
ตอนที่ 323 ไปตามหาเสี่ยวไป๋เหอ
ตอนที่ 323 ไปตามหาเสี่ยวไป๋เหอ
โม่เสียนเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าเย่ซิวตู๋กำลังเดินตรงมาทางนี้ด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม ด้านหลังของเขายังมีฉินซงที่มีสีหน้าละอายใจเพราะไล่ตามชายชุดดำไปแต่ไร้ผล คิดว่าเขาคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งนี้แล้ว
“ท่านอ๋อง กระหม่อมสมควรตาย โปรดท่านอ๋องลงโทษด้วยพ่ะย่ะค่ะ” โม่เสียนคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง ก้มศีรษะลงเล็กน้อย
สีหน้าของเย่ซิวตู๋ยังคงอึมครึม สายตาของเขาหยุดลงบนแขนของโม่เสียน จากนั้นจึงเบือนสายตาไปมองหนานหนาน ซึ่งกำลังยิ้มให้เขาเล็กน้อย
เย่ซิวตู๋แอบรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างบอกไม่ถูก ในเมื่อหนานหนานผ่อนคลายขนาดนี้ อวี้ชิงลั่วก็คงไม่มีปัญหาอะไร
เขาสั่งให้โม่เสียนลุกขึ้นยืน หันกลับไปมองใต้เท้าเย่ที่กำลังทำความเคารพเขา “ใต้เท้าเย่ ทางฝั่งนี้ฝากท่านจัดการด้วย เราขอตัวก่อน”
ใต้เท้าเย่รีบก้มหน้าลง “ท่านอ๋องอย่าได้เป็นกังวล กระหม่อมจะพยายามจับตัวคนร้ายอย่างสุดความสามารถ”
เย่ซิวตู๋พยักหน้า จับมือหนานหนานหมุนกายเดินออกไป โม่เสียนเกิดความวิตกกังวลภายในใจ ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดท่านอ๋องถึงได้นิ่งสงบเช่นนี้ มิได้มีสีหน้าเป็นกังวลแม้แต่น้อย
เขาเงยหน้ามองเสิ่นอิงและเผิงอิงที่อยู่ข้าง ๆ เสิ่นอิงเพียงแค่ส่ายหน้าให้เขาโดยไม่ได้พูดอะไร
อันที่จริงตอนแรกที่นายท่านได้ฟังจากปากฉินซงว่าแม่นางอวี้ถูกจับเป็นตัวประกัน เย่ซิวตู๋ก็เกือบจะลงมือฆ่าเขาทิ้ง เพียงแต่ท้ายที่สุดก็อดทนอดกลั้นไว้ ภายหลังเมื่อได้ถามถึงสถานการณ์ของหนานหนาน ทราบว่าหนานหนานไม่ได้เป็นอะไร เขาก็ทำท่าทางเหมือนครุ่นคิด ก่อนจะรีบเดินทางมาที่นี่ เขาคิดว่านายท่านคงมีแผนอยู่ในใจแล้ว
พวกเขาเดินเข้ามาด้านในโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ หลังจากได้ห้องพิเศษก็เข้ามานั่ง หนานหนานก็เริ่มเอี้ยวตัวควานมือหากล่องใบเล็กที่อยู่ในกระเป๋า เพียงไม่นาน ก็หยิบยาสีดำหนึ่งเม็ดออกมายัดใส่ปากโม่เสียน
โม่เสียนชะงัก เอนศีรษะไปด้านหลัง “หนานหนาน…”
“
“นี่เป็นยาห้ามเลือด เลือดบนแขนของท่านยังหยดอยู่เลย หากปล่อยให้หยดต่อไปจะทำให้เสียเลือดมาก” หนานหนานยังยืนกรานยัดยาใส่ปากโม่เสียน
โม่เสียนยิ้มอย่างขมขื่นพลางส่ายหน้าตอบว่า “นี่เป็นสิ่งที่ข้าสมควรได้รับ” หากคิดจะห้ามเลือด เขาสามารถกดจุดให้ตัวเองได้ แต่นี่เป็นวิธีการลงโทษตัวเองอย่างหนึ่งก็เท่านั้น ไม่สามารถช่วยแม่นางอวี้ได้ ภายในใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความละอายใจ
เย่ซิวตู๋มองเขาปราดหนึ่ง กล่าวเสียงเรียบว่า “กินเข้าไป รอเหวินเทียนกลับมาค่อยว่ากัน”
“พ่ะย่ะค่ะ” โม่เสียนจึงรับยาจากหนานหนานและกลืนลงท้อง เพียงไม่นาน เลือดที่เดิมทียังไหลออกมาก็ค่อย ๆ หยุดลง
แม้รู้ว่าฉินซงได้เล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ให้นายท่านฟังแล้ว แต่โม่เสียนก็ยังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งจึงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “นายท่าน เป้าหมายของคนผู้นั้นชัดเจนมากว่าเป็นแม่นางอวี้ ดูจากท่าทางของพวกเขา ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของแม่นางอวี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าที่พวกเขาจับตัวแม่นางอวี้เป็นตัวประกัน สาเหตุเพราะนางคือหมอปีศาจหรือเป็นเพราะนางคืออวี้ชิงลั่วเมื่อหกปีก่อน”
เย่ซิวตู๋ตอบ ‘อืม’ ด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ สีหน้ายังคงตึงเครียดเหมือนเดิม
ในเวลานี้ จู่ ๆ ด้านนอกประตูก็เกิดเสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ เหวินเทียนเดินเข้ามาด้านใน คุกเข่ารับโทษเช่นเดียวกับโม่เสียน “ข้าน้อยไร้ประโยชน์ ทำให้นายท่านต้องผิดหวัง นายท่านโปรดลงโทษด้วยขอรับ”
โม่เสียนเห็นท่าทางเช่นนี้ เขาก็รีบคุกเข่าข้างหนึ่งลงข้าง ๆ เหวินเทียน ฉินซงก็ทำเช่นเดียวกัน
เย่ซิวตู๋สีหน้าอึมครึม เมื่อได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของเหวินเทียนก็ทราบได้ว่าเขากลับมามือเปล่า
หนานหนานบุ้ยปาก ไม่ได้พูดอะไร
เพียงแต่ผ่านไปได้ไม่นาน กลับเห็นสายตาของเย่ซิวตู๋จับจ้องมาที่ตนเอง หนานหนานชะงัก กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ “ท่านพ่อจะทำอะไร?”
“เจ้ามีวิธีตามหาแม่ของเจ้าหรือไม่?” หลังจากเย่ซิวตู๋ได้ฟังรายงานจากฉินซงเขาก็ได้ครุ่นคิดดูแล้ว ในเมื่ออวี้ชิงลั่วใช้แมงป่องตัวหนึ่งเพื่อตามหาตำแหน่งของหนานหนานได้ เช่นนั้นหนานหนานก็ต้องมีวิธีเพื่อตามหาอวี้ชิงลั่วเช่นกัน
ระหว่างที่กำลังคิดเช่นนี้ จิตใจที่ตื่นตระหนก ตึงเครียดและเป็นกังวลจึงสงบลง เขาตัดสินใจกลับมารอฟังข่าวจากเหวินเทียน หากไม่มีความคืบหน้า เขาคงทำได้เพียงแค่ถามหนานหนานแล้ว
หนานหนานได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ก็เบิกตาโตรีบถอยหลังออกไปหลายก้าว หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งก็หันหน้ากลับมาด้วยท่าทางมั่นคง ส่ายหน้าตอบว่า “ข้าไม่มีวิธีหรอก”
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจ ลุกขึ้นยืนและก้าวเท้าเข้ามาหาเขาสองสามก้าวอย่างเนิบช้า
ถึงอย่างไรก็เป็นลูกชายของเขา ทั้งยังอยู่ด้วยกันมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เขาจึงรู้นิสัยส่วนหนึ่งของหนานหนานแล้ว เขารู้ว่าเด็กคนนี้คงไม่เต็มใจที่จะบอกเขา และคงคิดหาวิธีเพื่อออกไปผจญภัยด้วยตนเอง
หนานหนานรีบถอยหลัง ร่างเล็ก ๆ จึงติดเข้ากับกำแพง
“หนานหนาน เจ้าลืมบทลงโทษเมื่อวานนี้แล้วรึ? หรือว่าเจ้าไม่อยากกินข้าวนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป?” เย่ซิวตู๋หรี่ตาลงเล็กน้อย จ้องมองเด็กน้อยที่จับกระเป๋าของตัวเองด้วยสายตาอันตราย
หนานหนานถึงกับมุมปากกระตุกวูบพลางมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางน่าสงสาร อันที่จริงบางครั้งท่านพ่อก็ไร้หัวใจยิ่งกว่าท่านแม่เสียอีก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านแม่ ท่านพ่อก็จะทารุณเขา ทารุณเขา แล้วก็ทารุณเขา
น่าเสียดายที่เขาเป็นเด็กอายุห้าขวบไม่มีที่พึ่งพาและไม่มีความสามารถที่จะสู้ท่านพ่อได้ ช่างเป็นชีวิตที่ยากลำบากจริง ๆ
เมื่อเห็นเย่ซิวตู๋ขยับเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาก็ยิ่งหรี่ลง ท้ายที่สุดหนานหนานก็กระโดดดีดตัว ยื่นมือออกมาทำท่าทางให้หยุด “พอแล้ว ๆ ข้ารู้แล้ว ข้าจะพาท่านไปหาท่านแม่”
คนที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดนี้ของเขาก็ถึงกับชะงัก แอบคิดว่าพวกเขาทางฝั่งนี้คิดหาวิธีเพื่อตามหาตัวแม่นางอวี้อย่างยากลำบาก แต่ในสายตาของหนานหนานกลับเป็นเรื่องที่แสนจะง่ายดาย
ทว่าท้ายที่สุดพวกเขาก็ถอนหายใจได้อย่างโล่งอก ตามหาตัวแม่นางอวี้ได้…ก็ดี
หนานหนานแอบถอนหายใจ เทของทั้งหมดที่อยู่ในกระเป๋าออกมา จากนั้นก็พลิกของอยู่บนพื้นครู่ใหญ่กว่าจะเจอกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หนึ่งใบ
ครั้นเปิดออก ก็พบแมงป่องที่มีขนาดใหญ่กว่าของอวี้ชิงลั่วหนึ่งเท่า มันกำลังนอนนิ่งอยู่ในกล่องใบนั้นอย่างเงียบ ๆ
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว คนอื่น ๆ กลับชะโงกหน้าเข้ามามองอย่างห้ามไม่อยู่
หนานหนานใช้นิ้วจิ้มแมงป่องตัวนั้น กล่าวเสียงเบาว่า “ต้าไป๋เหอ ตื่น ๆ เลิกนอนได้แล้ว”
แมงป่องตัวนั้นถูกหนานหนานจิ้มจนขยับตัว แต่ก็นิ่งไปอีกครั้ง ราวกับไม่คิดจะไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย
หนานหนานเงยหน้ายิ้มให้ทุกคนด้วยสีหน้าเขินอาย “นิสัยของต้าไป๋เหอก็เหมือนข้านี่แหละ”
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว คนอื่น ๆ ทำท่าทางตระหนักได้ เจ้านายเป็นอย่างไรสัตว์เลี้ยงก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ นิสัยเหมือนกับหนานหนาน นั่นก็หมายความว่า…ขี้เกียจมิใช่รึ?
หนานหนานออกแรงจิ้มอีกครั้ง ในที่สุดแมงป่องตัวนั้นก็หมดความอดทน หมุนตัวของมันกลับมาทันใด
“รีบไป ไปหาเสี่ยวไป๋เหอ” หนานหนานเปิดประตู ชี้นิ้วบอกทิศทางกับมัน แมงป่องหยุดอยู่ตรงนั้นด้วยความไม่เข้าใจ ผ่านไปครู่ใหญ่ หนานหนานถึงกับหมดความอดทน มันจึงเริ่มคลานออกไปด้านนอกอย่างเกียจคร้าน การเคลื่อนไหวของมันเชื่องช้ามาก
เย่ซิวตู๋แอบถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ หันไปพูดกับโม่เสียนว่า “เจ้าพาเป่าเอ๋อร์กับหลานเฉิงกลับจวนอ๋องก่อน ทำแผลที่แขนของเจ้าให้เรียบร้อย”
ครั้นกล่าวจบ เขาก็ย่อตัวอุ้มหนานหนานขึ้นมา เดินตามแมงป่องตัวนั้นที่เพิ่มความเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วออกจากโรงเตี๊ยมไปด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ใช้แมงป่องเป็นจีพีเอสตามหาตัวแบบนี้มีแต่สองแม่ลูกคู่นี้แหละที่จะทำได้
ไหหม่า(海馬)