อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 327 พวกเราไม่ได้ฆ่านะ
ตอนที่ 327 พวกเราไม่ได้ฆ่านะ
ตอนที่ 327 พวกเราไม่ได้ฆ่านะ
เย่ซิวตู๋จึงกลั้นหายใจ กอดร่างที่อยู่ในอ้อมกอดแน่นขึ้นขณะมองลงไปด้านล่าง
ด้านล่างมีเงาสามเงากำลังแอบเดินเข้ามาด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ แต่ละคนชะเง้อหน้ามองด้วยสีหน้าจริงจังขณะเดินตรงมาทางนี้
เย่ซิวตู๋หรี่ตาลงเล็กน้อย ทั้งสามคนนี้หน้าตาคุ้น ๆ…นี่มันองค์ชายสามคนนั้นที่กลิ้งออกจากด้านในรถม้าเมื่อวานนี้มิใช่รึ?
อวี้ชิงลั่วจำพวกเขาได้แล้ว นางถึงกับกลั้นหายใจยิ่งกว่าเดิม
ดูจากแผนผังของลานแห่งนี้ ลานนี้น่าจะอยู่ติดด้านหลังและค่อนข้างห่างไกล คนธรรมดาโดยทั่วไปไม่มีทางเดินมาทางนี้ อีกอย่างซ่างกวนจิ่งก็พานางมาขังไว้ที่นี่ เรือนแห่งนี้ย่อมเป็นสถานที่ส่วนตัว ทั้งยังเป็นเรื่องยากที่จะมีคนเข้ามาพบเจอ
องค์ชายทั้งสามคนนี้ดูเหมือนจะเป็นพวกใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวย ย่อมต้องพักอยู่ด้านหน้าและมีคนรับใช้คอยปรนนิบัติเป็นจำนวนมากถึงจะถูก เหตุใดตอนนี้กลับเดินมาถึงที่นี่?
ยังไม่ทันที่อวี้ชิงลั่วจะคิดอะไรมากไปกว่านั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของหนึ่งในองค์ชายเหล่านี้พูดขึ้นว่า “พวกเรามาที่นี่ไม่ค่อยดีเท่าไรกระมัง? หากเสด็จลุงรู้เข้า พวกเราต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด”
“เจ้าจะกลัวอะไร?” อีกคนหนึ่งตะเบ็งเสียงตำหนิ “ได้ยินมาว่าเสด็จลุงจับตัวใครบางคนกลับมา ไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร คุ้มค่าถึงขั้นที่เสด็จลุงต้องจับตัวกลับมาด้วยความรีบร้อนเช่นนี้ พวกเราไปดูตอนนี้ ไม่แน่อาจเจอความผิดของเขาและจับจุดอ่อนของเขาได้ด้วย”
“นั่นสิ เมื่อวานตอนที่เสด็จลุงได้ฟังคำพูดของท่านอ๋องซิวแห่งอาณาจักรเฟิงชางก็ตำหนิพวกเราอย่างหนักไปยกใหญ่ ทั้งยังสั่งให้พวกเราปล่อยตัวเด็กน้อยปากแดงฟันขาวนั่น ปล่อยให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันสี่อาณาจักรใหญ่อย่างจริงจัง แถมยังทำให้พวกเราขาดความสนุกไปไม่รู้ตั้งเท่าไร ถึงอย่างไรเสด็จพ่อก็กำลังคิดหาวิธีเพื่อจัดการกับเสด็จลุงอยู่แล้ว มาที่นี่ในครั้งนี้ ก็เป็นการเตือนพวกเราอย่างลับ ๆ แล้วมิใช่รึ? เจ้าหก เจ้าจะขี้ขลาดแบบนี้ไม่ได้นะ พวกเรามาที่นี่ในครั้งนี้ไม่เพียงแค่เข้าร่วมการแข่งขันใหญ่สี่อาณาจักร แต่ต้องคิดหาวิธีเพื่อจัดการกับเสด็จลุงด้วย
เด็กหนุ่มคนนั้นที่ถูกเรียกว่าเจ้าหกถอนหายใจเบา ๆ สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เพียงแต่เมื่อนึกถึงภารกิจที่เสด็จพ่อมอบหมายให้พวกเขา ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก อำนาจของอุปราชในตอนนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว หากปล่อยให้พัฒนาเช่นนี้ ต่อไป ก็คงไม่มีที่สำหรับองค์ชายอย่างพวกเขาแล้วจริง ๆ
ทว่าอุปราชมีรากฐานที่มั่นคง พวกเขาทั้งสามคนจะสู้ได้อย่างไรกัน? เสด็จพ่อก็ลำเอียง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการสร้างความขุ่นเคืองให้อุปราชจะทำให้พวกเขาต้องเจอกับผลลัพธ์ไม่ดีที่จะตามมา แต่ก่อนจะออกจากอาณาจักรยังย้ำเตือนพวกเขา เหตุใดเขาจึงไม่ให้รัชทายาทและเสด็จลุงสู้กันล่ะ?
แม้ว่าจะคิดเช่นนี้ แต่พวกเขาก็ตกปากรับคำกับเสด็จพ่อแล้ว ตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่ดำเนินการอย่างระมัดระวัง
ทั้งสามคนเดินตรงไปยังห้องที่อวี้ชิงลั่วอยู่เมื่อครู่ เย่ซิวตู๋เห็นว่าได้ยินพอสมควรแล้ว จึงกระชับเอวของอวี้ชิงลั่วโดยพลัน กระทืบเท้าทั้งสองข้างออกจากเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลยอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ถามความเห็นของอวี้ชิงลั่วด้วยซ้ำ
ตอนที่ซ่างกวนจิ่งมาถึงห้องโถงด้านหน้ากลับไม่พบเย่ซิวตู๋อยู่ที่นี่ เขาเองก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว
อีกอย่าง ซ่างกวนจิ่งจะไปที่โถงด้านหน้าหรือไม่ก็เป็นคนละเรื่องกัน
เขาคิดเช่นนี้ ทว่าความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คาดเดาไว้
ห้องที่กักขังอวี้ชิงลั่วไว้อยู่ค่อนข้างห่างไกล กว่าซ่างกวนจิ่งจะเดินมาถึงห้องโถงด้านหน้าก็ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาเพิ่งจะเดินอ้อมลานด้านหลังไปที่ห้องโถงด้านหน้า คิ้วกลับขมวดเข้าหากันแน่น และก้าวเท้าไม่ออกอีกต่อไป
ผู้อารักขาที่เดินตามเขาอยู่ด้านหลังก็หยุดเดินเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า “ท่านอ๋อง?”
โทสะของซ่างกวนจิ่งพลันปะทุขึ้น ใบหน้าเหี้ยมโหดอึมครึมจนน่ากลัว เพียงแต่บนศีรษะกลับมีเหงื่อซึมออกมาฉับพลัน กระตุ้นพลังภายในอย่างสุดชีวิต
“ท่านอ๋อง?” ผู้อารักขาของเขาพบสิ่งผิดปกติเล็กน้อย สีหน้าพลันตื่นตระหนก แล้วรีบก้าวเท้ามาด้านหน้าเพื่อประคองเขา
ซ่างกวนจิ่งยืนอย่างมั่นคง ทว่าแขนของเขากลับทิ้งลงข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะยกขึ้นมาด้วยซ้ำ
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงฉากที่ตนเองบีบคออวี้ชิงลั่ว ท่าทางดิ้นสุดชีวิตของสตรีผู้นั้นทำให้สีหน้าของเขาดูแย่ลงอย่างมาก
นางลงมือแล้วจริง ๆ
“กลับไปที่เรือนเมื่อครู่” ซ่างกวนจิ่งขบฟันกรอด บนหน้าผากของเขายังคงมีเหงื่อซึมออกมาทีละนิด
ผู้อารักขาคนนั้นตื่นตระหนก เขาทราบดีว่าท่านอ๋องกำลังไม่สบายตัว ย่อมมิอาจไปเจอท่านอ๋องซิวที่ห้องโถงด้านหน้าได้ จึงเรียกผู้ดูแลที่อยู่ข้าง ๆ ให้ไปแจ้งกับท่านอ๋องซิว เพื่อบอกว่าอุปราชรู้สึกไม่สบายตัว มิอาจไปพบได้
จากนั้นจึงประคองแขนของซ่างกวนจิ่งเดินกลับไปที่เรือนด้วยความระมัดระวัง
ซ่างกวนจิ่งเพิ่งจะก้าวเท้าเดินไปได้ก้าวเดียว ขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรงจนร่างกายล้มไปด้านหน้า
ผู้อารักขาคนนั้นหน้าถอดสีอย่างหนัก รีบใช้แรงประคองร่างของซ่างกวนจิ่งไว้
ซ่างกวนจิ่งหลับตาแน่น สตรีสมควรตาย เขามีชีวิตจนโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้มาก่อน สตรีผู้นั้น…กลับทำให้เขาเกือบล้มไปกองอยู่บนพื้นต่อหน้าคนรับใช้จำนวนมากขนาดนี้
เขาไม่มีทางปล่อยนางไว้ ต้องทำให้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังให้ได้
“ไปแบกเกี้ยวมา” ซ่างกวนจิ่งตะคอกใส่ผู้อารักขาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็มีคนสามสี่คนรีบวิ่งออกไป เพียงไม่นานก็ยกเกี้ยวขนาดเล็กมาหยุดเทียบข้าง ประคองซ่างกวนจิ่งให้ขึ้นไปนั่งอย่างระมัดระวัง
ผู้อารักขาคนสนิทผู้นั้นพอจะทราบแล้วว่านี่เป็นฝีมือของหมอปีศาจผู้นั้น ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้มีทักษะทางการแพทย์ชั้นสูง การวางยาใส่นายท่านโดยไม่ส่งเสียงย่อมมิใช่เรื่องยากลำบาก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่พูดอะไรมากมาย สั่งให้คนรีบยกเกี้ยวพาไปส่งที่ห้องด้านหลัง
ผู้อารักขาที่ดูแลฝั่งนี้ต่างเป็นคนที่มีวรยุทธ์ เมื่อเห็นอุปราชรีบร้อน เท้าที่ย่างก้าวย่อมเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
เพียงไม่นาน ซ่างกวนจิ่งก็ถูกหามมาถึงห้องที่อวี้ชิงลั่วอยู่เมื่อครู่
ทว่าตอนที่พวกเขาเพิ่งมาถึงที่แห่งนี้ กลับพบว่าองค์ชายสามคนกำลังยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีตกตะลึง
ตรงหน้าพวกเขายังมีทหารกองทัพพยัคฆ์สี่คนนอนอยู่บนพื้น
ซ่างกวนจิ่งหน้าถอดสีอย่างหนัก มือทั้งสองพยายามจับราวเพื่อพยุงตัวลุกขึ้น ทว่าตอนนี้นิ้วมือของเขากลับหยิบจับอะไรก็อ่อนปวกเปียกไปเสียหมด การจะลุกขึ้นมานั่งได้นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ดูเหมือนว่าองค์ชายทั้งสามจะได้ยินเสียงฝีเท้าจึงรีบหันกลับมา ก็พบกับซ่างกวนจิ่งที่มีสีหน้าขึงขัง ขาของทั้งสามคนถึงกับอ่อนยวบและล้มลงไปนั่งบนพื้นในทันใด
ซ่างกวนจิ่งเห็นดังนั้นก็ยิ่งเดือดดาลเข้าไปใหญ่ ตวาดใส่พวกเขาทั้งสามคนว่า “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่? ใครอนุญาตให้พวกเจ้ามา?”
“เสด็จ…เสด็จลุง…พวกเรา…พวกเรามาเดินเล่น พวกเราไม่ได้ฆ่าพวกเขานะขอรับ จริง…จริง ๆ นะ…พวกเราไม่รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขา…พวกเขาลงไปนอนอยู่บนพื้นกันหมดแล้ว ตอนที่พวกเรามาถึงก็เห็นฉากเช่นนี้แล้ว เสด็จลุง จริง ๆ นะ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราจริง ๆ นะขอรับ”
พวกเขารู้ดีว่าอารมณ์ของซ่างกวนจิ่งเป็นเช่นไร หากคนคนนี้ระเบิดอารมณ์ขึ้นมาจริง ๆ ต่อให้พวกเขาเป็นองค์ชายก็ต้องเจอกับผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามมา
หากประมาทเลินเล่อจริง ๆ บางทีอุปราชอาจฆ่าพวกเขาภายในที่แห่งนี้
เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ซ่างกวนจิ่งได้ยินพวกเขาพูดเช่นนั้นก็ถึงกับแค่นเยาะออกมาหนึ่งเสียงอย่างห้ามไม่อยู่
……………………………………………………..
สารจากผู้แปล
บอกแล้วว่าอย่าประมาทฝีมือของหมอปีศาจ
ซวยแล้วไหมองค์ชายทั้งสาม
ไหหม่า(海馬)