อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 329 ของที่เย่ซิวตู๋มอบให้
ตอนที่ 329 ของที่เย่ซิวตู๋มอบให้
ตอนที่ 329 ของที่เย่ซิวตู๋มอบให้
อวี้ชิงลั่วชะงักค้างไปครู่หนึ่ง เข้าวังพร้อมกับเขา?
คนคนนี้คงสมองพังไปแล้วกระมัง คราก่อนยังลากนางออกนอกประตูวังเพื่อ…จูบ ไม่อนุญาตให้นางก้าวเท้าเข้าประตูวังแม้แต่ก้าวเดียว เหตุใดวันนี้กลับใจกว้างเช่นนี้?
อวี้ชิงลั่วมองเขาด้วยความฉงน แล้วจึงเอ่ยถามว่า “ฮ่องเต้จัดงานเลี้ยงเชิญทูตจากสี่อาณาจักร จะให้สตรีอย่างข้าไปทำอะไร?”
“ฟังจากความหมายของเจ้าแล้วคงไม่อยากไปงั้นสิ? เช่นนั้นก็ช่างเถอะ” เย่ซิวตู๋ปรายตามองนางปราดหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินออกไป
อวี้ชิงลั่วถึงกับตกใจ เอื้อมไปดึงมือของเขาตามจิตใต้สำนึก แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “ไป! ต้องไปอยู่แล้ว ข้าก็แค่รู้สึกว่าสถานะนี้ของข้าจะทำให้ท่านต้องลำบากใจ…โอ๊ะ…แต่มีหลินมาอยู่ทั้งคนก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว คราวก่อนข้าเองก็เข้าไปครั้งหนึ่งแล้วมิใช่รึ?”
รอยยิ้มพรายของนางแฝงการประจบประแจงอยู่จาง ๆ …พูดเป็นเล่น ได้เข้าวังอย่างเปิดเผยโจ่งแจ้ง หากปฏิเสธกลับไปก็โง่แล้ว
เย่ซิวตู๋รู้ดีว่านางต้องพูดเช่นนี้ มุมปากจึงผุดรอยยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่อง ทั้งยังเหลือบมองนางสองหน ท้ายที่สุดสายตาก็จรดลงบนมือเล็ก ๆ ของนางที่กำลังดึงเสื้อของเขาพลางลอบถอนหายใจ
อวี้ชิงลั่วมองตามสายตาของเขา รีบดึงมือทั้งสองข้างกลับมาราวกับถูกทำให้ตกใจ จากนั้นจึงเงยหน้ามองคานที่อยู่ด้านบน แสร้งทำเป็นว่าการออกตัวที่ดูคลุมเครือเมื่อครู่มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง
เย่ซิวตู๋ถึงกับลอบแค่นเสียง ตอนนี้เขาไม่คิดจะไปจากที่นี่แล้ว จึงลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ นาง เอ่ยถามว่า “ซ่างกวนจิ่นจับตัวเจ้าไปทำไม?”
“เขาแคลงใจถึงความสัมพันธ์ของข้าและองค์ชายรองของอาณาจักรเทียนอวี่” อวี้ชิงลั่วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ แค่นึกถึงปีศาจผู้นั้นที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตา นาง จึงขบฟันกรอดจนปวดฟัน
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว “ดังนั้นพวกเจ้าก็มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน?”
“มีที่ไหนกันเล่า องค์ชายรองนั่นก็แค่บังเอิญเท่านั้น เขาเงยหน้าขึ้นมาตรงกับหน้าต่างที่ข้ายืนอยู่พอดี ซ่างกวนจิ่นจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา อยู่ดี ๆ ก็เอาความซวยมาให้จริง ๆ”
เย่ซิวตู๋ฟังจบ นัยน์ตาก็พลันมืดหม่นลง เขาช้อนสายตาจ้องมองอวี้ชิงลั่วอย่างลึกซึ้ง เมื่อเห็นท่าทีของนางที่ยังดูเหมือนผู้บริสุทธิ์ บนใบหน้าก็ฉายแววโกรธเคือง ยิ้มเยาะใส่นางว่า “บังเอิญจริง ๆ สินะ”
ระหว่างที่พูดก็ถลึงตาใส่นางด้วยท่าทางดุดันอีกหน ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้านิ่งขึง
อวี้ชิงลั่วถึงกับงุนงงเมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของเขา จึงได้แต่ยืนชะงักค้างอยู่ในห้องครู่หนึ่ง ก่อนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าวว่า “ประสาท ข้าไปทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองอีก อยู่ดี ๆ จะมาอารมณ์เสียใส่ทำไม ข้าเพิ่งหนีรอดจากเงื้อมมือปีศาจ เกือบถูกฆ่าตายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังอกสั่นขวัญแขวนไม่หายเลย ไม่มีคำพูดปลอบใจกันสักประโยค ยังจะมาถลึงตาใส่ข้าด้วยสายตาอึมครึมแปลกประหลาดอีก ยอดเยี่ยมเหลือเกิน”
“เหอะ” อวี้ชิงลั่วกำลังบ่นเรื่อยเปื่อย จู่ ๆ เสียงยิ้มเยาะรุนแรงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านนอก จากนั้นก็พบว่าเย่ซิวตู๋ที่เดินออกไปได้เดินกลับเข้ามาอีกครั้งด้วยสีหน้ามืดมน ได้ยินนางพูดเช่นนี้ จึงสาวเท้าเข้ามาหานางทีละก้าว ขยับเข้าใกล้นางมากขึ้นเรื่อย ๆ
อวี้ชิงลั่วกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว ถึงกับถอยร่นไปด้านหลังสองก้าว
ช่วงนี้นางดวงซวยเกินไปแล้ว นางเจอคนที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งติดต่อกันมาหลายวัน ทำเอาความสามารถของนางไร้ประโยชน์ นางอดทนอดกลั้นจนแทบอยากจะกัดคนอยู่แล้ว
เย่ซิวตู๋มองนางด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร กระแทกของที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะตรงหน้านางอย่างรุนแรง ก่อนจะหมุนกายสาวเท้าออกจากห้อง
อวี้ชิงลั่วรู้สึกราวกับพลังทั่วทั้งร่างกายของนางถูกสูบออกไปจนหมด นางถอนหายใจออกมาแรง ๆ หย่อนจะก้นนั่งลงเก้าอี้ หลับตาพลางตบหน้าอกตนเอง
เพียงแต่วินาทีต่อมา ตอนที่สายตาของนางมองไปยังกล่องไม้ใบนั้นที่วางอยู่บนโต๊ะ นางก็ถึงกับชะงักไปอีกหน แล้วเปิดกล่องดูด้วยความฉงน
ทันใดนั้น สายตาก็ประสานเข้ากับกำไลหยกขาวที่อยู่ในกล่อง
อวี้ชิงลั่วได้เห็นของดีมาไม่น้อย ย่อมรู้ดีว่าของชิ้นนี้ของเย่ซิวตู๋เป็นของมีราคาสูง ทั้งยังเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยาก นางถึงกับต้องกลืนน้ำลาย จ้องมองกำไลหยกขาวนั้นอยู่ครู่ใหญ่ แม้แต่ตอนที่เยว่ซินเดินเข้ามานางก็ยังไม่รู้
“คุณหนู…”
อวี้ชิงลั่วชะงัก รีบดึงสายตากลับมา ก่อนจะปิดฝากล่องใบนั้นจนเกิดเสียงดัง ‘ปัง’
เยว่ซินเม้มปากอมยิ้ม กระซิบเสียงเบาว่า “คุณหนู เมื่อครู่ท่านอ๋องบอกว่า ของชิ้นนี้…สำหรับปลอบขวัญคุณหนู ให้คุณหนูรับไว้เจ้าค่ะ”
“…” อวี้ชิงลั่วเกิดความคิดที่ไม่อาจบรรยายได้ ทั้งยังมีความสุขเล็ก ๆ ที่พลุ่งพล่านขึ้นมา ทำเอาหัวใจดวงน้อยของนางเต้นระรัว
เย่ซิวตู๋ก็ยังรู้จักความเป็นมนุษย์อยู่เหมือนกันแฮะ เหอะ แม้วิธีตบหัวแล้วลูบหลังของเขาจะทำให้นางดูหมิ่นเป็นอย่างมาก แต่การลูบหลังนี้…ก็หวานเข้าไปถึงกลางใจของนางอย่างแท้จริง
อวี้ชิงลั่วเก็บกล่องไม้ด้วยท่าทางเย็นชาระคนหยิ่งผยอง นางรู้สึกสดชื่นภายในพริบตาเดียว ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจและพูดกับเยว่ซินว่า “เตรียมอาหารค่ำเถอะ ข้าหิวจะแย่แล้ว”
เยว่ซินเม้มปากอมยิ้มอีกหน นายท่านดีกับคุณหนูมากจริง ๆ แม้เมื่อวานจะดูเหมือนมีปากเสียงกับคุณหนู แต่วันนี้ก็ยังนำของขวัญชิ้นใหญ่เพียงนี้มาให้คุณหนู อืม นางรู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง
เยว่ซินแอบเกิดอารมณ์วูบไหว เพียงแต่เมื่อได้ยินอวี้ชิงลั่วบ่นว่าหิวแล้ว จึงรีบเดินออกจากห้องเพื่อเตรียมอาหารค่ำให้นาง
ตอนที่นางเพิ่งจะก้าวเท้าออกจากประตู หนานหนานกลับปรี่ตัวเข้ามาไวดั่งลูกระเบิด ทันทีที่เข้ามาด้านใน ก็รีบถลาเข้าใส่ตัวอวี้ชิงลั่ว ทำเอานางทรงตัวไม่อยู่จนเกือบจะล้มไปกองบนพื้น
“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่ มีปัญหาตรงไหนหรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วจ้องหน้าหนานหนาน แกะมือของเขาออกจากตัว “แม่ไม่เป็นไร แต่จะเป็นก็เพราะถูกเจ้าชนนี่แหละ”
“จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ? ท่านแม่เป็นท่านแม่ที่หนานหนานรักมากที่สุด หนานหนานไม่ยอมให้ท่านแม่เป็นอะไรหรอก ท่านดูสิ เป็นเพราะช่วยท่านแม่ออกมา ข้าเลยต้องเชิญต้าไป๋เหอที่เกษียณอายุออกมาโดยเฉพาะเลยนะ ทั้งยังพูดจาดี ๆ กับต้าไป๋เหออย่างนอบน้อมถ่อมตนไม่น้อย แม้แต่ศักดิ์ศรีก็ไม่เหลือแล้ว เห็นได้ว่าความกตัญญูของหนานหนานที่มีต่อท่านแม่ดุจดั่งสายวารีไหลเชี่ยวไร้ที่สิ้นสุด”
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจคำพูดเยินยอของหนานหนาน เพียงแต่วางตัวเขาลงไปนั่งบนเก้าอี้ข้าง ๆ
แต่หนานหนานกลับไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ทั้งยังพูดต่อไปว่า “ท่านแม่ วันนี้ข้าถือว่าเป็นวีรบุรุษผู้สร้างคุณงามความดีชั้นหนึ่งเลยใช่หรือไม่”
“อยากได้รางวัลอะไร?” แค่เจ้าตัวเล็กอ้าปาก อวี้ชิงลั่วก็เห็นลิ้นไก่ของเขาแล้ว
หนานหนานยิ้มเผล่ รอยยิ้มนั้นดูเจ้าเล่ห์ระคนสอพลอ อวี้ชิงลั่วรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา แล้ว รีบเบือนสายตาไม่มองเขาอีก
“ท่านแม่ วันพรุ่งข้าจะเข้าวังด้วย” หนานหนานกระโดดมาบนเข่าของนางราวกับปลาหมึกยักษ์ โอบกอดร่างกายที่ทั้งหอมและนุ่มของนางไม่ยอมปล่อย “ท่านพ่อบอกว่า ขอแค่ท่านแม่ตอบตกลง หนานหนานก็เข้าวังได้แล้ว”
ขอแค่ให้นางตอบตกลง? อวี้ชิงลั่วขบฟันกรอด เกรงว่าตาบ้าเย่ซิวตู๋ผู้นั้นคงรู้ว่าหนานหนานเชื่อฟังคำพูดของนาง จึงผลักปัญหายุ่งยากเช่นนี้มาให้นางสินะ
แท้จริงแล้วบุรุษไร้ยางอายผู้นั้น หลังจากลูบหลังก็ตบหัวนางซ้ำอีกครั้งนี่เอง
“ท่านแม่?” หนานหนานเห็นสีหน้าของอวี้ชิงลั่วดูไม่สู้ดี จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกราวกับว่าความหวังเริ่มริบหรี่ลงเสียแล้ว
……………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ว้อยยย ท่านอ๋อง เดี๋ยวตบหัวลูบหลังแล้วตบซ้ำอีกรอบนี่มันอะไรกันคะ ชิงลั่วจะโกรธไม่เผาผีก็เพราะแบบนี้แหละ
ไหหม่า(海馬)