อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 338 อวี้ชิงลั่วถูกจับตัว
ตอนที่ 338 อวี้ชิงลั่วถูกจับตัว
ตอนที่ 338 อวี้ชิงลั่วถูกจับตัว
ฮ่องเต้กำลังรู้สึกลำบากพระทัย การได้แต่งงานกับอาณาจักรเทียนอวี่ ย่อมทำให้พระองค์มีความสุข โดยเฉพาะองค์หญิงเทียนฝูแห่งอาณาจักรเทียนอวี่
หากคู่ครองเป็นเจ้าเจ็ดหรือเจ้าแปด เช่นนั้นย่อมไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย
ทว่าซิวเอ๋อร์…
ไม่ต้องพูดถึงนิสัยของซิวเอ๋อร์ที่หัวรั้นและมีความคิดเป็นของตนเอง เกรงว่าคงไม่ยอมฟังในสิ่งที่พระองค์ตรัส แค่พูดถึงเรื่องที่ซิวเอ๋อร์มีหนานหนานและแม่ของหนานหนานแล้ว เรื่องนี้จะอธิบายกับอาณาจักรเทียนอวี่อย่างไร ทำเช่นนี้มิเท่ากับทำให้องค์หญิงแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ได้รับความอยุติธรรมหรอกหรือ?
ฮ่องเต้กำลังคิดว่าจะช่วยบ่ายเบี่ยงให้เย่ซิวตู๋ ทว่าพระองค์กลับเห็นเย่ซิวตู๋ลุกพรวดขึ้นฉับพลันอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะสาวเท้ามายังเบื้องพระพักตร์ของพระองค์ ทั้งยังกล่าวต่อหน้าคณะทูตจากสามอาณาจักรและขุนนาง บอกว่าเขา…ยินดี
ยินดี?
แม้แต่ฮ่องเต้ก็ตกพระทัย ซิวเอ๋อร์ยินดีแต่งงานงั้นหรือ? ทั้งยังแต่งงานกับองค์หญิงของอาณาจักรเทียนอวี่ที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตา?
ฮ่องเต้รู้สึกไม่ค่อยเชื่อใจเท่าใดนัก จึงขมวดพระขนงตรัสถามว่า “ซิวเอ๋อร์ เจ้ายินดีจริง ๆ รึ?”
เย่ซิวตู๋เม้มปาก ใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกได้ยินมาว่าองค์หญิงเทียนฝูของอาณาจักรเทียนอวี่งดงามปานนางสวรรค์ อีกทั้งยังฉลาดมีความรู้ควบคู่ความงาม หากได้สานสัมพันธ์กับองค์หญิงเทียนฝู ลูกน้อมรับด้วยความยินดีอย่างถึงที่สุด”
มุมพระโอษฐ์ของฮ่องเต้ถึงกับกระตุกวูบ หันพระพักตร์มองไปทางเหมียวเชียนชิว
เหมียวเชียนชิวก็ประหลาดใจมากเช่นกัน เพียงแต่ในเมื่อท่านอ๋องพูดเองว่ายินดี และอาณาจักรเทียนอวี่ก็เห็นถึงความสำคัญของท่านอ๋องซิว ในเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีที่จะปิดกั้น
เฮ้อ หนานหนานผู้น่าสงสาร ไม่รู้ว่าหากเด็กคนนั้นรับรู้ว่าท่านอ๋องกำลังจะแต่งงานกับสตรีอื่นเพื่อให้นางมาเป็นแม่ของเขา จะสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องปิดบังไว้จึงจะดี
เย่ฮ่าวหรานถึงกับตกตะลึง หันมองพี่ห้าของตนเองพลางอ้าปากค้าง ก่อนจะยืนขึ้นแล้วถาม “พี่ห้า ท่านเป็นบ้าไปแล้วรึ?”
ภายในใจของเขามีแค่อวี้ชิงลั่วมิใช่รึ? หากเขาแต่งงานกับองค์หญิง แล้วอวี้ชิงลั่วจะทำเช่นไร?
“สามหาว เจ้าแปด พูดจาเหลวไหลอะไรของเจ้า?” ฮ่องเต้ตวัดพระเนตรมองเย่ฮ่าวหรานอย่างไม่พอพระทัย
หลังจากซิวเอ๋อร์ตอบตกลงที่จะแต่งงานกับองค์หญิงของอาณาจักรเทียนอวี่ เหตุใดจึงได้พูดว่าซิวเอ๋อร์เป็นบ้า ต่อหน้าองค์ชายรองของอาณาจักรเทียนอวี่?
ทว่าเย่ซิวตู๋กลับยิ้ม ตอบเสียงทุ้มต่ำว่า “ทำไมรึ หรือน้องแปดอยากแย่งกับพี่ห้า?”
“…” เย่ฮ่าวหรานอ้าปากค้าง หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง จึงกลับไปนั่งประจำที่อย่างเงียบ ๆ แต่ภายในใจกลับรู้สึกกรุ่นโกรธอย่างมาก ยกแก้วสุราขึ้นมากระดกจนหมดแก้วภายในรวดเดียว
ช่างเถอะ เขาไม่สนใจแล้ว ถึงอย่างไรเมื่อถึงเวลานั้นอวี้ชิงลั่วก็คงทำอะไรสักอย่างเพื่อจัดการกับพี่ห้าเอง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพี่ห้าหาเรื่องใส่ตัว เขาไม่คิดว่าอวี้ชิงลั่วจะยอมปล่อยให้พี่ห้าแต่งงานกับสตรีอื่นง่าย ๆ หรอก หากพี่ห้าแต่งงาน บางทีสตรีผู้นั้นอาจพาหนานหนานออกจากเมืองหลวงในทันที
แต่หากสองแม่ลูกคู่นั้นไปจากที่นี่ หลีเอ๋อร์ก็คงตามไปด้วย เย่ฮ่าวหรานคิดเช่นนี้ก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันใด ยิ่งหันมองเย่ซิวตู๋ เขาก็ยิ่งโกรธเคืองจนหน้าตาถึงกับดูบิดเบี้ยว
ซ่างกวนจิ่นหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าท่านอ๋องซิวกำลังคิดอะไรอยู่ภายในใจกันแน่ แม้แต่ฉีหานเว่ยก็ยังเงียบไม่ส่งเสียงพูด
ส่วนอวี้ชิงลั่วผู้ยืนห่างออกไปไม่ไกลและกำลังทำท่าจะแอบเดินหนีไปก็ถึงกับตกตะลึงทันใด
เย่ซิวตู๋…จะแต่งงานกับองค์หญิงเทียนฝู?
ทันทีที่เย่ซิวตู๋พูดว่ายินดี ร่างกายของนางก็เริ่มสั่นสะท้าน ภายในใจเกิดความรู้สึกน้อยใจเล็ก ๆ พรั่งพรูขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกน้อยใจและหึงหวงที่แม้แต่ตัวนางก็ยังไม่เข้าใจ รู้สึกราวกับมีรูขนาดใหญ่เปิดออก มันช่างวูบโหวงและว่างเปล่า
คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแต่งงานกับสตรีอื่น
อวี้ชิงลั่วกะพริบตาปริบ ๆ เกิดอาการร้อนผ่าวที่ขอบตา ภาพทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าเริ่มพร่าเลือนขึ้นมาในบัดดล
เงาแผ่นหลังของบุรุษผู้นั้นที่กำลังยืนอยู่ต่ำกว่าฮ่องเต้ ดูเหมือนจะห่างไกลจากนางมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบมองไม่เห็น
นางรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนร่างกายจนแทบจะร้องขอชีวิต เกิดความผิดปกติทั่วสรรพางค์กาย
นางสูดหายใจเข้าลึก ขาทั้งสองข้างของอวี้ชิงลั่วถึงกับเซ ขณะเดินตรงไปที่วังหลังด้วยท่าทีเหมือนตกอยู่ในภวังค์ เลิกคิด…เลิกคิด ปล่อยให้เย่ซิวตู๋ไปตายซะเถอะ เขาอยากแต่งงานกับใครก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนาง นางต้องรีบหาแม่นมเก๋อ แม่นมเก๋อคือคนที่สำคัญที่สุด
หลีจื่อฟานเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จและกำลังเดินตรงมาที่อุทยานอวี้ฮวา ครั้นเห็นท่าทางของนาง คิ้วก็พลันขมวดเข้าหากัน จึงรีบกระซิบถามว่า “เจ้าเป็นอะไรไป? ไม่สบายตรงไหนรึ?”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า ผลักมือของเขาออกไป เดินโซเซตรงไปด้านหน้าโดยไม่เปล่งวาจาใดออกมา
หลีจื่อฟานขมวดคิ้ว เขายังอยากพูดอะไรอีกสักหน่อย ทว่าขันทีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เปล่งเสียงเรียกแล้ว “ท่านเสนาบดี เชิญทางนี้ขอรับ”
หลีจื่อฟานจ้องมองการก้าวเดินของอวี้ชิงลั่ว รู้สึกไม่วางใจ จึงอยากเดินตามไปด้วย ใครจะไปคิดว่าแค่อวี้ชิงลั่วหมุนกาย นางก็หายเข้าไปด้านหลังของที่พำนักแล้ว ขันทีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงกล่าวเรียกอีกครั้ง “ท่านเสนาบดี?”
หลีจื่อฟานส่งเสียงสบถด่าทุ้มต่ำหนึ่งเสียง ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นพระราชวัง ตำแหน่งที่อวี้ชิงลั่วเดินเข้าไปเป็นวังหลัง เขาจึงไม่สามารถตามเข้าไปได้ ทำได้เพียงแค่เดินตามขันทีกลับเข้างานด้วยจิตใจที่กระสับกระส่ายเล็กน้อย
ครั้นกลับมานั่งทางฝั่งนี้ ก็พบว่าเย่ซิวตู๋และองค์ชายรองกำลังยืนอยู่ด้วยกัน และพูดคุยอะไรบางอย่างกับฮ่องเต้
สำหรับเย่ซิวตู๋ หลีจื่อฟานย่อมเก็บมาใส่ใจ ความสนใจของเขาจึงไปอยู่ที่ตัวของอีกฝ่าย ทว่าเมื่อเขาได้ยินเพียงสองพยางค์ ก็เกิดอาการโกรธจนควันออกหู
แม้แต่ฮ่องเต้ที่ประทับอยู่ด้านบนเขาก็ไม่สนใจแล้ว จึงใช้ฝ่ามือทุบโต๊ะพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้น “ท่านอ๋องซิว ท่านจะแต่งงานกับองค์หญิงอาณาจักรเทียนอวี่ได้อย่างไร?”
น้ำเสียงของเขาทรงพลังและไร้มารยาท ทำให้ทุกสายตาหันมองมาทางนี้
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว หลีจื่อฟานช่างน่ารำคาญจริง ๆ เมื่อครู่เขาอุตส่าห์ช่วยชีวิตไว้ อีกฝ่ายกลับคิดจะมาถ่วงเขา
ฮ่องเต้ขมวดพระขนง ตรัสเสียงขรึม “เสนาบดีฝั่งขวา อย่าได้ทำตัวกำเริบเสิบสาน”
ซ่างกวนจิ่นกลับเลิกคิ้วหันมองหลีจื่อฟาน เมื่อครู่ทั้งสองคนนี้รู้เห็นเป็นใจกันมิใช่รึ? เหตุใดเพียงระยะเวลาชั่วครู่กลับกลายเป็นศัตรูไปเสียได้? ฮ่า ๆ น่าสนใจดี
“ท่านเสนาบดีฝั่งขวา เราจะแต่งงานกับใคร เกี่ยวข้องอะไรกับท่านรึ?” เย่ซิวตู๋กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ก็ต้องเกี่ยวอยู่แล้ว ท่านทำเช่นนี้…” เขาชะงักไป เขารู้ดีว่าไม่ควรเอ่ยชื่อของอวี้ชิงลั่วออกมา หลังจากหยุดชะงัก จึงค่อย ๆ ยิ้มเยาะ “ก็ได้ ท่านแต่งไปเถอะ ดีเหมือนกัน ข้าจะได้ดูแลนาง”
คำพูดนี้ฟังดูคลุมเครือ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจย่อมไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังเล่นปริศนาอะไรกัน
ทว่าเย่ฮ่าวหรานและฮ่องเต้ที่รู้ถึงการมีอยู่ของอวี้ชิงลั่ว กลับขบคิดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ หรือว่า ‘นาง’ ที่เสนาบดีเอ่ยถึงคือแม่ของหนานหนาน?
เพียงแต่สตรีผู้นั้น มีความสัมพันธ์กับเสนาบดีฝั่งขวาตั้งแต่เมื่อใดกัน?
เย่ซิวตู๋หัวเราะพรืด เกียจคร้านที่จะสนใจเขา สายตาเหลือบมองไปยังตำแหน่งที่อวี้ชิงลั่วเคยยืนอยู่
คิ้วของเขาถึงกับขมวดเข้าหากันทันใด หายไปแล้ว? หายไปไหนแล้ว? นางได้ยินว่าเขาจะแต่งงานกับองค์หญิง นางกลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบแม้แต่น้อยเชียวรึ? คิดไม่ถึงเลยว่าช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้ นางยังคิดจะไปหาเบาะแสของแม่นมเก๋อ?
เพียงเย่ซิวตู๋นึกถึงสตรีไร้น้ำใจไร้คุณธรรมผู้นั้น ภายในใจก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ก่อนจะแค่นเสียงเย็นแล้วกลับมาประจำที่ของตนเอง
ทว่าเขาไม่รู้เลยว่า ทันทีที่อวี้ชิงลั่วกำลังเดินอย่างว้าวุ่นใจเข้ามาถึงวังหลัง องครักษ์ที่ฮ่องเต้สั่งให้ตามประกบนางก็ใช้มือสับเข้าที่ท้ายทอยของนาง ก่อนจะพาตัวนางไป
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องซิวทำร้ายจิตใจชิงลั่วขนาดนี้ ระวังจะกลายเป็นโบ้นะ
ไหหม่า(海馬)