อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 341 เขินอาย
ตอนที่ 341 เขินอาย
ตอนที่ 341 เขินอาย
“ท่านแม่ ใครเฆี่ยนตีท่านรึ?” ขาทั้งสองข้างที่วิ่งอย่างรีบร้อนของหนานหนานหยุดลง สายตาของเขามองไปยังรอยแส้บนแขนอวี้ชิงลั่วที่ทิ้งข้างลำตัว เขาบุ้ยปากเล็ก ๆ จนแก้มป่อง ราวกับความโกรธเคืองทั้งหมดติดอยู่ในนั้นก็มิปาน
อวี้ชิงลั่วมองเขาปราดหนึ่ง กล่าวเสียงเบาว่า “แม่ไม่เป็นไร”
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ นางจะไปรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้เห็นหน้านางแล้วจะสั่งให้คนจับตัวนางไว้ แค่ไม่ทันได้สังเกตก็ถูกหลอกเข้าแล้ว
พฤติกรรมของก่วนกงกงผู้นั้นเกรงว่าคงกลายเป็นความเคยชินแล้ว จึงได้ฟาดแส้ใส่นางสองครั้งอย่างเหี้ยมโหดโดยที่สติของนางยังกลับมาไม่สมบูรณ์
ทว่า เท้าข้างนั้นของเย่ซิวตู๋ก็หนักมากเช่นกัน ก่วนกงกงผู้นั้นคงบาดเจ็บสาหัสน่าดู
อันที่จริงหากมาคิด ๆ ดูแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเย่ซิวตู๋ เป็นเพราะเขาที่ทำให้นางจิตใจกระสับกระส่าย จึงสูญเสียความเยือกเย็นไปจนประมาท
ครั้นนึกถึงเรื่องนี้ อวี้ชิงลั่วก็อดไม่ได้ที่จะถลึงตาใส่เย่ซิวตู๋
หนานหนานเหลือบมองปราดหนึ่งก็คิดว่าเย่ซิวตู๋เป็นคนทำให้อวี้ชิงลั่วเกิดบาดแผล จึงอ้าปากกว้างด้วยความตกตะลึง ก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก ครั้นลมพัดผ่าน กลับกระตุ้นให้หนานหนานไอออกมาจนใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำ
เย่ซิวตู๋เพียงแค่ขมวดคิ้ว มิได้ปล่อยเวลาให้ล่าช้าอีกต่อไป อุ้มอวี้ชิงลั่วตรงไปที่เรือนของตนเอง
เยว่ซินยืนอยู่หน้าประตู ครั้นเห็นท่าทางนี้ก็ถึงกับชะงักงัน จนกระทั่งอวี้ชิงลั่วถูกเย่ซิวตู๋วางตัวลงบนเตียง นางจึงรีบวิ่งเข้ามา ขอบตาแดงก่ำขึ้นทันใด “คุณ…คุณหนู เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”
“เยว่ซิน ไปหยิบกล่องยาของคุณหนูเจ้ามา” เย่ซิวตู๋กดอวี้ชิงลั่วให้เอนตัวนอนลงอย่างระมัดระวัง โดยมิได้หันกลับมามอง
เยว่ซินชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะเร่งหมุนกายเดินไปหากล่องยาของอวี้ชิงลั่วที่อยู่ในตู้ จากนั้นจึงถือกล่องวิ่งมาข้างเตียง
เย่ซิวตู๋รีบก้มหน้าควานหา เพียงแต่กล่องยาของอวี้ชิงลั่วเรียงไว้ตามลำดับจึงมีแค่นางที่รู้ เขาหาอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยังมองไม่ออก
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว รีบเงยหน้าถามอวี้ชิงลั่วว่า “ขวดไหน?”
“ท่านออกไป” ภายในใจของอวี้ชิงลั่วยังโกรธเคือง จึงไล่อีกฝ่ายออกไปโดยไม่แม้แต่จะมอง
เย่ซิวตู๋ทำเป็นไม่ได้ยิน หันกลับไปตวาดใส่เยว่ซิน “ออกไป ปิดประตูด้วย”
อวี้ชิงลั่วหันกลับมาถลึงตาใส่เขา “เย่ซิวตู๋ ท่านอย่าทำตัวให้มันเกินไปหน่อยเลย”
เยว่ซินมองทั้งสองคนที่กำลังทำท่าจะทะเลาะกัน ในใจจึงเกิดความวิตกกังวลอย่างมาก ลังเลว่าจะโน้มน้าวใจดีหรือไม่ ทว่าโม่เสียนที่อยู่ด้านนอกกลับโบกมือส่งสายตาให้นางออกมา เยว่ซินรู้สึกลำบากใจ กระทั่งสุดท้ายก็ยอมก้าวเท้าออกไป
โม่เสียนรีบช่วยนางปิดประตู กล่าวเสียงเบาว่า “ข้าบอกไปแล้วมิใช่รึว่าอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวระหว่างท่านอ๋องและแม่นางอวี้? หลังจากนี้หากพวกเขาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เจ้าต้องออกห่างสักหน่อย”
เสียงด้านนอกห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังดูเหมือนว่าจะได้ยินเสียงของหนานหนานวิ่งเข้ามา เพียงแต่ยังไม่ทันได้บุกเข้ามาด้านในก็ถูกโม่เสียนพาตัวไปเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่วถลึงตาใส่เย่ซิวตู๋ปราดหนึ่ง ก่อนจะเบือนสายตามองไปยังลายบนมุ้งเตียงนอน
เย่ซิวตู๋เห็นสถานการณ์เช่นนี้ จึงได้แต่เม้มปากแน่น ก่อนขยับมือเพื่อถอดชุดของนาง
อวี้ชิงลั่วตกใจอย่างมาก “เย่ซิวตู๋ ท่านจะทำอะไร”
“พันแผลให้เจ้า” สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงแล้ว สีหน้าดูไม่ดีเอาเสียเลย เพียงแต่การเคลื่อนไหวของมือกลับเบาหวิว
อวี้ชิงลั่วยกมือขึ้นตีมือของเขา ทว่าการเคลื่อนไหวนี้ทำให้ความเจ็บปวดบนร่างกายปะทุขึ้นอีกหน
นางหลับตาปี๋ขบฟันแน่นพร้อมงอตัวเล็กน้อย
ทว่าวินาทีต่อมา ร่างกายของนางกลับแข็งทื่อ ราวกับเลือดทั่วทั้งร่างกายแข็งตัว ขยับตัวไม่ไหวแล้ว
อวี้ชิงลั่วรู้สึกหงุดหงิดจนถึงขีดสุด ตาบ้านี่ สกัดจุดนางอีกแล้ว
เย่ซิวตู๋ยังคงเงียบไม่พูดไม่จา ประคองร่างของนางให้ยืดตรงขึ้นเล็กน้อย ใช้หมอนหนุนหลังของนางไว้ วางนางลงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เขาช้อนสายตามองนางปราดหนึ่ง ขยับมือเพื่อปลดสายคาดเอวของนางออก
อวี้ชิงลั่วรู้สึกรำคาญ ตอนนี้ใบหน้ารูปไข่ของนางแดงก่ำราวกับเลือด ร้อนผ่าวทั่วสรรพางค์กาย “เย่ซิวตู๋ หยุดนะ ท่าน…ท่านอย่าถอดนะ หยุด ได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่ บุรุษและสตรีมิควรแตะเนื้อต้องตัวกัน”
“แม้แต่ลูกก็มีแล้ว พูดคำนี้ไม่คิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ?”
มือของเขาเคลื่อนไหวต่อไป อวี้ชิงลั่วกลับรู้สึกได้ว่าตัวเองหายใจถี่ขึ้น นางเกิดความกังวล กลัวว่าเขาจะควบคุมอารมณ์ราวพยัคฆ์หิวโหยที่กระโจนเข้าหาอาหารมิไหว นางจะต้านได้อย่างไรกัน?
“เย่ซิวตู๋ หากท่านแตะตัวข้าอีกครั้ง ข้าจะ…ข้าจะ…”
“เจ้าจะทำไม กัดลิ้นตัวเองตายรึ?”
“ชิ เรื่องโง่เขลาเช่นนี้คงมีแค่ผีที่ทำ” อวี้ชิงลั่วหัวเราะเยาะความคิดของเขา นางมิใช่หญิงพรหมจรรย์สักหน่อย ที่ถูกเห็นเรือนกายแล้วจะหาวิธีพยายามฆ่าตัวตาย ชาติก่อนหน้านี้นางเคยใส่บิกินี่มาแล้ว ยังจะกลัวการเคลื่อนไหวเล็กน้อยนี้รึ?
เย่ซิวตู๋ยิ้ม “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ายังมีอะไรต้องอายอีก?”
“ใครอาย?” อวี้ชิงลั่วถลึงตาใส่เขา ลมหายใจติดขัดขึ้นอีกหน “อย่าแตะต้องตัวข้า ตอนนี้ท่านเป็นบุรุษที่แต่งงานแล้ว มาฉุดกระชากลากจูงข้าได้อย่างไรกัน? ปล่อยมือ มิเช่นนั้นหากข้าเคลื่อนไหวได้อิสระเมื่อไหร่ ข้านี่แหละที่จะตัดมือทั้งสองข้างของท่านทิ้ง”
มือของเย่ซิวตู๋ชะงักไปจริง ๆ อวี้ชิงลั่วเห็นเช่นนี้ก็ร้อนผ่าวที่ขอบตาขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ จู่ ๆ นางก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาอีกครั้ง
วินาทีต่อมา นางก็ด่าสาปส่งตนเองอย่างหนักอีกหน
ภายในเสี้ยววินาที อารมณ์ของนางก็วนซ้ำไปซ้ำมา แม้แต่นางก็ไม่เข้าใจตนเองว่าแท้จริงแล้วนางอยากให้เย่ซิวตู๋สัมผัส หรืออยากให้เขาออกไปกันแน่
ทว่า มือของเย่ซิวตู๋ชะงักไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นมุมปากก็กระตุกขึ้นมากลายเป็นรอยยิ้มแห่งความปีติ ช้อนสายตาแฝงความหมายมองนางปราดหนึ่ง ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของนางต่อ
เพียงไม่นาน ชุดเด็กรับใช้ที่อยู่ด้านนอกก็ถูกถอดออก เสื้อด้านในเป็นสีขาว เพียงแต่เป็นเพราะถูกแส้ฟาดใส่หนึ่งครั้ง บัดนี้จึงมีคราบเลือดเปื้อนอยู่
นัยน์ตาของเย่ซิวตู๋มืดครึ้มลงทันใด มือทั้งสองข้างหยุดลง มุมปากขึงตึงกลายเป็นเส้นตรง อุณหภูมิรอบตัวลดต่ำลงอีกหน
อวี้ชิงลั่วถูกมองจนไม่เป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะเข็มขัดรัดชุดที่ถูกคลาย ครึ่งหนึ่งของเสื้อถูกเปิดออก เผยให้เห็นตู้โตว [1] สีเขียวทะเลสาบตัวนั้น
นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่เย่ซิวตู๋เห็นตู้โตวตัวนั้น นัยน์ตาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นลุ่มลึก นางจึงเกิดอาการใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ร้องตะโกนออกมาว่า “คลายจุดให้ข้า”
เย่ซิวตู่ได้สติกลับคืนมา ทว่ากลับยังคงไม่สนใจนาง ดวงตาร้อนแรงสงบลง เขาสูดหายใจเข้าลึก พยายามไม่มองจุดที่ทำให้จิตใจเตลิดเปิดเปิง
เขาเอื้อมมือออกไปถอดเสื้อด้านในตัวนั้นอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นผิวเรียบเนียนใต้ตู้โตวสีเขียวทะเลสาบ
จู่ ๆ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกโชคดีที่วันนี้นางแต่งตัวเป็นเด็กรับใช้ ตอนเช้าก่อนที่หลินมาจะออกจากห้อง นางได้ใช้ผ้าพันส่วนที่นูนขึ้นมารอบแล้วรอบเล่า บัดนี้จึงมองไม่เห็นเนินเนื้อแม้แต่น้อย
เช่นนี้นางจึงไม่ได้รู้สึกเขินอายเท่าใดนัก ก็แค่เปลือยไหล่และช่วงเอวเท่านั้น
…………………………………………………………………………………………………………………………
[1] ตู้โตว (肚兜) เอี๊ยมหรือชุดชั้นในสมัยโบราณ รูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ผูกเข้ากับร่างกายด้านในสุดคล้ายผ้ากันเปื้อน มีสายสำหรับคาดรอบอกและมีสายผ้าผูกที่คอกับเอว อาจมีกระเป๋าไว้ใส่ของกระจุกกระจิกอีกเล็กน้อย
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องไร้ยางอาย มาเปลื้องผ้าเขาแบบไม่ฟังความสมัครใจเขาอีก ถึงชิงลั่วจะมีลูกแล้วก็ไม่ควรไหม
ไหหม่า(海馬)