อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 345 ท่านดมสิ
ตอนที่ 345 ท่านดมสิ
ตอนที่ 345 ท่านดมสิ
ใบหน้าของเย่ซิวตู๋อึมครึมโดยพลัน โดยเฉพาะหลังจากเห็นเยว่ซินที่เดินตามเข้ามาด้านใน น้ำเสียงของเขาเย็นยะเยือกราวน้ำแข็งเหมันต์ “เยว่ซินออกไป ปิดประตูด้วย”
เท้าที่ก้าวเข้ามาของเยว่ซินหยุดชะงัก บนใบหน้าฉายแวววิตกกังวล ตอนที่นางยังคิดไม่ได้ว่าควรเชื่อฟังคำสั่งของเขาดีหรือไม่ จู่ ๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งพาดมาที่เอวของนาง ก่อนจะอุ้มนางออกไปในคราเดียว
เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้น ประตูถูกปิดลงอีกหน
เยว่ซินหันมาถลึงตาถามโม่เสียนด้วยความขุ่นเคือง “ทำอะไรของท่าน? ท่านไม่เห็นรึว่าท่านอ๋องนอนอยู่บนเตียงคุณหนู? พวกเขาสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันนะ นี่มิเท่ากับทำลายชื่อเสียงคุณหนูของข้าหรอกรึ?”
โม่เสียนถึงกับเกิดเส้นสีดำผุดขึ้นกลางหน้าผาก ในใจแอบติไปหนึ่งประโยค คุณหนูของเจ้ายังมีชื่อเสียงอีกรึ? เมื่อหกปีก่อนก็ถูกอวี๋จั้วหลินทำลายจนหมดสิ้นแล้ว
“เจ้าอย่ากังวลใจเลย แม่นางอวี้คลอดหนานหนานออกมาแล้ว เหตุใดเจ้ายังจะสนใจเรื่องมากมายเหล่านั้น?”
“ข้าต้องสนใจอยู่แล้ว แม้ว่าหนานหนานจะเป็นลูกชายของท่านอ๋อง แต่เมื่อครู่ก็มีราชโองการลงมาแล้ว ท่านอ๋องจะแต่งงานกับสตรีอื่น คุณหนูของข้าย่อมเสียเปรียบอย่างมาก”
เสียงของเยว่ซินห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าคงถูกโม่เสียนลากออกไปแล้ว
เย่ซิวตู๋ที่อยู่ในห้องกลับหมดเรี่ยวแรง หนานหนานกระโดดขึ้นมาบนเตียงแล้ว ถลึงตาโตมองท่านพ่อและท่านแม่ที่นอนอยู่ด้วยกัน “พวกท่านกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่หรือ? ข้าอยากฟังด้วย”
ระหว่างที่พูด ก็เอียงตัวเบียดศีรษะที่เปียกโชกด้วยเหงื่อคั่นกลางระหว่างพวกเขาทั้งคู่ ใช้ศีรษะแนบซุกข้างปากของอวี้ชิงลั่วอย่างสุดชีวิต
อวี้ชิงลั่วถูกเขากดทับจนหนักอึ้ง เจ้าอ้วนน้อยยังทิ้งน้ำหนักตัวลงบนร่างกายของนางด้วย
ยังดีที่เย่ซิวตู๋มือไวตาไว พลิกตัวนอนราบลงบนเตียง ก่อนจะใช้มือกอดหนานหนานไว้ที่หน้าอกของตนเอง กล่าวเตือนว่า “บนตัวของแม่เจ้ายังมีบาดแผล อย่ากดทับตัวนาง”
หนานหนานบุ้ยปาก คิด ๆ ดูแล้วก็ใช่ เขาเป็นลูกกตัญญูรู้คุณ ทำใจไม่ได้หากท่านแม่ต้องเจ็บปวด
“ท่านแม่ เมื่อครู่ข้าไปที่เรือนรับรองของอาณาจักรเทียนอวี่มาแล้ว ข้าใช้หมัดชกเขาเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่แล้วด้วย ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวลนะ” หนานหนานยิ้มประจบสอพลอ ท่าทางนั้นราวกับกำลังขอรางวัลก็มิปาน
หนังตาของอวี้ชิงลั่วถึงกับกระตุก “ชกตรงไหน?”
“จมูก เลือดกำเดาไหลออกมาเลย” หนานหนานภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ค่อย ๆ ยืดร่างเล็ก ๆ ให้ตั้งตรง กำมือขวาพร้อมกับหัวเราะหึหึ ราวกับว่าหมัดข้างนั้นมีพละกำลังมหาศาล
อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจ ก่อนจะส่งสายตาหาเย่ซิวตู๋ ราวกับต้องการให้เขาจัดการหนานหนาน ส่วนตนเองก็พลิกกายเพื่องีบหลับ
หนานหนานโอ้อวดอยู่ครึ่งค่อนวัน ท่านแม่กลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบแม้แต่น้อย ใบหน้าจึงพลันหมองหม่นลง เขาเช็ดคราบเหงื่อก่อนจะเช็ดบนใบหน้าของนางด้วย
อวี้ชิงลั่วรู้สึกหงุดหงิด “หนานหนาน ไปอาบน้ำ เหม็นหึ่งไปทั้งตัวแล้ว”
“หอมจะตายไป ท่านแม่ดม ท่านแม่ดมดูสิ” หนานหนานเอนตัวเข้าหานาง ใครจะไปคิดว่าตอนที่เพิ่งจะยกก้นขึ้น กลับได้ยินเสียงผายลมดัง ‘ปู๊ด’
อวี้ชิงลั่วเกิดความคิดอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอด บนตัวนางมีแค่ตู้โตวตัวเดียว แม้แต่จะเลิกผ้าห่มออกจากห้องก็ยังทำไม่ได้
เย่ซิวตู๋หัวเราะร่า ท้ายที่สุดกลับแสดงสีหน้าเจื่อนลงพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึก ราวกับต้องการสูดกลิ่นผายลมที่เพิ่งถูกปล่อยออกมาให้หมดสิ้น จากนั้นจึงพาหนานหนานลงจากเตียงและเดินออกจากห้องอย่างมีความสุข
กระทั่งสองพ่อลูกออกไปแล้ว อวี้ชิงลั่วจึงเลิกผ้าห่มออก แหวกม่านเตียง คลุมเสื้อคลุมและเดินไปจุดไม้จันทน์หอมที่วางอยู่บนโต๊ะ
กลิ่นภายในห้องเปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว อวี้ชิงลั่วถอนหายใจออกมา เดินกลับขึ้นเตียง เอนตัวเบา ๆ เพื่อนอนหลับอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด ร่างกายของนางถูกอ้อมกอดแสนอบอุ่นดันเข้าหา เหนือศีรษะมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “ลุกขึ้นมากินอะไรสักหน่อยเถอะ”
“ไม่กินแล้ว ข้าง่วง” อวี้ชิงลั่วตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ด้านหลังของนางไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว เพียงไม่นาน ก็มีเสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นอีกหน “อ้าปาก ข้าจะป้อนให้”
จู่ ๆ อวี้ชิงลั่วก็รู้สึกขบขัน คนคนนี้มีเวลามาปรนนิบัติผู้อื่นด้วย เพียงแต่ แม้ว่าจะคิดเช่นนี้ นางกลับเพลิดเพลินไปกับการปรนนิบัติที่หาได้ยากยิ่งจากเขา นางหลับตาและอ้าปาก ไม่แม้แต่จะเอ่ยถามว่าเขาจะป้อนอะไรให้ นางรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ทำให้รู้สึกสบายกายเป็นอย่างมาก กินเข้าไปคำแล้วคำเล่า ไม่นานก็กลืนลงท้องจนหมด
ครั้นกินเสร็จ นางก็ยังคงหลับตาอยู่เช่นนั้น ก่อนจะบ้วนปากและเอนตัวนอนลงไปอีกหน
ด้านหลังได้ยินเสียงกุกกัก ๆ เพียงไม่นาน มุมของผ้าห่มก็ถูกเปิดออก เรือนกายของนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเย็น
อวี้ชิงลั่วแย้มยิ้ม ถอนหายใจด้วยความรู้สึกสบายกาย เพียงไม่นานก็หลับลึกอีกหน
เมื่อตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นแล้ว
บาดแผลบนร่างกายมีสภาพดีขึ้นไม่น้อย ตอนนี้นางไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว วันนี้ได้เปลี่ยนยาอีกหนึ่งวันก็คงไม่มีปัญหาใหญ่อะไรแล้ว
อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นจากเตียง มองข้างเตียงที่ว่างเปล่า พลันรู้สึกราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นเพียงความฝัน
นางและเย่ซิวตู๋? แบบนี้เรียกว่า…ยืนยันความสัมพันธ์แล้วรึ?
ขั้นตอนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ คลอดลูกก่อน แล้วค่อย ‘เข้าเรือนหอ’ ท้ายที่สุดจึงแต่งงานกัน ราวกับว่าขั้นตอนกลับตาลปัตรอย่างสิ้นเชิง
อวี้ชิงลั่วสะบัดหน้า หยิบยาออกมาพันแผลให้ตนเองใหม่อีกครั้งอย่างระมัดระวัง ครั้นเห็นผ้าพันแผลที่ถูกพันไว้ทั้งหนาเตอะและยุ่งเหยิง นางก็อดขำไม่ได้
ตอนที่เยว่ซินเคาะประตูเดินเข้ามา นางก็สวมชุดและลงจากเตียงแล้ว
“คุณหนู บนตัวยังมีบาดแผลอยู่ เหตุใดจึงลุกลงมาจากเตียงล่ะเจ้าคะ?” เยว่ซินได้รับคำสั่งจากเย่ซิวตู๋แล้ว นางต้องดูแลคุณหนู ‘ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส’ ให้ดี จะปล่อยให้นางทรมานตนเองได้อย่างไรกัน?
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจ ล้างหน้าเสร็จก็พูดขึ้นว่า “ข้าเป็นหมอ ข้าจะไม่รู้บาดแผลของตนเองรึ? ไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไรเพื่อรักษาบาดแผลให้หายดี จริงสิ เย่ซิวตู๋ล่ะ?”
“อ๋อ” เยว่ซินได้ยินนางพูดเช่นนี้ กลับรู้สึกได้ว่าสมเหตุสมผลอย่างยิ่ง จึงไม่ได้โน้มน้าวใจนางอีก นางสั่งให้คนนำอาหารเช้ามาขึ้นโต๊ะ ก่อนตอบกลับเคล้ารอยยิ้มว่า “ท่านอ๋องพาหนานหนานและเฉิงซื่อจื่อเข้าวังแล้วเจ้าค่ะ อีกสองวันก็จะเริ่มการแข่งขันสี่อาณาจักรแล้ว ได้ยินท่านโม่เสียนบอกว่า วันนี้ผู้เข้าแข่งขันของแต่ละอาณาจักรต้องเข้าวังเพื่อเจอหน้ากัน จึงมีการพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาและกฎในการแข่งขันเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วพยักหน้า การแข่งขันสี่อาณาจักรใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว บรรยากาศของเมืองหลวงแห่งนี้ก็ยิ่งตึงเครียด
“คุณหนู…”
อวี้ชิงลั่วกินโจ๊กรังนกสองคำ หันหน้ามาก็พบท่าทางกระอักกระอ่วนใจของเยว่ซิน นางชะงักไป จากนั้นก็พอจะคาดเดาได้ว่านางคิดจะพูดเรื่องอะไร คาดว่าคงเป็นเรื่องราชโองการฉบับนั้นกระมัง
นางยักไหล่ พูดอย่างไม่ใส่ใจ “เยว่ซิน เย่ซิวตู๋ย่อมตรึกตรองด้วยตัวเขาเองแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลแทนคุณหนูของเจ้าหรอก คุณหนูของเจ้าอย่างข้า ไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบใครอยู่แล้ว”
“แต่ว่า…” ต่อให้เป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่ควรนอนอยู่บนเตียงเดียวกันในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้สิเจ้าคะ
เยว่ซินยังอยากพูดอะไรบางอย่าง กลับได้ยินเสียงเสิ่นอิงเคาะประตูจากด้านนอก “แม่นางอวี้ จวนอวี๋ส่งคนมา แจ้งว่าอยากเชิญท่านไปช่วยรักษาอวี๋จั้วหลินขอรับ”
อวี๋จั้วหลิน? มือของอวี้ชิงลั่วที่กำลังคีบฮะเก๋าชะงักไป จากนั้นก็นึกฉากที่เกิดขึ้นภายในอุทยานอวี้ฮวาเมื่อวานนี้
จริงสิ อวี๋จั้วหลินถูกซ่างกวนจิ่นเตะจนได้รับบาดเจ็บนี่นะ
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานเอ๊ย ท่านแม่เจ็บอยู่นะ อย่าเอากลิ่นผายลมมาให้ท่านดมได้ไหม
ท่านอ๋องดูว่างงานมากนะคะ
ไหหม่า(海馬)