อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 348 ข้าคือสตรีของเขา
ตอนที่ 348 ข้าคือสตรีของเขา
ตอนที่ 348 ข้าคือสตรีของเขา
ครั้นหลี่หรานหร่านนึกถึงเรื่องเหล่านี้ นางก็รู้สึกวิงเวียนจนโลกหมุน บุรุษที่นางเฝ้ากุมไว้ในมือมาหกปี เหตุใดจึงยอมจำนนให้ผู้อื่น?
ยิ่งไปกว่านั้น หากยอมให้สตรีผู้นี้ เกรงว่าแม้แต่ชีวิตของนางก็คงไม่เหลือ
หลี่หรานหร่านตัวสั่นเทิ้มอย่างหนัก สายตาจ้องมองอวี้ชิงลั่วราวกับว่าเป็นอสรพิษ เลวทรามชั่วร้าย
“แม่นางชิงอย่าได้คิดเองเออเองเกินไปนักเลย หรือท่านไม่เคยคิด จั้วหลินอายุยี่สิบกว่าปีแล้ว เขาจะไม่มีแม้กระทั่งอนุภรรยาได้อย่างไรกัน?”
อวี้ชิงลั่วชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะแย้มยิ้ม “พูดไปก็ถูก แต่ไม่เป็นไรหรอก ขอแค่ก่อนที่จะแต่งงานกัน ก็จัดการอนุภรรยาเหล่านั้นให้ออกไปเสียก็สิ้นเรื่อง หากมีสตรีที่ทำตัวไร้ยางอายสักคนสองคนพัวพันกับคุณชายอวี๋ไม่ยอมปล่อย เช่นนั้นก็ฆ่าทิ้งเสีย สตรีจำพวกนั้น ตายไปก็ไม่เสียดาย”
ดวงหน้าของหลี่หรานหร่านฉายแววโกรธเคือง ตายไปก็ไม่เสียดาย? แม่นางชิงกำลังพูดว่าต่อให้นางตายไปก็ไม่เสียดายรึ?
ดีเลย นางเองก็อยากดูเช่นกัน สตรีไร้ยางอายผู้นี้จะแต่งเข้ามาในจวนอวี๋ได้หรือไม่
“แม่นางชิง ท่านเองก็พูดแล้วว่าจั้วหลินเป็นคนรักเดียวใจเดียว เช่นนั้นเหตุใดเขาจึงได้โหดร้ายกับอดีตภรรยาของตนเองเช่นนี้เล่า? แม่นางชิงอาจยังไม่รู้ จั้วหลินสามารถตายเพื่ออนุภรรยาคนหนึ่งได้”
อวี้ชิงลั่วลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ “ไม่มีทาง คุณชายอวี๋จะให้ความสำคัญกับคนที่เป็นอนุนั่น? เขาเป็นวีรบุรุษในดวงใจของคนใต้หล้า เรื่องตายแทนสตรีคนหนึ่งนี่หมายความว่าอย่างไรกัน”
หลี่หรานหร่านหรี่ตาลงเล็กน้อย คาดว่าพอจะรู้แล้วว่าแม่นางชิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้นี้ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของอวี๋จั้วหลิน สตรีอ่อนต่อโลกเหล่านี้ ในใจก็คงชื่นชอบวีรบุรุษไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการโปรดปรานบุรุษองอาจกล้าหาญ
เหอะ สตรีประเภทนี้ จะมาสู้กับนางได้อย่างไรกัน?
ครั้นนึกถึงเรื่องนี้ หลี่หรานหร่านก็ถึงกับตาสว่าง นางลงมาจากเตียง ก้าวเท้ามาด้านหน้าด้วยท่วงท่าสง่างาม ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “แม่นางอวี้เห็นจั้วหลินดีเกินไปแล้ว ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อนนะ จั้วหลินน่ะ เคยคุกเข่าเพื่อสตรีนางหนึ่ง เคยรับลูกธนูเพื่อสตรีนางหนึ่ง เคยร้องไห้เพื่อสตรีนางหนึ่ง ร้องไห้จนไม่สนใจแม้กระทั่งภาพลักษณ์ เขาพูดว่า ทั้งชาตินี้จะรักสตรีผู้นั้นเพียงคนเดียว หากรักสตรีอื่น นั่นก็เป็นแค่ความรู้สึกผิดพลาดอันจอมปลอม เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างเท่านั้น”
ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วขาวซีดโดยพลัน นางถอยหลังออกไปสองก้าว เตะเก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังจนคว่ำ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
“เป็นไปได้อย่างไรกัน เป็นไปไม่ได้ สตรีผู้นั้นเป็นใคร? เป็นใคร?”
หลี่หรานหร่านรู้สึกภาคภูมิใจ ดีเลย ร้องไปเถอะ นางก็อยากเห็นเช่นกัน แม่นางชิงผู้นี้จะทนได้อีกนานเพียงใด?
“สตรีผู้นั้นรึ ก็อยู่ในจวนแห่งนี้นี่แหละ”
“น้องบอกพี่มา มันผู้นั้นเป็นใคร อยู่ที่ใด พาพี่ไปหามัน” อวี้ชิงลั่วพุ่งตัวมาด้านหน้า จับมือของหลี่หรานหร่านเขย่าแรง ๆ ท่าทางตะโกนสุดเสียงนั้น ทำให้สุ่ยเหวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับตกใจจนเป็นกังวล
เยว่ซินฉวยโอกาสนี้ออกจากห้องของหลี่หรานหร่านอย่างเงียบเชียบ ใช้โอกาสตอนที่แม่เฒ่าเฝ้าประตูไม่ทันได้สังเกต พลิกตัวกระโดดข้ามกำแพงเตี้ย ๆ อีกด้านหนึ่งออกไป
จากนั้นนางก็วิ่งตรงไปที่เรือนของอวี๋จั้วหลิน นางคุ้นชินกับจวนอวี๋อย่างมาก วิ่งมาด้วยเวลาเพียงสองนาทีก็เข้ามาถึงห้องของอวี๋จั้วหลินแล้ว
ฮูหยินใหญ่และอวี๋จั้วหลินพูดคุยกันจบพอดี จึงตัดสินใจว่าจะไปหาอวี้ชิงลั่ว
ครั้นเห็นท่าทางบุ่มบ่ามของเยว่ซินโดยไม่คาดคิด ก็ก้าวเท้ามาด้านหน้าหยิกเข้าที่แขนของนาง ก่นด่าด้วยความโกรธว่า “นังเด็กชั้นต่ำ อยากตายรึ ใครใช้ให้เจ้าบุกเข้ามาในห้องนายน้อยเช่นนี้? คงคิดว่าได้ติดตามแม่นางชิงหลังจากนี้คงสูงส่งขึ้น ไม่ต้องเห็นเราอยู่ในสายตาแล้วงั้นสิ หา!?”
อวี๋จั้วหลินขมวดคิ้วมุ่น ทว่าเมื่อเห็นท่าทางเหงื่อท่วมศีรษะของเยว่ซิน จึงรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขารีบยื่นมือออกไปขวางฮูหยินใหญ่
“ท่านแม่ ดูเหมือนนางคงมีเรื่องอะไรอยากจะพูด” ระหว่างอวี๋จั้วหลินพูด ก็หันมาถามเยว่ซิน “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเจ้าจึงวิ่งกลับมาที่นี่เพียงลำพัง แล้วแม่นางชิงเล่า?”
เยว่ซินยังคงกระหืดกระหอบ บนแขนตรงจุดที่ถูกฮูหยินใหญ่หยิกเกิดอาการแสบเล็ก ๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ฮูหยินใหญ่แผลงฤทธิ์มากไปกว่านี้ นางจึงก้าวเท้าไปด้านข้างสองสามก้าว รีบพูดในสิ่งที่นางซักซ้อมอยู่ภายในใจมานับครั้งไม่ถ้วน “นายน้อย ฮูหยิน แย่แล้วเจ้าค่ะ เมื่อครู่แม่นางชิงบอกว่าจะไปตรวจดูอาการให้ฮูหยินหรู แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ ๆ ก็โวยวายขึ้นมา สีหน้าของฮูหยินหรูน่ากลัวมากเจ้าค่ะ ทั้งยัง…ดูเหมือนจะตบตีแม่นางชิงด้วย”
“อะไรนะ?” อวี๋จั้วหลินและฮูหยินใหญ่ถึงกับพากันตกใจ ทั้งคู่หันสบตากัน ก่อนจะวิ่งไปที่เรือนของหลี่หรานหร่านโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
อวี้ชิงลั่วในตอนนี้กลับใช้มือทั้งสองข้างบีบแขนของหลี่หรานหรานจนแน่น นางใส่กำลังเข้าไปเต็มที่ราวกับอยากจะบิดแขนของนางก็มิปาน
“ท่านปล่อยมือ ปล่อยมือนะ” หลี่หรานหร่านเจ็บจนคิ้วขมวดมุ่น มุมปากกระตุกขึงตึง ร่างกายก็สั่นตามไปด้วย
อวี้ชิงลั่วกลับทำท่าทางราวกับบ้าคลั่ง สีหน้าช่างดูน่าสังเวช “เจ้าพูดมาสิ สตรีผู้นั้นเป็นใครกันแน่? ใครกันแน่ พูดมาสิ”
นางจับแขนหลี่หรานหร่านพลางออกแรงเขย่า สุ่ยเหวินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อยากเข้ามาดึงนางออกไปหลายหน ทว่ากลับถูกอวี้ชิงลั่วผลักออกไป ทั้งยังจับร่างของหลี่หรานหร่านไปกระแทกกับตัวนางด้วย
สุ่ยเหวินถูกกระแทกเข้าใส่จนซวนเซ ล้มลงไปกองกับพื้น ชนเข้ากับแจกันดอกไม้ใบหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นวางของ
หญิงเฒ่าที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงดัง จึงหันสบตากันและวิ่งปรี่เข้ามา ทว่าเมื่อเห็นฉากตรงหน้า ทั้งสองกลับพากันตกตะลึง ไม่รู้ว่าควรจะลงมืออย่างไร
แม้ว่าหลี่หรานหร่านจะเป็นนายหญิงของพวกนาง ทว่าแม่นางชิงก็เป็นคนที่พวกนางมิอาจสร้างความขุ่นเคืองได้
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจว่าใครจะเข้ามา ปลายนิ้วของนางกลับยังออกแรงจิกเข้าที่เนื้อบนแขนของหลี่หรานหร่าน หลี่หรานหร่านผู้น่าเวทนาที่มีร่างกายเปราะบาง ‘เพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก’ ไฉนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้ฝึกทักษะการต่อสู้อย่างอวี้ชิงลั่ว นางถูกเขย่าจนเวียนศีรษะตาพร่าเลือน ใบหน้าเริ่มเขียวคล้ำจนเกือบจะอาเจียนออกมา
“เจ้าพูดมาสิ ใครกันแน่ สตรีที่อวี๋จั้วหลินรักมากที่สุดคือใครกันแน่?”
หลี่หรานหร่านรู้สึกได้ว่าสตรีผู้นี้เป็นคนบ้า ขณะที่ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน เรือนกายเจ็บปวดเจียนตาย น่องก็ไม่รู้ว่าไปชนโดนอะไร จึงเกิดอาการกระตุกขึ้นมา
เสียงของนางจึงแหลมตามไปด้วย “ปล่อยมือ ท่านปล่อยมือสิ ท่านมันหญิงบ้า ปล่อยมือ ปล่อยข้า กรี๊ด…เจ็บ ปล่อยข้านะ”
“เจ้าบอกข้ามา คือใคร มันผู้นั้นเป็นใคร?” อวี้ชิงลั่วเขย่าพลางส่งเสียงร้อง ทว่านัยน์ตากลับสว่างกระจ่างชัด มุมปากที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าลอบยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
หลายวันมานี้หลี่หรานหร่านถูกบังคับจนอาเจียนออกมาอยู่ตลอด ความรู้สึกนั้นทำให้นางเคยชินแล้ว บัดนี้ ภายใต้สถานการณ์เวียนศีรษะตาพร่าเลือน ทำให้นางเกิดอาการอยากอาเจียนอีกครั้ง นางรู้สึกทรมานร่างกาย สติสัมปชัญญะก็หายไปด้วย “ปล่อยข้า ข้าเอง สตรีผู้นั้นคือข้าเอง คนที่จั้วหลินรักคือข้า ไม่ใช่นังแพศยาอย่างเจ้า ข้าคือสตรีของเขา นางอันเป็นที่รักสุดดวงใจของเขา มิใช่น้องสาวอะไรทั้งนั้น…โอ๊ย…ปล่อยมือ ข้าเจ็บ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
โดนทั้งปั่นทั้งเขย่าแบบนี้ยังไม่คายความลับก็ให้มันรู้กันไปค่ะ ชิงลั่วลงมือโหดมาก
ไหหม่า(海馬)