อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 361 เจ้าคือผู้เข้าแข่งขัน หาใช่ผู้ชมไม่
ตอนที่ 361 เจ้าคือผู้เข้าแข่งขัน หาใช่ผู้ชมไม่
ตอนที่ 361 เจ้าคือผู้เข้าแข่งขัน หาใช่ผู้ชมไม่
หนานหนานร้องเสียงหลง ร่างกายของเขาพุ่งเข้าหากลุ่มคนทั้งหก
ทว่าพุ่งออกไปได้เพียงครึ่งทาง จู่ ๆ เขาก็หมุนส้นเท้าในขณะที่ชนเข้ากับคนของอาณาจักรจิงเหลย จนเกิดเสียง ‘ตึง’ ดังขึ้นพร้อมกับร่างที่ล้มกระแทกพื้น
ร่างเล็ก ๆ กลิ้งตลบออกจากวงล้อมการต่อสู้ ก่อนจะกลิ้งกลุก ๆ ไปข้าง ๆ คนคนนั้นอีกครั้ง แล้วพูดกับเขาด้วยความโกรธขึ้ง “เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าเตะข้ารึ? ข้าจะบอกอะไรให้ หากมิใช่เพราะข้าหล่อจนไม่คิดว่าจะมีอยู่ในโลกมนุษย์นี้ได้ หรือจนพื้นดินก็อดมิได้ที่จะใกล้ชิดกับข้า ป่านนี้ข้าคงตายไปแล้ว”
คนคนนั้นชะงัก มองเขาด้วยความสงสัย สายตาสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า เอ่ยถามด้วยความไม่มั่นใจว่า “เจ้า…เจ้ามีวรยุทธ์รึ?”
“ไร้สาระ ข้าเข้าร่วมแข่งฝ่ายบู๊ หาใช่แข่งฝ่ายบุ๋นไม่” หนานหนานโกรธจนหายใจฟึดฟัด ยื่นมือลูบก้นตัวเอง คิดว่าเสื้อด้านหลังคงมีรอยเท้าเล็ก ๆ จนดูไม่ดีแน่ ส่งผลต่อภาพลักษณ์อันหล่อเหลาของเขาด้วย คิดได้เช่นนี้ หนานหนานก็อดถลึงตาใส่เขาไม่ได้
สายตาของคนคนนั้นยังคงสับสนอย่างมาก เมื่อครู่หากมิใช่เพราะเขามองผิดไป ฝีมือของเด็กคนนี้ดูเหมือนจะมิใช่น้อย ๆ ท่วงท่าในการบิดเท้าและกลิ้งตัวเมื่อครู่นั้นคล่องแคล่วว่องไวผิดปกติ เท่าที่เขารู้มา มีคนจำนวนน้อยนิดที่จะปรับสถานการณ์จากร้ายให้กลายเป็นดีได้ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนี้ แม้แต่ผู้มีวรยุทธ์จำนวนมากก็อาจพลิกตลบกลับมาเช่นนั้นไม่ได้
ไม่ถูก ๆๆ คนคนนั้นออกแรงส่ายหน้า คนที่รักตัวกลัวตายเช่นนี้ จะมีฝีมือยอดเยี่ยมเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? เมื่อครู่ต้องเป็นเพราะความบังเอิญ เขาหลบหลีกได้เพราะความบังเอิญก็เท่านั้น
เมื่อคิดได้เช่นนี้ สายตาที่เขามองหนานหนานจึงต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แต่ก็น่าบัดซบเสียเหลือเกิน เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงไร้เรี่ยวแรงที่จะเงื้อเท้าเตะเจ้าเด็กนั่นอีกครั้ง
หนานหนานตบก้นตัวเองแรง ๆ ปัดรอยเท้าที่อยู่ด้านหลังออกไป ก่อนมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาโกรธเคืองอีกหน “ข้าขอเตือนเจ้า หากมิใช่เพราะข้าเห็นว่าเจ้าบาดเจ็บสาหัสจนยากเกินรักษาและกำลังจะตายข้าจึงไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยกับคนแบบเจ้า มิเช่นนั้นข้าคงได้เตะเจ้าลงไปจากที่นี่แล้ว อีกอย่าง หากครั้งหน้ายังเตะข้า ข้าจะ…”
“ตึง” หนานหนานยังพูดมิทันจบประโยค จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งล้มตัวกระแทกลงบนพื้นข้าง ๆ เขาอย่างแรง กระอักเลือดสีแดงสด ‘พรวด’ ออกมาหนึ่งคำ ใบหน้าเขียวริมฝีปากดูไม่ดีเอาเสียเลย
หนานหนานตกใจสะดุ้งโหยง รีบถอยไปข้าง ๆ ตบหน้าอกพลางปลอบใจตัวเองว่า “ตกใจหมด ๆ”
คนคนนั้นมองเขาปราดหนึ่ง คิดจะลุกขึ้นยืน ทว่าเพิ่งจะขยับตัว ร่างของเขาก็ล้มลงไปอีกครั้ง
หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ ก้าวเท้าไปข้าง ๆ อีกฝ่ายหนึ่งก้าว เอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้า…ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่” ดูจากเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายสวมใส่ ดูเหมือนจะเป็นผู้เข้าแข่งขันจากอาณาจักรเทียนอวี่
อาณาจักรเทียนอวี่
หนานหนานแอบลำบากใจ ช่วย…หรือไม่ช่วย? นี่เป็นคำถามที่จริงจังมาก
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ก็มีอีกคนล้มลงอย่างแรง หนานหนานตกใจจนกระโดดลอยตัว ครั้นหันไปมองก็พบว่าผู้เข้าแข่งขันอาณาจักรหลิวอวิ๋นคนหนึ่งก็ล้มตัวอยู่ข้าง ๆ เช่นกัน
ในเวลานี้หนานหนานเพิ่งจะได้สติ ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะเริ่มดุเดือดขึ้นแล้ว คนสองคนล้มอยู่ทางนี้ ส่วนทางนั้นยังมีอีกสี่คนกำลังต่อสู้กันอยู่ ผู้เข้าแข่งขันอีกคนของอาณาจักรเทียนอวี่ ดูเหมือนจะตกเป็นเบี้ยล่างแล้วเช่นกัน ฝีไม้ลายมือของอาณาจักรจิงเหลยยอดเยี่ยมเหลือเกิน
หนานหนานเอียงศีรษะ นิ้วมือจิ้มลงบนริมฝีปาก ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องสำคัญก็มิปาน
ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงตัดสินใจได้ เขาชี้ไปที่หนึ่งในคนของอาณาจักรจิงเหลยพลางตะโกนขึ้นว่า “ข้างในแขนเสื้อของเขามีงู เป็นงูพิษด้วย”
เสียงของหนานหนานสูงขึ้นไม่น้อย ทั้งยังออกห่างจากคนทั้งสี่ที่ยืนอยู่ด้วยกันอย่างรวดเร็วด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
ผู้เข้าแข่งขันสองคนของอาณาจักรจิงเหลยหันกลับมาโดยพลัน ใช้สายตาเหี้ยมโหดมองหนานหนาน ส่วนผู้เข้าแข่งขันอีกสองคนที่เหลือต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน หัวคิ้วขมวดมุ่น มองไปตามทิศทางที่นิ้วมือของหนานหนานชี้อยู่ พวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ที่แขนเสื้อของคนคนนั้นจริง ๆ ราวกับมีบางอย่างมุดเข้าไป
ทั้งสองคนถึงกับหน้าถอดสีอย่างหนัก พลางขบฟันแน่น “อาณาจักรจิงเหลยใช้วิธีสกปรกจริง ๆ ต่ำช้าเกินไปแล้ว”
“เหอะ” ผู้เข้าแข่งขันที่ใช้งูได้ยินดังนั้นจึงแค่นยิ้มเยาะ เขายกแขนขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะโจมตีเข้าใส่พวกเขาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
หนานหนานเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยภายในเวลาอันรวดเร็ว แท้จริงแล้ว ตอนที่เขาเพิ่งถูกเตะออกไปเมื่อครู่ เขาก็เห็นงูตัวนั้นแผ่แม่เบี้ยพร้อมจะกัดคนอยู่แล้ว ผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรหลิวอวิ๋นที่ล้มตัวลงด้านหลังนี้หากดูจากสีหน้าของพวกเขาทั้งสองคนอย่างละเอียดแล้ว แม้ตามร่างกายจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ้าง แต่สาเหตุก็เป็นเพราะได้รับพิษงู จึงทำให้อาการถึงกับสาหัสขนาดนี้
เฮ้อ ที่แท้ก็นำงูเข้ามาได้ สมองอันชาญฉลาดของเขาคาดไม่ถึง หากรู้แบบนี้ตั้งแต่แรก เขาคงนำต้าไป๋เหอกับเสี่ยวไป๋เหอเข้ามาด้วย เช่นนี้เขาก็แค่นอนอยู่ข้าง ๆ ปล่อยให้ต้าไป๋เหอเสี่ยวไป๋เหอจัดการต่อยทีละคน คิดเช่นนี้ก็รู้สึกว่ายอดเยี่ยมแล้ว
“ตึง”
“ตึง”
เสียงที่เกิดขึ้นสองเสียงดังขึ้นพร้อมเพรียงกัน หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ จึงพบว่าผู้เข้าแข่งขันอีกสองคนล้มลงที่ขอบลานประลองแล้ว โชคดีที่หนึ่งในสองคนนั้นคือคนของอาณาจักรจิงเหลย ส่วนอีกคนคือคนของอาณาจักรเทียนอวี่…
อือ เช่นนั้นตอนนี้ที่กำลังสู้กัน ก็มีแค่ผู้เข้าแข่งขันอาณาจักรจิงเหลยที่ซ่อนงูพิษไว้ในแขนเสื้อ และผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรหลิวอวิ๋นแล้ว
คนคนนั้นของอาณาจักรหลิวอวิ๋นมีวรยุทธ์อันแข็งแกร่งจริง ๆ ท่ามกลางอันตรายเช่นนี้ ยังหลีกเลี่ยงการต่อสู้ที่ดุเดือดของคนและงูนั่นได้
เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น ผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรหลิวอวิ๋นสบโอกาส จับลิ้นของงูตัวนั้นที่ยื่นหัวออกมาด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างจับไปที่ส่วนเจ็ดชุ่นของงูพร้อมกับกระชากออกมาแรง ๆ และเหวี่ยงลงบนพื้น หัวงูแบะออกทันใด วินาทีต่อมาร่างที่อ่อนปวกเปียกของมันก็ถูกโยนลงไปด้านล่างลานประลอง
“เจ้ากล้าฆ่างูของข้า” ผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรจิงเหลยถึงกับตกใจ ใช้ฝ่ามือตบเข้าที่กลางอกของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
คนคนนั้นตีลังกาลงบนพื้นหนึ่งตลบ ใช้วรยุทธ์โดยไม่หยุดพักแม้แต่น้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนและลอยตัวเข้าไปเผชิญหน้าอย่างว่องไว
หนานหนานส่งเสียงเดาะลิ้น ข้างหูมีเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า “ใช้โอกาสนี้ รีบไปจัดการกับคนของอาณาจักรจิงเหลยผู้นั้น เร็วเข้าสิ”
“หืม?” หนานหนานก้มหน้าลงด้วยความประหลาดใจ ก็พบว่าสหายร่วมกลุ่มของเขากำลังมองมาด้วยสีหน้าเคียดแค้นที่มิอาจหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้ เขาจึงหัวเราะเยาะ ก่อนเชิดคางขึ้นด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง เหลือบสายตามองเขาและพูดด้วยคำพูดอันชอบธรรมว่า “เจ้าเห็นข้าเป็นพวกชอบฉวยโอกาสตอนที่คนอื่นลำบากรึ? ข้าเป็นคนมีศีลธรรมอันสูงส่ง หากให้ข้าบุกเข้าไปตอนนี้ ก็มิอาจแสดงเสน่ห์เฉพาะตัวของข้าออกมาได้”
คนคนนั้นถลึงตาใส่หนานหนานด้วยความขุ่นเคือง
หนานหนานยกมือขึ้นลูบคางตนเองอีกหน พูดด้วยท่าทางราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง “แต่ก็นะ คนอย่างเจ้านี่ช่างน่ารำคาญนัก เอาแต่บ่นข้าไม่หยุดหย่อน ทำให้ข้าดูการแข่งขันได้ไม่เต็มที่”
คนคนนั้นแทบกระอักเลือด ดูการแข่งขัน? เขาเป็นผู้เข้าแข่งขัน หาใช่ผู้ชมไม่ ทั้งที่ขึ้นมายืนอยู่บนลานประลองก็ไม่คิดที่จะขยับมือ มีแต่ปากที่ยังคงขยับไม่หยุด
“หรือไม่ก็…ทำเช่นนี้สิ” ดวงตาของหนานหนานเป็นประกายขึ้นมาทันใด หันมองอีกฝ่ายพลางยิ้มจนตาหยี
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แอบยัดงูเข้ามายังไงกันเนี่ย คนตรวจหาไม่เจอเหรอ
หนานหนานแสดงฝีมือสักทีสิ
ไหหม่า(海馬)