อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 369 แก้แค้นให้ตนเอง
ตอนที่ 369 แก้แค้นให้ตนเอง
เย่ซิวตู๋กำลังยื่นตำราเกี่ยวกับการละเล่นชู่จวีภายในห้องตำราให้หนานหนาน ก่อนการแข่งขันหนึ่งวัน เขาเพิ่งทราบว่าเจ้าตัวป่วนหนานหนานตัวน้อยผู้นี้ไม่เคยเล่นการละเล่นชู่จวีมาก่อน
มือใหม่เช่นนี้ กลับบอกว่าจะเข้าร่วมการแข่งขัน
เย่ซิวตู๋รู้สึกหมดแรงเหลือประมาณ แต่ก็จนปัญญาที่จะห้าม
อวี้ชิงลั่วกลับทำราวกับว่าเรื่องนี้มิได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง เอนกายลงบนเตียงที่อยู่ข้าง ๆ เหล่ตามองสองพ่อลูกคู่นั้นด้วยรอยยิ้ม
หนานหนานก้มหน้าลง กอดตำราสองเล่มไว้ในอ้อมกอดด้วยท่าทางน่าสงสาร กล่าวอย่างยากลำบากว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่รู้จักตัวอักษรในตำรา ท่านดูสิ สองตัวนี้คือตัวอะไร ช่างดูซับซ้อนนัก”
“…” สองคำนั้นคือ ‘ชู่จวี’ มุมปากของเย่ซิวตู๋ถึงกับกระตุก เขาเงยหน้ามองอวี้ชิงลั่วเพื่อถาม “หรือเจ้าจะมาสอนเขา?”
กล้าทำเป็นคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง มองดูเขาอย่างขบขันอย่างนั้นหรือ?
อวี้ชิงลั่วบีบจมูกอย่างจนปัญญา “ข้าไม่เคยเล่นชู่จวีมาก่อน ยิ่งไม่เคยเห็นกฎที่อยู่ในนี้ ดังนั้น…” นางไร้ความสามารถ ระหว่างที่พูดก็เริ่มหัวเราะเสียงเบาอีกหน
“ท่านพ่อ อันที่จริงท่านไม่ต้องลำบากใจขนาดนั้นก็ได้ ท่านดูสิ ข้าเองก็ไม่เคยเข้าร่วมการแข่งวรยุทธ์มาก่อน แต่ก็ยังได้เงินก้อนโตกลับมามิใช่รึ?” หนานหนานนึกถึงเงินหนึ่งหีบที่ฮ่องเต้พระราชทานให้เขา น้ำลายก็เริ่มสออย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขพลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ
เย่ซิวตู๋ถอนหายใจ การละเล่นชู่จวีเป็นการแข่งขันแบบหมู่ แตกต่างจากการแข่งวรยุทธ์
ทว่าเด็กคนนี้ คาดว่าต่อให้พูดมากไปกว่านี้ ก็คงทำเป็นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ช่างเถิด อธิบายง่าย ๆ ว่าเล่นอย่างไรก็พอแล้ว ถึงเวลานั้นก็ให้เขาเล่นสดหน้างานก็แล้วกัน บางทีอาจได้ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายก็เป็นได้
หนานหนานเป็นคนฉลาด แค่เห็นสีหน้าของท่านพ่อที่ดูยอมแพ้ ก็รีบยัดตำราที่อยู่ในมือใส่อกของเย่ซิวตู๋ พร้อมหัวเราะหึ ๆ ออกมา “เช่นนั้นก็ไม่ใช่ธุระของข้าแล้วใช่หรือไม่ ข้าจะไปเล่นกับเสี่ยวเฉิงเฉิง”
ครั้นกล่าวจบ ก็หมุนกายคิดจะวิ่งออกจากห้องตำรา ตอนนี้เขาเป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลแห่งยุคสมัยแล้ว มีคนจำนวนมากที่รู้ว่าเขาคือผู้มีวรยุทธ์ชั้นยอดที่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ทั้งยังเป็นสหายร่วมเรียนของเย่หลานเฉิง
แน่นอนว่าในบรรดาของขวัญถึงครึ่งหนึ่งก็มอบให้เขาด้วย หนานหนานให้ความสำคัญกับของนอกกายเป็นอย่างมาก จะพลาดได้อย่างไรกัน?
ส่วนเสี่ยวเฉิงเฉิงก็เป็นคนดี จึงนำส่วนของตนเองแบ่งให้เขาด้วย อืม ดังนั้นเขาต้องรีบกลับไปนับ ดูซิว่าตอนนี้ตนเองมีเงินมากเท่าใดแล้ว
หนานหนานคำนวณอย่างเบิกบานใจไปพลาง เปิดประตูห้องไปพลาง
ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าออกจากห้อง ก็พบเสิ่นอิงยกมือทำท่าจะเคาะประตู
เด็กน้อยกะพริบตาปริบ ๆ ถามด้วยความฉงน “ท่านลุงเสิ่น ท่านท้องผูกรึ?”
เสิ่นอิงรู้อยู่แล้วว่าคงฟังคำพูดดี ๆ จากปากหนานหนานไม่ได้ จึงบีบจมูกหนานหนาน ก่อนจะเดินผ่านเขาเข้าไปในห้องตำรา “ท่านอ๋อง อวี๋จั้วหลินมาพ่ะย่ะค่ะ บอกว่าต้องการพบแม่นางชิง”
เย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่วหันสบตากัน คนคนนั้นมาทำอะไรอีก?
หนานหนานชะโงกหน้าเข้ามาอีกหน “อวี๋จั้วหลิน? อวี๋จั้วหลินที่ทำร้ายข้าจนเกือบตายผู้นั้นน่ะรึ? โคตรแม่เถอะ ข้าจะไปจัดการมัน”
“หนานหนาน ห้ามพูดคำหยาบ” อวี้ชิงลั่วถลึงตาใส่เขา
หนานหนานกระทืบเท้าทันใด “ท่านแม่ ประเด็นที่ข้าต้องการจะบอกก็คือไปจัดการเขา เหตุใดท่านแม่ถึงไม่รู้ใจข้าสักนิด?” มัวแต่มาสนใจว่าเขาพูดคำหยาบ แต่ไม่สนใจสิ่งสำคัญที่เขาพูดถึงเลย
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว หลายวันมานี้ คนของตระกูลอวี๋ส่งคนมาหาอวี้ชิงลั่วที่ตำหนักอ๋องซิวแทบจะทุกวัน ราวกับต้องการอธิบายเรื่องในวันนั้น ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้ามาในประตูใหญ่ของตำหนักอ๋องซิว ก็ถูกเชิญให้ออกไปแล้ว
วันนี้ เขากลับมาหาถึงที่นี่ด้วยตนเอง
“หนานหนาน เจ้าไปเถอะ” เย่ซิวตู๋เชิดหน้าขึ้น บอกให้เสิ่นอิงพาเขาออกไป
อวี้ชิงลั่วชะงัก “ท่านคิดจะให้หนานหนานไปจัดการกับอวี๋จั้วหลินจริงรึ?”
“เมื่อหกปีก่อน หนานหนานก็ถือเป็นเหยื่อเช่นกัน การไล่สังหารของอวี๋จั้วหลิน ทำให้ลูกชายของข้าเกือบตาย หรือว่าเขาไม่ควรแก้แค้นให้ตนเอง?” เย่ซิวตู๋แค่นเสียง หากอวี้ชิงลั่วอนุญาต เขาก็ไม่รังเกียจที่จะลงมือด้วยตนเอง
อวี้ชิงลั่วถึงกับมุมปากกระตุก มองดูท่าทางกระหายเลือดของสองพ่อลูกที่ดูคล้ายกันราวกับแกะก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะโบกมือกล่าวว่า “ไปเถอะ แต่หนานหนาน แม้ว่าอวี๋จั้วหลินจะได้รับบาดเจ็บ แต่วรยุทธ์ของเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ เจ้าระวังตัวด้วย”
“อย่าเป็นกังวล เขาย่อมไม่กล้าลงมือกับหนานหนาน” เย่ซิวตู๋ส่งสายตาไปหาเสิ่นอิง อีกฝ่ายเข้าใจความหมายของเขา จึงพาหนานหนานหมุนกายเดินออกจากห้องตำรา
แรกเริ่มอวี้ชิงลั่วยังไม่เข้าใจ นางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจได้ในทันที สองพ่อลูกคู่นี้ไร้ยางอายจริง ๆ เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว นางกลายเป็นแมรี่ซู [1] ผู้บริสุทธิ์เสียอย่างนั้น
“พวกเราก็ไปดูด้วยสิ?” อวี้ชิงลั่วดวงตาเป็นประกาย ในเมื่ออวี๋จั้วหลินอยากลองดีส่งตัวเองมาถึงหน้าประตู ช่วงเวลาวิเศษเช่นนี้ นางจะพลาดได้อย่างไรกัน?
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้ว วินาทีต่อมาก็ใช้มือโอบเอวของนางไว้ แล้วตามหลังหนานหนานออกไปด้วยการกระโดดลอยตัวขึ้นหลังคาห้องตำรา มุ่งหน้าไปทางประตูใหญ่
อวี๋จั้วหลินมาด้วยความรีบร้อน ในใจมีข้อสงสัยที่ยังไม่คลี่คลาย มีหลายอย่างที่ไม่ได้ตรึกตรองอย่างรอบด้าน และเพิ่งจะนึกได้ในตอนนี้
เมื่อมาถึงตำหนักอ๋องซิว เหตุใดเขาถึงได้พูดไปตรง ๆ ว่าจะขอพบหน้าแม่นางชิงเล่า? ไม่ว่าอย่างไร ก็ควรมาคารวะท่านอ๋อง แล้วค่อย ๆ เจรจากับท่านอ๋องถึงจะถูก
ทว่าคงสายไปเสียแล้ว บัดนี้คงได้กลายเป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้ท่านอ๋องซิว
อวี๋จั้วหลินปวดหัวจนต้องคลึงหว่างคิ้ว ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ขณะที่กำลังคิดหาวิธีแก้ไขสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ จู่ ๆ ก็มีเงาของคนสองคนเดินออกมาจากด้านในตำหนักอ๋อง คนหนึ่งร่างสูง อีกคนร่างเล็ก ดู ๆ ไปแล้วช่างมีพลังนัก
เขาพอจะรู้จักผู้อารักขาตัวสูงคนนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้อารักขาที่ท่านอ๋องซิวไว้วางใจอย่างมาก ส่วนเด็กตัวเล็กคนนั้น…
อวี๋จั้วหลินขมวดคิ้วมุ่น เท่าที่เขาทราบมา ภายในตำหนักอ๋องตอนนี้มีอวี้เป่าเอ๋อร์ เย่หลานเฉิง และสหายร่วมเรียนที่ชื่อหนานหนาน เขาเคยเห็นอวี้เป่าเอ๋อร์ ส่วนเย่หลานเฉิงก็น่าจะอายุไล่เลี่ยกัน เช่นนั้นเด็กคนนี้…หรือว่าจะเป็นหนานหนาน?
แม้ว่าสองวันมานี้อวี๋จั้วหลินจะลาเพื่อรักษาตัวอยู่ในจวน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในสนามแข่งขัน เขาก็ไม่พลาดเช่นกัน
จากการรายงานของลูกสมุน สองวันมานี้การแข่งขันที่ฮือฮามากที่สุดคือการแข่งวรยุทธ์รอบบ่ายของวันแรก และเด็กที่น่าจดจำมากที่สุดคือผู้เข้าแข่งขันที่ชื่อหนานหนาน ผู้ที่ถูกทุกคนเพิกเฉยแต่ก็ทำให้ทุกคนตะลึงงันในท้ายที่สุด
ได้ยินมาว่าฮ่องเต้ให้ความสำคัญกับเขามาก
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องซิวเป็นผู้ถ่ายทอดวรยุทธ์ให้ด้วยตนเอง
ได้ยินมาว่าแม้แต่ไทเฮาก็โปรดปรานเขาอย่างมาก
ได้ยินมาว่าเขามีความสัมพันธ์บางอย่างกับอาณาจักรเทียนอวี่
เด็กเช่นนี้ เกรงว่าอนาคตต่อจากนี้คงไร้ขีดจำกัด
อวี๋จั้วหลินคิดเช่นนี้ สายตาที่มองเด็กคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นความซับซ้อน
เสิ่นอิงเดินตามหลังหนานหนาน เมื่อเห็นอวี๋จั้วหลิน เขาก็ทำราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน คล้ายกับคิดจะยืนยันการคาดเดาของอวี๋จั้วหลิน จึงได้เอ่ยอย่างเนิบช้าว่า “หนานหนาน ฮ่องเต้เรียกให้เข้าเฝ้า เจ้าสวมใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ ไม่สบายเกินไปหน่อยหรือ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
[1] แมรี่ซู (玛丽苏) หมายถึงตัวละครในอุดมคติ หน้าตาดี สมบูรณ์แบบ หรือไม่ก็เป็นคนที่โชคดีมาก ๆ เป็นที่รักของพระเอกและพระรอง ชีวิตราบรื่น สร้างขึ้นมาเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของผู้เขียนเป็นหลัก
สารจากผู้แปล
แข่งแบบทีมจะรอดไหมเนี่ยหนานหนาน ไม่ใช่ว่าทำทีมล่มนะ
หนานหนานจะแก้แค้นกะจั๊วแซ่อวี๋นี้ยังไงกันนะ
ไหหม่า(海馬)