อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 376 ช่วยหนานหนาน
ตอนที่ 376 ช่วยหนานหนาน
ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้างพากันคล้อยตามทันใด พวกเขาติดตามเย่หลานเวย ทำตัวไม่สนใจกฎเกณฑ์จนเคยตัว นิสัยหยิ่งผยองเหล่านั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหนานหนานเลย
กลุ่มคนเหล่านั้นเดินมายืนที่ตำแหน่งของตนเองอย่างเงียบ ๆ ครั้นลูกหนังถูกส่งออกมา ผู้เข้าแข่งขันหลายคนก็วิ่งไปด้านหน้าอีกหน
หนานหนานยังคงถูกผลักและชนเหมือนกับครึ่งแรก การแข่งขันเปลี่ยนเป็นดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับการแข่งขันในครึ่งแรก โดยเฉพาะโหวซื่อจื่อผู้นั้นที่ไม่ได้มีท่าทีว่ากำลังแข่งขันเลยสักนิด ขอแค่มีโอกาส เขาก็พร้อมจะเข้าไปขัดแข้งขัดขาหนานหนาน
ทั้งหมดนี้ ต่อให้คนธรรมดามองไม่ออก แต่ฮ่องเต้ เย่ซิวตู๋ และคนอื่น ๆ ที่นั่งมองจากบนอัฒจันทร์กลับเห็นได้อย่างชัดเจน
สีพระพักตร์ของฮ่องเต้แสดงถึงความเคืองพระทัย สายพระเนตรเหลือบมองไปยังผิงหยวนโหว เพราะหัวหน้ากลุ่มคนนั้นคือบุตรชายของเขา
ผิงหยวนโหวรีบก้มหน้าก้มตาไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านั้น ทว่าภายในใจกลับแอบเป็นกังวล ไอ้ลูกเนรคุณคนนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้กลับเพิกเฉยต่อเกียรติของอาณาจักรเพื่อตามราวีเด็กคนหนึ่ง นี่มิเท่ากับทำให้จวนโหวของพวกเขาเสียหน้าหรอกหรือ? กลับไปต้องสั่งสอนให้หนัก
ทุกคนภายในอาณาจักรเฟิงชางต่างมีความคิดที่แตกต่างกัน ทว่าเมื่ออยู่ตรงหน้าคณะทูตของอาณาจักรจิงเหลย อาณาจักรหลิวอวิ๋น และอาณาจักรอื่น ๆ ก็กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
ถึงอย่างไรเด็กพวกนั้นก็มีปัญหากันภายในแล้ว พวกเขาก็คงขัดขวางอะไรไม่ได้ คิดเสียว่าดูเรื่องสนุกก็แล้วกัน ทั้งยังคิดว่าเด็กคนนั้นจะถูกทรมานจนกลายสภาพเป็นเช่นไร เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว เด็กที่มีความโดดเด่นและคว้าชัยจากการแข่งวรยุทธ์ ถือเป็นหายนะอันใหญ่หลวงอย่างแท้จริง
ตอนนี้พวกเขาแทบอยากให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็กที่ชื่ออวี้ฉิงหนานผู้นั้น เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องมานั่งคิดหาวิธีกำจัดเด็กคนนั้น
การแข่งขันภายในสนามกำลังดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงแค่เด็ก ๆ จากอาณาจักรเฟิงชางเท่านั้น ทว่าครั้งนี้ ต่อให้เป็นผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรจิงเหลยก็เริ่มจัดการกับหนานหนานเช่นกัน
หนานหนานรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ช่วยเตะลูกหนังให้มันดี ๆ มิได้เชียวหรือ? คนจำนวนมากขนาดนี้มาเล่นงานเขาเพียงคนเดียว ยังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่?
“ข้าช่วยเจ้าเอง” เมื่อเห็นว่าหัวหน้ากลุ่มคนนั้นคิดจะชนหนานหนานอีกครั้ง จู่ ๆ ร่างที่คุ้นตาก็พุ่งเข้ามา พร้อมกับดันตัวเขาออกไปข้าง ๆ
เมื่อหนานหนานหันกลับมาดู ก็พบว่าหยางหลินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าแข็งทื่อ
“คนพวกนี้ทำเกินไปแล้ว ไม่มีความรับผิดชอบแม้แต่น้อย” นัยน์ตาของหยางหลินฉายแววโกรธเคือง นิ้วมือที่อยู่ข้างลำตัวกำเข้าหากันแน่น
เดิมทีเขาไม่คิดจะออกหน้า ถึงอย่างไรขันทีเหล่านั้นก็พูดถูก ต่อให้เขาไม่คิดถึงตนเอง แต่ก็ต้องคิดถึงคนในครอบครัว คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ไม่มีใครที่ตระกูลหยางของเขาสามารถสร้างความขุ่นเคืองได้เลย
ทว่า เมื่อเห็นคนเหล่านั้นทำตัวไร้กฎเกณฑ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อให้ในใจของเขาจะไม่ชอบหนานหนานมากกว่านี้ ต่อให้เขาไม่อยากต่อต้านลูกหลานของตระกูลขุนนางมากกว่านี้ แต่หลังจากที่ได้เห็นผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรจิงเหลยเตะลูกหนังเข้าประตูครั้งแล้วครั้งเล่า ท้ายที่สุดหยางหลินก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป จนทำให้เขาต้องลงมือ
เขาจะช่วยหนานหนานเอง
“เอ่อ…อันที่จริง ข้ารับมือกับพวกเขาได้” หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ แม้ว่าคนเหล่านี้จ้องเล่นงานเขาตลอด แต่บนตัวของเขาก็ไม่ได้รับบาดแผลใด ๆ
หยางหลินถลึงตาใส่หนานหนาน “ข้ารู้ว่าเจ้ารับมือกับพวกเขาได้ แต่ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเราแพ้แน่”
ครั้นกล่าวจบ หยางหลินก็ไม่สนใจเขาอีก ทั้งยังวิ่งออกไปขวางลูกหนังที่ถูกผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรจิงเหลยเตะออกไป
หนานหนานลูบจมูก หยางหลินผู้นี้…รักอาณาจักรเกินไปแล้วจริง ๆ
เขาถอนหายใจและวิ่งออกไปอีกครั้งเช่นกัน
ถึงอย่างไรก็ยังมีคนไม่ยอมปล่อยให้เขาได้ทำตามใจปรารถนา หนานหนานวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็มีคนยื่นขาออกมาดักขาเขา
หยางหลินหันกลับมาพร้อมกับผลักคนคนนั้นออกไปในทันที
หนานหนานถึงกับชะงัก คิดไม่ถึงเลยว่าหยางหลินผู้นี้จะมาช่วยเขาจริง ๆ
หัวหน้ากลุ่มผู้นั้นดูเหมือนจะหงุดหงิด จึงหันไปส่งสายตาให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ทำให้มีอีกสองสามคนเข้ามาสกัดหยางหลินไว้
สนามแข่งขันกลายเป็นความยุ่งเหยิง ผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรจิงเหลยเตะลูกหนังเข้าประตูได้หลายลูกโดยไม่ต้องเปลืองแรง ครั้นเห็นว่าคะแนนของสองอาณาจักรทิ้งห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ หยางหลินก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เขาใช้เท้าเตะคนที่เข้ามาขวางออกไป แล้วกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า “พวกเจ้าไม่มีความคิดอยากจะชนะเลยหรืออย่างไรกัน? เอาแต่ห่วงความคับแค้นใจส่วนตัวเช่นนี้ ไม่สนเกียรติของอาณาจักร นี่เป็นสิ่งที่ลูกหลานตระกูลขุนนางอย่างพวกเจ้าพึงกระทำหรือ? พวกเจ้าคือความอัปยศของอาณาจักรเฟิงชางจริง ๆ”
น้ำเสียงของเขาดังก้องและแฝงไปด้วยความโกรธ ทว่ากลับทำให้ฮ่องเต้และคนอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลได้ยินอย่างชัดเจน
ฮ่องเต้ถึงกับพยักพระพักตร์ ตรัสถามเหมียวเชียนชิวที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “นี่เป็นลูกเต้าเหล่าใครรึ?”
“กราบทูลฝ่าบาท เขาคือบุตรตระกูลหยาง เป็นตระกูลพ่อค้าตระกูลหนึ่งอยู่ทางเหนือของเมือง เด็กคนนั้นชื่อหยางหลินพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้แย้มพระสรวลพลางหรี่พระเนตร “เด็กคนนี้มีความจริงใจนัก ดีกว่าพวกลูกผู้ลากมากดีที่รู้จักแต่สร้างปัญหาเหล่านั้นเสียอีก”
ผิงหยวนโหวได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใจถึงสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัส เขาตกใจถึงขั้นเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผาก แทบจะลงไปคุกเข่าเพื่อขอรับโทษ เขารู้สึกกังวล ทว่าเป็นเพราะบุตรชายของเขาต้องการระบายความโกรธ จึงไม่ได้เก็บคำพูดของหยางหลินมาใส่ใจ
เขาเป็นเด็กอายุสิบขวบคนหนึ่ง ทั้งยังถูกเอาอกเอาใจจนเคยตัว เมื่อเทียบกับเด็กอย่างหยางหลิน บุตรชายของเขาย่อมไม่สนใจอีกฝ่าย ทั้งยังพุ่งตัวเข้าหาหยางหลินเพื่อมาดหมายเตะอีกฝ่ายทันที
หยางหลินเบี่ยงตัวหลบ หันกลับมาและออกตัววิ่ง
ใครจะไปคิดว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงสองก้าว ก็เห็นคนคนหนึ่งกำลังยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยสีหน้าชั่วร้าย ด้านในแขนเสื้อเกิดการขยับเขยื้อน ทั้งยังพุ่งเข้าหาหนานหนานอีกด้วย
หยางหลินถึงกับชะงัก คนคนนี้คือผู้เข้าแข่งขันอาณาจักรจิงเหลยที่ใช้งูพิษตอนแข่งวรยุทธ์มิใช่รึ? ตอนนี้เขามีแผนการชั่วร้ายอะไรอีกแล้ว?
หนานหนานใจจดจ่ออยู่กับลูกหนังที่เท้า ทั้งยังต้องเตรียมป้องกันการร่วมมือเพื่อห้อมล้อมเขาของเหล่าผู้เข้าแข่งขันอาณาจักรเฟิงชาง ดังนั้นเขาย่อมไม่ได้เตรียมรับมือกับผู้เข้าแข่งขันงูพิษที่อยู่ด้านหลังของตนเท่าไรนัก
หยางหลินรีบพุ่งตัวเข้าไปด้านหน้า กอดหนานหนานและกลิ้งไปข้าง ๆ โดยไม่หยุดคิด
เมื่อกลิ้งกลุก ๆ เช่นนี้ ลูกหนังที่อยู่ข้างเท้าหนานหนานย่อมถูกแย่งไปในทันที เกิดเสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น อาณาจักรจิงเหลยได้คะแนนอีกครั้งแล้ว
หยางหลินเห็นผู้เข้าแข่งขันงูพิษผู้นั้นหันมายิ้มด้วยรอยยิ้มแฝงนัยยะใส่พวกเขาทั้งคู่ จากนั้นก็ขยับแขนเสื้อ ทว่าในนั้นกลับไม่มีอะไรนอกจากลม
หนานหนานขมวดคิ้ว ลุกออกจากตัวของหยางหลิน ยื่นมือออกไปดึงหยางหลินให้ลุกขึ้น หนานหนานมุมปากกระตุกขณะกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากช่วยข้า แต่มากลิ้งแบบนี้ ก็ทำให้คนอื่นได้คะแนนอีกแล้ว”
“เจ้ารู้รึว่าด้านหลังมีคนไล่ตาม?” หยางหลินชะงัก
หนานหนานพยักหน้า “รู้สิ ข้าฉลาดขนาดนั้น จะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?”
“…” หยางหลินรู้สึกว่าตนเองคิดเองเออเอง เขาถึงกับเม้มปากและถลึงตามองหนานหนานปราดหนึ่ง
หนานหนานเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาทำอะไรผิด? นิสัยของหยางหลินผู้นี้เอาแน่เอานอนไม่ได้เกินไปแล้ว คล้ายกับที่ท่านแม่พูดไว้ว่า…ว่าอะไรแล้วนะ…อ๋อ…ถูกต้อง…ผู้ป่วยทางจิตที่ไม่แสดงอาการ
ใช่แล้ว หยางหลินผู้นี้เดี๋ยวก็ทำดีกับเขา เดี๋ยวก็ถลึงตาใส่เขา ต้องมีความผิดปกตินี้เป็นแน่
หนานหนานจุ๊ปาก ทั้งยังรักษาระยะห่างที่มีต่อหยางหลิน
หยางหลินรู้สึกหงุดหงิดมาก อวี้ฉิงหนานผู้นี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเกินไปแล้ว หากครั้งหน้าเขายังช่วยอวี้ฉิงหนานอีก เขาก็คงเป็นเจ้าทึ่มแล้ว
หยางหลินสะบัดมือแรง ๆ หมุนกายทำท่าจะเดินออกไป ทว่าไม่มีใครคาดคิดว่า การขยับตัวเช่นนี้จะทำให้เขารู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อเท้าอย่างฉับพลัน
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ไอเด็กพวกนี้นี่ เตรียมโดนทัณฑ์บนเรียงตัวได้เลย อยู่ในการแข่งขันแต่กลับแยกแยะไม่ได้ นี่เท่ากับว่าอาณาจักรเฟิงชางมีผู้แข่งขันแค่สองคนนะ
ไหหม่า(海馬)