อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 4 จบเห่แล้ว
ตอนที่ 4 จบเห่แล้ว
อวี้ชิงลั่วแอบยิ้มเยาะภายในใจอย่างห้ามไม่อยู่ มิอาจห้ามความลำพองใจในสายตาไว้ได้
อวี๋จั้วหลินผู้นี้วางแผนภายในใจไว้อย่างชาญฉลาดนัก คิดจะให้นางไปดูอาการหลี่หรานหร่าน? เหอะ ๆ ต่อให้นางกล้าไป แต่เขาจะกล้าให้นางดูอาการหรือ?
นางไม่มั่นใจว่าถึงเวลานั้นนางจะทำให้อีกฝ่ายตายโดยไม่ทันได้ระวังตัวหรือไม่ และคงทำให้ตายอย่างน่าอนาถเสียด้วยสิ ถึงอย่างไรการเผชิญหน้าเมื่อหกปีก่อน หลี่หรานหร่านผู้นั้นก็มิอาจที่จะลบเลือนได้เช่นกัน
อวี้ชิงลั่วไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้นางตั้งแต่แรก ก็นับว่าเป็นความโชคดีของนางแล้ว ตอนนี้ยังกล้าส่งตัวเองมาตายอีก นั่นก็เป็นเพราะตัวนางเอง
“แต่นายน้อย หากหมอปีศาจออกไปแล้วล่ะขอรับ? พวกเราก็ได้ยินแล้ว หมอปีศาจผู้นั้นเป็นคนเก็บตัว บางทีเงินก็มิอาจเชิญตัวนางมาได้”
เสียงของลูกสมุนดังขึ้นอีกครั้งจากด้านนอกม่านกั้น น้ำเสียงนั้นดูเหมือนจะแฝงด้วยความกังวล และมีความรู้สึกไม่เต็มใจเล็ก ๆ คาดว่าคงไม่เห็นด้วยที่อวี๋จั้วหลินทิ้งเมืองหลวงวิ่งแจ้นมาถึงเจียงเฉิงเพียงเพราะสตรีเพียงผู้เดียวกระมัง
อวี๋จั้วหลินมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “อวี๋เฟิง วันนี้เจ้าพูดมากนะ”
อวี๋เฟิงชะงักและรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงออกมา
ภายในห้องเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัดขึ้นทันใด ได้ยินเสียงชนจอกชาเป็นครั้งคราว ส่วนที่เหลือคือเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินของทั้งสอง
อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ด้านหลังฉากกั้น ทว่าคิ้วของนางกลับขมวดเข้าหากันน้อย ๆ หากทั้งสองคนนี้ไม่ยอมไปจากที่นี่ เช่นนั้นนางก็ไม่มีปัญญาที่จะออกจากห้องพักนี้ได้
ให้ตายเถอะ หนานหนานยังรอนางอยู่ที่โรงเตี๊ยมเมื่อครู่ หากไม่โผล่ไปหาเขา บางทีเจ้าเด็กคนนั้นคงได้สร้างปัญหาอะไรขึ้นมาอีก
ภายในใจของนางกำลังนึกถึงเจ้าตัวเล็กที่ร้อนรนอยู่ไม่สุขคนนั้น แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าในเวลานี้อวี้เชี่ยหนานกำลังตกอยู่ในมือของคนอื่นแล้ว และกำลังใช้มือปิดปากร้องสะอึกสะอื้นระหว่างที่ถูกคนอุ้มวิ่งอยู่บนท้องถนน
เพียงแต่มือเล็ก ๆ นั้นปิดอยู่นานจนในที่สุดก็เริ่มเหนื่อย แม้จะโดนบุรุษชุดขาวข่มขู่มิให้ปริปากพูด แต่เขาก็ทนไม่ไหวแล้ว จึงพูดเสียงเบา “นี่ หากท่านยังวิ่งแบบนี้ต่อไป พิษคงไหลทั่วทั้งร่างกาย ถึงเวลานั้นแม้แต่เทพเซียนก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้ จะมีคนช่วยเหลือท่านหรือไม่ข้าไม่ได้สนใจหรอกนะ แต่ถ้าท่านตาย เช่นนั้นข้าก็คงตกระกำลำบากถูกทอดทิ้งอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งนี้ ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้กินได้ดื่มของดี ๆ แต่ต้องลาลับโลกก่อนวัยอันควรเช่นนี้ ท่านรู้หรือไม่ว่านี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของอาณาจักรเราเลยนะ?”
บุรุษชุดขาวคิ้วกระตุกเล็กน้อย ร่างของเขาเคลื่อนแวบผ่านไป บัดนี้ได้เข้ามาอยู่ในตรอกมืด ๆ แห่งหนึ่ง เขายื่นมือข้างหนึ่งออกมาเพื่อปิดปากอีกฝ่ายและย่อตัวลงเพื่อซ่อนตัว
ผ่านไปได้ไม่นาน คนที่ไล่ตามพวกเขาก็วิ่งผ่านตรอกไปอย่างรวดเร็ว เงานั้นห่างไกลออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ
บุรุษชุดขาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหน้าของเขาเย็นชาอีกครั้งในทันที เขาปล่อยหนานหนานไว้บนชั้นวางไม้ที่ถูกทิ้งไว้ ฝ่ามือขนาดใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเขา “ยาถอนพิษ”
หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ พลันเบือนหน้าหนีแหงนหน้ามองฟ้า อู้ว…อากาศวันนี้ดีจริง ๆ ท้องฟ้าสีฟ้า ปุยเมฆขาวนวล อุ้ย…บนท้องฟ้ามีนกเล็ก ๆ บินผ่านสองสามตัวด้วย ปีกของมันสวยจริง ๆ โอ๊ะ…ลมพัดสบายมาก น่านอนจัง
“หากยังไม่เอายาถอนพิษออกมา ข้าจะเอาชีวิตเจ้า” บุรุษชุดขาวนำปลายมีดจ่อที่ลำคอของเขา ใบหน้าที่ขาวซีดก่อนหน้านี้ บัดนี้ยิ่งขาวซีดยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“มีดไม่มีตาหรอกนะ ท่าน…ท่าน…ท่านทำให้ข้าตกใจแบบนี้ ข้าเป็นลมได้นะ นี่…ข้าเป็นลมแล้วนะ เป็นลมแล้ว ๆ ๆ ข้าเป็นลมจริง ๆ แล้ว โอ๊ะ…ท่านเชื่อข้าสิ ข้าจะเป็นลมเดี๋ยวนี้แหละ”
บุรุษชุดขาวมุมปากกระตุกวูบสองหน กระบี่ในมือของเขากลับไม่ได้ออกห่างแม้แต่ชุ่น[1] เดียว สีหน้ากลับดูมืดมนมากยิ่งขึ้น “ยาถอนพิษ”
“…” หนานหนานไม่เข้าใจเลย เหตุใดเขาถึงไม่กลัวคำพูดข่มขู่ของตนเองสักนิด? ไม่น่ารักเลยจริง ๆ เขาถลึงตามองอีกฝ่าย ก่อนเบือนหน้าไปข้าง ๆ ทันที หลับตาและแสร้งทำเป็นเห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ “ไม่มียาถอนพิษหรอก จะฆ่าหรือหั่นข้าก็ตามสบายเลย แต่ข้าขอเตือนท่านไว้ก่อนนะ หากท่านฆ่าข้าจริง ๆ ท่านเองก็จะตายเหมือนกัน”
“เจ้า…” บุรุษชุดขาวไม่เคยเห็นเด็กคนไหนดื้อด้านเช่นนี้มาก่อนเลยจริง ๆ ไม่ยอมทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งยังพอทน แม้แต่มีดจ่ออยู่บนคอของตนเอง คิดไม่ถึงเลยว่าเขายังพูดจาไร้สาระมากมายเช่นนี้ได้ลง
เขาแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง สายตามองไปที่กระเป๋าใบเล็กที่แขวนอยู่ข้างเอวของหนานหนาน ก่อนยื่นมือออกมาดึงและล้วงมือเข้าไปค้นในกระเป๋าใบนั้น
ผ่านไปครู่หนึ่ง ใบหน้าดำทะมึนมองดูขวดและถุงกระดาษทั้งหมดที่เขียนว่า ‘ยาพิษ’ เขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
หนานหนานปล่อยให้เขาค้นถุงตามสบาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้อะไร จึงดึงถุงกลับมาแขวนไว้ที่ข้างเอวอีกครั้งอย่างมีชัย ใบหน้าก็แสดงออกว่ามีความสุขมาก
ทว่าเขาเองก็ทราบดีว่าเรื่องมาถึงจุดจบแล้ว เมื่อเห็นว่าบุรุษชุดขาวหมดความอดทนจริง ๆ ก็คิดขึ้นได้ว่าถึงเวลาที่เขาควรยื่นเงื่อนไข
“นี่ พิษที่อยู่บนร่างกายของท่านน่ะ…”
“พิษที่อยู่บนร่างกายของข้ามิใช่ว่าจะถอนไม่ได้” บุรุษชุดขาวแค่นเสียงหัวเราะ ราวกับอ่านความคิดของหนานหนานได้ เพียงแต่การฝึกฝนตลอดทั้งปีทำให้เขาไม่ยินดีที่จะถูกข่มขู่ง่าย ๆ แม้ว่าคนผู้นี้จะเป็นแค่เด็กที่ยังไม่โตคนหนึ่ง “หมอในเจียงเฉิงแห่งนี้มีมากมาย จะหาคนที่ถอนพิษออกจากตัวข้าไม่ได้สักคนเชียวหรือ? เจ้านั่นแหละ ตอนนี้อยู่ในมือของข้าแล้ว ข้ามีวิธีทำให้เจ้ารู้สึกอยากตายดีเสียกว่าที่จะมีชีวิตอยู่”
หนานหนานเบิกตาโต มีอะไรผิดพลาดหรือไม่ คนผู้นี้คิดจะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมอย่างนั้นหรือ? โกรธเจียนตายแล้ว โกรธเจียนตายแล้ว ไม่ได้ทำให้คนชื่นชอบเลยจริง ๆ
เขาแค่นเสียงเย็น “ฝันไปเถอะ ยาพิษที่ท่านแม่ของข้าคิดค้น มีแค่ท่านแม่ของข้าเท่านั้นที่ถอนพิษได้ ต่อให้ท่านตามหาหมอทั่วอาณาจักรเฟิงชาง ก็มิอาจถอนพิษที่อยู่บนร่างกายของท่านได้…”
“ดังนั้น ยาถอนพิษอยู่กับมารดาของเจ้าสินะ?” บุรุษชุดขาวเลิกคิ้วขึ้น ในที่สุดสายตาของเขาก็ผ่อนคลายลง มองดูเด็กที่อยู่ตรงหน้าที่รีบยกมือขึ้นมาปิดปากอย่างรวดเร็วด้วยความสนใจ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หากเขากลับไปหามารดาของเด็กคนนี้ก็สิ้นเรื่องแล้ว หากเจ้าเด็กคนนี้อยู่ในมือของเขา มีหรือที่มารดาของเขาจะไม่ยอมนำยาถอนพิษออกมา?
หนานหนานคิดว่าตนเองได้สร้างปัญหาแล้ว หากพาคนผู้นี้ไปเจอท่านแม่ ท่านแม่ต้องเบือนหน้าหนี ไม่ยอมรับบุตรโง่เขลาอย่างเขาคนนี้เป็นแน่
เรื่องแบบนี้…ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพียงครั้งสองครั้ง
“เอ่อ ท่านลุง ท่านเข้าใจผิดแล้ว อันที่จริงท่านแม่ของข้าไม่มียาถอนพิษหรอก ยาถอนพิษอยู่บนตัวข้านี่แหละ จริง ๆ นะ ข้าจะหาให้” พูดจบ เขาก็เริ่มก้มหน้าก้มตาค้นกระเป๋าที่เต็มไปด้วย ‘ยาพิษ’ ใบนั้น ทั้งยังส่งเสียงขณะออกแรงหาด้วย
บุรุษชุดขาวกลับไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมเชื่อฟังง่ายดายเช่นนี้ บางทีอาจมาไม้อื่นก็เป็นได้ แทนที่จะปล่อยให้เขามีความคิดบ้า ๆ อย่างอื่น สู้ไปเผชิญหน้ากับมารดาของเขาเพื่อแลกเปลี่ยนยังจะปลอดภัยมากกว่า
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็ปิดถุงของหนานหนาน และพูดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาว่า “ไม่ต้องแล้ว ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่โรงเตี๊ยมเมื่อครู่ ข้าคิดว่าแม่ของเจ้า…น่าจะกำลังไปหาเจ้าที่นั่น”
หนานหนานเบิกตาโตทันที เรื่องนี้…จบแล้วจริง ๆ หรือ
บุรุษชุดขาวไม่ได้สนใจท่าทางราวกับซาลาเปาขมวดคิ้ว และยกตัวหนานหนานขึ้นมา
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยกตัวหนานหนาน จู่ ๆ กลางอากาศก็เกิดเสียงดังขึ้นเบา ๆ จากนั้นก็เห็นควันสีม่วงหนึ่งสายลอยขึ้นกลางท้องนภา
บุรุษชุดขาวหน้าเปลี่ยนสี “นายท่าน…”
หนานหนานมองเขาด้วยความประหลาดใจ ก็พบว่าอีกฝ่ายยกมือขึ้นมาทุบเข้าที่ท้ายทอยของเขาอย่างไม่ลังเล ทำให้เขาหมดสติไป ก่อนจะยกร่างของหนานหนานขึ้นมาและวิ่งไปยังตำแหน่งที่เกิดควันสีม่วงสายนั้น
……………………………
[1] ชุ่น (寸) หน่วยวัดแปลว่า นิ้ว
สารจากผู้แปล
อวี้ชิงลั่วผู้นี้ไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป เหอะ ๆ ๆ ๆ
ใครเป็นนายท่านของชายชุดขาวกันนะ แล้วจะได้ยาถอนพิษไหม
ไหหม่า (海馬)