อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 426 ฆ่าปิดปาก
ตอนที่ 426 ฆ่าปิดปาก
ตอนที่ 426 ฆ่าปิดปาก
เหวินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทว่ากลับคิดไม่ออกว่าคนคนนี้คือใครกันแน่
ต้องยอมรับว่าเขาต้องเคยเห็นคนคนนี้มาก่อน และคงเป็นญาติสักคนหนึ่ง…ของราชวงศ์
ก็ถูก คนที่คิดวางแผนให้ร้ายนายท่านและแม่นางอวี้จนแทบทนรอไม่ไหวเช่นนี้ ไม่ต้องคิดให้มากก็รู้ว่าเป็นคนพวกนั้น แต่แค่อยากรู้ว่าในบรรดาคนเหล่านี้ใครกันถึงได้กล้าหาญถึงเพียงนี้ หลังจากที่รู้ว่าองค์หญิงเทียนฝูของอาณาจักรเทียนอวี่คือแม่นางอวี้ ก็วางแผนห่วยแตกเช่นนี้ในทันที
ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดมากไปกว่านี้ น้ำเสียงสั่นคลอนของนักเล่าเรื่องก็ดังขึ้น “ท่านฝู พวกเราก็จนปัญญานะขอรับ เรื่องนี้ข้าคงทำได้เพียงเท่านี้ ท่านปล่อยลูกเมียข้าไปเถิดขอรับ พวกเขา…”
“หุบปาก” ท่านฝูตวาดใส่นักเล่าเรื่องหนึ่งเสียงด้วยความโกรธขึ้ง ทั้งยังใช้เท้ากระทืบอีกฝ่ายอีกครั้ง แค่นเสียงเย็นกล่าว “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเจ้าหาเรื่องใส่ตัว ในเรื่องเล่าที่ข้าบอกเจ้าตอนแรกไม่ได้มีเรื่องกระโดดสะพาน แขวนคอและดื่มยาทำแท้งอะไรนั่น หากมิใช่เพราะเจ้ามีความคิดโลภอยากได้เงินมาก ๆ เชื่อฟังคำพูดของเถ้าแก่นั่น เรื่องราวจะเกินจริงถึงขั้นนี้รึ แค่ครู่เดียวก็ถูกเปิดโปงว่ากล่าววาจาเท็จแล้ว”
“ข้า…” นักเล่าเรื่องรู้สึกเสียใจ เขามีความเห็นแก่ตัวนั้นจริง ๆ เขาอยากได้เงินมากกว่านั้นอีกหน่อย เช่นนี้คงช่วยให้เขาพาลูกเมียกลับบ้านเกิดและออกห่างจากสถานที่เส็งเคร็งแห่งนี้ได้เร็วขึ้น
ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าจะขโมยไก่ไม่ได้อีกทั้งยังเสียข้าวสารอีกกำมือ คำพูดโกหกที่แต่งขึ้นมาเหล่านั้นทำให้เรื่องเล่าที่เขาเล่ากลายเป็นเรื่องไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือไปแล้ว
“ท่านฝู…ท่านฝู…เด็กคนนั้นเตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว ท่านดูสิ เขาให้คนเข้าเล่มหนังสือมาที่นี่ตั้งแต่แรก อีกอย่าง…อีกอย่างเขาก็เป็นซื่อจื่อของท่านอ๋องซิวด้วย ต่อให้ข้าไม่พูดเรื่องราวเกินจริงเหล่านั้น คนที่ทุกคนเชื่อก็ยังเป็นซื่อจื่อน้อยคนนั้นอยู่ดี”
“หุบปาก” ท่านฝูยิ้มเยาะ จ้องมองเขาด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “อย่ามาหาข้ออ้างให้กับความผิดพลาดของตัวเอง ข้าบอกไว้เลย คนที่ทำภารกิจไม่สำเร็จ มีจุดจบเพียงทางเดียวเท่านั้น”
นักเล่าเรื่องชะงักและตื่นตระหนกในทันที กอดของที่อยู่ในอ้อมกอดพร้อมกับถอยร่นไปด้านหลัง “ท่าน…ท่านคิดจะทำอะไร?”
เหวินเทียนขมวดคิ้วในทันที ยังไม่ทันได้ตรึกตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน ท่านฝูที่อยู่ในตรอกก็ชักมีดสั้นออกมาปาดลำคอของนักเล่าเรื่องแล้ว
นักเล่าเรื่องทำได้เพียงแค่เปล่งเสียงคำรามหนึ่งเสียง เบิกตาโพลงราวกับไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ร่างกายค่อย ๆ ไหลไปตามกำแพงและล้มตัวลงอย่างเนิบช้า
‘เคร้ง’ ท่านฝูโยนมีดสั้นลงข้างเท้าของเขาพลางแค่นเสียงเยาะหนึ่งเสียง
เหวินเทียนกำหมัดแน่นอย่างห้ามไม่อยู่ ท่านฝูผู้นี้ช่างใจกล้ายิ่งนัก ไม่ปิดบังใบหน้าของตนเองแม้เป็นช่วงกลางวันแสก ๆ ทั้งยังกล้าฆ่าคนอย่างเปิดเผย
ดวงตาของเขาหรี่ลง มองท่านฝูคนนั้นที่ยังคงยืนอยู่ข้างศพ มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มด้วยรอยยิ้มมืดหม่น…และเจ้าเล่ห์
เหวินเทียนรู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติ ผิดปกติอย่างมาก ดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่เขาพลาดไป มีบางอย่างที่เขาคิดไม่ถึง
ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น จู่ ๆ ท่านฝูผู้นั้นก็โยนบางอย่างลงบนพื้น
เหวินเทียนอยากมองสิ่งของชิ้นนั้นให้แน่ชัดว่าคืออะไร ทว่าข้างหูของเขากลับได้ยินเสียงแหลมของท่านฝูดังขึ้นอย่างฉับพลัน “อ๊าก…ช่วยด้วย…ฆ่าแกงกันแล้ว ผู้อารักขาตำหนักอ๋องซิวฆ่าคนแล้ว”
เหวินเทียนพลันรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นในบัดดล ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าสิ่งผิดปกติอยู่ที่ใด หัวใจของเขาถึงกับบีบรัดในทันที ขาทั้งสองข้างยกขึ้นทำท่าจะกระโดดขึ้นไปบนหลังคา
ใครจะไปคิดว่าเพียงเขาเพิ่งหมุนกาย ท่านฝูที่ยังยืนอยู่ในตรอกกลับหมุนตัวมาตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไรมิอาจทราบได้ ทั้งยังใช้มือจับแขนของเขาไว้ ยิ้มอย่างร้ายกาจ “ผู้อารักขาเหวิน เจ้าจะไปไหนรึ?”
“เจ้า…” เหวินเทียนค้นพบว่าท่านฝูผู้นี้มีพลังมากล้น ฝีมือและความคล่องแคล่วนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง
เหวินเทียนยังมิทันได้ตรึกตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขาก็สับมือเข้าใส่ร่างของอีกฝ่าย ท่านฝูหัวเราะหึๆ พร้อมกับเบี่ยงตัวหนี วินาทีต่อมา ร่างของเขาก็กระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ข้าง ๆ ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
เหวินเทียนขมวดคิ้ว ตอนที่คิดจะหมุนกาย ก็พบว่าผู้ตรวจการเมืองหลวงได้นำเจ้าหน้าที่ทหารคู่หนึ่งมาขวางตรงหน้าเขาแล้ว
“จับตัวไว้”
เจ้าหน้าที่ทหารรีบลงมือ เข้ามาห้อมล้อมเหวินเทียนไว้
เหวินเทียนยิ้มเยาะมองไปยังใต้เท้าเย่ผู้ตรวจการเมืองหลวงผู้นั้น รวดเร็วเหลือเกิน ใต้เท้าเย่ผู้นี้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจการเมืองหลวงมาหลายปีขนาดนั้น ครั้งนี้เกรงว่าคงเป็นครั้งแรกที่ปฏิบัติภารกิจรวดเร็วถึงเพียงนี้
บัดซบ เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้คือกับดัก นักเล่าเรื่องพูดเพื่อทำลายชื่อเสียงของท่านอ๋องภายในโรงเตี๊ยมมิใช่เรื่องสำคัญ ท่านฝูฆ่านักเล่าเรื่องก็มิใช่เรื่องสำคัญ ที่แท้เรื่องสำคัญ…ก็อยู่ที่ตัวเขานี่เอง
พวกเขาคิดวางแผนเพื่อเล่นงานเขาตั้งแต่ต้น
มุมปากของเหวินเทียนเม้มจนขึงตึง สายตามองเจ้าหน้าที่ทหารเหล่านั้นที่เดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าเขากลับทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งอยู่กับที่ หนีไม่ได้ เดินไม่ได้ ฆ่าเพื่อฝ่าวงล้อมออกไปไม่ได้ คนเหล่านี้เตรียมตัวมาอย่างดี หากเขาขัดขืนเพื่อออกไปจากที่นี่ เช่นนั้นก็จะเป็นการหลบหนีเพราะเกรงกลัวต่อความผิด เกรงว่า…ท่านอ๋องก็คงถูกเกี่ยวโยงอย่างเลี่ยงมิได้เช่นกัน
มุมปากผู้ตรวจการเมืองหลวงผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดก็ตกมาอยู่ในมือของเขาแล้ว ท่านอ๋องซิว หากจะโทษก็โทษที่ท่านมีศัตรูมากเกินไป ทุกคนต่างก็คิดจะเล่นงานท่านกันทั้งนั้น
เขาโบกมือวูบหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทหารเหล่านั้นหยิบเชือกมาแล้ว ทำท่าทางจะเข้ามามัดตัวของเหวินเทียน
เหวินเทียนขยับตัวพลางมองผู้ตรวจการเมืองหลวงด้วยรอยยิ้ม “ใต้เท้าเย่ ท่านจะมาจับข้าอย่างไร้เหตุผลได้เยี่ยงไร?”
“ไร้เหตุผล?” ผู้ตรวจการเมืองหลวงแย้มยิ้ม “ผู้อารักขาเหวิน เห็นแก่เจ้าที่เป็นคนของตำหนักอ๋องซิว ข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ยอมสารภาพมาเสียเถอะ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา มิเช่นนั้นหากต้องเข้าคุก เจ้าคงมิอาจพูดอะไรได้แล้ว”
“นี่ใต้เท้าเย่คงคิดจะให้ข้ายอมรับผิดเพราะทนถูกทรมานไม่ไหวกระนั้นรึ?”
“ยอมรับผิดเพราะทนถูกทรมานไม่ไหว?” ใต้เท้าเย่ระเบิดเสียงหัวเราะ “พยานวัตถุและพยานบุคคลก็มีอยู่ ข้าจับตัวเจ้าภายในที่เกิดเหตุที่ลงมือสังหารคน จะเรียกว่ายอมรับผิดเพราะทนถูกทรมานไม่ไหวได้อย่างไรกัน?”
“พยานวัตถุและพยานบุคคล?” เหวินเทียนขมวดคิ้วมุ่น
ใต้เท้าเย่โบกมือวูบหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งก้าวเท้าเข้ามา หยิบมีดสั้นที่อยู่ข้างตัวนักเล่าเรื่องและกระดาษแผ่นหนึ่งที่ท่านฝูโยนลงพื้นในตอนนั้นขึ้นมา
เขายกมือขึ้นมาในทันที กางกระดาษที่พับอยู่ออกมา “ผู้อารักขาเหวิน ด้านบนนี้มีตราประทับตำหนักอ๋องซิวของพวกเจ้า”
เหวินเทียนถึงกับทรุดในทันที นี่มัน…ข้อตกลงในการตีพิมพ์เพื่อเข้าเล่มที่หนานหนานลงนามไว้กับโรงพิมพ์เมื่อเช้านี้ เหตุใดสิ่งนี้ถึงมาอยู่กับท่านฝูผู้นั้น?
บัดซบ เขาจำได้แล้ว คนที่คุยกับคนของโรงพิมพ์มาโดยตลอดคือเป่าเอ๋อร์ เป่าเอ๋อร์มีวรยุทธแค่งู ๆ ปลา ๆ เท่านั้น ท่านฝูผู้นั้นเป็นยอดฝีมือ หากคิดจะใช้โอกาสหยิบของจากตัวของเป่าเอ๋อร์ย่อมมิใช่เรื่องยากเย็น
ใต้เท้าเย่เห็นว่าเขาไม่พูดสิ่งใด จึงเกิดความรู้สึกพึงพอใจเล็ก ๆ ยกมือขึ้นอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ทหารจึงพยุงท่านฝูที่กระแทกเข้ากับกำแพงเดินตรงเข้ามา
ท่านฝูผู้นั้นมาหยุดลงตรงหน้าผู้ตรวจการเมืองหลวง แสร้งทำเป็นคนแก่ผู้ไร้กำลังแสนอ่อนแอ โขกศีรษะลงตรงหน้า “ใต้เท้า ข้าน้อยคืออาฝู เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นกับตาตนเองว่าเป็นคนคนนี้ที่ฆ่าตาเฒ่าภายในตรอกซอยขอรับ”
เหวินเทียนขมวดคิ้วมุ่น มองท่านฝูที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยท่าทางไร้พลัง เขาได้สติกลับคืนมาในทันที ในที่สุดเขาก็นึกออกแล้ว…เขานึกออกแล้วว่าท่านฝูผู้นี้เป็นใคร นึกออกแล้วว่าเป็นคนของฝ่ายใด
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทำไมรู้สึกตงิดในใจจังเลยว่าอาจเกี่ยวข้องกับอาณาจักรจิงเหลยหรือไม่ก็นังกุ้ยเฟย? แผนการขั้นสูงขนาดเหวินเทียนยังพลาดท่านี่มีไม่กี่คนหรอกที่วางแผนได้ขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)