อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 45 ปลาใหญ่ติดแห
ตอนที่ 45 ปลาใหญ่ติดแห
ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่เหนือการควบคุมอยู่ชั่วขณะหนึ่ง พ่อบ้านหยางถูกห้อมล้อมไว้ตรงกลางจนมิอาจขยับเขยื้อนตัวได้ อย่าว่าแต่ไปบอกกับหยางเยี่ยนเซิงเลย แม้แต่จะตะโกนก็ถูกเสียงของผู้คนกลบจนหมด
จินหลิวหลีกระโดดลงมาจากด้านบน มองไปยังพ่อบ้านหยางที่กำลังมองมาด้วยสายตาวิงวอนขอความช่วยเหลือ แล้วนางก็ยักไหล่แสดงออกว่าจนปัญญา
หยางเยี่ยนเซิงได้ยินเสียงของจินหลิวหลีจากด้านบนตั้งแต่แรกแล้ว เดิมทีคิดว่าไว้จะทำแบบนี้ แต่เมื่อเห็นพ่อบ้านหยางถูกคนห้อมล้อมไว้ เขาก็รู้สึกลำบากใจขึ้นมาในทันที ไม่รู้ว่าจะมอบแผ่นป้ายไม้ให้ผู้ใด
ได้แต่กลัวว่า หากมอบให้ใครไปแล้ว จะต้องมีคนไม่พอใจ และสร้างปัญหาขึ้นมา
แม้กระทั่งมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างปัญหาให้คนผู้นั้น หากเป็นเช่นนี้ จากความหวังดีก็จะกลายเป็นเรื่องร้าย
คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หยางเยี่ยนเซิงมาโดยตลอดกล่าวเสียงทุ้มด้วยรอยยิ้มว่า “หยางต้าซ่านเหริน หากท่านนำแผ่นป้ายไม้ไปหาหมอปีศาจตั้งแต่แรก ก็คงไม่วุ่นวายมากมายขนาดนี้”
หยางเยี่ยนเซิงถือแผ่นป้ายไม้พลางถอนหายใจ ไหนเลยเขาจะรู้ว่าเรื่องราวจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ เถ้าแก่เนี้ยจินมีแผนการอะไรกันแน่?
ระหว่างที่กำลังจนปัญญา จู่ ๆ ด้านนอกประตูก็เกิดเสียงเคาะดังขึ้นเบา ๆ
หยางเยี่ยนเซิงชะงัก กล่าวเสียงดังว่า “เข้ามา”
คนที่เดินเข้ามาก็คือต้าอู่ที่เพิ่งฟื้นได้ไม่นาน จนถึงตอนนี้หลังของเขาก็ยังเจ็บอยู่ ภายในใจก็ได้จดจำความโกรธเคืองที่มีต่อโม่เสียนไว้แล้ว
หากไม่ใช่เพราะเถ้าแก่เนี้ยบอกว่าเป็นคนฝั่งเดียวกัน เขาคงได้แก้แค้นเอาคืนในตอนนั้นแน่นอน
แต่แปลกประหลาด คนของจวนโม่กลายเป็นคนฝั่งเดียวกับตนเองตั้งแต่เมื่อไรกัน?
ต้าอู่งงงันอยู่ภายในใจ ตอนที่เผชิญหน้ากับหยางเยี่ยนเซิง เขายังคงแย้มยิ้มพูดอย่างอ่อนโยน “หยางต้าซ่านเหริน เถ้าแก่เนี้ยของพวกเราให้ข้าน้อยมาบอกท่าน หากเป็นเช่นนี้ต่อไปหาใช่วิธีการที่ดีไม่ แผ่นป้ายนั้นเปลี่ยนมือไปให้ใคร ก็ต้องมีคนเกิดความไม่พอใจสร้างปัญหาเป็นแน่ขอรับ”
“ดังนั้นข้าถึงได้บอกให้เถ้าแก่เนี้ยจินจับฉลากใหม่อีกครั้งอย่างไรเล่า” หยางเยี่ยนเซิงเอ่ยอย่างจนปัญญา นี่คือจุดที่เขาเป็นกังวล
ต้าอู่ส่ายหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นิสัยของเถ้าแก่เนี้ยของพวกเราค่อนข้างดื้อรั้น ย่อมมิอาจทำลายกฎเกณฑ์ของตนเองได้ แต่เถ้าแก่เนี้ยมีอีกหนึ่งความคิด ไม่ทราบว่าหยางต้าซ่านเหรินอยากฟังหรือไม่ขอรับ”
“โปรดเอ่ยมา”
“เถ้าแก่เนี้ยของพวกเราบอกว่า ในเมื่อเปลี่ยนมือไม่สำเร็จ เช่นนั้นก็ประมูลแผ่นป้ายไม้นี้เสียเลย ผู้ที่ให้ราคาสูงก็จะได้มันไป แบบนี้ก็ยุติธรรมกับทุกคน”
หยางเยี่ยนเซิงชะงัก คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ดูเหมือนว่าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก
บุรุษที่นั่งอยู่ข้างเขาเอ่ยปากพูดขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังแอบยิ้มเยาะ “ยุติธรรมสำหรับคนที่มีเงินเท่านั้นกระมัง”
ต้าอู่หันไปมองอีกฝ่ายปราดหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ลูกค้าท่านนี้เข้าใจผิดแล้ว ข้าน้อยยังพูดไม่จบ เถ้าแก่เนี้ยทราบดีว่าหยางต้าซ่านเหรินเป็นคนมีคุณธรรม ย่อมไม่ยินดีที่จะเอาเปรียบใครและไม่ทำเรื่องที่ต้องทำลายผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ดังนั้นเถ้าแก่เนี้ยของเราจึงเสนอว่า เงินที่หยางต้าซ่านเหรินได้มาจากการขายประมูลแผ่นป้ายไม้นี้ ให้แบ่งไปยังประชาชนที่ต้องการรักษาอย่างแท้จริงแต่ยากจนแร้นแค้นเหล่านั้น เช่นนี้ คนที่ได้รับการช่วยเหลือก็ไม่ได้มีแค่คนเดียวแล้ว”
“อีกอย่าง ต่อให้ท่านส่งมอบแผ่นป้ายไม้ให้ประชาชนยากจนเหล่านั้น ให้โอกาสพวกเขาได้เจอแพทย์ปีศาจครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีเงินทอง ก็คงไม่ได้รับการรักษาอยู่ดี ถึงอย่างไรหมอปีศาจก็เป็นคนมีนิสัยแปลกประหลาด ไม่เหมือนคนที่ให้คนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเหมือนหยางต้าซ่านเหริน แต่หยางต้าซ่านเหรินให้เงินพวกเขา พวกเขาไปหาหมอผู้เชี่ยวชาญภายในเมืองก็ได้รับการรักษาเหมือนกัน แบบนี้ ไม่เท่ากับทำสิ่งเดียวได้ผลประโยชน์หลายประการหรอกหรือ?”
อีกอย่าง ยังทำให้ชื่อเสียงของหยางต้าซ่านเหริน…โด่งดังยิ่งขึ้นด้วย
“ดี ๆๆ” หยางเยี่ยนเซิงพยักหน้าติดต่อกัน ทั้งยังปรบมืออย่างห้ามไม่อยู่ “ความคิดของเถ้าแก่เนี้ยจินช่างน่าทึ่ง ทำแบบนี้ ถึงจะมีความหมายที่แท้จริง วันนี้ คิดถูกแล้วที่ข้ามา”
ดูเหมือนว่าหยางเยี่ยนเซิงจะพึงพอใจกับวิธีเช่นนี้มาก “ดูเหมือนว่า ที่เถ้าแก่เนี้ยจินต้องการให้ข้ามาที่นี่ ความตั้งใจที่แท้จริงอยู่ตรงนี้สินะ เถ้าแก่เนี้ยจินก็เป็นคนดีมีคุณธรรมที่หาได้ยากยิ่งเช่นกัน ถึงได้คิดแผนที่ยอดเยี่ยมเพื่อประชาชนจำนวนมากเช่นนี้ออกมา เสี่ยวเอ้อ เจ้าไปบอกเถ้าแก่เนี้ยจิน ให้ทำตามวิธีที่นางว่าไว้เถอะ”
ต้าอู่พยักหน้ารัว ๆ ค้อมกายแล้วถอยออกนอกประตู
จนกระทั่งประตูห้องปิดลงอีกครั้ง นัยน์ตาของต้าอู่ก็เป็นประกายขึ้นมาเล็ก ๆ มุมปากปรากฏรอยยิ้ม ด้วยเล่ห์กลที่ไม่อาจบรรยายได้
หยางต้าซ่านเหรินเข้าใจผิดแล้ว ความตั้งใจจริงไม่ได้อยู่ตรงนี้ หลังจากนี้ต่างหากเล่าถึงจะใช้ประโยชน์จากท่านได้
อีกอย่าง ความคิดประหลาดแบบนี้ก็มิใช่สิ่งที่เถ้าแก่เนี้ยของพวกเขาคิด แต่เป็นหมอปีศาจที่ประกอบอาชีพเป็นหมอรักษาโรคช่วยเหลือมหาชนแต่วัน ๆ เล่นกลอุบายขี้เกียจจนไม่ใช่มนุษย์คนนั้นต่างหากเล่า
คนที่โชคร้ายอย่างแท้จริง เพิ่งจะลงสนามในตอนนี้เอง
ต้าอู่เดินยิ้มตาหยีไปหาจินหลิวหลีแล้ว จินหลิวหลียืนอยู่บนโต๊ะกลางห้องโถง นางมองพ่อบ้านหยางที่ยังคงถูกผู้คนห้อมล้อมเอาไว้ ก่อนจะกระแอมไอเสียงเบา เพิ่มระดับเสียงขึ้นเล็กน้อย กล่าวเสียงดังว่า “ทุกท่านเงียบเสียงลงหน่อย เงียบหน่อย”
เมื่อได้ยินเสียงของจินหลิวหลีอีกครั้ง ทุกคนก็ทยอยหยุดลง ก่อนจะมองไปที่นางอย่างมีหวัง
จินหลิวหลียิ้มตาหยี “ทุกท่าน เมื่อครู่หยางต้าซ่านเหรินได้ตัดสินใจแล้ว ว่าจะขายประมูลแผ่นป้ายไม้ที่อยู่ในมือของเขาเพื่อส่งมอบให้คนต่อไป ซึ่งสามารถพูดได้ว่า ใครจ่ายเงินมากกว่า โอกาสครั้งสุดท้ายนั้นก็จะตกเป็นของคนคนนั้น ใครให้ราคาสูงก็จะได้รับไป”
“อะไรนะ?” ทุกคนตกตะลึง ภายหลังก็เริ่มทยอยไม่พอใจขึ้นมา ภายในห้องโถงส่วนใหญ่เป็นประชาชนธรรมดา ไหนเลยจะมีเงินเหลือไปเข้าร่วมประมูล? แบบนั้นสู้แกล้งตายให้หยางต้าซ่านเหรินมอบแผ่นป้ายไม้ให้เขาไม่ดีกว่าหรือ
คิดไม่ถึงเลยว่าหยางต้าซ่านเหรินจะเป็นคนเห็นผลประโยชน์จนลืมคุณธรรมเช่นกัน
เหล่ามหาชนเริ่มส่งเสียงพูดคุยกันหึ่ง ๆ ในคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจต่อหยางเยี่ยนเซิง
จินหลิวหลียิ้มด้วยรอยยิ้มเย็นชา ก่อนพูดว่า “หยางต้าซ่านเหรินบอกไว้ว่า เงินที่ได้จากการประมูล จะแบ่งให้คนไข้ที่ต้องการจริง ๆ อย่างยุติธรรม”
“…” ฝูงชนเงียบเสียงลงทันใด อึดใจต่อมา จู่ ๆ ก็มีเสียงโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ทั้งยังซาบซึ้งต่อหยางต้าซ่านเหรินอย่างล้นหลาม
จินหลิวหลีกระโดดลงมาจากบนโต๊ะ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็มาเริ่มการประมูลด้วยราคาขั้นต่ำหนึ่งตำลึง”
พูดจบ เรื่องหลังจากนี้ก็มอบให้ต้าอู่จัดการทั้งหมด ส่วนตนเองเดินไปยังเรือนด้านหลัง
ตอนที่เดินมาถึงซุ้มประตู ลูกจ้างคนหนึ่งก็กระโดดลงมาจากชายคา กระซิบเสียงเบา “เมื่อครู่อวี๋เฟิงมายืนอยู่ที่ซุ้มประตูพักหนึ่ง แต่เพียงไม่นานก็ถูกอวี๋จั้วหลินเรียกกลับไปแล้วขอรับ”
จินหลิวหลีพยักหน้า มุมปากกระตุกยิ้มเยาะ นางสาวเท้าเข้าไปด้านในห้องที่อวี้ชิงลั่วอยู่อย่างไม่หยุด
“เรื่องเดินหน้าไปถึงไหนแล้ว?” อวี้ชิงลั่วยกน้ำชาขึ้นมา จิบเบา ๆ หนึ่งคำ ท่าทางดูเหมือนว่าจะอารมณ์ดีมาก
จินหลิวหลีใช้เท้าเกี่ยวเก้าอี้มานั่งตรงหน้านาง ยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ไม่ต้องห่วง ราบรื่นมาก ปลาใหญ่กำลังจะติดแหแล้ว”
“ปลาใหญ่?” เย่ซิวตู๋ที่ถูกปฏิบัติราวกับเป็นมนุษย์ล่องหนอยู่ข้าง ๆ หันกายมาเล็กน้อย เลิกคิ้วถาม “คนที่พวกเจ้าจะจัดการในวันนี้ เป็นใครกันแน่?”
อวี้ชิงลั่วหันกลับมาพร้อมสีหน้าโหดเหี้ยม แค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง “ท่านนอนไปเถอะ”
…………………………
สารจากผู้แปล
ถึงขั้นประมูลป้ายกันแล้ว ใครจะสู้จนเป็นผู้ชนะประมูลกันนะ ความคิดชิงลั่วคือร้ายกาจไม่เบา
ไหหม่า (海馬)