อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 456 มีลูกชายแล้วเก่งมากนักรึ
ตอนที่ 456 มีลูกชายแล้วเก่งมากนักรึ
ตอนที่ 456 มีลูกชายแล้วเก่งมากนักรึ
โม่เสียนถึงกับสำลักเพราะคำพูดของอีกฝ่าย หนานหนาน คำพูดเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังต่างหากคือจุดสำคัญ เจ้ากลับฟังแค่ครึ่งเดียวงั้นรึ?
ฉีหานเว่ยแอบก่ายหน้าผากอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน อันที่จริงคราวก่อนหลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องเล่าราวความรักของเย่ซิวตู๋และอวี้ชิงลั่ว เขาก็พอจะเข้าใจนิสัยของเด็กคนนี้แล้ว
ฉีหานเว่ยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปมองเจ้าสิบสามที่อยู่ข้าง ๆ
ฉีหานเทียนถึงกับหน้าแดงก่ำเพราะคำพูดประโยคเดียวของหนานหนาน หากให้อีกฝ่ายแสดงความเป็นมิตรกับหนานหนานในเวลานี้ เช่นนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆๆ
แต่เขาก็เข้าใจดีว่าจะปล่อยให้ทะเลาะต่อไปไม่ได้ เมื่อนึกถึงคำพูดเมื่อครู่ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดแก้ตัวให้ตัวเอง
“ข้า…ตอนนั้นข้าไม่รู้สถานะของเป่าเอ๋อร์ ข้าคิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี นั่นเป็นเรื่องเข้าใจผิด”
“เหอะ เข้าใจผิดก็เลยทำร้ายร่างกายคนอื่นได้งั้นรึ? สถานะของท่านน้าเป่าเอ๋อร์ของข้าน่าสงสารมากเพียงใดเจ้ารู้หรือไม่? เขาสุขภาพไม่ดีมาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะขุนให้อ้วนขึ้น กลับถูกเจ้าทุบตีเช่นนี้ทำให้เขาอ่อนแออีกครั้ง” หนานหนานเดินอ้อมเขา โดยไม่ได้สนใจถึงสภาพน่าลำบากใจของตนเอง สายตาเป็นประกายขณะจับจ้องไปที่ฉีหานเทียน
ฉีหานเทียนถูกคำพูดของหนานหนานทำให้รู้สึกอับอายมากขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าหนานหนานพูดไว้ไม่ผิดเลย เขาถึงกับเม้มปากพูดด้วยท่าทางขาดความมั่นใจ “คนเราก็ต้องทำพลาดกันได้ อีกอย่าง ข้าก็ขอโทษเป่าเอ๋อร์ไปแล้ว วันนี้ข้าอยู่กับเป่าเอ๋อร์มาตั้งครึ่งค่อนวัน พวกเรากลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว เรื่องคราวก่อนเป่าเอ๋อร์บอกว่ามันผ่านไปแล้ว”
ความหมายก็คือ เป่าเอ๋อร์ไม่คิดเล็กคิดน้อยอีกต่อไป หนานหนานยังคิดจะเข้ามายุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่นอีกรึ?
หนานหนานไม่เข้าใจและไม่คิดจะเข้าใจความหมายที่อยู่ในคำพูดของฉีหานเทียน ถึงอย่างไรเขาก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับฉีหานเทียนผู้เย่อหยิ่งคนนี้
“แล้วอย่างไร? ทำร้ายคนอื่นไปแล้ว คำขอโทษจะมีประโยชน์รึ? ขอโทษแล้วจะทำให้ความเจ็บเหล่านั้นของท่านน้าเป่าเอ๋อร์ย้ายไปอยู่บนตัวเจ้าหรืออย่างไรกัน? ข้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ข้าไม่ให้อภัยเจ้า”
ฉีหานเทียนโกรธแทบแย่แล้ว เขาไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายให้อภัยสักหน่อย คนคนนี้คงป่วยกระมัง
โม่เสียนถึงกับก่ายหน้าผาก เหตุใดถึงได้ทะเลาะกันอีกแล้ว เขารีบดึงแขนเสื้อของหนานหนาน กระซิบเตือนอีกครั้งว่า “หนานหนาน ลุงเหวินเทียนของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว องค์ชายสิบสามช่วยเขาไว้ ก็มีความดีความชอบเช่นกันนะ”
ครั้งนี้หนานหนานได้ยินชัดเจนแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกายแวววาว ท่านลุงเหวินเทียนไม่เป็นอะไรแล้ว?
เอ๋ เมื่อครู่ท่านลุงโม่พูดว่าองค์ชายสิบสามที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่วยเขาไว้?
หนานหนานยกมือขึ้นมาลูบคางราวกับลำบากใจอย่างมาก ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพยักหน้า พูดอย่างใจกว้างว่า “อืม เจ้าช่วยลุงเหวินเทียนของข้าไว้ เช่นนั้นเรื่องของท่านน้าเป่าเอ๋อร์ก็ถือเป็นอันเสมอกัน ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าแล้ว”
ฉีหานเทียนมุมปากกระตุกวูบ พูดราวกับเกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างนั้นแหละ จะคิดเล็กคิดน้อยหรือไม่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า ช่างไร้ยางอายจริง ๆ
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะแต่งงานกับท่านแม่ของข้าได้”
ฉีหานเทียนร่างแข็งทื่อ ถลึงตามองด้วยความโกรธ “เพราะเหตุใด?”
“เพราะเหตุใดอะไรของเจ้า?” หนานหนานมองอีกฝ่ายราวกับมองคนโง่เขลา กะพริบตาพลางตอบว่า “ท่านแม่ของข้ามีท่านพ่อของข้าอยู่แล้ว เจ้าไม่รู้เรื่องราวสะเทือนฟ้าสะท้านแผ่นดินของท่านพ่อและท่านแม่ของข้ารึ? ข้าว่าเจ้าคงไม่เคยได้อ่านมาก่อนแน่ ๆ ข้าจะบอกอะไรให้ ข้ามีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวความรักสะเทือนฟ้าสะท้านแผ่นดินระหว่างพวกเขาทั้งสอง ข้าขายให้เจ้าถูกหน่อยก็แล้วกัน หนึ่งตำลึง ตกลงหรือไม่?”
โม่เสียนแอบถอนหายใจ หนานหนาน ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำธุรกิจสักหน่อย
ฉีหานเว่ยเกือบหลุดขำออกมา เขาเดือดร้อนเรื่องเงินมากเลยรึ? เขาได้ยินมาว่าหนานหนานนำหนังสือไปขายในโรงเตี๊ยมผิงอัน ดูเหมือนว่าเล่มละหนึ่งร้อยอีแปะเท่านั้น เด็กคนนี้ อายุยังน้อยแต่กลับมีหัวการค้ายิ่งนัก หลังจากรู้ถึงสถานะของเจ้าสิบสามก็เริ่มเพิ่มราคาแบบค้ากำไรเกินควรแล้ว
“ข้าไม่อ่าน” ฉีหานเทียนกระฟัดกระเฟียดใส่ “ไม่ว่าระหว่างแม่และพ่อของเจ้าจะมีเรื่องราวอย่างไรต่อกัน แต่นั่นก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้แม่นางชิงยังไม่ได้แต่งงานกับท่านอ๋องซิวสักหน่อย ตัวแปรยังมีอีกมาก”
“มีตัวแปรอะไรกัน? ท่านพ่อของข้าออกจะหล่อเหลามีความสามารถไม่ยึดติดกับทางโลก ท่านแม่ต้องแต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน” หนานหนานหันไปมองโม่เสียนปราดหนึ่งพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น ดูจากความหมายของหนานหนานคงกำลังบอกเขาว่า ‘เมื่อครู่ข้าชื่นชมท่านพ่อแล้ว กลับไปท่านต้องนำเรื่องทั้งหมดนี้ไปรายงานกับท่านพ่อให้สมจริงหรืออาจจะเกินจริงสักหน่อยเพื่อรับรางวัลจากท่านพ่อนะ เข้าใจหรือไม่’
โม่เสียนอยากไปจากที่นี่จริง ๆ เด็กสองคนนี้สู้กันแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าผลลัพธ์จะออกมาเมื่อใด
ปัญหาก็คือ เขาอยากโน้มน้าวใจ แต่หนานหนานไม่ยอม แม้แต่รัชทายาทฉีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ทำแค่เพียงยืนดูเรื่องสนุก โดยไม่สนใจว่าเด็กสองคนนี้จะเกิดความบาดหมางจนวุ่นวายมากเพียงใด
ก็ได้ แม้แต่รัชทายาทฉียังยืนชมอยู่ข้าง ๆ เช่นนั้นเขา…ก็ยืนมองสถานการณ์แล้วเตรียมรับมือก็แล้วกัน ขอแค่ไม่ลงไม้ลงมือใส่กัน และไม่พูดเรื่องที่ออกนอกลู่นอกทางมากเกินไป ปล่อยพวกเขาไปเถอะ
โม่เสียนกำลังคิดหาวิธีจัดการ ฉีหานเทียนที่อยู่ฝั่งนั้นก็แค่นเสียงเย็นออกมาแล้ว “หล่อเหลามีความสามารถไม่ยึดติดกับทางโลก? สิ่งเหล่านี้เป็นแค่การแสดงออกอย่างผิวเผินเท่านั้น พ่อของเจ้าอายุมากแล้ว ข้าอายุน้อยกว่าเขา หลังจากนี้รอให้ข้าเติบโตจนหล่อเหลามีพรสวรรค์โดดเด่นเมื่อใด พ่อของเจ้าก็แก่งั่กแล้ว บนใบหน้าก็มีแต่รอยเหี่ยวย่น แม่นางชิงไม่มีทางชายตามองเขา”
หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ พลางครุ่นคิด เขารู้สึกได้ว่าก็มีเหตุผลอยู่เหมือนกัน รูปลักษณ์ภายนอก ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพันโดยไม่เปลี่ยนแปลงได้
ท่านแม่เองก็เป็นพวกสมาคมคนรักหน้าตาเสียด้วย เรื่องรักของใหม่เกลียดของเก่าและเฉดหัวส่งเมื่อหมดประโยชน์เช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้จริง ๆ ที่นางจะทำ
แต่…
“แต่ท่านพ่อมีลูกของท่านแม่ของข้าแล้วนะ”
โม่เสียนและฉีหานเว่ยถึงกับชะงักไปพร้อมกัน คำพูดนี้…เหตุใดฟังแล้วกลับทะแม่ง ๆ เช่นนี้? ท่านอ๋องซิวมีลูกของ…แม่นางชิงแล้ว?
ฉีหานเทียนชะงักงัน จริงด้วย ดูเหมือนว่านี่คือปัญหาที่จริงจังมาก เขาเม้มปากครุ่นคิดอย่างหนัก “แล้วอย่างไร? แม่นางชิง แม่นางชิงต้องการชีวิตที่ดี ข้ามอบให้นางได้ ข้าเป็นถึงองค์ชายสิบสามของอาณาจักรหลิวอวิ๋นเชียวนะ”
เรื่องนี้มีอะไรให้น่าอวด ท่านพ่อของเขาก็เป็นท่านอ๋องเหมือนกัน หนานหนานแค่นเสียงเย็นหนึ่งเสียง “แต่…ท่านพ่อของข้ามีลูกชายฉลาดและมีชีวิตชีวา”
“แต่พ่อของเจ้ามิอาจมอบความรู้สึกปลอดภัยให้แม่นางชิงได้ ข้างกายของพ่อเจ้ามีศัตรูตั้งเยอะแยะ พวกเขาคิดจะเล่นงานพ่อของเจ้า ย่อมต้องดึงแม่นางชิงให้เดือดร้อนไปด้วย”
หนานหนานทำแก้มป่องแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็ฟังไม่เข้าใจอยู่ดี “แต่…ท่านพ่อของข้ามีลูกชายที่ยอดเยี่ยมมาก”
ฉีหานเทียนโกรธขึ้ง “แม่นางชิงคือหมอปีศาจ เป็นจอมยุทธ์หญิงแห่งยุทธภพ นางได้รับอิสระมาโดยตลอด พ่อของเจ้ามิอาจให้นางได้ แต่ข้ามอบให้นางได้”
ฉีหานเว่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับขมวดคิ้ว เจ้าสิบสาม…เจ้าแน่ใจรึว่าเจ้าจะมอบชีวิตเช่นนี้ให้แม่นางชิงได้?
หนานหนานพูดด้วยความโกรธแค้น “ข้าบอกไปแล้วอย่างไรเล่า ท่านพ่อของข้ามีลูกชายแล้ว”
“เจ้า…เจ้า…” ฉีหานเทียนขบฟันกรอด ชี้นิ้วไปที่หนานหนานอย่างโกรธเคือง “เจ้าพูดเป็นแค่ประโยคนี้รึ?”
“แต่สิ่งที่ข้าพูดคือเรื่องจริง” หนานหนานออกจะไร้เดียงสา เจ้าบ้านี่ไม่ยอมให้เขาพูดความจริงกระนั้นรึ?
ฉีหานเทียนสีหน้าหมองหม่นลง กระทืบเท้าแรง ๆ พร้อมกับหมุนกายวิ่งออกไป “มีลูกชายแล้วเก่งมากนักรึ มีลูกชายแล้วเก่งมากนักรึ”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ท่านลุงโม่ปวดหัวแล้วค่ะ เด็กสองคนนี้ศีลเสมอกันจริงๆ ทะเลาะกันเมื่อไหร่บรรลัยเมื่อนั้น
ทำไมไม่บอกไปล่ะหนานหนานว่าหากท่านอ๋องซิวแก่แล้ว แม่นางชิงก็จะกลายเป็นหญิงแก่ด้วยเหมือนกัน องค์ชายสิบสามอยากแต่งงานกับหญิงแก่คราวป้าเหรอ
ไหหม่า(海馬)