อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 487 ใครเป็นคนลงนาม
ตอนที่ 487 ใครเป็นคนลงนาม?
ตอนที่ 487 ใครเป็นคนลงนาม?
มีคนมาเยอะมาก? ไม่เพียงแค่องค์ชายสาม แม้แต่หลีจื่อฟานและอวี้ชิงลั่วก็ใจเต้นตึกตักอย่างห้ามไม่อยู่เช่นกัน
อย่าบอกนะว่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังที่คอยสั่งเฉินจีซินผู้นั้น?
คิดได้เช่นนี้ อวี้ชิงลั่วก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้นอยากที่จะลอง
ถึงกระนั้น จินหลิวหลีกลับเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับส่งสายตาให้นางวางตัวให้สงบ อวี้ชิงลั่วถึงกับขมวดคิ้ว หรือหลิวหลีรู้ว่าคนที่อยู่ด้านนอกเป็นใคร?
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็คงไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ในใจแล้ว
อวี้ชิงลั่วแอบรู้สึกผิดหวัง ในเวลานี้เอง ด้านนอกก็เกิดเสียงดังขึ้น เพียงไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าและเสียงกระทบของกระบี่ดาบและหยกแขวน
องค์ชายสามยังไม่ทันได้ถามเด็กรับใช้คนนั้นให้ชัดเจน ก็พบว่าเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มใหญ่เดินเข้ามายืนหน้าประตูห้องครัวแล้ว การแสดงออกทางสีหน้าดูเย็นชา ทำให้คนรับใช้ภายในจวนอวี้ตกใจจนใบหน้าขาวโพลน
ทันทีที่องค์ชายสามเห็นเครื่องแต่งกายที่อยู่บนตัวของเจ้าหน้าที่ทหาร สีหน้าถึงกับอึมครึมลงทันใด
“พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
เสียงขององค์ชายสามเพิ่งสิ้นสุดลง พวกเขาก็พบว่ามีบุรุษวัยกลางคนสวมใส่ชุดของผู้ตรวจการเมืองหลวงเดินเข้ามาด้านใน
ตอนที่เห็นฉากภายในห้องครัว บุรุษวัยกลางคนถึงกับแอบชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มทำความเคารพอย่างเนิบช้า
“กระหม่อมผู้ตรวจการหลี่เจ๋อคารวะท่านอ๋องสาม ท่านเสนาบดีและองค์หญิงเทียนฝู”
หลี่เจ๋อ?
อวี้ชิงลั่วนึกออกแล้ว เป็นเพราะเรื่องของอาฝูทำให้เย่โฉวถูกฮ่องเต้ลดตำแหน่งต่อหน้ารัชทายาทของอาณาจักรหลิวอวิ๋น ได้ยินเย่ซิวตู๋บอกว่า ผู้ตรวจการที่ขึ้นมารับตำแหน่งคนใหม่เป็นคนแซ่หลี่จริง ๆ
หรือว่าจะเป็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้นี้?
คนคนนี้ดูเหมือนว่า…การเคลื่อนไหวดูเฉื่อยชาและแอบดูเลื่อนลอย คล้ายกับ…จิ้งจอกเฒ่าปลิ้นปล้อนตัวหนึ่ง
เห็นเพียงครั้งแรก อวี้ชิงลั่วก็ตัดสินหลี่เจ๋อผู้นี้ได้แล้ว
“หลี่เจ๋อ เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” องค์ชายสามรู้สึกไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะเช่นนี้ ภายในใจก็มั่นใจได้แล้วว่ามีคนวางแผนคิดจะใส่ร้ายเขา หลักฐานอยู่ตรงหน้า อีกเพียงแค่ก้าวเดียวก็ได้เห็นแล้ว
ทว่าหลี่เจ๋อผู้นี้กลับบุกเข้ามาที่นี่ในเวลานี้ เขาคงไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดหรอกกระมัง หรือว่า…เขากับสองแม่ลูกเฉินจีซินจะอยู่ฝั่งเดียวกัน?
หลี่เจ๋อค้อมกายเล็กน้อย แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะดูเนิบนาบ ทว่ากลับดูพิถีพิถันและเคารพนอบน้อม
“กระหม่อมในฐานะผู้ตรวจการ นำคนมาย่อมมาเพราะมีธุระ”
ครั้นกล่าวจบก็ยกมือโบกวูบหนึ่ง สั่งเจ้าหน้าที่ทหารสามสี่นายที่เดินเข้ามาจากด้านนอก “เปิดตู้เก็บจานนั่น”
คนที่อยู่ที่นี่ถึงกับประหลาดใจอย่างห้ามไม่อยู่ หลี่เจ๋อเพิ่งมาถึง เหตุใดถึงรู้ว่าด้านหลังตู้เก็บจานตู้นั้นมีของซ่อนอยู่?
องค์ชายสามหน้าถอดสีอย่างหนัก ยิ่งมั่นใจได้ว่าหลี่เจ๋อมาที่นี่เพื่อทำลายหลักฐาน จึงก้าวเท้าไปสองก้าวเพื่อขวางด้านหน้าตู้เก็บจานตู้นั้น กล่าวเสียงเย็นว่า “หลี่เจ๋อ นี่คือเรือนของใต้เท้าอวี้ อย่างน้อย ๆ ใต้เท้าอวี้ก็เป็นขุนนางในราชสำนัก เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้ทำตัวกำเริบเสิบสานอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ เจ้ามาทำคดีมีพระราชโองการของเสด็จพ่อหรือไม่?”
หลี่เจ๋อเลิกคิ้วสูง ยังอยู่ในท่าทางใจดี “ท่านอ๋องสาม กระหม่อมได้รับรายงานมาจากผู้อื่น แจ้งว่าฮูหยินอวี้และคุณหนูรองของตระกูลอวี้ร่วมมือกับเขา วางแผนคิดจะทำร้ายองค์หญิงเทียนฝูแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ และหลักฐานก็อยู่ด้านหลังตู้เก็บจานภายในห้องครัว เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องด่วน กระหม่อมในฐานะผู้ตรวจการเมืองหลวง มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของอาณาจักรเฟิงชาง จะปล่อยให้องค์หญิงเทียนฝูได้รับความอัปยศอดสูภายใต้พระบาทของโอรสแห่งสวรรค์ได้เยี่ยงไร หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไป จะเป็นการทำลายเกียรติของอาณาจักรเฟิงชาง รวมถึงทำลายความสามัคคีกลมกลืนระหว่างอาณาจักรเฟิงชางและอาณาจักรเทียนอวี่ด้วย เมื่อชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว กระหม่อมจึงได้ตัดสินใจทำเช่นนี้ ปกป้องความปลอดภัยขององค์หญิงก่อน หลังจากกลับไปย่อมไปรับผิดกับฝ่าบาทด้วยตนเอง กระหม่อมเชื่อว่า ฝ่าบาทย่อมประทานอภัยกับแผนรับมือชั่วคราวของกระหม่อม”
องค์ชายสามถึงกับชะงัก หลี่เจ๋อมาที่นี่เพื่อจัดการกับสองแม่ลูกเฉินจีซิน?
หลี่เจ๋อเห็นท่าทางชะงักงันของอีกฝ่าย จึงโบกมือวูบหนึ่งสั่งให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดันตู้เก็บจาน
จนกระทั่งเสียงของหนักดังขึ้น องค์ชายสามจึงได้สติกลับคืนมา คิดจะห้ามก็สายเกินไปเสียแล้ว ทว่าเขาก็ยังป้องกันจากหลี่เจ๋อด้วยการไปยืนอยู่ด้านหน้า รอจนกระทั่งหลังจากเจ้าหน้าที่ทหารเหล่านั้นดันกำแพงหนาที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอีกภายใต้การชี้นำของชิวหลาน เพื่อจะได้ก้าวเท้าเข้าไปด้านในห้องลับที่อยู่หลังตู้เก็บจานเป็นคนแรก
บัดนี้เฉินจีซินและอวี้ชิงโหรวถึงกับหน้าขาวซีดไปหมดแล้ว สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องมองไปทางชิวหลานอย่างดุดัน
ชิวหลานตกใจ เมื่อเห็นว่าคนอื่น ๆ เข้าไปกันหมดแล้ว จึงเดินตามหายเข้าไปด้านในด้วย
ภายในห้องลับมีขนาดไม่ใหญ่ ของก็มีไม่มาก กวาดตามองเพียงครั้งเดียวได้อย่างรวดเร็ว ที่มุมห้องมีกล่องสองสามใบวางอยู่ ด้านนอกกล่องมีสร้อยไข่มุกไม่กี่เส้นขาดกระจัดกระจายอยู่ ดูเหมือนว่าราคาจะไม่ใช่น้อย ๆ เลย
อวี้ชิงลั่ว หลี่จื่อฟานและองค์ชายสามถูกขวางไว้ด้านนอกสุด เมื่อหลี่เจ๋อที่แสดงท่าทางเอ้อระเหยมาโดยตลอดเห็นกล่องเหล่านั้น นัยน์ตาก็พลันเกิดแสงสีทองสว่างวาบ
แม้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อวี้ชิงลั่วก็มองเห็นแล้ว
หลี่เจ๋อผู้นี้ ดูเหมือนกับว่าจะมีแผนเช่นกัน ภายในใจคงมีเป้าหมายอื่นกระมัง
องค์ชายสามถึงกับหงุดหงิด ตะโกนเรียกขณะยืนอยู่ด้านนอกว่า “หลี่เจ๋อ เจ้าจะทำอะไร? ให้เราเข้าไปด้านใน”
“ท่านอ๋อง กระหม่อมกำลังทำคดี โปรดท่านอ๋องยืนรออยู่ข้าง ๆ ด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ครั้นกล่าวจบ หลี่เจ๋อก็ยื่นมือไปเปิดกล่องที่วางอยู่ตรงหน้า
เขาหันหลังให้กับทุกคน จึงไม่มีใครมองเห็นว่าเขากำลังทำอะไรกับกล่องที่วางอยู่ตรงหน้า
จนกระทั่ง…เขาหมุนกายกลับมาพร้อมกับจดหมายสองสามฉบับในมือ
“หลี่เจ๋อ นั่นคืออะไร?” องค์ชายสามเบิกตากว้าง
หลี่เจ๋อดึงหนึ่งในจดหมายเหล่านั้นออกมาหนึ่งฉบับ สายตากวาดมองตัวอักษรที่อยู่บนนั้น ผ่านไปครู่หนึ่งจึงหรี่ตาลงพลางกล่าว “นี่ไม่คล้ายกับจดหมาย แต่ดูเหมือนจะเป็นข้อตกลง…ด้านบนนี้เขียนไว้ว่า หากวันนี้ฮูหยินอวี้และคุณหนูรองตระกูลอวี้ทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเทียนฝูของอาณาจักรเทียนอวี่ได้ เช่นนั้นก็จะทำให้ฮูหยินอวี้และคุณหนูรองของตระกูลอวี้ได้ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล รวมถึงรักษาตำแหน่งฮูหยินของเสนาบดีฝั่งขวาไว้ให้คุณหนูรองตระกูลอวี้ด้วย”
หลี่เจ๋อพูดมาจนถึงตรงนี้ ก็ทอดสายตามองหลีจื่อฟานด้วยสายตาแอบแฝงความหมายอันลึกซึ้ง
อีกฝ่ายสีหน้าเคร่งขรึม การแสดงออกทางสีหน้าไม่ได้มีความลังเล ดูเหมือนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคงใหญ่โตน่าดู ถึงได้กล้ารับปากเช่นนี้
หลี่เจ๋อหัวเราะหนึ่งเสียง กล่าวต่อไปว่า “ฮูหยินอวี้และคุณหนูอวี้มีความกล้าไม่น้อยเลยจริง ๆ แม้แต่องค์หญิงเทียนฝูยังกล้าทำร้ายได้ลง แต่องค์หญิงคือว่าที่พระชายาของท่านอ๋องซิว การทำร้ายเช่นนี้ส่งผลเกี่ยวเนื่องเป็นวงกว้าง ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวโยงไปถึงใคร ใครกันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของท่านอ๋องซิว?”
ระหว่างที่พูด เขาก็มองมาที่องค์ชายสามด้วยสายตาแฝงความหมายอันลึกซึ้ง
องค์ชายสามถึงกับตกใจโดยพลัน เขาได้สติอย่างสมบูรณ์แล้ว เรื่องนี้มีคนคิดจะใช้ประโยชน์จากสองแม่ลูกเฉินจีซิน ประการแรกเพื่อใส่ร้ายอวี้ชิงลั่ว ประการที่สองเพื่อทำให้เขาและเย่ซิวตู๋กลายเป็นศัตรู หันมาห้ำหั่นกันเอง
ความคิดชั่วร้ายนัก คิดไม่ถึงเลยว่าคนคนนี้คิดยิงปืนนัดเดียวให้ได้นกสองตัว
บัดซบ เขาตกหลุมพรางเข้าแล้ว
อวี้ชิงลั่วรู้สึกได้ว่าเรื่องราวเริ่มน่าสนใจแล้ว หลี่เจ๋อผู้นี้ดูท่าทางเหมือนเป็นคนเกียจคร้าน ทว่าทุกคำพูดของเขากลับตรงประเด็น ดูเหมือนว่าเขากำลังช่วยเหลือนางด้วยท่าทางกึ่งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ เพราะเหตุใด? เขาเป็นใครกันแน่?
“ใต้เท้าหลี่ ใครเป็นคนลงนามในข้อตกลงนี้?” หลี่จื่อฟานเอ่ยถามเสียงเรียบ
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
มีตัวละครใหม่มาอีกแล้ว แต่ว่าอยู่ฝั่งไหนกันแน่เนี่ย ใครเป็นคนวางหมากตานี้กันนะ
ไหหม่า(海馬)