อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 490 ยังมีคนอยู่ข้างในนั้น
ตอนที่ 490 ยังมีคนอยู่ข้างในนั้น
ตอนที่ 490 ยังมีคนอยู่ข้างในนั้น
อวี้ชิงลั่วถึงกับตกตะลึง นางรีบผลักอวี้เป่าเอ๋อร์ที่กำลังนั่งตื่นตระหนกอยู่ตรงขอบเตียงออกไป แล้วรีบวางนิ้วลงบนข้อมือเพื่อจับชีพจร ดวงตาหรี่ลง
ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็วางถุงอุปกรณ์ผ่าตัดบนร่างกายของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะใช้เข็มเงินบาง ๆ ฝังลงบนจุดต่าง ๆ ตามร่างกายของเขา และออกแรงบีบมือของเขาอย่างแรง
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วฉับพลัน อวี้เป่าเอ๋อร์ยืนตะลึงงันอยู่มุมหนึ่ง ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
หลังจากนั้นไม่นาน อวี้ชิงลั่วก็ถอนหายใจ ก่อนจะปล่อยมือแล้วเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก
“พี่สาว ท่านพ่อเขา…”
“ไม่เป็นอะไรแล้ว เป็นเพราะเขาตื่นเต้นมากเกินไปชั่วขณะ จึงเป็นลมหมดสติไป” อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขาแล้วเก็บอุปกรณ์
จากนั้นอวี้เป่าเอ๋อร์ก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง ใบหน้าที่ซีดเผือดของเขาก็ค่อย ๆ กลับมามีสีเลือดดังเดิม
ห้องเงียบสงัดอีกครั้ง อวี้ชิงลั่วไม่ได้เอ่ยคำใดราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ นางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ ขณะมองถ้วยตรงหน้านาง
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีใครบางคนดึงชายเสื้อของนาง เมื่อนางก้มมองก็เห็นอวี้เป่าเอ๋อร์กำลังเงยหน้าขึ้นมองนางอยู่
“พี่สาว ข้ารู้ว่าสองแม่ลูกเฉินจีซินได้ทำชั่วมากเกินไป ซึ่งข้าไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ถึงแม้อวี้ชิงโหรวจะต้องถูกจัดการ แต่ไม่ต้องบอกท่านพ่อในตอนนี้ได้หรือไม่? สถานะของท่านพ่อในตอนนี้…คงอยู่ได้อีกไม่นาน”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ ก่อนจะดึงตัวอวี้เป่าเอ๋อร์มาตรงหน้า และมองเข้าไปในดวงตาของเขา “เป่าเอ๋อร์ ตอนนี้ชะตากรรมของเฉินจีซินและลูกสาวไม่ได้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่สาวเจ้า เข้าใจหรือไม่? สิ่งที่พวกนางทำในวันนี้นั้น เห็นได้ชัดว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ถึงพี่สาวของเจ้าจะปล่อยนางไป แต่คนผู้นั้น…ย่อมไม่ยอมปล่อย ข้าจึงไม่อาจสัญญาในเรื่องนี้กับพ่อของเจ้าได้ ส่วนเรื่องเก็บเป็นความลับ เอ่อ เป่าเอ๋อร์ มันไม่อาจปกปิดได้หรอก”
จวนอวี้แห่งนี้มีผู้คนมากมาย ตราบใดที่อวี้เจี้ยนต๋าต้องการสอบถาม ในไม่ช้าเขาก็จะรู้
“เป่าเอ๋อร์ สิ่งที่เจ้าต้องทำคือหาวิธีคุยกับเขาดี ๆ และบอกเขาไปตามตรง ว่าเราไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้ เข้าใจหรือไม่?”
อวี้เป่าเอ๋อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเม้มปากพยักหน้าช้า ๆ
“ส่วนเรื่องอาการป่วยของเขา… พี่จะคิดหาวิธีรักษาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” ที่นางทำไปก็เพราะเห็นแก่เป่าเอ๋อร์
ดวงตาของอวี้เป่าเอ๋อร์เป็นประกาย ก่อนจะจับมืออวี้ชิงลั่วไว้แน่น และพยักหน้าหลายครั้ง
“เด็กโง่” อวี้ชิงลั่วลูบศีรษะเขา และเมื่อเห็นว่าข้างนอกเริ่มมืดแล้ว นางจึงเก็บข้าวของเตรียมจะออกจากที่นี่ “เป่าเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อาจจากจวนอวี้ไปได้ ตอนนี้เฉินจีซินและลูกสาวของนางไม่อยู่ที่นี่แล้ว และพ่อของเจ้าก็เป็นเช่นนี้ด้วย ตอนนี้เจ้าจึงเป็นเจ้านายเพียงคนเดียวของจวนอวี้ ดังนั้นอยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วข้าจะไปเรียกเยว่ซินให้มาดูแลเจ้า ตกลงหรือไม่?”
“อืม ข้าก็กำลังจะคุยเรื่องนี้กับท่านเช่นกัน” ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่อาจเลิกเป็นห่วงอวี้เจี้ยนต๋าได้ ตราบใดที่จวนอวี้ไม่มีแม่ลูกคู่นั้นอยู่ก็จะไม่มีใครกล้ารังแกเขา
อวี้ชิงลั่วยกยิ้มอีกครั้ง แล้วมอบขวดยาให้เขา พร้อมกับสอนวิธีดูแลอวี้เจี้ยนต๋า ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป
หลีจื่อฟานกำลังนั่งอยู่บนบันไดหิน ไม่รู้ว่าจะออกจากจวนอวี้เมื่อใด ขณะเดียวกันจินหลิวหลีก็เดินเข้าไปหานางด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
อวี้ชิงลั่วชำเลืองมองนาง แล้วพ่นลมอย่างเย็นชา “เรียกพ่อบ้านของจวนอวี้มาให้ข้า”
“เอ๊ะ อวี้ชิงลั่ว เจ้าคิดว่าข้าเป็นหญิงรับใช้ของเจ้าหรือ?” กิริยาท่าทางของจินหลิวหลีเปลี่ยนไปทันที และจ้องมองนางอย่างเกรี้ยวกราด
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น แล้วกวาดสายตามองนางหัวจรดเท้าอยู่ครู่หนึ่ง
จินหลิวหลีสวมชุดหญิงรับใช้ ใบหน้าของนางเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเขียวและกลายเป็นดำคล้ำ ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็หันกลับมาพูดอย่างหงุดหงิดว่า “รอข้าก่อน แล้วข้าจะให้เจ้าตอบแทนข้า คิดดูสิว่าจะมีสตรีคนใดในโลกที่ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ต้องทำงานหนักเหมือนข้าบ้าง อวี้ชิงลั่ว ความสุขอยู่รอบกายเจ้าแต่กลับไม่เห็นค่าจริง ๆ เจ้ากดขี่ข่มเหงข้าอย่างหนัก”
อวี้ชิงลั่วอุดหู ดูเหมือนทุกวันนี้จินหลิวหลีจะจู้จี้มาก ไม่รู้ว่านางเป็นวันนั้นของเดือนหรือเปล่า จุ๊ๆ นางอารมณ์ไม่ดีเลยจริง ๆ
พ่อบ้านถูกเรียกเข้ามาอย่างรวดเร็ว อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง พ่อบ้านรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นนางจนอดตัวสั่นสะท้านไม่ได้
ดวงตาของคุณหนูใหญ่มีพลังมากถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เขาใช้ชีวิตมาเกือบทั้งชีวิต แต่ก็ไม่อาจทนสายตาเช่นนี้ได้
“พ่อบ้านเหอ เป่าเอ๋อร์จะอยู่ที่จวนอวี้สักพักหนึ่ง ตอนนี้ความคิดทั้งหมดของเขาพะวงอยู่กับใต้เท้าอวี้ จึงไม่มีเวลาดูแลกิจการในจวน เจ้าเป็นพ่อบ้านของจวนแห่งนี้ ต้องคอยดูแลคนที่เข้าออกจวนแห่งนี้ให้ดี”
พ่อบ้านเหอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบรับคำทันที
“นอกจากนี้ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใครมาก่อน แต่ข้าคิดว่าเจ้าอายุปูนนี้แล้วจึงน่าจะเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างได้ชัดเจน เจ้านายของจวนอวี้คนนี้ยังคงมีนามสกุลอวี้ และผู้ตรวจการเมืองหลวงก็พาตัวฮูหยินกับคุณหนูรองไปแล้ว จะถูกปล่อยตัวหรือไม่นั้นไม่มีใครรู้ ดังนั้นไม่ต้องไปใส่ใจพวกนาง ดูแลใต้เท้าอวี้และเป่าเอ๋อร์ให้ดี หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งสอง ตำหนักอ๋องซิวจะไม่มีทางปล่อยไปแน่”
พ่อบ้านเหอตกใจมาก เขาเป็นคนมีเหตุผล เขารู้ว่าตอนนี้คุณหนูใหญ่มีอำนาจแล้ว ส่วนฮูหยินและคุณหนูรองอาจไม่มีโอกาสพลิกชะตากลับมาได้อีก
เมื่อมองไปที่สายตาเฉียบคมของอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง พ่อบ้านเหอก็ไม่กล้าคิดอะไรอีกต่อไปและรีบพยักหน้า
อวี้ชิงลั่วมอบหมายสิ่งที่เขาต้องทำอีกเล็กน้อย แล้วปล่อยให้เขาเดินจากไป
เมื่อมองดูแผ่นหลังของเขาที่เดินไปไกลแล้ว นางก็นึกถึงท่านลุงเสียงที่อวี้เจี้ยนต๋าไว้วางใจ
หลังจากคิดดูแล้ว นางก็ขอให้จินหลิวหลีไปหาท่านลุงเสียงเพื่ออธิบายอีกครั้ง
จินหลิวหลีเดาะลิ้นและล้อเลียน “อวี้ชิงลั่ว เจ้านี่น่ารำคาญนัก” เห็นได้ชัดว่าความห่วงใยของนางที่มีต่ออวี้เป่าเอ๋อร์ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่
อวี้ชิงลั่วยกข้อศอกขึ้นกระทุ้งนาง ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินไปที่ประตูจวนอวี้
รถม้ารออยู่ที่นั่นนานแล้ว เมื่อเสิ่นอิงเห็นนางเดินออกมาก็หัวเราะทันที แล้วเปิดม่านรถเพื่อให้นางเข้าไป
แต่เมื่อจินหลิวหลีต้องการจะขึ้นรถม้า จู่ ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาขวางหน้านางไว้ นางจึงเลิกคิ้วขึ้นและก้าวถอยหลัง ก่อนจะยืนกอดอกมองเสิ่นอิงที่กำลังขวางทางนางอยู่ “ว่าอย่างไร? ท่านเสิ่นคงไม่ให้ข้าเดินกลับใช่หรือไม่?”
เสิ่นอิงรีบส่ายหัว “ข้าจะกล้าให้เถ้าแก่เนี้ยจินเดินกลับได้อย่างไร ไม่ใช่อะไรหรอก ยังมีคนอยู่ในรถม้าด้วยอีกคน”
สิ่งที่เขาพูดชัดเจนมาก จินหลิวหลีตอบสนองในทันที
เมื่อมองดูม่านรถที่สงบนิ่ง นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และพ่นลมหายใจออกมา “เจ้านายของเจ้าไม่มีอะไรทำหรืออย่างไร อยากติดตามใกล้ชิดถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?”
เสิ่นอิงยักไหล่ ก่อนจะจัดที่นั่งให้นางบนขอบรถม้า แล้วดึงบังเหียนขับรถม้าไป
ทันทีที่อวี้ชิงลั่วเข้ามา จมูกของนางก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้นทันที และทั้งร่างกายของนางก็ตกอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่ง
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เป่าเอ๋อร์สู้ๆ นะคะ หนูเป็นเจ้านายคนใหม่ของจวนอวี้แล้วนะ
ท่านอ๋องซิวมารับพระชายาได้ทันเวลาพอดีเลยนะคะ
ไหหม่า(海馬)