อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 494 เช่นนั้นก็คุกเข่า
ตอนที่ 494 เช่นนั้นก็คุกเข่า
ตอนที่ 494 เช่นนั้นก็คุกเข่า
“คือ คืออะไรหรือเพคะ?” ชิวหลานตกใจ เมื่อเห็นว่าอวี้ชิงลั่วไม่ได้ปฏิเสธ นางก็รู้สึกมีความหวังอยู่ในใจ ดวงตาของนางจึงเป็นประกายขึ้นมาทันที
อวี้ชิงลั่วยังคงหัวเราะต่อไป ชิวหลานรู้สึกเพียงว่ารอยยิ้มของนางเป็นเพราะนึกเมตตา แต่มีเพียงแม่นมเซียวที่อยู่ข้างกายนางเท่านั้นที่เห็นความชั่วร้ายในรอยยิ้มของอวี้ชิงลั่ว
“หนักเอาเบาสู้” นางอ้าปากพูดคำสี่พยางค์ออกมาอย่างแช่มช้า
แต่ทั้งสี่คำนี้ทำให้ชิวหลานรู้สึกโล่งใจยิ่ง
ก็แค่หนักเอาเบาสู้ คนรับใช้คนไหนจะทนความลำบากไม่ได้บ้าง? นี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนางเลย
“องค์หญิง หม่อมฉันสามารถทนต่อความทุกข์ยากได้ทุกอย่าง ตราบใดที่หม่อมฉันได้อยู่เคียงข้างรับใช้องค์หญิง หม่อมฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่พระองค์ต้องการได้เพคะ”
ทำอะไรก็ได้?
อืม เจ้าพูดเองนะว่าต้องการเช่นนั้น
“ตกลง” อวี้ชิงลั่วยักไหล่ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตราบใดที่เจ้าผ่านการทดสอบของตำหนักอ๋องซิว เจ้าจะได้เป็นนางกำนัลชั้นหนึ่งที่ได้อยู่เคียงข้างข้า ได้รับอาหารและเสื้อผ้าเท่ากับของเยว่ซิน แต่ถ้าเจ้าไม่ผ่านการทดสอบ เจ้าจะต้องออกไป”
“องค์หญิงรับสั่งมาเถิดเพคะ” ชิวหลานเชื่อว่าตัวเองมีคุณสมบัติในด้านการทำงาน ตอนที่นางอยู่ในจวนอวี้แม้จะได้รับใช้เฉพาะอวี้เป่าเอ๋อร์เท่านั้น แต่เนื่องจากนางต้องรับใช้อวี้เป่าเอ๋อร์ นางจึงต้องรู้มากกว่าคนรับใช้คนอื่น ๆ ไม่ว่าสิ่งใดก็ต้องทำให้ได้ นอกจากนี้นางยังเป็นคนฉลาด สามารถเรียนรู้ได้หลายอย่างได้รวดเร็ว จึงง่ายต่อการเริ่มต้นเรียนรู้
ไม่ว่าบททดสอบของคุณหนูใหญ่จะเป็นเช่นไร นางก็จะรับให้ได้
มุมปากของอวี้ชิงลั่วเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน นางยื่นถ้วยน้ำชาในมือให้แม่นมเซียวที่อยู่ข้างนาง ก่อนจะลุกขึ้นยืนและตบกระโปรง จากนั้นพูดด้วยเสียงแผ่วเบาและแช่มช้าดั่งกำลังพูดกับบิดามารดาของตน ซึ่งฟังแล้วรื่นหูนัก “เช่นนั้นเจ้าต้องคุกเข่าอยู่ในห้องโถงนี้เป็นเวลาสองวัน”
หัวใจของชิวหลานสั่นสะท้านทันที นางเงยหน้าขึ้นด้วยความเหลือเชื่อ คุกเข่า คุกเข่าสองวันหรือ?
แล้วเข่าของนางจะไม่พังหรือ?
“ว่าอย่างไร ทำไม่ได้หรือ?” น้ำเสียงเย็นชาของแม่นมเซียวดังขึ้นทันที
ชิวหลานตกใจ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ารัศมีของแม่นมเซียวผู้นี้ช่างน่าทึ่งนัก แววตาของนางคมกริบและเยือกเย็นกว่าของเฉินจีซินเล็กน้อย
นางรีบส่ายศีรษะและกัดฟันพูด “ชิวหลานทำได้”
แค่สองวันเท่านั้น มันไม่ถึงชีวิตหรอก ไม่ยาก
นอกจากนี้การคุกเข่าในห้องโถงของตำหนักท่านอ๋องซิว จะต้องมีผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา และเมื่อพวกเขาเห็นเช่นนั้นก็อาจจะไปบอกท่านอ๋องซิว
ท่านอ๋องซิวจะปล่อยให้สตรีผู้หนึ่งคุกเข่าในห้องโถงด้านหน้าที่ใช้สำหรับรับแขกเป็นเวลาสองวันได้อย่างไร? ฮึ่ม รอก่อนเถิด เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมของคุณหนูใหญ่เป็นพฤติกรรมที่ทำให้บุรุษรำคาญใจ หากวันหนึ่งแขกของท่านอ๋องซิวมาเห็นเข้า ท่านอ๋องซิวก็จะเสียพระพักตร์ ซึ่งก็ไม่แน่ว่านางอาจจะไม่ได้เป็นพระชายาซิวอีกต่อไป
หากคุณหนูใหญ่ยังคงไร้สมองอยู่เช่นนี้ก็แสดงว่ายังโง่เขลาเหมือนเดิม ไม่น่าแปลกใจที่เยว่ซินจะไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจของนาง นางถูกชิวหลานทำให้เสียเวลาไปมาก จนทำให้ลืมแม้กระทั่งธุระสำคัญ
หลังจากขยิบตาให้แม่นมเซียวแล้ว อวี้ชิงลั่วก็เดินผ่านชิวหลานออกจากห้องโถงไป
“ชิวหลาน หากเจ้าทนไม่ไหวก็บอกให้คนมาบอกข้าได้ทุกเมื่อ”
ชิวหลานเม้มปากและส่ายศีรษะอย่างดื้อรั้น “ข้าอดทนได้”
“จริงหรือ?” แม่นมเซียวยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นหันหลังเดินจากไป
ตอนนี้ห้องโถงที่เคยมีคนพลุกพล่านเงียบสงัดไปชั่วครู่ ชิวหลานมองไปรอบ ๆ แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับแสงจากคบเพลิง
นางจะอดทน หากทนความเจ็บปวดนี้ไม่ไหว แล้วในอนาคตจะสู้กับคุณหนูใหญ่ได้อย่างไร? ฮึ่ม สักวันหนึ่ง สักวันหนึ่งนางจะทำให้อวี้ชิงลั่วลิ้มรสความทุกข์ทรมานเช่นนี้บ้าง
อวี้ชิงลั่วเดินกลับไปที่ตำหนักของตน นางยิ้มและครวญเพลงอย่างมีความสุข
จินหลิวหลีนั่งดื่มชาอยู่ในห้องของนางอย่างสบายอารมณ์ เมื่อเห็นว่าอวี้ชิงลั่วกำลังอารมณ์ดีจึงเอนตัวไปตรงหน้านางทันทีและพูดว่า “ชิงลั่ว ธุระของข้าเสร็จแล้ว ไปได้เลยหรือไม่?”
“ใครบอกว่าธุระของเจ้าเสร็จแล้ว?” ท่าทางอารมณ์ดีของอวี้ชิงลั่วเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน แล้วลุกขึ้นมานั่งตรงหน้านางอย่างจริงจัง
มุมปากของจินหลิวหลีกระตุก “เอ๊ะ เจ้าจะจับข้ามากดขี่ข่มเหงอีกนานเพียงใด? ในตำหนักท่านอ๋องซิวมีองครักษ์มากมาย ทุกคนสามารถคอยติดตามเจ้าได้”
“มีบางอย่างที่มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ทำได้”
จินหลิวหลีหรี่ตา “มีค่าจ้างหรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้าและมองนางด้วยสายตาดูถูก “เจ้าช่วยอย่าเลียนแบบนิสัยเสียของหนานหนานได้หรือไม่? ค่าจ้างหรือ? เจ้าเป็นสตรีผู้มั่งคั่ง แต่กลับถามหาค่าจ้างจากคนยากจนเช่นข้าหรือ? เจ้าพูดออกมาได้อย่างไร?”
“อวี้ชิงลั่ว เจ้ายังไร้ยางอายไม่พออีกหรือ? เจ้ายากจนหรือ? หากเจ้ายากจน ในโลกนี้ก็คงไม่มีคนรวยแล้ว” จินหลิวหลีไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่านางตระหนี่และไม่ต้องการจ่ายค่าจ้างให้ อีกทั้งยังผลักความรับผิดชอบทั้งหมดไว้บนศีรษะของนาง ราวกับว่านางเป็นคนทำผิดพลาด
ไม่ต้องพูดถึงว่านางรีดไถเงินจากการฝึกแพทย์มากี่ปีแล้ว หากจะบอกว่าความสามารถในการทำเงินของหนานหนานนั้นเพียงพอที่จะสร้างภูเขาทองขนาดเล็กได้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภูเขาทองเล็ก ๆ นั่นก็คงถูกนำไปเข้ากระเป๋าของอวี้ชิงลั่วหมด นางจึงเป็นคนที่ร่ำรวยมากคนหนึ่ง
“ข้าบอกก่อนเลยว่าหากครั้งนี้เจ้าไม่จ่ายเงิน และจะให้ข้าไปทำสิ่งไร้ค่า ข้าจะไม่ทำมัน เจ้าไปหาคนอื่นได้เลย”
จินหลิวหลีก็เป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วยหรือนี่?
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ แล้ววางคางเกยบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา ก่อนจะพูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “ตอนแรกมีคนสัญญาอย่างชัดเจนว่าจะมาจากเจียงเฉิงเพื่อช่วยข้า และเห็นได้ชัดว่ามาจริง แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลังหรือไม่ คนผู้นั้นถึงได้คิดจะทำลายคำสัญญาเดิม แล้วยังเรียกร้องเงินค่าจ้างจากข้าอย่างไร้ยางอาย ในโลกนี้จะมีคนหน้าด้านเช่นนั้นได้อย่างไรกัน?”
“…” จินหลิวหลีแทบจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
ข้าไปทำกรรมอะไรมา เหตุใดต้องมานั่งฟังนางด่าอยู่เช่นนี้ด้วย?
“ช่างเถิด หากเจ้าต้องการจะไปก็ไปเลย ข้าจะจัดการเอง แต่ข้าจะไปบอกกับหนานหนานไว้ก่อนว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้า นั่นเป็นเพราะท่านป้าจินปฏิเสธที่จะช่วยข้า แล้วก็ต้องฝากเจ้าช่วยดูแลหนานหนานที ในอนาคตหากเขาโกรธและเกลียดชังเจ้าก็อย่าได้ไปโกรธเขาเลย เพราะใครขอให้เจ้าเป็นฆาตกรฆ่าแม่ของเขาเล่า?”
“…” จินหลิวหลีพูดไม่ออก
“เจ้าบอกมาว่าต้องการให้ข้าทำอะไร?” นางกัดฟันพูด ถ้าเป็นไปได้ นางก็อยากจะบีบคอตัวเองนัก
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้นขณะเผยรอยยิ้ม แล้วยืดตัวขึ้นทันที ร่องรอยของความเศร้าโศกหายไป และมองดูนางอย่างกระฉับกระเฉง
“เจ้าไปอยู่ที่ห้องขังของผู้ตรวจการเมืองหลวงสองคืน”
“…อวี้ชิงลั่ว เจ้าต้องการให้ข้านอนในที่ที่มีทั้งแมลงสาบ หนู และแมงมุมเป็นเวลาสองคืนหรือ? เจ้าบ้าหรือเปล่า?” จินหลิวหลีเริ่มม้วนแขนเสื้อขึ้น เพื่อเตรียมจะรัดคอนางให้ตาย
ไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนี้เป็นครั้งแรกที่นางไม่ได้พูดจาเหลวไหล แต่เมื่อได้พูดขึ้นมาก็ทำให้นางต้องทนทุกข์ถึงเพียงนี้เลยหรือ?
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
คุกเข่าสองวันไม่พักไปนะชิวหลาน ทำไม่ได้ก็ออกไป เดาว่าหลังจากนี้ต้องโดนชิงลั่วแอบแกล้งให้ยอมแพ้แน่เลยค่ะ
สงสารหลิวหลีจริงๆ เลยค่ะ อยู่กับชิงลั่วแล้วไม่เคยชินกับความไร้ยางอายสักที
ไหหม่า(海馬)