อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 504 เกิดปัญหาหรือ
ตอนที่ 504 เกิดปัญหาหรือ?
ตอนที่ 504 เกิดปัญหาหรือ?
หนานหนานคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายศีรษะด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าไม่รู้”
เย่ฮ่าวหรานขมวดคิ้วแน่นขณะมองแม่นมเซียวที่ทำอะไรไม่ถูก แล้วมองไปที่หนานหนานที่กำลังงุนงง ก่อนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นไม่นานเขาก็ดึงหนานหนานเดินไปด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของแม่นมเซียว ก่อนจะนั่งลงและพูดกับเขาด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “หนานหนาน อาแปดมีเรื่องจะถามเจ้า”
“ท่านอาแปดบอกมาเถิด หากข้าช่วยได้ ข้าก็จะช่วย”
“เช่นนั้นหากเจ้าเจอท่านป้าจินครั้งหน้า เจ้าจะต้องรีบแอบมาบอกท่านอาแปด ตกลงหรือไม่?” สตรีผู้นั้น อวี้ชิงลั่วจะไม่ยอมบอกเขาอย่างแน่นอน และคนรับใช้ของตำหนักอ๋องซิวก็เชื่อฟังนางสุดหัวใจ
บางทีอาจจะมีเพียงหนานหนานเท่านั้นที่กล้าช่วยเขาเรื่องนี้
แน่นอนว่าดวงตาของหนานหนานเป็นประกาย เขาดูกระตือรือร้นที่จะลอง แต่ครู่ต่อมาด้วยใบหน้าของเขาก็ดูลำบากใจ เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “ท่านอาแปด เรื่องแอบบอกความลับนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ท่านก็ทราบดีว่านี่เป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ หากท่านแม่ของข้ารู้จะต้องฉีกข้าเป็นชิ้นแน่นอน”
มุมปากของเย่ฮ่าวหรานกระตุกสองครั้ง เจ้าเด็กน้อยนี่กำลังจะทำอะไรกันแน่?
“อีกอย่างคือท่านอาแปดต้องรู้ว่า แม้ว่าข้าจะใจดีและชอบช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือผู้อื่นก็จำเป็นต้องใช้ทุนใช่หรือไม่ หากข้าจะบอกข่าวแก่ท่าน ข้าก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกคนอื่นตามมา บางทีข้าอาจจะต้องจ้างรถหรืออะไรสักอย่าง ซึ่งจะทำให้ข้าหิวเพราะไม่มีเงินซื้อข้าว จากนั้นเงินก็ขาดมือและของต่าง ๆ…”
“เข้าใจแล้ว!!” เย่ฮ่าวหรานยกมือขึ้นเพื่อหยุดคำพูดอันขมขื่นของเขา
เขาหลับตาลง แล้วหยิบตั๋วเงินสองร้อยตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ “มันเป็นงานหนักของเจ้า ฉะนั้นนี่คือเงินมัดจำ เมื่อทำสำเร็จแล้วยังมีอีกสองร้อยตำลึง”
นัยน์ตาของหนานหนานเป็นประกายขึ้นมาทันที เขายื่นมือเล็ก ๆ ออกไปรับเงินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และพูดอย่างเขินอายมาก “ดูท่านอาแปดพูดสิ ข้าดูเป็นคนเห็นแก่เงินหรือ? งานไม่ได้หนักหนามากเกินไป จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับคนหล่อเหลาและห้าวหาญคนนี้ ที่ยอมเสี่ยงอันตรายและยอมเสียสละเพื่อสหาย”
มือของเย่ฮ่าวหรานยังคงยื่นค้างในอากาศ ปากอ้าเหวอเล็กน้อย และหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็ทำสีหน้าเอือมระอา
รีบรับไปเร็วถึงเพียงนี้ หากเจ้าไม่ได้เห็นแก่เงินแล้วจะเรียกว่าอะไรอีก? และเจ้ายังพูดมากอีกด้วย
เย่ฮ่าวหรานนึกอยากจะร้องไห้ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยเงิน เขาจึงสามารถทำให้หลานชายของตนทรยศพ่อแม่ของเขาได้ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
แต่ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้เขาก็สามารถสบายใจไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว แม้ว่าหนานหนานจะไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าใด แต่เมื่อให้เงินไปแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะผ่านไปด้วยดี
“เช่นนั้นก็ถือว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้ว คราวหน้าหากเจ้าเจอท่านป้าจินก็อย่าลืมมาบอกอาแปดให้เร็วที่สุด อาแปดมีเรื่องต้องทำ ขอตัวก่อน”
“ไปเถอะ ไปเถอะ” หนานหนานโบกมืออย่างใจร้อน เมื่อเย่ฮ่าวหรานลุกขึ้น เขาก็รีบหยิบตั๋วเงินที่เขาเพิ่งได้รับออกมาสัมผัสอีกครั้งด้วยความดีใจ เย่ฮ่าวหรานเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับตบหน้าผากตัวเอง
หนานหนานลูบไล้มันเป็นเวลาเกือบสิบห้านาที ก่อนจะเก็บตั๋วเงินลงในเสื้อของเขาอย่างระมัดระวังด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเขา ก่อนจะหันหลังเดินไปยังตำหนักของอวี้ชิงลั่ว
เมื่อเขาเดินมาถึงซุ้มประตูเล็ก ๆ อีกครั้ง แม่นมเซียวก็ยังคงรออยู่ตรงนั้น หลังจากเห็นเขา นางก็เหลือบมองเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วจับมือเขาเดินเข้าไปข้างใน
หัวใจของหนานหนานเริ่มเต้นรัวราวกับเสียงกลอง แม่นมเซียวคงจะไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านอาแปดใช่หรือไม่?
“องค์หญิง ซื่อจื่อน้อยเสด็จมาแล้วเพคะ” เมื่อแม่นมเซียวเดินไปถึงห้องก็เคาะประตูเบา ๆ
หนานหนานสงสัยว่าเหตุใดนางจึงไม่เข้าไปเลย แต่เมื่อประตูที่อยู่ตรงหน้าเขาถูกกระแทกเปิดจากด้านใน ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของพ่อของเขา
แม่นมเซียวปล่อยมือแล้วหันหลังกลับ
อวี้ชิงลั่วจ้องไปยังคนตัวใหญ่และตัวเล็กที่เดินเข้ามา ร่างที่เอนตัวพิงเก้าอี้นุ่มวางตำราการแพทย์ในมือลง และเลิกคิ้วจ้องมองหนานหนาน “เจ้าพูดอะไรกับท่านอาแปดของเจ้า?”
“เอ๊ะ? ไม่มีอะไรหรอก ท่านอาแปดถามข้าว่าท่านป้าจินอยู่ที่ไหน ข้าจึงบอกไปตามตรงว่าไม่รู้” หนานหนานวิ่งไปนั่งข้างนางและพูดอย่างประจบสอพลอ แล้วนวดขาให้นาง แต่หัวใจของเขาเต้นรัว “ตึกตึก” ราวกับเสียงกลองมาสักพักหนึ่งแล้ว ท่านแม่คงไม่รู้ว่าเขาได้รับเงินจากท่านอาแปดและอยากจะเอาคืนใช่หรือไม่
เขาคงไม่ได้ทำให้เฉลียวฉลาดของตนสูญเปล่าใช่หรือไม่?
มิฉะนั้น… เขาต้องแบ่งครึ่งหนึ่งให้แม่ของเขาหรือ?
หนานหนานกังวลมาก เขาหันไปมองบิดา เพราะคิดว่าจะใช้กระแสจิตบอกให้อีกฝ่ายช่วยเขาด้วยการชวนคุย แต่เมื่อหันหน้าไปมอง เขาก็เห็นว่าเย่ซิวตู๋ยังคงยืนคุยกับเสิ่นอิงอยู่นอกประตู
แปลกจัง ท่านลุงเสิ่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่เป็นไร ในเมื่อพ่อช่วยเหลือเขาไม่ได้ เขาก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง
การเปลี่ยนเรื่องเป็นวิธีที่ดีที่สุด
“ท่านแม่ ข้าจะบอกว่าข้าเห็นชิวหลานอยู่ในห้องโถงเมื่อสักครู่นี้ คนคนนั้นแย่มาก นางพูดไม่ดีเกี่ยวกับท่าน และใส่ร้ายข้าต่อหน้าพ่อบ้านหยาง”
หนานหนานรู้ชื่อชิวหลานและรู้เหตุผลที่นางต้องคุกเข่าอยู่ที่นั่นจากปากของเล่อเล่อแล้ว และเขาสนับสนุนวิธีการของมารดา
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขา ทุกครั้งที่เจ้าตัวเล็กนี่ไม่ตอบคำถามของนางตามตรง ก็สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผลเดียว – เขาต้องเพิ่งทำธุรกรรมกับคนอื่นมา
“ท่านแม่ ปล่อยเรื่องชิวหลานให้ข้าจัดการเอง ข้าจะไม่ปล่อยให้นางอยู่ต่อเพื่อยั่วยวนท่านพ่อหรอก”
“เอ๊ะ? เจ้ามีวิธีหรือ?” เป็นเรื่องยากที่หนานหนานจะคิดเรื่องชิวหลานอย่างรอบคอบ
เป็นเพราะความสามารถในการเสแสร้งของชิวหลานต่ำเกินไป หรือเป็นเพราะหนานหนานฉลาดขึ้นแล้ว?
หนานหนานหัวเราะร่า เจ้าตัวเล็กนี้เหมือนแมวขโมยปลา ฉลาดแกมโกงและปราดเปรียว
“ท่านแม่ ท่านต้องเชื่อในความสามารถของลูกชายของท่าน โดยเฉพาะเมื่อต้องรับมือกับนางจิ้งจอกที่หมายปองท่านพ่อ ข้าจะไม่หยุดพยายามขับไล่นางออกไป”
“ใครคือนางจิ้งจอกที่หมายปองพ่อ?” เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว เขาเพิ่งพูดคุยจบ เมื่อหันหลังกลับมาก็ได้ยินว่าลูกชายของเขา… ดูเหมือนว่าจะลากเขาลงไปในน้ำด้วย
หนานหนาน “หือ?” เขาหันกลับไปยิ้มแห้ง ๆ แล้วถูจมูก “ข้าคาดเดา ท่านพ่อ มันเป็นเพียงการคาดเดา”
เย่ซิวตู๋พ่นลมหายใจเบา ๆ และพาหนานหนานไปนั่งบนเก้าอี้นุ่มข้างอวี้ชิงลั่ว และมองท่าทางเกียจคร้านของนาง
หนานหนานทำแก้มป่อง ท่านพ่อระวังตัวเก่งจริง ๆ
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขณะเหลือบมองไปยังประตูที่ปิดอยู่ แล้วจ้องไปยังคิ้วที่ขมวดเล็กน้อยของเย่ซิวตู๋ และถามเบา ๆ ว่า “อะไร เกิดปัญหาหรือ?”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านอาแปดจะรอดไหมเนี่ยหนานหนาน จะไว้ใจผิดคนหรือเปล่า ท่าทางที่นี่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึงของหนูมันชัดเจนมากเลย
ไหหม่า(海馬)