อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 508 ค่าตอบแทน
ตอนที่ 508 ค่าตอบแทน
ตอนที่ 508 ค่าตอบแทน
จินหลิวหลีเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหลับตาลงเล็กน้อย ถอนหายใจและกล่าวว่า “ใช่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาฝูครั้งที่แล้ว หรือเรื่องเฉินจีซินกับลูกสาวในครั้งนี้ ล้วนเป็นฝีมือของเซียวเฟยทั้งสิ้น”
อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่น หลังจากที่เซียวเฟยรู้ว่าเย่ซิวตู๋มีลูกชายคนหนึ่ง นางก็ไม่อาจสงบใจได้
“ชิงลั่ว ข้าอยากพบเย่ฮ่าวหราน”
อวี้ชิงลั่วหันไปมองนาง “เจ้า…”
จากช่วงเวลาที่นางมาถึงเมืองหลวง ตั้งแต่วินาทีที่นางได้พบกับเย่ฮ่าวหราน จินหลิวหลีก็หลบหน้าเขามาจนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้นางรู้แล้วว่าเซียวเฟยคิดอย่างไรเกี่ยวกับเย่ฮ่าวหราน นางจึงขอพบเย่ฮ่าวหรานหรือ?
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว และดูอาการบาดเจ็บของนางอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะลุกขึ้นและพูดว่า “ข้ารู้แล้ว ข้าจะส่งคนไปแจ้งเย่ฮ่าวหราน”
“ขอบคุณ” จินหลิวหลีดูเหนื่อยมาก น้ำเสียงของนางค่อย ๆ เบาลง แล้วนางก็หลับตาลง
อวี้ชิงลั่วเดินออกจากห้องอย่างแผ่วเบา แต่ทันทีที่ประตูปิด ร่างเล็ก ๆ ก็เข้ามากอดขานางไว้ทันที
หนานหนานเงยหน้าขึ้น และถามด้วยดวงตาเบิกกว้าง “ท่านแม่ ท่านป้าจินเป็นอย่างไรบ้าง? ขอเข้าไปหาหน่อยได้หรือไม่?”
“ไม่เป็นไร ตราบใดที่ดูแลรักษาอย่างดี นางก็จะหายดีในไม่ช้า ตอนนี้เจ้าต้องเงียบ อย่าเข้าไปรบกวนนาง”
หนานหนานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและวางใจ ในเมื่อเขาไม่อาจเข้าไปหาท่านป้าจินได้ เขาจึงควรออกไปหาท่านปู่ลู่ ดูเหมือนว่าวันนี้จะล่าช้าไปบ้าง แต่ท่านปู่ลู่ก็กำลังรออย่างใจจดใจจ่อ
หนานหนานเช็ดใบหน้าแล้วถอยห่างจากอวี้ชิงลั่ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ใครจะรู้ว่าทันทีที่เขาก้าวออกจากธรณีประตู เขาก็ได้ยินอวี้ชิงลั่วพูดกับเย่ซิวตู๋ว่า “ท่านช่วยส่งคนไปบอกเย่ฮ่าวหรานให้มาที หลิวหลีต้องการพบเขา”
เย่ซิวตู๋เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เข้าใจแล้ว ข้าจะให้…”
“ข้าจะไป ข้าจะไป” หนานหนานก้าวออกไปทันทีแล้วกระโดด ‘ฟึ่บ’ ไปข้างหน้าเย่ซิวตู๋ ก่อนจะยกมือกระโดดไปมา “ท่านพ่อ งานที่ยากลำบากเช่นนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า”
เย่ซิวตู๋หรี่ตาลง การเคลื่อนไหวและความเร็วของหนานหนานในตอนนี้… ดูเหมือนจะคล่องแคล่วและว่องไวกว่าเมื่อก่อน แต่ในเวลานี้เขาควรจะไปฝึกวิทยายุทธ์ไม่ใช่หรือ?
เขาเอื้อมมือออกไปและลูบศีรษะเด็กน้อยอย่างแผ่วเบา พูดพลางหัวเราะ “ยากลำบากหรือ?” เหตุใดเขาดูเหมือนจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากหากต้องไปแจ้งเย่ฮ่าวหราน?
หนานหนานพยักหน้าเห็นด้วย และคิดจะไปจัดการเรื่องเงิน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องยากมาก
สองร้อยตำลึง เขาคิดว่ามันยากที่จะหาเงินมากถึงเพียงนี้ได้ แต่เขาไม่คิดเลยว่าโอกาสจะมาถึงเร็วขนาดนี้
อืม ท่านปู่ลู่ไม่มีเงินสองร้อยตำลึง คิดแล้วก็รู้สึกเสียใจแทนเขาจริงๆ
ครั้นหนานหนานได้รับอนุญาตจากเย่ซิวตู๋ เขาจึงรีบขึ้นรถม้ามุ่งหน้าไปยังตำหนักท่านอ๋องแปด
พอมาถึงประตู พ่อบ้านกลับบอกว่าท่านอ๋องกำลังดูการแข่งขันอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของอัฒจันทร์
หนานหนานรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่มาเสียเที่ยวจนต้องนั่งรถไปไกลกว่าเดิม เขาจึงขึ้นราคา
รถม้ามุ่งหน้าไปยังสนามแข่งขันอีกครั้งและจอดที่นั่น หนานหนานลงจากรถและวิ่งเข้าไปดึงเย่ฮ่าวหรานแล้วออกมา
ที่นี่เขาเห็นการแข่งขันเขียนบทกวีระหว่างอาณาจักรเฟิงชาง และอาณาจักรเทียนอวี่ การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของหนานหนานดึงดูดความสนใจของฮ่องเต้อย่างรวดเร็ว พระองค์อยากจะเรียกเจ้าตัวเล็กดัง ๆ แต่หารู้ไม่ว่าหนานหนานไม่แม้แต่จะมองพระองค์ด้วยซ้ำ และวิ่งไปด้านข้างของเย่ฮ่าวหราน ก่อนจะเต้นเร่าอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่รู้ว่าพูดอะไร อีกทั้งยังหันมองซ้ายขวา
มุมพระโอษฐ์ของฮ่องเต้อดไม่ได้ที่จะกระตุกอย่างแรง หากกลับไปแล้วพระองค์จะต้องรีบไปบอกซิวเอ๋อร์ อย่างน้อยมาที่นี่แล้วก็ควรจะมาหาเสด็จปู่บ้าง เขาสวมฉลองพระองค์ทองอร่ามนั่งอยู่ตรงนี้แต่กลับไม่หันมามองแม้แต่น้อย!!
ฮ่องเต้รู้สึกเคืองขัดพระราชหฤทัย ส่งผลให้สีพระพักตร์บูดบึ้งตลอดการแข่งขันถัดไป ซึ่งทำให้องค์ชายสามที่วางแผนจะจัดการผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเหมิงกุ้ยเฟยหุบปากทันทีและไม่กล้าพูดอะไรอีก
เย่ฮ่าวหรานที่ถูกหนานหนานดึงออกจากสนามย่อมเห็นสายพระเนตรไม่พอใจของฮ่องเต้ เขากำลังจะกลับไปคุยกับฮ่องเต้ แต่หนานหนานก็ปล่อยมือเขาอย่างหมดความอดทน และพูดอย่างโกรธเคือง “หากไม่ใช่เพราะเงินสองร้อยตำลึง ข้าจะไม่มาที่นี่”
สองร้อยตำลึงหรือ?
เย่ฮ่าวหรานเป็นคนฉลาด ได้ยินหนานหนานพูดแบบนี้ก็ทราบถึงเจตนาของเขาทันที สีหน้าพลันฉายแววตื่นเต้นเล็กน้อย และไม่ได้พาคนรับใช้ที่รออยู่ข้างนอกไปด้วย เขารีบอุ้มหนานหนานและวิ่งไปที่รถม้า
“มีข่าวเกี่ยวกับหลีเอ๋อร์หรือ?”
“อ๊ะ? หลีเอ๋อร์หรือ?” หนานหนานรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อเขาถูกอุ้มไว้และมองเขาแปลก ๆ
เย่ฮ่าวหรานตื่นเต้นเกินไป เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็ตบหน้าผากของเขาทันทีและยิ้มอย่างโง่งม “ฟังข้านะ หลีเอ๋อร์คือท่านป้าจินของเจ้า”
“โอ้…” หนานหนานตระหนักในทันใด เขาพยักหน้าขณะถูกเย่ฮ่าวหรานผลักเข้าไปในรถม้า “ใช่แล้ว ท่านป้าจินบอกว่านางต้องการพบท่าน”
เย่ฮ่าวหรานชะงักงันขณะก้มลงและเข้าไปในรถม้า จากนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เจ้าหมายถึง… นางขอพบข้าก่อนหรือ?”
หนานหนานพยักหน้าอย่างจริงจัง แสดงว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเขา เขารู้สึกว่ารถม้าใต้เขาเริ่มเคลื่อนไหว และเขาก็รีบหยิบเรื่องสำคัญขึ้นมา “อาแปดเราตกลงเมื่อวานนี้ หากข้ามาแจ้งข่าวเรื่องท่านป้าจิน ข้าจะได้รับค่าตอบแทน…”
“สองร้อยตำลึง ให้เจ้า” เย่ฮ่าวหรานพูดไม่ออกเกี่ยวกับเรื่องเงินนี้ เขาหยิบเงินออกมาและยัดมันลงในฝ่ามือเล็ก ๆ นั่นโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วขยับตัวเตรียมถามต่อ “หนานหนาน เหตุใดท่านป้าจินจึงขอพบข้าก่อน มีอะไรเกิดขึ้นหรือ? นาง…”
“ท่านอาแปด ตอนแรกข้าไปที่ตำหนักอ๋องแปดเพื่อตามหาท่าน แต่ท่านไม่ได้อยู่ที่นั่น ข้าจึงต้องหันรถม้ากลับมาที่นี่เพื่อตามหาท่าน และต้องไปพาท่านมาจากสนามประลองอีก รู้หรือไม่ว่าข้าเสี่ยงแค่ไหน นี่อาจทำให้ภาพลักษณ์ของข้าเสียหาย อาจทำให้คนอื่นไม่พอใจ ท่านคิดว่าอย่างไร?”
หนานหนานจ้องมองเย่ฮ่าวหรานด้วยแววตาสดใส ตั๋วเงินสองใบในมือของเขาถูกเก็บไว้ในอ้อมแขนแล้ว และตอนนี้ฝ่ามือของเขาก็หงายขึ้นอีกครั้ง
“…” เย่ฮ่าวหรานอยากจะเอาหัวโขกกำแพง เขาจ้องมองเจ้าตัวเล็กด้วยสายตาคมกริบ ก่อนจะหยิบตั๋วเงินออกมาอีกสองใบ แล้ววางมันลงบนฝ่ามือของเขา พลางพ่นลมอย่างเย็นชา “ตอนนี้พูดได้ไหมว่าเหตุใดท่านป้าจินถึงอยากเจอข้า?”
หนานหนานถือตั๋วเงินสองสามใบอย่างมีความสุขพลางสัมผัสมัน ดวงตาหยีลงด้วยรอยยิ้ม และตอบอย่างไม่ปิดบัง “โอ้ เมื่อเช้านี้ท่านป้าจินได้รับบาดเจ็บตอนที่กลับมา และร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยเลือด นาง… เอ๊ะ ท่านอาแปด ท่านอาแปดจะไปไหน?”
ก่อนที่หนานหนานจะพูดจบ เขารู้สึกว่ามีลมกระโชกพัดผ่านข้างหน้าเขา รู้ตัวอีกทีเขาก็เป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในรถม้า
หนานหนานกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา ยักไหล่ แล้วพูดกับคนขับรถม้าว่า “เลี้ยวกลับไปที่ถนนจงเฉิง”
เฮ้อ อย่างไรเสียภารกิจก็เสร็จสิ้นและได้รับเงินแล้ว ดังนั้นเขาควรจะไปหาท่านปู่ลู่
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานแสบจริง สรุปก็คือรีดไถมาจากท่านอาแปดอีกสองร้อยตำลึง
ไหหม่า(海馬)