อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 509 เจ้าช่างชาญฉลาดยิ่ง
ตอนที่ 509 เจ้าช่างชาญฉลาดยิ่ง
ตอนที่ 509 เจ้าช่างชาญฉลาดยิ่ง
เย่ฮ่าวหรานรีบเร่งไปยังตำหนักอ๋องชิว เมื่อไปถึงที่นั่นแล้วเขาก็ไม่รอสอบถามกับพ่อบ้านหยางที่อยู่ด้านนอก วิ่งตรงเข้ามาพลางส่งเสียงเอะอะและคว้าใครบางคนมาสอบถามแทน
ราวกับอวี้ชิงลั่วทราบล่วงหน้าแล้วว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น จึงขอให้เผิงอิงเฝ้าระวังที่ประตูด้านนอก
ทันทีที่ทั้งสองได้พบกัน เขารีบพุ่งไปยังตำหนักที่จินหลิวหลีอยู่ทันที
เมื่อไปถึงหน้าตำหนัก เขารีบวิ่งเข้าไปด้านในโดยไม่ทันได้พักหายใจ มีเพียงอวี้ชิงลั่วที่พยายามรั้งไว้ “ท่านจะเอะอะมะเทิ่งเพื่อสิ่งใด? หลิวหลีนอนหลับอยู่ โปรดเบาเสียงของท่านลงแล้วเข้าไปด้านในอย่างสงบเถิด”
เย่ฮ่าวหรานสะบัดมือนางออกไป เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าว การเคลื่อนไหวของเขาพลันสงบลง พยักหน้าอย่างเชื่อฟังพลางค่อย ๆ ปรับลมหายใจ
“นางไม่เป็นอะไร เพียงถูกศรยิงเข้าที่ไหล่เท่านั้น นางเสียเลือดไปมาก แต่หากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดก็เพียงพอ ท่านอย่าตื่นตระหนกจนเสียขวัญเลย หากผู้อื่นมาได้ยินอาจคิดว่ามีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นที่นี่”
อวี้ชิงลั่วกลอกตาใส่เขา แน่นอนว่ายังไม่ทันสนทนากับหนานหนานจนรู้ความ เขาพลันรุดมาที่นี่เสียก่อน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่ฮ่าวหรานพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังได้รับการยืนยันว่าจิวหลิวหลีได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เขาก็เอนกายพิงกำแพงพลางหลับตาลงอย่างเชื่องช้า
ไม่นานเย่ฮ่าวหรานก็เอ่ยถามด้วยเสียงแหบห้าว “นางได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร? ผู้ใดทำร้ายนาง?”
“…” อวี้ชิงลั่วย่นจมูก นางไม่อาจบอกเรื่องนี้ต่อเขาได้ ทว่าด้วยความรู้สึกผิดจึงกระแอมพลางกล่าว “ท่านเข้าไปถามนางเองเถิด เฮ้อ ข้าเมื่อยล้าเหลือหลาย หมายจะพักสักนิด ท่านเข้าไปเยี่ยมเยียนนางที่ด้านในเถิด สองวันมานี้นางหลับใหลน้อยลงแล้ว”
“โอ้” เย่ฮ่าวหรานตกตะลึงครู่หนึ่ง แม้จะยังมีคำถามมากมายในใจ เขาก็ตระหนักดีว่าอวี้ชิงลั่วต้องรู้เรื่องนี้แน่ แต่เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากระงับความสงสัยในใจไว้
เย่ฮ่าวหรานหายใจเข้าลึกพลางผลักประตูอย่างแผ่วเบา ก้าวเดินไปด้านในอย่างระมัดระวัง เมื่อไปถึงข้างเตียงนอนของจินหลิวหลี เขาพลันนั่งลงอย่างเงียบงัน จ้องมองใบหน้าซีดเซียวของนางที่เกิดจากการเสียเลือดมาก ความสงสารพลันผุดบนใบหน้าของชายหนุ่ม ทอดสายตาไปยังสตรีที่กำลังหลับใหลอย่างเป็นทุกข์
อวี้ชิงลั่วที่อยู่ด้านนอนปิดประตูให้เขาอย่างแผ่วเบาพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะหันหลังจากไป
เมื่อเดินไปถึงประตูหนัก นางก้าวฝีเท้าอย่างเชื่องช้าพลางหันไปถามแม่นมเซียว “ชิวหลานเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ออกไปแล้วเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
“ยังไม่…” แม่นมเซียวที่กำลังจะกล่าวพลันหยุดลงกะทันหัน อวี้ชิงลั่วจ้องมองด้วยความประหลาดใจก่อนจะเอนกายกระซิบ “เรื่องนี้ต้องถามท่านเสิ่นให้ชัดเจนเสียแล้ว”
ขณะทั้งสองกำลังกระซิบกระซาบ เสิ่นอิงก็เดินมาเบื้องหน้าทั้งสองพร้อมกับจิตวิญญาณอันสูงส่ง
ทันทีที่เงยหน้า เขาเห็นอวี้ชิงลั่วและแม่นมเซียวจ้องมองตนด้วยท่าทีแปลกประหลาด รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาพลางเดินถอยหลังพร้อมหัวเราะแห้ง “แม่ แม่นางอวี้ เหตุใดพวกท่านจึงจ้องมองข้าเช่นนั้นเล่า? มีสิ่งใดหรือ? หรือว่า… ข้าทำสิ่งใดผิดไปหรือ?”
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ในช่วงที่ผ่านมาเขาประพฤติตนดียิ่ง ทั้งยังเป็นไปตามคำสั่งของแม่นางอวี้ แม้แต่เจ้านายของเขายังไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
“เมื่อคืนเจ้าทำสิ่งใดต่อชิวหลาน?”
“ไม่เลย ข้าไม่ได้ทำสิ่งใดเลยขอรับ” เสิ่นอิงเกาศีรษะพลางเหลือบมองแม่นมเซียว น่าแปลกใจยิ่ง แม่นมเซียวเพิ่งกล่าวต่อเขาเมื่อเช้าว่าทั้งสิ้นผ่านพ้นไปด้วยดี หากทุกสิ่งผ่านพ้นไปด้วยดีจริง เหตุใดแม่นางอวี้จึงถามราวกับสงสัย?
แม่นมเซียวหันไปด้านข้างโดยไม่สบตาเขา
ภายใต้สายตาอันเฉียบคมอวี้ชิงลั่ว เสิ่นอิงก็รู้สึกกังวลใจยิ่ง ไม่นานเขาพลันเผยสีหน้าเศร้าโศกราวกับกำลังจะร่ำไห้ “คือว่า… แม่นางอวี้ ข้าได้ยินมาว่าท่านเกลียดชังชิวหลาน นางไม่ใช่คนดี นางจ้องมองท่านอ๋องดุจหมายปองบางสิ่ง ข้าจึงมาเพื่อช่วยเหลือท่าน”
“แล้วอย่างไรหรือ?”
เสิ่นอิงไม่เข้าใจความคิดของอวี้ชิงลั่ว อันที่จริงเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายแม้เพียงนิด
“เมื่อคืนที่ผ่านมา สตรีผู้นั้นเดินทางไปยังเรือนท่านอ๋องเพื่อเกลี้ยกล่อมท่านอ๋อง จะให้ข้าเพียงยืนมองอย่างนั้นหรือ? ท่านอ๋องเป็นของแม่นางอวี้ จะให้ข้าปล่อยสตรีคิดไม่ซื่อผู้นั้นไปหรือ? หากนางบริสุทธิ์ใจจริงคงไม่เดินทางไปหาท่านอ๋องเพียงลำพัง ถึงกระนั้นแม่นางอวี้… ข้าเพียงหมายจะกล่าวว่า ท่านอ๋องมีกิจการมากมายต้องสะสาง แน่นอนว่าไม่ได้อยู่ที่นั่นเพียงผู้เดียว”
“ทว่าสตรีผู้นั้นกลับเขาไปในเรือนพลางเอนกายลงบนเตียงอย่างไร้ยางอาย จุ๊ๆๆช่างหน้าด้านเสียนี่กระไร ข้าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ผู้คนจะรับรู้พร้อมจับกุมนางในฐานะนักโทษ”
“หึ อีกทั้งนางยังร้องคร่ำครวญหาท่านอ๋อง พลางกล่าวว่าตนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม นางบอกว่าท่านอ๋องรู้จักนางดี หลังจากได้พบกับท่านอ๋อง เรื่องราวทั้งหมดก็จะชัดเจนขึ้น”
“ข้าจึงกล่าวว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปพบผู้ใดที่นั่น ตำหนักท่านอ๋องเป็นสถานที่สำคัญแห่งวังหลวง ผู้ใดที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากท่านอ๋องต้องถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับนักโทษ ยังไม่รวมความผิดที่นางกรีดร้องคร่ำครวญหาท่านอ๋อง ข้ากล่าวตามตรงว่านางไม่อาจรอดพ้นไปได้ แม่นางอวี้ ท่านคงทราบดีว่าหากปล่อยให้ทุกสิ่งดำเนินไปเช่นนี้ สตรีผู้นั้นจะนำความลำบากใจอันใหญ่ยิ่งมาสู่ทุกคน”
อวี้ชิงหลัวเหลือบมองเสิ่นอิง เขากำลังอวดความดีความชอบอยู่กระนั้นหรือ?
“สตรีผู้นั้นกลับไม่ยอมแพ้ ยังหมายจะพบท่านอ๋องให้จงได้ ข้าจึงแสร้งถามท่านอ๋อง และได้รับคำตอบว่าท่านอ๋องได้ออกคำสั่งให้ประหารชีวิตผู้ที่แอบอ้างเข้าไปในตำหนักโดยปราศจากความยินยอมของท่านอ๋อง และถือว่าบุคคลนั้นมีความผิดร้ายแรงเช่นเดียวกับนักโทษ แน่นอนว่าไร้ประโยชน์ที่จะร้องขอชีวิต นางหวาดกลัวยิ่ง สิ่งเดียวที่ทำได้คือกรีดร้องโดยหวังจะได้พบแม่นางอวี้”
“เมื่อแม่นมเซียวมาถึง นางก็หมายให้แม่นมเซียวอ้อนวอนต่อท่านอ๋อง แม่นมเซียวกล่าวว่านางไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งของท่านอ๋อง และไร้ประโยชน์สำหรับแม่นางอวี้ที่กระทำเช่นนั้น เพราะอาจถูกท่านอ๋องเฆี่ยนตีแทนนาง ชิวหลานหวาดกลัวยิ่งนัก นางพยายามอ้อนวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม่นมเซียวเป็นบุคคลที่ดียิ่ง นางเอ่ยเพียงไม่กี่คำ ข้าก็รับคำสั่งขับไล่สตรีผู้นั้นไปจากตำหนักทันที”
ริมฝีปากของอวี้ชิงลั่วเม้มสนิท นางไม่เคยหมายจะปลิดชีพชิวหลาน ไม่ว่าอย่างไรนางก็ถือเป็นพยานปากเอกในอาชญากรรมของเฉินจีซินและบุตรสาว หากชิวหลานต้องถูกปลิดชีพ ทุกสิ่งจะไม่ชัดเจนและอาจเป็นข้ออ้างให้ผู้อื่นก่อความไม่สงบในตำหนักอ๋องชิว
การเคลื่อนไหวของเสิ่นอิงทำลายความตั้งใจของนางที่จะอยู่ในตำหนักอ๋องชิวต่อไป
“แม่นมเซียว ชิวหลานไม่อาจอยู่ในจวนอวี้ได้อีกต่อไป” บุคคลที่เคยกระทำเช่นนั้นต่อเป่าเอ๋อร์ หากดำรงในจวนอวี้ต่อไปก็อาจนำมาซึ่งหายนะ วันหนึ่งนางจะต้องนำปัญหามาสู่เป่าเอ๋อร์อีกครา
แม่นมเซียวครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “ท่านอาวุโสผู้นี้ทราบดีว่าต้องกระทำเช่นไร”
หลังกล่าวจบนางก็เอ่ยขอตัวลา พร้อมกับยอบถอยกาย
อวี้ชิงลั่วเงยหน้าอีกครั้งพลางจ้องมองเสิ่นอิงด้วยแสยะยิ้มก่อนจะเม้มริมฝีปาก
เสิ่นอิงตกใจยิ่งกับท่าทางของนางจึงเอ่ยถามอย่างลังเล “แม่นางอวี้ ข้า… ทำสิ่งใดผิดไปหรือไม่?” เป็นไปไม่ได้ เขามาที่นี่เพื่อหมายจะเอาความดีความชอบ เหตุใดนางจึงมองราวกับจะส่งเขาสู่ประตูแห่งหายนะ?
“ไม่ได้ทำสิ่งใดผิด เจ้าช่างชาญฉลาดยิ่ง” อวี้ชิงลั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นแล้วข้าจึงมีเรื่องอยากขอท่านเสิ่นผู้ชาญฉลาดอีกเรื่องหนึ่ง”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ไล่ชิวหลานออกไปแล้ว จะสืบเบาะแสได้จากใครล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)