อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 528 จะหักข้อมือของอวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 528 จะหักข้อมือของอวี้ชิงลั่ว
ตอนที่ 528 จะหักข้อมือของอวี้ชิงลั่ว
“หมอหลวงหลู บัดนี้เจ้ายังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้าอยู่หรือไม่?”
หมอหลวงหลูตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาสงสัยว่าเหตุใดจู่ ๆนางจึงถามคำถามนี้ขึ้นมา
อวี้ชิงลั่วได้ขอให้สาวใช้นำอ่างน้ำมาให้ล้างมือ และกระซิบว่า “หากหมอหลวงหลูมีข้อกังวลใด ๆ ก็ลองมาจับชีพจรของท่านอ๋องของเจ้าทีหลังได้”
“… อะไรนะ เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“หมายความว่าบัดนี้องค์หญิงของเราต้องการเชิญเจ้าและทุกคนในห้องนี้ออกไปให้หมด” แม่นมเซียวยืนอยู่ที่ประตู นางถูกองครักษ์พยัคฆ์ขวางไว้ ทำให้ไม่อาจก้าวล้ำเข้าไปในประตูได้ แต่เสียงอันแผ่วเบาของนางกลับทรงพลังและชัดเจนมาก “องค์หญิงจะต้องล้างพิษให้อุปราช จะเป็นการดีหากหมอหลวงหลูหรือสาวใช้คนอื่น ๆ ไม่แตะต้องอุปราช เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลต่อการล้างพิษ”
อวี้ชิงลั่วแอบยกนิ้วให้แม่นมเซียว ทำดีมาก อธิบายชัดเจนมาก ได้ใจนางไปเลย
สีหน้าของหมอหลวงหลูเปลี่ยนไปทันที เพราะเหตุใด? เหตุใดพวกเขาถึงปล่อยให้คนสนิทของท่านอ๋องออกไป โดยทิ้งท่านไว้กับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดผู้นี้?
เป็นไปไม่ได้ เขาต้องอยู่ดูที่นี่ เพราะเกรงว่าสตรีผู้นี้จะทำให้เกิดปัญหา ไม่ว่านางจะเป็นหมอปีศาจหรือไม่ก็ตาม เขาก็ยังคิดว่านางเพียงแค่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ไม่เห็นว่านางจะมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมตรงไหน
เขารู้ในสิ่งที่นางพูดอยู่แล้ว และหมอหลวงคนอื่น ๆ ก็วินิจฉัยเช่นนี้ด้วย ถ้านางมีความสามารถจริง นางก็คงจะล้างพิษก่อนออกคำสั่งเขา
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ หมอหลวงหลูก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างท่านอ๋อง หากองค์หญิงต้องการล้างพิษ ข้าก็สามารถทำได้เช่นกัน”
อวี้ชิงลั่วเริ่มเช็ดมือแล้วเริ่มจัดระเบียบกระเป๋าอุปกรณ์การแพทย์ที่ด้านข้างเงียบ ๆ จากนั้นหยิบมีดผ่าตัดที่เพิ่งใช้กับซ่างกวนจิ่นลงไปไว้ในน้ำ เพื่อล้างฆ่าเชื้อและเก็บไว้
แม่นมเซียวเห็นการเคลื่อนไหวของนางราบรื่นและชัดเจน นางพยักหน้าเล็กน้อย และสีหน้าของนางก็เคร่งขรึมมาก “หากเป็นเช่นนั้น หมอหลวงหลูก็หาวิธีล้างพิษในร่างของอุปราชเองเถิด องค์หญิง ให้หม่อมฉันนำถุงยานี้ให้เขาเลยนะเพคะ”
หมอหลวงหลูตะลึง จากนั้นก็เห็นอวี้ชิงลั่วจัดของ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจริง ๆ
เขาล้างพิษให้ท่านอ๋องได้หรือ? หากเขามีวิธีจริง เขาจะต้องมาฟังความเห็นดูถูกเหยียดหยามของพวกเขาที่นี่หรือ?
“… องค์หญิง ท่าน ท่านสัญญากับฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเฟิงชางไว้แล้ว ถ้าหากตอนนี้ท่านไม่สนใจแล้ว ท่านจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร?”
“อธิบายหรือ?” อวี้ชิงลั่วถามเขาขณะพยายามกลั้นหัวเราะ “ข้าจะต้องอธิบายอะไรงั้นหรือ? หากข้าบอกว่าข้ามีทักษะพร้อม และมีหัวใจที่จะรักษาและช่วยชีวิตผู้คน แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือ และทำให้การล้างพิษล้มเหลว เช่นนี้ดีหรือไม่? ยิ่งกว่านั้นคือเรายังเป็นองค์หญิงผู้เปี่ยมพรสวรรค์แห่งอาณาจักรเทียนอวี่ ซึ่งปกติก็ได้รับการเอาอกเอาใจและมีผู้อื่นคอยรับใช้อยู่เสมอ แล้วเหตุใดข้าต้องมายุ่งเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บที่นี่ และต้องมาเสียอารมณ์เพราะคนมีตาหามีแววไม่ราวกับกบที่อยู่ก้นบ่อเช่นเจ้าอีก?”
หมอหลวงหลูอึ้งจนพูดไม่ออก ใช่แล้ว เขาลืมไปได้อย่างไรว่านางเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ ไม่ใช่ข้ารับใช้ของอาณาจักรจิงเหลย อีกทั้งยังไม่ใช่สามัญชนของอาณาจักรเฟิงชางด้วย นางมีสิทธิ์ปฏิเสธการรักษาท่านอ๋อง แต่…
หมอหลวงหลูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขากังวลเรื่องที่อุปราชจะต้องอยู่คนเดียวในห้อง แต่ก็กังวลเพราะคำพูดของอวี้ชิงลั่วด้วย คนในห้องต่างมองหน้ากัน และก้มหน้าลงเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร
อวี้ชิงลั่วไม่สนใจ นางไม่ค่อยเต็มใจมาที่นี่อยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ย่อมได้
“ประเดี๋ยวก่อน” ขณะที่อวี้ชิงลั่วกำลังยกเท้าขึ้นเตรียมก้าวออกจากประตู ทันใดนั้นก็มีคนมายืนอยู่ตรงหน้านาง นางมองเขาและครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะจำได้ว่าคนผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าองครักษ์พยัคฆ์ที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก
“กระหม่อมคือหัวหน้าองครักษ์พยัคฆ์กวนอู๋ กระหม่อมขอร้ององค์หญิง ให้อยู่ช่วยล้างพิษให้ท่านอ๋องก่อนด้วยเถิด” เสื้อผ้าของกวนอู๋เปียกโชก และใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึม เขาถูกองครักษ์พยัคฆ์ที่เผชิญหน้ากับอวี้ชิงลั่วเรียกตัวเข้ามา แม้สีหน้าของเขาจะเย็นชา แต่ในดวงตาก็มีร่องรอยของความวิตกกังวลอยู่
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ซ่างกวนจิ่นปลอดภัย
“หากองค์หญิงจะล้างพิษ ไม่ว่าจะคำสั่งใด ๆ กระหม่อมก็จะเชื่อฟัง ฉะนั้นที่นี่จะต้องไม่มีใครอยู่ องค์หญิงจะได้ปฏิบัติงานอย่างอิสระและสะดวกที่สุด”
หลังจากที่กวนอู๋พูดจบ เขาก็โบกมือให้องครักษ์พยัคฆ์สองคนในห้องเริ่มไล่ผู้คนออกไป
สาวใช้ออกไปจนหมด และในที่สุดก็มีเพียงอวี้ชิงลั่ว, กวนอู๋และหมอหลวงหลูเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้อง
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่ากวนอู๋จะเป็นคนฉลาด นางหันหน้าไปมองหมอหลวงหลูด้วยสายตาหยิ่งผยองและฉายแววยั่วยุ
สีหน้าของหมอหลวงหลูแสดงถึงความไม่พอใจมาก เขาทั้งรู้สึกขุ่นเคือง หมดหนทางและโกรธเกรี้ยว หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็สะบัดแขนเสื้อ และพูดกับกวนอู๋อย่างเย็นชาว่า “หากมีอะไรเกิดขึ้น หัวของเจ้าได้หลุดออกจากบ่าแน่ ฮึ่ม”
เขาพูดแล้วจ้องไปยังอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง และเดินออกไปด้วยความฉุนเฉียว
แต่เมื่อเขาเดินออกไปนอกห้องแล้วก็พลันหยุดฝีเท้า ก่อนจะขยับเก้าอี้มานั่งลงตรงทางเดิน ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงเป็นห่วงซ่างกวนจิ่น หรือไม่ก็…ยังอยากเอาชนะอยู่
กวนอู๋หยิบถุงยาจากมือของแม่นมเซียวมายื่นให้อวี้ชิงลั่วด้วยความเคารพ เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและพูดว่า “เชิญ”
อวี้ชิงลั่วแสดงอาการพึงพอใจ และจ้องไปที่หมอหลวงหลูเงียบ ๆ จากนั้นก็หันหลังกลับด้วยรอยยิ้ม และเดินไปที่ขอบเตียงอีกครั้ง
คิ้วของซ่างกวนจิ่นกระตุกอีกครั้ง พิษนั้นค่อนข้างร้ายแรง และจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
“หัวหน้ากวน…”
“องค์หญิงสามารถเรียกกระหม่อมว่ากวนอู๋ได้พ่ะย่ะค่ะ” กวนอู๋รออยู่นอกประตู และก้าวเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเรียก “องค์หญิงมีรับสั่งอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองซ่างกวนจิ่น และขมวดคิ้วขณะพูดว่า “ไปหาสาวใช้ที่มือเท้าคล่องแคล่วมาที่นี่”
หมอหลวงหลูที่อยู่นอกประตูได้ยินอย่างชัดเจน จึงรีบกระโดดขึ้นจากเก้าอี้ “ข้ามาแล้ว”
“ไม่ต้อง” อวี้ชิงลั่วปฏิเสธทันที ทำให้หมอหลวงหลูตกใจและสบถในใจ การมีเขาอยู่ใกล้ ๆ ส่งผลต่ออารมณ์ของนาง นางจึงทำเช่นนี้กับเขาหรือ?
กวนอู๋ไม่สนใจหมอหลวงหลูที่เริ่มลูบเคราและจ้องมองมาที่เขา และในไม่ช้าเขาก็พาหญิงสาวที่น่าเชื่อถือและฉลาดเฉลียวเข้ามา
อวี้ชิงลั่วแค่ขอให้นางมาเป็นผู้ช่วย ส่วนอาการบาดเจ็บของซ่างกวนจิ่น นางยังคงต้องจัดการด้วยตัวเอง
นางรีบปิดประตูและเปิดถุงยาออก แล้วตรวจสอบดวงตา คอ ปาก และจมูกของซ่างกวนจิ่นอย่างระมัดระวัง ก่อนจะบดยาเม็ดสองเม็ดมาใส่ในแผลบนแขนที่นางเพิ่งกรีดออก
ซ่างกวนจิ่นพ่นลมหายใจออกมาทันที อวี้ชิงลั่วยังคงขมวดคิ้ว ขณะจับแขนของเขาขึ้น และเอาผ้าพันแผลที่พันรอบตัวเขาออก แล้วเย็บแผลใหม่อีกครั้ง
สาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหลังนางตกตะลึง แต่โชคดีที่นางยังควบคุมตัวเองได้ แค่ทำตามที่อวี้ชิงลั่วอธิบายอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
เวลาผ่านไปทีละน้อย ฝนข้างนอกหยุดตกแล้ว และทั้งห้องก็เงียบสงัดมาก
จนกระทั่งหนึ่งชั่วยามต่อมา สาวใช้ก็ออกมาจากห้องพร้อมกับอ่างใส่เลือดที่เปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ กวนอู๋และหมอหลวงหลูอดไม่ได้ที่จะสบายใจขึ้น และมองหน้ากัน
อวี้ชิงลั่วหายใจออกเบา ๆ และดึงเข็มเงินที่ปักอยู่บนศีรษะของซ่างกวนจิ่นออก
“อืม…” ทันใดนั้นซ่างกวนจิ่นก็ร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ด้วยความที่ยังไม่ได้สติ เขาจึงเผลอคว้าข้อมือของนางไว้ โดยไม่แม้แต่จะลืมตา ก่อนจะบีบอย่างรุนแรงจนข้อมือของนางเกือบหัก
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อย่าขัดชิงลั่วสิ เดี๋ยวอุปราชก็ได้ตายจริงๆ หรอก
ไหหม่า(海馬)