อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 529 เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่
บทที่ 529 เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?
บทที่ 529 เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?
“เฮ้อ…” อวี้ชิงลั่วสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ บุคคลผู้นี้มีพละกำลังมหาศาลนัก แทบจะสังหารนางได้อยู่แล้ว
“ผู้ใดกัน” ซ่างกวนจิ่นลืมตาขึ้นก่อนที่นางจะดึงมือออก ดวงตาอันเฉียบแหลมและเย็นชาของเขาเปล่งประกายอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าวินาทีต่อมาเขาพลันตกตะลึง “นั่นเจ้าหรือ?”
“ใช่แล้ว ข้ามีเมตตาเพียงพอที่จะนำชีวิตเจ้าให้หวนคืน แต่เจ้ากลับใช้โอกาสนี้ในการแก้แค้น สมควรตายยิ่งนัก” ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วพลันหม่นลง มือข้างหนึ่งของนางทุบไปยังบาดแผลบนเอวของเขาพลางกดลงอย่างรุนแรง
รูม่านตาของซ่างกวนจิ่นพลันหดลง เขาจับมือนางให้เบาแรงโดยไม่รู้ตัวพลางโอดครวญด้วยความเจ็บปวด “แม่นางผู้นี้…”
อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีพลางจ้องมองเขาอย่างเหยียดหยาม สะบัดข้อมือด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ลอบสบถด้วยความไม่พอใจ
กวนอู๋ซึ่งอยู่นอกประตูได้ยินการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจึงเปิดม่านพลันรีบเร่งเข้ามา
ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังซ่างกวนจิ่นซึ่งอยู่บนเตียง เมื่อเห็นอีกฝ่ายลืมตาตื่นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมยินดี ไม่นานจากนั้นเขาพลันเหลือบมองเห็นเลือดที่ไหลรินจากบาดแผล ย้อมผ้าพันแผลของอีกซ่างกวนจิ่นจนเป็นสีแดง จึงขมวดคิ้วพลางถามหญิงรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
หญิงรับใช้เหลือบมองอวี้ชิงลั่วด้วยท่าทางตกตะลึง จากนั้นจึงหันมองซ่างกวนจิ่นพลางขมวดคิ้ว เหงื่อเริ่มไหล่รินจากหน้าผากของนางอย่างเชื่องช้า ก่อนจะตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก “เมื่อ… เมื่อครู่องค์หญิงใช้มือกดไปยังบาดแผลของท่านอ๋องอย่างรุนแรง…”
เมื่อได้ยินดังนั้น การแสดงออกของกวนอู๋พลันเปลี่ยนไป เขาจ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยอย่างดุร้าย มือขวาเตะไปยังกระบี่ที่เอวของตน
“ขอเดชะฯ องค์หญิงทรงทำเช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
อวี้ชิงลั่วยังคงลูบมือที่ได้รับความเจ็บปวดพลางกล่าวเยาะเย้ย “ใช่ และข้าจงใจทำเช่นนั้น ข้ากดไปยังบาดแผลของเขา คนเช่นนี้สมควรที่จะได้รับความเจ็บปวด”
การแสดงออกของกวนอู๋เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาชักกระบี่ออกมาทันที
ขณะกำลังจะก้าวเดินสู่เบื้องหน้า เขาพลันได้ยินเสียงรับสั่งแผ่วเบาที่เปี่ยมด้วยความเย็นชา จากเตียง “กวนอู๋ ออกไปเสีย”
“แต่ท่านอ๋อง อาการบาดเจ็บ…”
“ออกไป” ซ่างกวนจิ่นเอ่ยอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นชากว่าที่เคย
กวนอู๋ไม่อาจหาญที่จะคัดคาดอีกต่อไป เขาเหลือมองอวี้ชิงลั่วซึ่งอยู่ด้านหลังด้วยแววตาข่มขู่ก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องแห่งนี้ไป
ความเจ็บปวดของซ่างกวนจิ่นบรรเทาลงครู่หนึ่ง เขาเหลือบมองอวี้ชิวลั่วที่ยังคงสะบัดข้อมือด้วยความเกรี้ยวโกรธ ริมฝีปากของนางเม้มสนิท ซ่างกวนจิ่นหันศีรษะเอ่ยต่อหญิงรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง “ไปนำน้ำแข็งมาให้ข้า”
“เจ้าค่ะท่านอ๋อง” หญิงรับใช้วางสิ่งของในมือก่อนจะรีบเร่งเดินออกไป
ซ่างกวนจิ่นเอนกายลงบนเตียงด้วยความยากลำบากพลางใช้มือกดบริเวณปากแผลเพื่อห้ามเลือด จากนั้นจึงเอ่ยด้วยความโกรธกริ้ว “เจ้าควรมาช่วยหยุดเลือดของเราก่อนไม่ใช่หรือ?”
“เชิญท่านสิ้นลมเถิด ท่านกระทำตนเช่นนี้ยังหมายให้ข้าช่วยห้ามเลือดอีกหรือ?” อวี้ชิงลั่วกล่าวอย่างเย็นชา “ข้อมือของข้าบาดเจ็บดุจแตกหัก ไม่อาจห้ามเลือดให้ท่านได้ เชิญท่านเรียกผู้อื่นเถิด”
ซ่างกวนจิ่นหลับตาลงอีกครั้งพลางแค่นเสียงหัวเราะเล็กน้อย “ข้าขออภัย ข้าไม่ล่วงรู้มาก่อนว่าเป็นเจ้า”
กวนอู๋ซึ่งอยู่นอกประตูพลันหยุดนิ่ง แม้คำพูดของซ่างกวนจิ่นจะแผ่วเบา ทว่าเขายังคงได้ยินพลางแอบฟังการเคลื่อนไหวภายในอย่างระมัดระวัง เจ้านายของพวกเขา ผู้แทนพระองค์แห่งอาณาจักรจิงเหลยไม่อาจทำราชกิจบรรลุผล ทั้งยังเอ่ยขออภัยผู้อื่น โดยเฉพาะ… สตรีผู้นั้นหรือ?
กวนอู่นิ่งสงัด แม้อุปราชต้องเผชิญหน้ากับฮ่องเต้แห่งอาณาจักรจิงเหลย ท่าทางของเขาก็ยังคงหยิ่งผยองและทรงอำนาจ เขาไม่เคยเอ่ยขออภัยต่อผู้ใดเลย
หญิงรับใช้ที่จากไปเมื่อครู่รีบเปิดม่านพร้อมนำก้อนน้ำแข็งเข้ามา
“ท่านอ๋อง”
“มอบให้แก่แม่นางชิงเถิด” ซ่างกวนจิ่นพยายามเค้นเสียงกล่าว เขารู้สึกเจ็บบริเวณทรวงอก ทว่าไม่เอ่ยให้ผู้ใดได้ทราบ เขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรงดุจโดนยาพิษ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตนจะจบลงเช่นนี้ในสักวัน
หญิงรับใช้และอวี้ชิงลั่วตกตะลึงครู่หนึ่ง ความเกรี้ยวโกรธของนางลดลงเล็กน้อย ทุกสิ่งดูสมดุลยิ่งนัก
เขารู้ดีถึงความผิดของตน ตระหนักได้ดีถึงสิ่งที่ได้กระทำผิดพลาด
อวี้ชิงลั่วสูดลมหายใจลึก หยิบน้ำแข็งจากมือหญิงรับใช้ที่ยื่นให้เพื่อประคบมือของตน ทว่าก็ไม่ช่วยมากนัก นางเพียงถูทั่วมืออย่างแผ่วเบาก่อนจะยื่นคืนให้กับหญิงรับใช้
หลังสตรีรับใช้จากไปพร้อมก้อนน้ำแข็ง อวี้ชิวลั่วก็พลันหรี่ตาจ้องมองซ่างกวนจิ่น
เพื่อเห็นแก่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี นางจึงทำการห้ามเลือดอีกครั้งแล้วพันผ้าพันแผลให้เขาใหม่
หลังจัดระเบียบร่างกายอีกครั้ง อวี้ชิงลั่วพลันเอ่ย “พิษในร่างกายของท่านยังไม่ถูกกำจัดโดยสมบูรณ์ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามวัน ในช่วงเวลานี้ห้ามท่านใช้พลังหรือกระทำการอันเป็นเหตุรบกวนต่อลมปราณแห่งตน ไม่เช่นนั้นพิษอาจโจมตีหัวใจท่านได้ โปรดอดทนรออีกสักสองสามวัน”
ซ่างกวนจิ่นลืมตาขึ้นพลางขมวดคิ้วเก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “ได้สิ หากเจ้าหมายจะใช้เวลามากกว่านี้ก็จงบอกกล่าว”
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขาด้วยความแปลกใจก่อนจะกล่าวต่อ “ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเสียเลือดไปมาก ข้าจะสั่งให้คนครัวปรุงอาหารบำรุงโลหิตให้แก่ท่าน อืม… ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้พวกเขาภายหลัง มีบางสิ่งที่ท่านต้องหลีกเลี่ยง…”
“อืม”
“อาการบาดเจ็บภายในของท่านต้องทำการฟื้นฟูอย่างเชื่องช้าและค่อยเป็นค่อยไป จงอย่าลืมว่าท่านถูกห้ามมิให้ใช้กำลังภายใน วันนี้ขอท่านจงพักผ่อนบนเตียง ท่านยังไม่ได้รับอนุญาตให้ลุกขึ้นเดิน”
ซ่างกวนจิ่นลืมตาพลางเหลือบมองนางอีกครา “ข้าจะเชื่อฟังเจ้า”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดในใจ เหตุใดนางจึงคิดว่าซ่างกวนจิ่น…ดูแปลกพิกลไป?
“มีสิ่งใดหมายจะกล่าวต่อข้าอีกหรือไม่?”
อวี้ชิงลั่วผงกศีรษะพลางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ย่อมมี ขอท่านโปรดอย่าลืมจ่ายค่าหมอให้แก่ข้า ครอบครัวของข้ายังต้องกินและดื่ม ไม่อาจขาดเงินเพื่อจุนเจือพวกเขาได้”
ซ่างกวนจิ่นหรี่ตาลงเล็กน้อย “ทำไมเล่า เย่ซิวตู๋ไม่อาจดูแลเจ้าได้หรือ? หากเขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้ เจ้าก็กลับไปยังอาณาจักรจิงเหลยพร้อมเราผู้นี้ได้ ที่แห่งนั้น เจ้าจะได้ทุกสิ่งตามปรารถนา”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วพลันกระตุก “ไม่เกี่ยวข้องว่าเขาสามารถดูแลข้าได้หรือไม่ แต่นี่คือสิ่งที่ข้าสมควรได้รับ ข้าเป็นหมอ ข้ารักษาและช่วยชีวิตผู้คนเพื่อแลกกับเงินของพวกเขา ถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่ชอบธรรม ไม่ติดค้างหนี้บุญคุณต่อกัน”
ไม่ติดค้างหนี้บุญคุณต่อกัน? ใบหน้าของซ่างกวนจิ่นพลันหม่นลง ริมฝีปากของเขาเม้มสนิทพลางหลับตา
อวี้ชิงลั่วยักไหล่ “ข้าต้องขอตัวก่อน แล้วพบกันวันหน้า” นางรู้สึกเหนื่อยนัก เขาไปยุยงใครเข้ากันแน่? จนคนผู้นั้นถึงกับหมายจะสังหารเขาภายในอาณาจักรเฟิงชาง ช่างเป็นการกระทำที่เลวร้ายยิ่งนัก
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จสรรพ อวี้ชิงลั่วก็เดินออกจากประตูแล้วจากไป
ซ่างกวนจิ่นลืมตาขึ้นทันใดพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่ได้ยินชัดเจน “อย่างไรก็ตาม ถือว่าเราผู้นี้เป็นหนี้บุญคุณเจ้า”
อวี้ชิงลั่วหยุดลงกะทันหัน มุมปากของนางกระตุกอีกครา “ชีวิตของท่านมีค่ายิ่ง อย่าได้ลำบากใจ แน่นอนว่าข้าจะเรียกเก็บเงินอย่างเหมาะสม”
เมื่อเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใดอีก นางจึงเดินออกจากห้องไป
แม่นมเซียวเห็นการแสดงออกที่อ่อนไหวของนางจึงรีบเอื้อมมือช่วยถือของพร้อมเดินจากไปด้วยกัน
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วแน่น การสนทนากับซ่างกวนจิ่นทำให้นางรู้สึกปวดศีรษะนัก
ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่เคยปรารถนาจะได้รับความโปรดปรานจากซ่างกวนจิ่น คราก่อนที่นางช่วยชีวิตฉีหานเว่ย สิ่งเดียวที่นางร้องขอจากเขาคือเงิน นี่เป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยให้นางลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายดายยิ่งขึ้นในอนาคต
หากกล่าวตามหลักเหตุผล ซ่างกวนจิ่นเป็นอุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลย การทำให้เขารู้สึกถึงบุญคุณชีวิตที่มีต่อกันก็เท่ากับการหาทางออกอีกทางหนึ่งให้แก่ตน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นางหมายปองอย่างแท้จริงไม่ใช่หนี้บุญคุณจากซ่างกวนจิ่น เพราะบุคคลผู้นี้อันตรายยิ่ง
“ในเมื่อรู้ถึงอันตรายแล้ว เจ้ามาทำสิ่งใดที่นี่?” น้ำเสียงอันเย็นชาพลันดังก้องในหูอวี้ชิงลั่ว นางตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเหลือบมองพบเย่ซิวตู๋ซึ่งกำลังจ้องมองมายังนางเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คนอย่างอุปราชนี่ไม่ควรติดค้างอะไรไว้จริง ๆ กลัวว่าต้องจ่ายคืนเป็นเท่าตัว
ท่านอ๋องซิวมาตามพระชายากลับแล้ว
ไหหม่า(海馬)