อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 532 ไม่เสียโฉม
ตอนที่ 532 ไม่เสียโฉม
ตอนที่ 532 ไม่เสียโฉม
อาเฟิงขมวดคิ้ว หากตอนนี้เขากระโจนออกไปนอกหน้าต่าง เสิ่นอิงคงได้สังเกตเห็นและจับเขาได้แน่
หนานหนานคิดแบบนั้นเช่นกัน เขากวาดสายตามองและรีบดึงให้คนอายุมากกว่าซ่อนตัวหลังฉากกั้นด้านใน
ก่อนกระซิบบอก “ท่านลุงเสิ่นวิทยายุทธ์ล้ำเลิศ ท่านต้องกลั้นหายใจเอาไว้ ข้าจะรีบไล่เขากลับไป”
อาเฟิงสีหน้าเคร่งเครียด เขาพยักหน้ารับเบา ๆ
หนานหนานพ่นลมหายใจก่อนเดินออกไปข้างนอก ประตูห้องเปิดออกก่อนจะเห็นเสิ่นอิงเดินยิ้มเข้ามา
ทันทีที่ฉีกยิ้มก้าวเข้ามาในห้อง คิ้วก็พลันขมวดมุ่นพร้อมใบหน้านิ่ว
เขาหันขวับมองหนานหนานด้วยความสงสัย ในขณะอีกฝ่ายวางหนังสือสารภาพผิดบนโต๊ะขณะปั้นหน้าใสซื่อพลางถามแก้เก้อ “ท่านลุงเสิ่น ท่านมาหาข้าทำไมหรือ”
แปลกจริง เขาต้องอยู่ที่วังไม่ใช่หรือ เหตุใดอยู่ ๆ ถึงได้ปรากฏตัวกะทันหันแบบนี้ ทำเอาเป็นกังวลแทบแย่
สายตาเฉียบขาดของเสิ่นอิงสอดส่ายไปทั่วห้องครู่หนึ่ง ก่อนหัวเราะขึ้นมา “ข้าได้ยินว่าเจ้าถามหาท่านแม่อยู่ ตอนนี้นางกลับมาแล้ว ลุงเสิ่นจึงมาบอกข่าวกับเจ้า”
หนานหนานดวงตาเป็นประกาย “ท่านแม่กลับมาแล้วหรือ” เขารีบเปิดหนังสือสารภาพผิดและเหลือบมองมัน ก่อนเก็บลงไปทันที จากนั้นจึงคว้ามือเสิ่นอิงไว้ “พาข้าเดินไปหาท่านแม่ที”
เสื่นอิงเดินไปได้สองก้าวก็ชะงักฝีเท้า สายตาเสหรี่มองมองห้องด้านในด้านหลังม่านลูกปัด
หนานหนานผงะไปชั่วขณะ ในใจเต้นระรัว “มีอะไรหรือ”
“หนานหนาน” เขาละสายตามามองเด็กชายตัวน้อยและเอ่ยอย่างจริงจัง “ตอนนี้ท่านแม่เจ้ายังโกรธ หากมีเรื่องอะไรก็ไม่ควรปิดบัง รู้ใช่ไหม”
หนานหนานแยกเขี้ยวใส่ก่อนไหล่เล็กจะลู่ตก ท่านลุงเสิ่น มันเป็นคำข่มขู่ชัด ๆ มาขู่กันแบบนี้ใจร้ายเกินไปแล้ว
“ท่านลุงเสิ่น ต่อให้ท่านไม่เตือนเรื่องโทสะของท่านแม่ ข้าเองก็คิดจะไปขอโทษอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ไปกันเถอะ เดี๋ยวท่านแม่จะโกรธยิ่งกว่าเดิม”
หนานหนานจูงมือเขาออกไปข้างนอก สายตาเสิ่นอิงผละจากด้านหลังฉากกั้นพลางลอบถอนหายใจ ตัดสินใจไม่สืบสาวเอาความแต่ตามเด็กน้อยออกไปนอกลาน
กระทั่งพวกเขาก้าวพ้นมา อาเฟิงจึงเดินออกจากหลังฉากกั้นและถอนหายใจเบา ก่อนรีบกระโดดออกทางหน้าต่างหนีหายตัวไป
เสิ่นอิงเดินมาส่งหนานหนานที่ประตู เขาได้ยินว่าเย่ซิวตู๋กลับไปแล้ว ใคร่ครวญครู่หนึ่งก็หันหลังกลับ สถานการณ์ในห้องหนานหนานเมื่อครู่ยังทำให้เขาตงิดใจ จึงต้องไปรายงานให้ท่านอ๋องทราบ
หนานหนานไม่ได้สนใจ ถึงอย่างไรเขาก็กำลังจะอ่านหนังสือสารภาพผิด ไม่อาจให้คนอื่นได้ยินได้ ไม่เช่นนั้นคงอับอายแย่
ด้วยเหตุนี้จึงโบกมือไล่เสิ่นอิงยกใหญ่ “ท่านไปได้แล้วๆ”
ท่าทางรังเกียจเหมือนไล่แมลงวันทำให้คนอายุมากกว่าน้ำตาตก มุมปากกระตุกก่อนจากไปพร้อมความขุ่นเคืองใจเล็กน้อย
หลังจากนั้นหนานหนานสูดหายใจเข้าออกเฮือกใหญ่คล้ายพยายามทำใจ ใบหน้าเล็กเหยเกอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนก้าวไปด้านในราวกับเห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ*
*เห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ = ไม่เกรงกลัวต่อความตาย
เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เห็นสาวใช้ที่เคยพบกำลังออกไปข้างนอก
เมื่ออีกฝ่ายเห็นเขาก็ส่งยิ้มให้ทันที พลางพุ่งตรงมาหาและกระซิบบอก “ซื่อจื่อน้อย ข้าน้อยว่าจะไปรายงานท่านอยู่พอดีว่านายหญิงอวี้กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”
หนานหนานพยักหน้าหงึกหงัก โดยกำลังง่วนอยู่กับการทำใจ เขาไม่ได้เอ่ยอะไรกับนางนัก ก่อนเดินเข้าไปด้านในขณะพ่นลมหายใจ
สาวใช้ชะงักไปครู่หนึ่ง นางยักไหล่และพึมพำขึ้น “นายหญิงอวี้ถูกท่านอ๋องอุ้มกลับมาเจ้าคะ”
“เฮือก… แค่ก ๆๆ” ลมหายใจหนานหนานติดขัดเมื่อได้ยินประโยคนี้ เขาหันไปพร้อมร้อง ‘หือ’ และคว้ามือนางไว้ ก่อนถามหน้าตาตื่น “เจ้า เมื่อครู่พูดว่าอย่างไรนะ บอกว่าท่านพ่ออุ้มท่านแม่เหรอ”
“… ใช่ ใช่เจ้าค่ะ” สาวใช้ตกใจกับการกระทำของเขา ก่อนรีบเล่าสิ่งที่เห็น “แม่นมเซียวไม่ได้กลับมาด้วยกันเจ้าค่ะ นายหญิงอวี้หลับตา เสื้อผ้าท่านอ๋องยังอยู่บนตัวนายหญิงอยู่เลยเจ้าค่ะ”
แม่นมเซียวไม่ได้กลับมา ท่านแม่หมดสติ แล้วท่านพ่อก็อุ้มกลับมาหรือ
หนานหนานครุ่นคิดโดนเร็วและสรุปได้ว่ามารดาของตนกำลังได้รับบาดเจ็บ
ท่านแม่ที่รักของเขาอยู่ ๆ ก็ได้รับ! บาด! เจ็บ!
เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ใหญ่ ใหญ่เสียยิ่งกว่าฟ้าถล่ม
หนานหนานทิ้งสาวใช้ที่มองมาอย่างงุนงง และวิ่งพรวดพราดเข้ามาในห้องอวี้ชิงลั่วด้วยความเร็วสายฟ้าแลบ
ประตูถูกถีบออกดัง ‘โครม’ ทำให้อวี้ชิงลั่วที่นอนตัวสั่นอยู่บนเตียงไม่รู้วันคืนสะดุ้งตื่นขึ้น นางขมวดคิ้วและได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยของหนานหนาน
มุมปากยกยิ้มขึ้นก่อนพลิกตัวกลับไปนอนต่อ
ลูกชายมาถึงตัวนางภายในสองก้าว เขาแหวกม่านและปีนขึ้นเตียงไม่พูดไม่จา สะบัดผ้าห่มบางบนตัวมารดาออก และเริ่มสำรวจใบหน้านาง
เมื่อเห็นหน้ายังเป็นเหมือนเดิม ไม่มีบาดแผลหรือรอยเลือดก็โล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็โถมตัวเข้าหาและ ‘บ่นไปเรื่อย’ ก่อนพึมพำ “ดีที่ไม่เสียโฉม”
ใบหน้าอวี้ชิงลั่วเลอะน้ำลายเขาไปหมด สีหน้านิ่งที่แสร้งเป็นหลับเบ้ขึ้นมาบ้าง
มือเล็กของหนานหนานไล่ต่ำลง ตรวจดูลำคอนาง ทำให้นิ้วกระแทกคางอย่างแรง
“ให้ตายเถอะ…” อวี้ชิงลั่วคิด วันนี้นางดวงซวยอะไรนักหนากัน ตอนแรกก็โดนซ่างกวนจินทำข้อมือเจ็บ ตอนนี้ยังมาโดนหนานหนานทำร้ายร่างกาย สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“อ๊ะ ท่านแม่ ตื่นแล้วเหรอ” หนานหนานเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ สายตาลุกวาวเมื่อได้ยินเสียงนาง
อวี้ชิงลั่วดึงตัวเขามานอนบนเตียง “ข้านอนอยู่ เจ้ามาทำอะไร”
“นอนหรือ” เด็กชายกะพริบตายืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างเตียง ก่อนนิ่งไปและเริ่มปีนขึ้นเตียงอีกครั้ง หลังมองโดยละเอียดหลายครั้งจนเห็นว่าใบหน้ายังมีเลือดฝาดก็โล่งใจ และยกมือเล็กทุบอกตนเอง “ข้ากลัวแทบแย่”
“กลัวอะไรของเจ้า”
อวี้ชิงลั่วหยิบผ้าเช็ดหน้าใต้หมอนมาเช็ดหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำลาย
หนานหนานชะงักคล้ายคิดมากในหัว เจ้าตัวน้อยกำหมัด มุมปากกระตุกก่อนโพล่งขึ้น “ท่านแม่ สาวใช้ด้านนอกบอกว่าท่านแม่อาการหนัก บอกว่าได้รับบาดเจ็บ ท่านไม่รู้หรอกว่าข้าเป็นห่วงแค่ไหน”
อวี้ชิงลั่วพ่นลมพลางเลิกคิ้วถามเขา “สาวใช้คนไหนบอกแบบนั้น”
“เอ่อ… ข้าไม่ทันได้มอง มีสาวใช้มากมายในตำหนัก ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร จริงไหม”
นางชำเลืองมองเขาอย่างเอือมระอา ก่อนวางผ้าเช็ดหน้าลง “เจ้าต่างหากที่คิดไปเองว่าข้าบาดเจ็บและหมดสติไป”
หนานหนานยกศีรษะมองผ้าปูเตียงเหนือหัวนางก่อนหัวเราะ
อวี้ชิงลั่วคร้านจะใส่ใจเขา จึงหันหลังปิดตานอนหลับต่อ
ฝ่ายลูกชายเบิกตากว้าง ผ่านไปพักใหญ่จึงหยิบหนังสือสารภาพผิดที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อออกมา
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ชิงลั่วจะได้หลับดีๆ สักครั้งไหมเนี่ย เดี๋ยวหนานหนานอ่านหนังสือสารภาพผิดก็น่าจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้วล่ะ
ไหหม่า(海馬)