อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 533 น้ำเสียงอันมุ่งมั่น
ตอนที่ 533 น้ำเสียงอันมุ่งมั่น
ตอนที่ 533 น้ำเสียงอันมุ่งมั่น
อวี้ชิงลั่วเพียงได้ยินเสียงขลุกขลักจากด้านหลัง แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวน้อยกำลังทำอะไร
ตอนนี้นางกำลังง่วงงุนจึงคร้านจะใส่ใจ แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกระแอมของหนานหนาน จึงรีบหันหน้าไปมอง และเห็นว่าบุตรชายกำลังปั้นสีหน้าจริงจัง
“ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งหลับ ข้ามีบางอย่างจะพูด”
“ข้าง่วง อย่ามากวน” เจ้าเด็กนี่ลืมไปแล้วหรือว่านางยังโกรธเขาอยู่ ยังกล้ามาก่อกวนกันในเวลาแบบนี้อีก
เมื่อเห็นนางหันหลังให้อีกครั้ง เด็กน้อยก็ไม่กล้าเอื้อมมือไปขยับตัวนาง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ทำเพียงปีนข้ามไปนั่งเตียงด้านในแทน
หลังจากนั้นก็กระแอมเสียงดัง
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์กับเสียงกระแอมไอนั้น ก่อนที่น้ำเสียงเล็กและขึงขังของหนานหนานจะลอยเข้าหูนาง
“ท่านแม่ ข้าผิดไปแล้ว!! สามคำเหล่านี้ข้าเอ่ยด้วยความมุ่งมั่น” หนานหนานอ่านประโยคในหนังสือสารภาพผิดก่อนสาธยายยืดยาว
อวี้ชิงลั่วข่มใจไม่มองค้อนใส่เขา ขณะกำมือที่อยู่ข้างตัวแน่น
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าไม่ควรปิดบังเรื่องใดกับท่าน แต่ลูกผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนี้สัญญาว่าจะบอกเรื่องสำคัญกับท่านแม่ทุกอย่าง แต่ข้ากลับทำตามคำพูดไม่ได้ ข้าจริงจังและทบทวนตนเองอยู่ทุกวันคืน ก่อนจะสรุปได้ว่ามีสามหนทางที่จะลงโทษข้าได้”
หนานหนานอ่านไปก็ลอบมองมารดาไปพลาง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนิ่งเฉยก็กลืนน้ำลายแล้วพูดต่อ “ข้อแรก คือการนอบน้อมขอโทษ ข้าคุยเรื่องนี้กับท่านพ่อเมื่อวานนี้ แม้ท่านพ่อจะบอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้แต่ก็ยังพอมีหวัง ข้อสองคือการงดข้าววันหนึ่ง ถึงมันจะเป็นการลงโทษที่โหดร้ายสำหรับข้า แต่ขอเพียงท่านแม่ไม่โกรธกันมันก็คุ้มค่า ข้อสาม…”
“พอแล้ว” ในที่สุดนางก็ทนเสียงเขาไม่ได้อีก ยิ่งเจ้าตัวไม่พูดเข้าประเด็นเสียทีนางก็รู้สึกเหลืออด
หนานหนานชะงักไปชั่วขณะ ลดมือที่ถือหนังสือสารภาพผิดลง ก่อนถามด้วยความประหลาดใจแกมงุนงง “มีอะไรหรือ หรือท่านแม่ตัดสินใจเลือกวิธีการลงโทษได้แล้ว”
เมื่อครู่เขาอ่านถึงข้อที่สองเท่านั้นมารดาก็บอกให้หยุด หรือว่า… อยากให้เขางดข้าวหนึ่งวันกัน?
“หนานหนาน” อวี้ชิงลั่วไม่คิดพูดอ้อมค้อมกับเขาอีกต่อไป วันนี้นางวุ่นวายไม่สบายใจมาทั้งวันแล้ว “บอกข้ามาว่าเจ้ามีความผิดอะไร”
เด็กน้อยทำตัวแข็งทื่อก่อนก้มหน้าลงพักหนึ่ง สีหน้าไม่ร่าเริงเหมือนคนที่เพิ่งพล่ามข้อความในหนังสือสารภาพผิดเมื่อครู่
ผ่านไปนานจึงได้ยินเขากล่าวแผ่วเบา “ข้าไม่ควรฝึกกำลังภายในที่ไม่เหมาะสมกับข้า
“ในเมื่อเจ้ารู้ว่าไม่เหมาะแล้วทำไมยังไปฝึกอีก”
“…” มือเล็กของหนานหนานขยำชายเสื้อแน่นและขยี้ไปมาจนรอยยับขึ้นเป็นวงไม่คลายออก
เขานิ่งเงียบ อวี้ชิงลั่วเองก็เช่นกัน
เขาห่อตัวลงโดยไม่มีใครพูดอะไร ความเงียบโรยตัวทั่วทั้งห้อง
ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงถอนหายใจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นของอวี้ชิงลั่วก็ดังขึ้น ก่อนนางจะกวักมือให้เขานอนลง
น้อยนักที่หนานหนานจะนอนข้างนางอย่างว่าง่าย มือเล็กของเขาคว้าจับมือมารดาไว้
“หนานหนาน ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้น ต้องการพึ่งพาตนเองได้ ต้องการปกป้องคนอื่น แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ควรทำเรื่องเสี่ยงอันตราย เข้าใจไหม”
หนานหนานเบิกตากว้างและเงยหน้ามองนาง “ท่านแม่ ท่านรู้ได้อย่างไร”
“วันต่อมาหลังจากเกิดเรื่องกับเหวินเทียน เจ้าก็ติดตามปรมาจารย์วิทยายุทธ์เหมิงลู่เพื่อแอบศึกษาวิชากำลังภายใน เจ้าเป็นลูกชายข้า ข้าจะไม่รู้ทันได้อย่างไร หนานหนาน เรื่องที่เจ้าต้องการปกป้องผู้อื่น ข้าเองก็มีความคิดนี้เช่นกัน ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น ข้าอยากให้ปลอดภัยและประสบความสำเร็จ ถ้าเจ้าบังเอิญบาดเจ็บระหว่างการฝึก ข้าจะทำอย่างไร”
“แม่พยายามยื้อชีวิตเจ้าให้อยู่บนโลกใบนี้ พยายามรักษาเจ้าที่ป่วยออดแอด จนในที่สุดก็เติบโตมาอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ แต่เจ้ากลับไม่เห็นค่าตนเองและเมินเฉยต่อความมุมานะบากบั่นของข้า หากเจ้าเจ็บตัวไปจะให้ข้า…”
“ไม่ใช่ๆ” หนานหนานลนลาน “ข้าไม่ได้เมินเฉยความมุมานะบากบั่นของท่านแม่ ข้าจดจำทุกคำสอนของท่านได้ขึ้นใจ ข้าเพียงบุ่มบ่ามคิดว่าตนเองสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ จะได้ช่วยเหลือท่านพ่อท่านแม่ บางทีไม่นานอาจพึ่งพาตนเองได้และไปตามหาแม่นมเก๋อได้”
แม่นมเก๋อหรือ เมื่อกล่าวถึงคนสำคัญของทั้งแม่ลูก อวี้ชิงลั่วก็อดเงียบลงไม่ได้
เมื่อคิดถึงเรื่องที่ปิดบังเอาไว้ อวี้ชิงลั่วก็สูดหายใจลึก นางต้องหาโอกาสเข้าวังให้ได้ ความรู้สึกของนางบอกว่าแม่นมเก๋อ… บางทีอาจเกี่ยวข้องกับเหมิงกุ้ยเฟย
หนานหนานเห็นนางเงียบก็เงยหน้ามองพลางกระตุกมือนาง “ท่านแม่…”
“หืม…”
“ข้าอ่านหนังสือสารภาพผิดต่อได้หรือยัง”
ความเศร้าสร้อยในใจนางปลิวหายไปในทันที นางก้มหน้ามองดุลูกชาย “อ่านอะไรของเจ้า ไร้สาระทั้งนั้น นอนไปดี ๆ เสีย ได้ยินแม่นมเซียวบอกว่าเจ้าตื่นแต่เช้าตรู่นี่”
“อืม… แต่ว่า…”
“หืม” อวี้ชิงลั่วมองเขาคล้ายเอ็ด
หนานหนานปั้นหน้าซื่อลูบท้องตนเอง “ท่านแม่ ตอนนี้ข้าไม่อยากหลับ ข้าอยากกินมากกว่า ข้าหิว”
เฮ้อ นี่มันหมูกลับชาติมาเกิดชัด ๆ กินจุขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
“เอาละ ลุกขึ้น ไปหาอะไรกิน กินให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ ไม่อย่างนั้นต่อไปไม่มีใครมาสนใจเจ้าแน่” นางห่วงว่าน้ำหนักของเขาจะขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ ภายภาคหน้าเห็นทีคงจะไม่ได้สืบทอดความหน้าตาดีของนางและเย่ซิวตู๋แน่
ถ้าเขาอ้วนลงพุง… อวี้ชิงลั่วถึงกับส่ายหน้าอย่างไม่กล้านึกถึงมัน
หนานหนานเช็ดน้ำลายก่อนชำเลืองมองหนังสือสารภาพผิดที่ถูกทิ้งไว้บนเตียง เขาเขียนมันมาตั้งนาน อ่านทบทวนอยู่หลายครั้ง ทั้งยังซ้อมพูดอยู่หลายหน แต่มันกลับเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง โหดร้ายยิ่งนัก
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฉวยโอกาสยามมารดาไม่ทันสังเกตตอนลุกขึ้น รีบยัดหนังสือสารภาพผิดไว้ใต้หมอนนางอย่างระแวดระวัง
เช่นนั้นหลังเขากลับไป ท่านแม่ก็จะพบมันและซาบซึ้งในตัวเขา ความโกรธจนอยากตีเขาแทบตายคงคลายลง
หนานหนานหันไปมองอวี้ชิงลั่ว และลุกขึ้นมายืนข้างเตียงพลางโน้มตัวลงสวมรองเท้า
ใส่เสร็จข้างหนึ่งก็พลันนึกบางอย่างขึ้นได้จึงเงยหน้าถาม “ท่านแม่ ท่านยังโกรธข้าอยู่หรือไม่” เขาแทบลืมจุดประสงค์ของการมาที่นี่
อวี้ชิงลั่วอดกลอกตาใส่ไม่ได้ “ดีที่เจ้ายังรู้ตัวว่าตนเองทำผิด คราวหน้าอย่าทำแบบนี้อีกข้าจะได้ไม่ต้องโกรธเจ้า”
เด็กชายพยักหน้ารับขึงขังก่อนใส่รองเท้าต่ออีกข้าง จากนั้นก็เงยหน้าบอก “งั้นท่านแม่ ข้ามีอีกเรื่องหนึ่งยังไม่ได้บอกท่าน”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
หนานหนานก็มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่เหมือนกันน้า เพิ่งเห็นตอนนี้นี่แหละ ปกติมีแต่เรื่องของกินหรือไม่ก็เงิน
อีกเรื่องที่ยังไม่ได้สารภาพคืออะไรคะ ระแวงแทนชิงลั่วเลย
ไหหม่า(海馬)