อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนที่ 534 อึดอัด
ตอนที่ 534 อึดอัด
ตอนที่ 534 อึดอัด
อวี้ชิงลั่วหรี่ตามอง บางทีมันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้นางโกรธขึ้นมาอีกครั้ง
นางรู้สึกว่าตนคงไม่ได้หลับแล้วจึงลุกขึ้นพับผ้าห่ม ก่อนมองหน้าเขา “มีอะไรอีก?”
“อืม… อันที่จริงอาเฟิงเพิ่งมาหาข้า” หนานหนานคิดว่าคำพูดของท่านลุงเสิ่นมีเหตุผล โดยเฉพาะเดิมทีเรื่องนี้ต้องบอกกับมารดาเขา จึงจำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเผื่อจะได้ลูกอมมากินบ้าง
“ใครคืออาเฟิง?”
“… คนคุ้มกันที่อยู่กับท่านปู่ลู่เมื่อวานนี้ บุรุษผู้เป็นเลิศทางวรยุทธ์ที่สู้กับข้า” ทำไมท่านแม่เขาถึงได้ความจำแย่นัก ต่อให้อาเฟิงไม่ดูดีเท่าผู้อื่น ไม่หล่อเหลาเท่าผู้อื่น ไม่แข็งแกร่งเท่าผู้อื่น ก็ไม่ควรถูกละเลยเช่นนี้
อวี้ชิงลั่วเผยท่าทางตื่นตระหนก นางหรี่ตามองในทันใด “เขาทำอะไรเจ้า? เขาเข้ามาในตำหนักหรือ?”
หนานหนานพยักหน้าขึงขังให้ ก่อนกล่าวทวนทุกถ้อยคำที่อาเฟิงบอก รวมถึงเหตุการณ์หลังจากนั้น แม้ไม่อาจจำได้แม่นทุกคำทุกประโยค มีการดัดแปลงคำพูดหลายคำ แต่มารดาของเขาคงเข้าใจมันได้ไม่ใช่หรือ
ก่อนกล่าวสรุปในท้ายที่สุด “ท่านแม่ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงสงสัยว่าอาจมีทางลับในจวนท่านอ๋อง และอาเฟิงก็รู้จักทางเข้านี้”
อวี้ชิงลั่วเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาบอก นางจ้องพิจารณาอยู่พักหนึ่ง ก่อนยื่นมือออกไปหาลูกชาย “ส่งเหรียญเงินนั้นมาให้ข้า”
หนานหนานนิ่วหน้า เขาเผยหมดเปลือกขนาดนี้แล้ว นอกจากไม่ได้ลูกอมยังต้องมาเสียเงินในมืออีกหรือ?
เขาฝืนใจแต่ก็มอบมันให้มารดาแต่โดยดี
อวี้ชิงลั่วถือเหรียญเงินพลิกไปมาในมืออยู่ครู่ใหญ่ก่อนเก็บไป
“ท่านแม่…” หนานหนานเบิกตากว้าง อวี้ชิงลั่วทำเพียงเหลือบมอง ฝ่ายลูกชายตีหน้าเศร้าโดยไม่มีน้ำตาและกล่าวเสียงจริงจัง “ข้าหมายความว่าสิ่งนี้อาจมีประโยชน์ในอนาคต ท่านแม่ห้ามขายมันเด็ดขาด”
อวี้ชิงลั่วพ่นลมฟึดฟัด เขาคิดว่านางเป็นเหมือนตนหรืออย่างไร ถึงได้คิดขายทุกอย่างแลกเป็นเงินไปเสียหมด?
มีเพียงเขาเท่านั้นแหละที่นอนกอดเงินหลับไปอย่างสบายใจ
“ก็ได้ เจ้าออกไปได้แล้ว แล้วเรื่องที่ไม่ว่าจะมีทางลับในจวนท่านอ๋องหรือไม่ เจ้าควรเล่าให้พ่อเจ้าฟังก่อนไปหาของกิน”
“ข้ากินก่อนค่อยไปบอกท่านพ่อได้หรือไม่”
อวี้ชิงลั่วไม่คิดใส่ใจ “แล้วแต่เจ้า”
นางโบกมือไล่ก่อนหยิบเหรียญเงินมาดูอีกครั้ง ของสิ่งนี้ทำมาอย่างประณีตและติดตัวปรมาจารย์สกุลเหมิงมา ย่อมเป็นของล้ำค่า
คนสกุลเหมิง…
นางไม่ต้องการไปที่นั่น อย่าว่าแต่จะมีความสัมพันธ์ด้วยเลย
อย่างน้อยที่สุดนอกจากเย่ซิวตู๋กับหนานหนาน นางก็ไม่ถูกชะตากันคนสกุลเหมิงเพียงสองคนที่รู้จัก
อวี้ชิงลั่วพลิกมันไปมาและส่งเสียงค่อนแคะในลำคอ ก่อนชะงักไปเมื่อพบว่าลูกชายยังยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง เขาจ้องมองเหรียญเงินในมือด้วยสายตาลุกวาว
นางเลิกคิ้วและยื่นเหรียญให้เขา “อยากได้กลับไปหรือ”
หนานหนานรีบถอยไปสามก้าว พลางโบกมือและส่ายหน้าระวิง “ไม่ใช่ ของสิ่งนี้ต้องให้ท่านแม่เก็บรักษาเอาไว้ แบบนั้นดีแล้ว”
“เยี่ยมมาก!” อวี้ชิงลั่วว่าพร้อมส่งยิ้ม “แล้วเจ้าไม่ไปหรือ หิวไม่ใช่หรือ”
เด็กชายทำปากยื่นก่อนหันหลังจำใจออกจากห้องไป
ทันทีที่วิ่งออกมาถึงลานด้านหน้าก็บังเอิญพบกับแม่นมเซียวที่กลับมาจากข้างนอก เขายกมือขึ้นทักทายอีกฝ่ายและวิ่งผ่านนางไป
“ซื่อจื่อน้อย รอเดี๋ยวเจ้าค่ะ” แม่นมเซียวเรียกรั้งเขาไว้ขณะส่งถุงขนมแป้งอบเล็ก ๆ ในแขนเสื้อตนให้ “ข้าซื้อมาให้ท่าน ยังอุ่นอยู่เลย ค่อย ๆ ทานนะเจ้าคะ”
หนานหนานโผเข้ากอดนางทั้งดวงตาเป็นประกาย “แม่นมเซียว ท่านใจดีที่สุดในโลกเลย”
นางยิ้มพลางส่ายหน้า ก่อนโบกมือไล่ก่อนกลับเข้าห้องตนเอง ตอนนั้นที่บอกว่าไปซื้อของเป็นเพียงข้ออ้าง แต่ในเมื่อออกไปข้างนอกแล้ว ซื้อบางอย่างกลับมาฝากเจ้าตัวเล็กให้ร่าเริงสักหน่อยคงดีไม่น้อย ถึงอย่างไรหนานหนานก็อารมณ์ไม่สู้ดีตั้งแต่กลับมาเมื่อวาน
แต่เมื่อได้เห็นเขาออกมาจากห้ององค์หญิงด้วยสีหน้าท่าทางไม่ได้หดหู่ ก็คาดว่าคงสะสางคืนดีกันเรียบร้อยแล้ว
นางยกยิ้มบางและเดินเข้าไปด้านใน
หนานหนานหยิบขนมในแขนเสื้อขึ้นมากิน กินไปได้สองชิ้นความหิวก็บรรเทาลงเล็กน้อย จึงไม่รีบไปหามื้อเย็นกิน และวิ่งไปทางห้องตำราแทน
เย่ซิวตู๋ได้ฟังเรื่องที่เสิ่นอิงรายงานก็หรี่ตาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องหนานหนาน สิ่งเล็กน้อยอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิด สุดท้ายท่าทางของทั้งเขาและเสิ่นอิงก็เปลี่ยนไป
“เสิ่นอิง ให้คนออกตรวจค้นทั้งตำหนักอ๋องซิว หารูหนูให้พบ”
“พ่ะย่ะค่ะ” สีหน้าเสิ่นอิงฉายแววคร่ำเคร่ง นึกไม่ถึงว่าขนาดสร้างกำแพงตำหนักไว้แน่นหนาเพียงนี้แต่ยังมีช่องโหว่เสียได้
วันนั้นมื้อเย็นถึงกับเป็นม่าย เพราะเสิ่นอิงกับเผิงอิงได้รับสั่งการให้พาองครักษ์ลอบออกค้นหาเส้นทางลับ
ทุกอย่างในตำหนักเป็นไปตามปกติ เหล่าข้ารับใช้ยังทำหน้าที่ของตนอย่างขยันขันแข็ง
หากแต่บรรยากาศของทั้งตำหนักอ๋องซิวกลับกลายเป็นพิกลและมาคุอย่างเห็นได้ชัด
จากคำสั่งของเย่ซิวตู๋ บริเวณโดยรอบห้องของหนานหนานกับอวี้ชิงลั่วได้รับความสำคัญเป็นพิเศษ ตอนนี้ความปลอดภัยของทั้งสองคนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา
อวี้ชิงลั่วอยู่กินอาหารเย็นในห้อง นางไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกแต่อย่างใด
โชคดีที่คนเหล่านี้ไม่ได้รบกวนนาง หลังอ่านหนังสือครู่หนึ่งก็เข้านอน
กระทั่งกลางดึกก็มีร่างอุ่นหนึ่งเข้ามาใกล้จากทางด้านหลัง
นางปรือตาลืมขึ้นพลางถามเขา “ท่านพบเส้นทางลับหรือไม่”
“อืม อยู่ทางตะวันออกของห้องหนานหนาน เสิ่นอิงสกัดกั้นเอาไว้แล้ว” น้ำเสียงเย่ซิวตู๋ฟังดูเหนื่อยเล็กน้อย “แต่เพื่อความแน่ใจ ข้าจะเฝ้าระวังไปอีกพักหนึ่ง กำชับไม่ให้พวกเขาเข้ามาในเขตห้องเจ้า ข้าจะมาค้นดูอีกครั้งด้วยตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้ขวดยาเสียหาย”
เสิ่นอิงกับคนอื่น ๆ มาค้นที่นี่แล้วแต่ไม่ได้สำรวจโดยละเอียดนัก เขาจึงยังต้องการตรวจสอบมันด้วยตนเอง
นางขานรับเพียง ‘อืม’ ไม่ได้เอ่ยมากนัก ก่อนหันไปซุกตัวในอ้อมแขนของเขา
คิ้วเย่ซิวตู๋ขมวดมุ่นในชั่วขณะต่อมา เขาคว้าข้อมือที่มีผ้าพันแผลของนางและกระซิบถาม “ทำไมถึงยังไม่ถอดผ้าพันแผลออก”
อวี้ชิงลั่วดึงมือออกทันทีก่อนตอบด้วยท่าทางตื่นเต็มตา “พรุ่งนี้ข้าจะไปล้างพิษให้ซ่างกวนจิ่น เลยต้องพันข้อมือป้องกันไม่ให้มีเรื่องกันอีก เอาน่า เข้านอนเถอะ”
เย่ซิวตู๋เม้มปากแน่น เขาไม่ทักท้วงอะไร เพียงกอดนางไว้อย่างระมัดระวังและจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา
เช้าวันต่อมาอวี้ชิงลั่วพาแม่นมเซียวไปเรือนรับรองแขกจากอาณาจักรจิ้งเหลย เมื่อหมอหลวงหลูเห็นนางก็ไม่ได้ดูถูกเหมือนวันก่อน เพราะอาจถูกซ่างกวนจิ่นตำหนิเอาได้
กวนอู๋เชิญนางเข้าไปอย่างนอบน้อม ซ่างกวนจิ่นที่นอนอยู่บนเตียงเห็นนางแล้วพลันส่งสายตาสดใสมาให้
ทว่าในจังหวะต่อมาแววตากลับทะมึน ทั้งร่างแผ่รังสีไม่เป็นมิตร
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องวางยาอะไรชิงลั่วหรือเปล่าเนี่ย อุปราชถึงกับมองเหมือนเห็นผี
ไหหม่า(海馬)